-The Countess-
"The Countess" หรือ
"ท่านคุณหญิง" คือความชั่วร้ายที่ครั้งหนึ่งได้ปกครองอาณาจักร
"Khanduras"
ครั้งหนึ่งผู้คนมากมายได้ยินเรื่องเล่าว่า
"Black Marsh" คือสถานที่หลักที่เป็นที่ตั้งของปราสาทหรือจะเรียกว่าป้อมปราการของนางดีนะ เป็นสถานที่ที่น่ากลัวและสยดสยอง นางใช้ที่แห่งนี้ในการปกครองอาณาจักรของนางในเขตแดน Khanduras และมีความคิดว่าจะขยายเขตแดนไปสู่ส่วนของชายแดนอีกด้วย
นานวันเวลาผ่านพ้นไป Countess นางอายุมากขึ้น และเป็นเหมือนดั่งทุกผู้ทุกคน ความชราเข้ามาแทนที่ความสาวสง่า แต่ด้วยมนต์ดำและความเชื่อไสยเวทย์มืด ความรู้จากตำรากล่างถึงความพิเศษของเลือดผู้ที่ยังบริสุทธิ์หรือโลหิตของหญิงพรหมจารีย์ นางได้ใช้ให้ข้ารับใช้จับผู้คนที่นางต้องการ รีดเลือดออกจากร่างลงในอ่างที่นางลงไปแช่ มันทำให้นางกลับมาเยาว์วัยอีกครั้งด้วยมนต์ดำเหล่านั้น จนชื่อเสียงความน่าหวาดกลัวนี้ก็ได้กระจายไปทั่วดินแดน แต่ท้ายที่สุดจุดจบของนางก็ได้มาถึง แม้จะไม่มีหลักฐานมากนัก แต่มีบันทึกกล่าวว่า
"The Sisterhood of the Sightless Eye" หรือ
"เหล่าพี่น้องแห่งกลุ่มสตรีไร้เนตร" เป็นกลุ่มที่มีส่วนในการโค่นล้มอำนาจของนางลงได้
จุดจบของนางนั้นอาจไม่ได้ง่ายดาย เพราะนางไม่สามารถตายได้ แม้จะถูกฆ่าไปกี่ครั้งก็ตามแต่ สิ่งที่ทำได้คือฝัง Countess ทั้งเป็นไว้ใต้ปราสาทของนางและปิดตายไว้ไม่ให้ผู้ใดเข้าไปยังที่แห่งนี้ได้ แต่ก็มีผู้คนไม่น้อยที่เชื่อว่านางยังคงอยู่ทั้งนอกปราสาทและข้างในก็มีชิ้นส่วนของนางอยู่ทั้งนั้น
ในปี 1264 สิ่งที่หลงเหลืออยู่ คือปราสาทที่ตั้งตระหง่านโดดเดี่ยว เป็นอนุสรณ์สถานที่แห่งความชั่วร้ายที่แค่ยืนมองก็สามารถสัมผัสได้ มีเอกสาร นิทาน กระทั่งบทกวีที่เล่าเรื่องราวต่างต่างทั้งจริงและไม่จริงเกี่ยวกับที่แห่งนี้ แต่ความจริงนั้นแน่แท้ ไม่ใช่สภาพที่ทรุดโทรมของมันที่เป็นอันตราย แต่เมื่อก้าวเข้าไปแล้ว ผู้คนก็มักจะยอมจำนนต่อความชั่วร้ายที่อยู่ภายในโดยทันที
มีรายงานว่า Sisters of the Sightless Eye หลายคนเสียชีวิต เนื่องด้วยการถล่มลงมาของบันไดหอคอย ระหว่างการบุกเพื่อเข้าไปจัดการความชั่วร้าย และ Countess ได้ปรากฏตัวออกมาโดยไม่มีใครทราบว่ามาได้ยังไง แต่แล้วกลุ่มของนักผจญภัยก็ได้สังหารนางได้ และเก็บสิ่งของมีค่าไปด้วยมากมายแทบเกลี้ยงหอคอย
ปี 1265 ในช่วงที่ภูเขาของคนเถื่อนถูกทำลาย
