เราชอบหนังประวัติศาสตร์ของอินเดียที่มีวีระสตรีของอินเดียเป็นตัวละครเอกในเรื่องมากคะเพราะทำได้อลังกาลวิจิตรตระการตามาก ทั้งฉาก ุชุด กำกับศิลป์ การเต้น คาแรคเตอร์ฯลฯ ทั้งเรื่อง โชตา อัคบัร,
ไบจีราว มัสตานี, อุมราวจาน, ทัช มาฮาล..... แต่หนังอินเดียที่เราขอตินิดหนึ่งคือการวางแคสนักแสดงโดยมากไม่ค่อยตรงตามประวัติศาสตร์ เช่นเรื่องพระนางมัสตานี ซึ่งเป็นธิดาในราชวงค์โมกุล มีแม่เป็นเปอร์เซีย แต่กลับใช้ ทีปพิกา บาฑุโกณ ซึ่งเป็นนักแสดงสาวอินเดียใต้ สวยแบบทมิฬมาแสดง ซึ่งยอมรับว่าแสดงดี เต้นสวย แสงสี ฉากชุด การแต่งหน้าถือว่าทำให้ทิปพิกาดูเป็นเปอร์เซียขึ้นมาได้ระดับนึงแต่ก็คิดว่ายังไม่สุดนะสำหรับเรา
เพราะในความคิดเรานักแสดงอินเดียสายเลือดแขกขาวก็มีอีกหลายคนเช่น คาริซมา การีน่า กรรณิกา กาปูร์ หรือพวกลูกครึ่งฝรั่งอย่าง แคทริน่ากะน้องสาว, ซันนี่ ลีออน, เอเวอร์ลีน ชามาร์, นากีซ ฟาครี ฯลฯ แต่อินเดียไม่เน้นความสมจริงนักแสดงให้แมทท์ตัวละครแต่เน้นคนเก่ง ความนิยม คู่จิ้นมาแสดงคู่กัน ซึ่งตรงนี้ถ้าจะให้บูมในตปทต้องหานักแสดงที่เหมาะสมกับตัวแคสละครจะเหมาะและปิ้งค์มากกว่า
ขนาดหานักแสดงไม่แมทท์กะตัวละครในประวัติศาสตร์ยังขายตปทได้เยอะขนาดนี้ เพราะเราเห็นหนังอินเดียขายทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง....
แต่คราวนี้ความฝันเป็นจริงสักทีที่จะมีสักเรื่องที่นักแสดงตรงกับตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
ในวันที่ 28 เมษายนปี 2018 นี้หนังเรื่อง มณีกรรณิกา จะออกฉาย
นำแสดงโดย กังกาณา รานุช นางเอกคนโปรดของเราซึ่งชอบมาทุกเรื่องที่แสดงเพราะนางเป็นหนึ่งที่ได้เกิดในวงการนี้ด้วยความสวยและความสามารถโดยแท้.....
.กังกาณามีจุดเด่นที่แตกต่างกับนักแสดงอินเดียใต้ทั่วไปที่ดังๆในสมัยนี้ที่มักเป็นชาวอินเดียใต้ซะส่วนใหญ่ ผิดกับกังกาณาไม่รู้หรอกนางเป็นอินเดียฝั่งไหน แต่ดูเรื่องแรกที่แสดงหนังแนวหลอนๆโีรคจิตซะส่วนใหญ่ เพราะลุ๊คนางเป็นอินเดียผิวขาว หน้าไม่คมเข้มมาก บางเรื่องแต่งจะลุ๊คลูกครึ่งก็ได้ จะลุ๊คฝรั่งก็ได้ ลุ๊คอินเดียก็ได้อีก.....
