บาปสองประการ (เรื่องสั้นเขย่าขวัญ/สืบสวน)



หนึ่งนัดสำหรับฆ่าหนึ่งชีวิต
สองนัดสำหรับชีวิตที่สอง
สามนัดเผื่อใครคนใดคนหนึ่งยังไม่ตาย
สี่นัดเปรียบเสมือนฆาตกรมืออาชีพ
ห้านัดสูญเสียความเป็นมนุษย์
หกนัดกลายเป็นปิศาจร้ายเต็มตัว
--------------------------------------------
เรื่องย่อ
กล้า จ้องมองหญิงสาวคนหนึ่งผ่านช่องหน้าต่างแบบลับๆ
ทุกวัน ทุกวัน เพื่อรอคอยภัยร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาเธอที่ละนิด
และชายหนุ่มต้องการกำจัดภัยร้ายนั้นก่อนที่มันจะพรากสิ่งที่เขารักที่สุดไป


*ห้ามคัดลอกหรือนำไปเผยแพร่ที่อื่นโดยเด็ดขาด *


กล้า จ้องมองอย่างไม่สามารถละสายตาได้ผ่านผ้าม่านกำมะหยี่สีดำ แง้มเพียงครึ่งฝ่ามือเพื่อให้แน่ใจว่าหญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจะไม่ทันสังเกตเห็นถึงความผิดปรกติ ประจวบเหมาะกับที่หน้าต่างห้องนอนของเขาและเธออยู่มุมเดียวกันจึงง่ายต่อการซุ่มดู มิหนำซ้ำกระจกบานเลื่อนที่จับฝุ่นหนายังช่วยลอบเร้นการคุกคามของชายวัยกลางคนได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ความมืดแห่งสนธยากำลังย่างกราย กล้าดับไฟทุกส่วนในตัวบ้านก่อนหน้านั้นแล้วเพื่อแสร้งทำเป็นเหมือนไร้ผู้อยู่อาศัย ไม่สิ เขาไม่เคยเปิดมันเลยต่างหาก แสงสว่างของหลอดนีออนไม่ได้โลมเลียผิวหนังของเขามาห้าปีเต็มแล้วนับตั้งแต่เขาคิดว่ามันไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามมันช่วยกำจัดเงาของตัวเองขณะลอบมอง และเขาอาจรู้สึกรื่นรมย์เมื่อได้อยู่ในสถานที่อันดำมืดไร้แสงสว่างก็ได้

เมื่อรัตติกาลโอบล้อม เมฆดำทมิฬลอยคล้อยต่ำ หญิงสาวที่นั่งท้าวคางมุมหน้าต่างก็หดหู่ตามพวกมัน ความรู้สึกของเธอแผ่ซ่านส่งมายังกล้าจนเขารู้สึกเช่นเดียวกับเธอประหนึ่งเป็นชีวิตเดียวกัน ยิ่งเธอเศร้าหม่น กล้าก็จะยิ่งดื่มเหล้าหนักขึ้น และทวีคูณเมื่อน้ำตาของหญิงสาวชโลมใบหน้า

วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เหล้าแดงทำหน้าที่ได้อย่างน่าปลาบปลื้ม กล้าใช้มันดับความขมขื่นในใจซึ่งใครต่างก็รู้ดีว่ามันเป็นทางเลือกของคนโง่ ทว่าร่างกายของคนโง่คนนี้ขาดมันไม่ได้อีกแล้ว เปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่ต้องการเชื้อเพลิงเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ กล้าก็เช่นกัน หากเขาไม่เติมเชื้อเพลิงให้ร่างกาย มันก็คงระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เพราะเขาใช้แอลกอฮอล์เผาผลาญมาเกือบตลอดชีวิตจนมันไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด

จนเมื่อสามปีที่ผ่านมาเริ่มหนักข้อมากขึ้น กล้ารู้สึกว่ามันครอบงำจิตใจของเขา สิงสู่ร่าง กัดกินจิตวิญญาณอันน่าเลื่อมใสที่ภรรยาของเขาศรัทธามาโดยตลอด ในที่สุดมันก็พังทลายเหลือเพียงสุสานความดีตั้งเป็นอนุสรณ์ ส่งผลให้อดีตของเขาเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะที่ไร้ทางซ่อมแซม

จวบปัจจุบันกล้าก็ยังคงอยู่ใต้อาณัติของอดีตสหายรัก มันเปลี่ยนสถานะกลายเป็นเจ้านายคอยสอนสั่ง ส่วนเขาเป็นเพียงบ่าวผู้รับใช้ ยิ่งตกอยู่ภายใต้อำนาจของสุราก็ยิ่งทำให้เขาหวนก็นึกถึงความชั่วร้ายเมื่อครั้งก่อนเสมือนแสงแฟลชจากกล้องที่สว่างวาบสลับไปมาในความมืด