อยากเห็นนางรับบทนางในประวัติศาสตร์ลุ๊คเจ้าหญิงๆบ้าง เพราะโดยมากได้เแต่เห็นนางเล่นแนวลึกลับโรคจิต หนังผี กะแนวดราม่าใสๆตลอดด้วยลุ๊คแบบสาวยุคใหม่อมฝรั่งนิดๆ .......ส่วนหนังแนวประวัติศาสตร์ แฟนตาซีใหญ่ๆ เหมือนพวกดาราฝั่งอินเดียใต้ได้จะกั๊กแคสตลอดอย่างทิปพิกา บาฑุโกณ นี้ก็ได้เแต่บทเจ้าหญิงตลอดแทบทุกเรื่องเลยมั้ง ยอมรับรำสวยเต้นสวยจริง แสดงเก่งจริงแต่ช่างเหมือนต้องบิ้วความงามนางมากๆทั้งแสงสี เมคอัพให้นางเข้ากะลุ๊คเจ้าหญิง..... ซึ่งออกมาโอเคแต่เราว่าจะดีกว่าถ้าหาคนให้ตรงกับตัวละครในประวัติศาสตร์ไปเลย ไม่ต้องมาพยามเมคอัพมากด้วย
มาดูกังกาณา ในบท มณีกรรณิกา หรือ พระนางลักษมีไพ
รานีแห่งชานสี อินเดียเหนือ
แบบลุ๊คเป๊ะตามประวัติศาสตร์มาก เสียดายทริลเลอรฺยังไม่ออกไม่งั้นจะหามาให้ดู
ขอเล่าประวัติพระนาง ลักษมีไพ เป็นธิดาของวรรณะพรามณ์ชาวอินเดียฝั่งตะวันตกติดมหาสมุทรอาระเบีย แต่ถือกำเนิดในแคว้นพาราณสี บิดาของนางทำงานในราชสำนักของเจ้าเมืองแคว้นบิตตูร ซึ่งครั้นพ่อเสียชีวิตลง เจ้าเมืองรับนางเป็นบุตรบุญธรรมครั้นเมิ่อนางโตจึงได้ส่งไปอภิเสกกับมหาราชาแห่งชานสีทางตอนเหนือของอินเดีย....
นางได้ชีอใหม่ในฐานะมหารานีว่า รานี ลักษมีไพ ซึ่งคาแร็คเตอร์เด่นของลักษมีไพคือ หญิงสาวที่มาจากวรรณะสูงที่เกิดในราวคศ18 ที่อิทธิพลของอาณานิคมอังกฤษแผ่ขยาย เธอเป็นผู้หญิงฉลาดรอบรู้ทันโลก.....ชอบขี่ม้า ยิงปืน และกีฬาที่ผู้ชายทำได้
ในตามประวัติศาสตร์ลักษมีไพ กรือมณีกรรณิกาจะให้กำเนิดโิอรสที่เมื่อมีพระชนม์เพียง4 ชันษา ก็ถึงแก่กรรม.....นางเป็นราชินีอายุน้อยที่ไม่มีโอรสอีก แต่ได้อุปการะเด็กชายคนนึงเป็นลูกและตั้งชื่อเดียวกันกับลูกชายที่เสียชีวิตของนางคือ ทาโมทาร์
พระนางลักษมีไพได้ขึ้นชื่อว่าเป็นวีระสตรีของอินเดียที่พยามต่อต้านอิทธิพลของอังกฤษ หลังจากที่พระสวามีสวรรคตในไม่ช้า บริษัท
บริติช อินเดีย อังกฤษที่นำโดยผู้ว่าการลอร์ด ดาว์ฮูซซี่ ได้ทำสัญญาว่าพระโอรสบุญธรรมจะได้รับการปฏิบัติด้วยดีแลรับรองความปลอดภัย โดยรานี ลักษมีไพ ราชินีม่ายวัยสาวจะเป็นผู้สำเร็จราชการ
และในเวลาต่อมาอังกฤษได้ประกาศตัดสิทธิ์การเป็นรัชทายาทของทาโมทาร์พระโอรสบุญธรรมของพระนางลักษมีไพ และยื่นข้อเสนอเป็นเงินเดือนหญิงม้ายจำนวน6 หมื่นรูปี แต่นางกับบรรดาข้ารับใช้บริวารจะต้องออกไปจากพระราชวังชานสี จะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ในฐานะเศรษฐีนีที่ร่ำรวยมากของอินเดีย แต่แคว้นชานสีจะต้องตกเป็นของอังกฤษและไม่มีราชวงค์อีก ......ตามประวัติศาสตร์เมิ่อครั้นพระนางอ่านหมายจากอังกฤษแล้ว นางถึงกับร้องไห้ออกมาและตะโกนขึ้นว่า
"ฉันจะไม่ยอมจำนนยกชานสีของฉัน"
หลังจากนั้นการต่อสู้เพื่อต่อต้านอังกฤษก็เกิดขึ้น
ว่ากันว่าพระนางไม่ได้ทรงนำทัพออกรบจริงกับพวกอังกฤษหากอต่วางแผนให้คนสนิทซึ่งเป็นก็อปปี้ของพระนางซึ่งมีนามว่า ชาลการีไพ ซึ่งเป็นหญิงที่ภักดีต่อพระนางลักษมีไพเป็นอันมาก ว่ากันว่าชาลการีไพนั้นอายุวัยเดียวกับพระนางและเกิดวันใกล้กันทั้งยังมีหน้าตาที่พอจะละม้ายคล้ายกันอีกด้วย......ในทุกครั้งที่ออกรบและต่อรองกับพวกอังกฤษชาลการีไพนี้เองที่เป็นผู้ออกโรงยิ่งกว่า รานี ลักษมีไพ และในยุคนั้นก็น้อยคนนักจะได้เห็นหน้าของราชวงค์ ทำให้พวกอังกฤษเข้าใจว่านางนั้นคือรานีตัวจริง
มาดู กังกาณาในบทมณีกรรณิกา รานีสาวแห่งอินเดียเหนือที่ต่อสู้กับอังกฤษ
ฝันเป็นจรืงสักทีที่บอลลิวู้ดหานักแสดงถูกต้องตามประวัติศาสตร์มารับบทนางในประวัติศาสตร์อินเดีย
เราชอบหนังประวัติศาสตร์ของอินเดียที่มีวีระสตรีของอินเดียเป็นตัวละครเอกในเรื่องมากคะเพราะทำได้อลังกาลวิจิตรตระการตามาก ทั้งฉาก ุชุด กำกับศิลป์ การเต้น คาแรคเตอร์ฯลฯ ทั้งเรื่อง โชตา อัคบัร,
ไบจีราว มัสตานี, อุมราวจาน, ทัช มาฮาล..... แต่หนังอินเดียที่เราขอตินิดหนึ่งคือการวางแคสนักแสดงโดยมากไม่ค่อยตรงตามประวัติศาสตร์ เช่นเรื่องพระนางมัสตานี ซึ่งเป็นธิดาในราชวงค์โมกุล มีแม่เป็นเปอร์เซีย แต่กลับใช้ ทีปพิกา บาฑุโกณ ซึ่งเป็นนักแสดงสาวอินเดียใต้ สวยแบบทมิฬมาแสดง ซึ่งยอมรับว่าแสดงดี เต้นสวย แสงสี ฉากชุด การแต่งหน้าถือว่าทำให้ทิปพิกาดูเป็นเปอร์เซียขึ้นมาได้ระดับนึงแต่ก็คิดว่ายังไม่สุดนะสำหรับเรา
เพราะในความคิดเรานักแสดงอินเดียสายเลือดแขกขาวก็มีอีกหลายคนเช่น คาริซมา การีน่า กรรณิกา กาปูร์ หรือพวกลูกครึ่งฝรั่งอย่าง แคทริน่ากะน้องสาว, ซันนี่ ลีออน, เอเวอร์ลีน ชามาร์, นากีซ ฟาครี ฯลฯ แต่อินเดียไม่เน้นความสมจริงนักแสดงให้แมทท์ตัวละครแต่เน้นคนเก่ง ความนิยม คู่จิ้นมาแสดงคู่กัน ซึ่งตรงนี้ถ้าจะให้บูมในตปทต้องหานักแสดงที่เหมาะสมกับตัวแคสละครจะเหมาะและปิ้งค์มากกว่า
ขนาดหานักแสดงไม่แมทท์กะตัวละครในประวัติศาสตร์ยังขายตปทได้เยอะขนาดนี้ เพราะเราเห็นหนังอินเดียขายทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง....