แชะ --- “อย่าทำฉัน ได้โปรด” เสียงใครคนหนึ่งอ้อนวอน
แชะ --- กล้าผลักหญิงสาวเต็มแรง
แชะ --- เธอเสียการทรงตัวล้มลง ท้องกระแทกขอบเตียง
แชะ --- เลือด


เขากลืนเหล้าลงคอรวดเดียวเสียงดังเอื๊อก มือสั่นเทา หัวใจเต้นแรงราวกับกำลังเริงระบำ เมื่อครองสติได้จึงสลัดภาพเหล่านั้นทิ้งไปจากความคิด แต่ก็หายไปเพียงชั่วคราว ไม่นานก็วกกลับมาตามหลอกหลอนดังเดิมจนกลายเป็นฝันร้ายที่ไม่อาจลบเลือน

ชายวัยกลางคนวางขวดเหล้าลงบนพื้นห้องแล้วมองลอดม่านกำมะหยี่ผืนเดิม จับตาดูหญิงสาวที่ตัวเองสนใจ เธอน่ารักสมวัย ๑๕ ปี ผิวขาวเหมือนผงซักฟอก รูปร่างสมส่วน โครงหน้าเชื้อจีน แก้มและหน้าผากอมชมพู

ลักษณะทั้งหมดที่กล่าวมานี้เหมือนอดีตว่าที่ภรรยาโดยชอบธรรมของกล้าไม่มีผิด ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาชอบมองดูใบหน้าของเด็กคนนี้ อย่างน้อยมันก็ช่วยทำให้เขาหายเพ้อพรรณนาถึง อำพัน ได้บ้าง

อำพัน ทนทุกข์ทรมานที่ต้องสูญเสียหัวหน้าครอบครัว กล้าไม่ได้ตายจากเธอไปไหน เพียงแต่สุราและยาเสพติดได้กัดกินจิตวิญญาณอันน่าเลื่อมใสของสามีที่เธอศรัทธามาโดยตลอด เริ่มแรกกล้าดีกับเธอมาก เอาอกเอาใจไม่ต่างจากเพชรเม็ดงาม เจียระไนอย่างประณีตเพื่อให้เธอเปล่งประกายอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

กล้าตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินสร้างอนาคตเพื่อครอบครัวพอๆกับตั้งใจดื่มเหล้าเมายาสร้างความรื่นรมย์แก่ตนเอง ไม่นานอบายมุขก็ฉุดรั้งชีวิตของชายหนุ่มจนดิ่งลงเหวเมื่อเขาเอาเงินที่เก็บออมจากน้ำพักน้ำแรงนานหลายปีไปลงทุนในบ่อนคาสิโน ถูกยั่วด้วยตู้สล็อตแมชชีนอันเย้ายวน เสี่ยงโชคกับไฮโลที่มีโอกาสเสียพอๆกับได้ วัดดวงกับกงล้อรูเล็ต ตู้ม้า ป๊อกเด้ง ฯลฯ

เงินสี่แสน ทองสามบาทที่เตรียมไว้สำหรับงานแต่งที่จะถูกจัดขึ้นต้นปีหน้าถูกผลาญจนมลายสิ้นด้วยระยะเวลาเพียงสามคืน มิหนำซ้ำยังเพิ่มภาระหนี้สินอีกห้าหมื่นกว่าบาทโดยต้องหามาชดใช้ภายในเจ็ดวัน มิเช่นนั้นกล้ารู้ดีว่าจะเจอกับอะไร

ตัวอย่างก็เคยมีให้เห็น อาเมน หนึ่งในเพื่อนร่วมบ่อนของเขาเคยเบี้ยวหนี้ หนีหัวซุกหัวซุนจากกรุงเทพฯสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด่านสิงขรคือเป้าหมายที่จะลอบเร้นออกนอกชายแดน ท้ายที่สุดก็หนีมารผจญไม่พ้น พวกมันตามล่าจนเจอและอุ้มอาเมนขึ้นรถไปในสถานที่ลับตาคน โกดังร้างย่านสาทรคือสถานที่ทรมานของพวกมัน

อาเมนรอดจากสถานการณ์เลวร้ายโดยเหลือนิ้วมือไม่ถึงห้า ฟันหน้าคู่หายไป ผิวหนังมีรอยแผลเป็นของความโหดร้ายจารึก ทว่ากล้าไม่ยอมเดินตามรอยเท้าอาเมน ไม่อยากออกไปตายในสถานที่ที่ไม่ใช่บ้าน เพราะความตายนั้นเงียบเหงากว่าที่คิด ใครคนหนึ่งเคยกล่าวเอาไว้ว่า ผู้ใดโอ้อวดว่าตัวเองไม่กลัวตายนั่นเท่ากับว่าพวกเขาไม่เคยใกล้ชิดความตายมากพอ