แต่คราวนี้ความฝันเป็นจริงสักทีที่จะมีสักเรื่องที่นักแสดงตรงกับตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
ในวันที่ 28 เมษายนปี 2018 นี้หนังเรื่อง มณีกรรณิกา จะออกฉาย
นำแสดงโดย กังกาณา รานุช นางเอกคนโปรดของเราซึ่งชอบมาทุกเรื่องที่แสดงเพราะนางเป็นหนึ่งที่ได้เกิดในวงการนี้ด้วยความสวยและความสามารถโดยแท้.....
.กังกาณามีจุดเด่นที่แตกต่างกับนักแสดงอินเดียใต้ทั่วไปที่ดังๆในสมัยนี้ที่มักเป็นชาวอินเดียใต้ซะส่วนใหญ่ ผิดกับกังกาณาไม่รู้หรอกนางเป็นอินเดียฝั่งไหน แต่ดูเรื่องแรกที่แสดงหนังแนวหลอนๆโีรคจิตซะส่วนใหญ่ เพราะลุ๊คนางเป็นอินเดียผิวขาว หน้าไม่คมเข้มมาก บางเรื่องแต่งจะลุ๊คลูกครึ่งก็ได้ จะลุ๊คฝรั่งก็ได้ ลุ๊คอินเดียก็ได้อีก.....
อยากเห็นนางรับบทนางในประวัติศาสตร์ลุ๊คเจ้าหญิงๆบ้าง เพราะโดยมากได้เแต่เห็นนางเล่นแนวลึกลับโรคจิต หนังผี กะแนวดราม่าใสๆตลอดด้วยลุ๊คแบบสาวยุคใหม่อมฝรั่งนิดๆ .......ส่วนหนังแนวประวัติศาสตร์ แฟนตาซีใหญ่ๆ เหมือนพวกดาราฝั่งอินเดียใต้ได้จะกั๊กแคสตลอดอย่างทิปพิกา บาฑุโกณ นี้ก็ได้เแต่บทเจ้าหญิงตลอดแทบทุกเรื่องเลยมั้ง ยอมรับรำสวยเต้นสวยจริง แสดงเก่งจริงแต่ช่างเหมือนต้องบิ้วความงามนางมากๆทั้งแสงสี เมคอัพให้นางเข้ากะลุ๊คเจ้าหญิง..... ซึ่งออกมาโอเคแต่เราว่าจะดีกว่าถ้าหาคนให้ตรงกับตัวละครในประวัติศาสตร์ไปเลย ไม่ต้องมาพยามเมคอัพมากด้วย
มาดูกังกาณา ในบท มณีกรรณิกา หรือ พระนางลักษมีไพ
รานีแห่งชานสี อินเดียเหนือ
แบบลุ๊คเป๊ะตามประวัติศาสตร์มาก เสียดายทริลเลอรฺยังไม่ออกไม่งั้นจะหามาให้ดู
ขอเล่าประวัติพระนาง ลักษมีไพ เป็นธิดาของวรรณะพรามณ์ชาวอินเดียฝั่งตะวันตกติดมหาสมุทรอาระเบีย แต่ถือกำเนิดในแคว้นพาราณสี บิดาของนางทำงานในราชสำนักของเจ้าเมืองแคว้นบิตตูร ซึ่งครั้นพ่อเสียชีวิตลง เจ้าเมืองรับนางเป็นบุตรบุญธรรมครั้นเมิ่อนางโตจึงได้ส่งไปอภิเสกกับมหาราชาแห่งชานสีทางตอนเหนือของอินเดีย....
นางได้ชีอใหม่ในฐานะมหารานีว่า รานี ลักษมีไพ ซึ่งคาแร็คเตอร์เด่นของลักษมีไพคือ หญิงสาวที่มาจากวรรณะสูงที่เกิดในราวคศ18 ที่อิทธิพลของอาณานิคมอังกฤษแผ่ขยาย เธอเป็นผู้หญิงฉลาดรอบรู้ทันโลก.....ชอบขี่ม้า ยิงปืน และกีฬาที่ผู้ชายทำได้
ในตามประวัติศาสตร์ลักษมีไพ กรือมณีกรรณิกาจะให้กำเนิดโิอรสที่เมื่อมีพระชนม์เพียง4 ชันษา ก็ถึงแก่กรรม.....นางเป็นราชินีอายุน้อยที่ไม่มีโอรสอีก แต่ได้อุปการะเด็กชายคนนึงเป็นลูกและตั้งชื่อเดียวกันกับลูกชายที่เสียชีวิตของนางคือ ทาโมทาร์
พระนางลักษมีไพได้ขึ้นชื่อว่าเป็นวีระสตรีของอินเดียที่พยามต่อต้านอิทธิพลของอังกฤษ หลังจากที่พระสวามีสวรรคตในไม่ช้า บริษัท
บริติช อินเดีย อังกฤษที่นำโดยผู้ว่าการลอร์ด ดาว์ฮูซซี่ ได้ทำสัญญาว่าพระโอรสบุญธรรมจะได้รับการปฏิบัติด้วยดีแลรับรองความปลอดภัย โดยรานี ลักษมีไพ ราชินีม่ายวัยสาวจะเป็นผู้สำเร็จราชการ
และในเวลาต่อมาอังกฤษได้ประกาศตัดสิทธิ์การเป็นรัชทายาทของทาโมทาร์พระโอรสบุญธรรมของพระนางลักษมีไพ และยื่นข้อเสนอเป็นเงินเดือนหญิงม้ายจำนวน6 หมื่นรูปี แต่นางกับบรรดาข้ารับใช้บริวารจะต้องออกไปจากพระราชวังชานสี จะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ในฐานะเศรษฐีนีที่ร่ำรวยมากของอินเดีย แต่แคว้นชานสีจะต้องตกเป็นของอังกฤษและไม่มีราชวงค์อีก ......ตามประวัติศาสตร์เมิ่อครั้นพระนางอ่านหมายจากอังกฤษแล้ว นางถึงกับร้องไห้ออกมาและตะโกนขึ้นว่า
"ฉันจะไม่ยอมจำนนยกชานสีของฉัน"
หลังจากนั้นการต่อสู้เพื่อต่อต้านอังกฤษก็เกิดขึ้น
ว่ากันว่าพระนางไม่ได้ทรงนำทัพออกรบจริงกับพวกอังกฤษหากอต่วางแผนให้คนสนิทซึ่งเป็นก็อปปี้ของพระนางซึ่งมีนามว่า ชาลการีไพ ซึ่งเป็นหญิงที่ภักดีต่อพระนางลักษมีไพเป็นอันมาก ว่ากันว่าชาลการีไพนั้นอายุวัยเดียวกับพระนางและเกิดวันใกล้กันทั้งยังมีหน้าตาที่พอจะละม้ายคล้ายกันอีกด้วย......ในทุกครั้งที่ออกรบและต่อรองกับพวกอังกฤษชาลการีไพนี้เองที่เป็นผู้ออกโรงยิ่งกว่า รานี ลักษมีไพ และในยุคนั้นก็น้อยคนนักจะได้เห็นหน้าของราชวงค์ ทำให้พวกอังกฤษเข้าใจว่านางนั้นคือรานีตัวจริง
มาดู กังกาณาในบทมณีกรรณิกา รานีสาวแห่งอินเดียเหนือที่ต่อสู้กับอังกฤษ