ถึงแม้กล้าจะไม่ถูกแก๊งทวงหนี้จับไปทรมานแต่เขาก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นอยู่ดี อำพันประกาศตัดขาดกับเขาราวกับเป็นเนื้อร้ายที่สมควรกำจัดทิ้ง เธอไม่ต้องการให้สามีแพร่เชื้อร้ายแก่ตัวเธอเองและกลัวว่าอนาคตมันจะถูกส่งต่อไปยังลูกสาวของเธอ แต่อย่างน้อย เพียงขวัญ ก็โตพอที่จะแยกแยะออกว่าอะไรดีอะไรชั่ว

กล้า คือผู้ชายที่เธอเคยเลื่อมใส เชื่อมั่น และพร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่จวบจนฝังร่างไปพร้อมกัน แต่บัดนี้ อำพันแสดงออกถึงความขยะแขยงต่อสามีเต็มกลืน และกลายเป็นความเกลียดชังเมื่ออีกฝ่ายลงมือทำร้ายเธอ

“อย่าทำฉัน ได้โปรด” อำพรรณอ้อนวอนขณะที่กล้าผลักเธอเต็มแรง หญิงสาวเสียการทรงตัวล้มลง ท้องกระแทกขอบเตียง เลือดสีแดงฉานไหลนองเต็มพื้น

“เลือด เลือด ไม่นะลูกแม่” อำพันกุมท้องหน้าเหยเก หญิงสาวแสดงอาการเจ็บปวดพอๆกับความร้อนใจ ครรภ์ ๘ เดือนช้ำเป็นจ้ำม่วง หนึ่งชีวิตที่ใกล้จะได้
ลืมตาดูโลกอาจต้องสูญเสียสิทธิ์ตรงนั้นไปหากไม่รีบนำตัวมารดาส่งโรงพยาบาล

เลือดทำให้กล้ากลับมามีสติดังเดิม รีบเข้าไปประคองและขับรถพาภรรยาที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้ที่สุด ทว่าต่อให้มีเครื่องมือแพทย์ที่ดีที่สุดก็ไม่สามารถเรียกคืนชีวิตเด็กน้อยกลับมาได้ อำพันสูญเสียลูกคนที่สอง และเพียงขวัญก็สูญเสียน้องสาวเช่นกัน ส่วนผู้เป็นพ่อแทบคลั่ง เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองกระทำ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด เมื่อรู้ว่าเด็กน้อยไม่มีโอกาสได้เห็นแสงแรกของดวงตะวัน ไม่มีโอกาสได้ขอพรกับดวงจันทร์ เลวร้ายสุดโต่งคือไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัว ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพียงเพราะโทสะชั่ววูบของคนๆเดียว

               
กล้ารู้สึกเสียใจไม่ต่างจากหญิงสาวที่นั่งร้องให้ริมหน้าต่าง ตาแดงก่ำของเพลงขวัญซุกซ่อนอารมณ์หลายชนิด ชายวัยกลางคนจ้องมองผ่านผ้าม่านเป็นเวลาร่วมห้าเดือนแล้ว ม่านผืนนี้เปรียบเสมือนกำแพงแบ่งกั้นความดีและความชั่ว กล้าไม่มีสิทธิ์ที่จะก้าวล้ำเขตแดนของตัวเองออกไป เสมือนห่วงโซ่แห่งวิบากกรรมผูกติดขาตัวเองไว้

ทุกๆวันกล้าจะตื่นขึ้นมาและพบตัวเองนอนอยู่ในห้องซ่อมซ่อ เกรอะกังไปด้วยฝุ่นหนาและหยากไย่ ห้องขนาดเทียบเท่ารังหนูแห่งนี้แม้จะใช้จัดงานสังสรรค์ขนาดย่อมก็ยังดูเล็กไปเพราะมันเหมาะสำหรับซุกหัวนอนเพียงอย่างเดียว  ตั้งแต่ชายวัยกลางคนหนีหนี้มาซ่อนกาย เขาไม่เคยแม้แต่จะจับไม้กวาดทำความสะอาดสักครั้ง มันจึงดูเหมือนสถานที่อันดำมืดซึ่งเป็นศูนย์รวมของความชั่วร้าย แม้แต่ความสะอาดของร่างกายก็ถูกปล่อยปะละเลยราวกับเป็นร่างกายของคนอื่น ผิวหนังหยาบกร้านไม่เคยสัมผัสน้ำนานพอๆกับห้องที่ไม่เคยปัดกวาดเช็ดถู สวมเสื้อผ้าชุดเดิมตลอดห้าเดือนที่ผ่านมา ประกอบด้วยเสื้อยืดคอกลมที่ชายเริ่มย้วยและกางเกงขาสามส่วนขาดรุ่งริ่ง

                มีเพียงสิ่งเดียวที่ชายวัยกลางคนให้ความสนใจเหนือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือภรรยาและลูกเลี้ยงของตน เพียงขวัญ เปรียบเสมือนไข่ในหิน แม้หญิงสาวจะไม่ใช่สายเลือดของกล้าแต่ชายวัยกลางคนก็รักเหมือนกับว่ามีเลือดของเธอไหลเวียนอยู่ในตัวเขา นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาไม่สามารถจบชีวิตตัวเองได้

                แรกเริ่ม กล้ากำหนดวันตายของตัวเองเอาไว้แล้ว เพียงแต่มีใครบางคนกำหนดวันตายของเพียงขวัญและอำพันเอาไว้ก่อน ใครบางคนที่ว่าก็คือพ่อแท้ๆของเพียงขวัญนั่นเอง

                “จำเอาไว้ กูจะกลับมาฆ่าพวกสองแม่ลูก”
ฉัตร ลั่นวาจาต่อหน้าอดีตคนรักราวกับไม่เคยสำนึกชั่วต่อบาปกรรมที่ตัวเองก่อ เพียงขวัญคือเครื่องมือค้าประเวณีของมัน ผู้เป็นพ่อทำหน้าที่หาลูกค้าโดยเจาะกลุ่มไปยังพวกเสี่ยสวมทองเส้นโต เมื่อตกลงราคาเรียบร้อย ก็ไม่ลืมที่จะบอกให้เฒ่ามักมากสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรค
เด็กน้อยจำใจต้องทำขณะอายุได้เพียง ๘ ขวบ เพราะเธอรู้ดีว่าหากขัดใจพ่อ อำพันจะถูกทารุณเยี่ยงทาส ทว่าหัวอกของผู้เป็นแม่ไม่ยอมนิ่งเฉย ขัดขวางทุกวิธีทางและขู่ว่าจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องร้องกับมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรีและจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อฉัตรได้ยินเช่นนั้นจึงล่ามโซ่เธอไว้ยังห้องใต้ดินซึ่งภายหลังเขาสถาปนาเป็นคุกลับ

อาหารวันละมื้อถูกเจียดให้กับอำพัน ดีที่สุดคือข้าวสวยหนึ่งถ้วยกับปลากระป๋อง เลวที่สุดคือน้ำเปล่าแก้วเดียว ส่วนเพียงขวัญถูกทารุณทางเพศอย่างหนักผลพวงจากความโลภของพ่อตัวเอง ท้ายที่สุดเธอก็กลายเป็นบ้า เสียสติจนพูดไม่รู้เรื่อง

สองแม่ลูกยังหลงเหลือโชคดีให้เก็บเกี่ยวอยู่บ้างเมื่อเพื่อนบ้านเกิดประหลาดใจที่ไม่เห็นอำพรรณและลูกนานนับเดือน รวมไปถึงเพื่อนที่ทำงานของหญิงวัยกลางคนก็อดสงสัยไม่ได้ ไม่นานนักสองพวกนี้ก็รุมกันแจ้งความ ในที่สุดความชั่วก็ถูกชำระล้างด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของกฏหมายไทย

ฉัตรถูกจับกุมข้อหาหลักคือค้าประเวณี ล่วงละเมิดทางเพศบุตรของตัวเอง และอีกหลายกระทงจนนับไม่ถ้วน ติดคุกหัวโต ส่วนอำพันพักฟื้นที่โรงพยาบาลได้ไม่นานก็กลับออกมาพักอาศัยอยู่บ้านกับเพียงขวัญที่ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างคนปรกติอีกต่อไป เธอมักนั่งอยู่ข้างหน้าต่างเป็นประจำทุกวัน มุมเดิมทุกวัน เวลาเดิมทุกวัน อยู่ในห้องนอนซึ่งเปรียบเสมือนโลกสี่เหลี่ยมจตุรัสแคบๆ ใบเดิม ไม่ต่างอะไรกับอำพันซึ่งต้องลาออกจากงานประจำกลับมาดูแลลูกสาว เลี้ยงชีพด้วยการขายแกงถุงตอนเช้า-เย็น ปลูกผักส่งตลาดสด เย็บผ้าเป็นงานเสริมในยามว่าง และถักโครเชต์ส่งขายออนไลน์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่