"Worldstone" ระเบิดออกและได้กระจายชิ้นส่วนของมันไปยังดินแดนต่างต่าง เศษชิ้นส่วนเล็กน้อยเหล่านั้น มีหนึ่งในเศษนั้นที่ได้ตกลงมายัง
"Darkwood" แห่งนี้
ห้าปีต่อมา ในปี 1270 Countess ได้ฟื้นคืนมาอีกครั้งและอาศัยอยู่ภายในหอคอย โดยมีเศษชิ้นส่วนศิลาสีแดงปริศนาห้อยอยู่ที่คอและแน่นอนว่ามันเสริมพลังให้กับนาง นางยังใช้บ่อโลหิตเป็นแหล่งพลังงานหล่อเลี้ยงนางโดยมี
"Blood Rose" ที่คอยสูบเลือดและชีวิตมาบำรุงเจ้านายของมันที่ Darkwood นางยังได้เรียกเหล่า
"Bloodsworn" ให้มารับใช้และใช้ปราสาทของนางเป็นฐานที่มั่นสร้างกองกำลังที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยเรื่อย โดยเหล่า Bloodsworn ได้เริ่มออกทำลายเมืองหรือหมู่บ้าน
"Blackstone" จนราบเป็นหน้ากองทั้งยังจับชาย หญิงและเด็กมารีดโลหิตให้เจ้านายของพวกมันอีกด้วย แต่สิ่งนี้มันยังไม่พอ นางยังคงต้องการ และเหล่าข้ารับใช้ตั้งใจที่จะทำงานนี้ต่อไปเพื่อให้เจ้านายของพวกมันปลื้มใจ
เวลาไม่นาน Countess ได้ปรากฏในร่างจำแลงเลือดต่อหน้าเหล่านักผจญภัย และได้ออกคำสั่งให้
"Vassarici" สังหารพวกเขาด้วย แต่ความพยายามนั้นล้มเหลว นางถูกสังหาร แต่นี่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรกับท่านคุณหญิงของพวกมัน กลับยิ่งได้เลือดมาเพิ่มอีกต่างหาก โดยที่รากของ Blood Rose ได้เก็บรวบรวมเลือดที่ได้ส่งต่อไปที่เจ้านายของมันทันที เหล่านักผจญภัยจึงต้องกัดการเจ้ากุหลาบกระหายเลือดนี่เสียก่อน และเป็นที่แน่นอนว่าพวกเขาทำสำเร็จ แม้ว่าจะมีข้ารับใช้ของ Countess อย่าง
"Lakrii" สละเลือดทั้งร่างเพื่อคืนชีพให้กับเจ้ากุหลาบยักษ์ ในครั้งนี้กลับมามีพลังเพิ่มขึ้นกว่าเดิม แต่สุดท้ายมันก็ได้ถูกสังหารลงไปเป็นครั้งที่สอง
ในตอนนี้เหล่านักผจญภัยได้บุกทะลวงเข้าไปยัง "
The Forgotten Tower" หรือ
"หอคอยที่ถูกหลงลืม" และได้ต่อสู้กับเหล่า Bloodsworn ที่ถูกเจ้านายของมันไล่ออกมาสละชีวิต เพื่อถ่วงเวลาให้การคืนชีพเสร็จสิ้น จนในท้ายที่สุดข้ารับใช้ทั้งหมดถูกสังหาร แต่ก็ไม่ทันการ เพราะ Countess ได้คืนชีพอย่างสมบูรณ์ การต่อสู้อันยาวนานจึงได้เกิดขึ้น แม้จะยากลำบากแต่สุดท้ายเหล่านักผจญภัยผู้กล้าหาญก็ได้สังหารนางและยึดเศษชิ้นส่วนของ Worldstone คืนมาได้ในที่สุด แต่อย่างที่เรารู้กันปิศาจไม่มีทางตายอย่างถาวร สักวันมันจะกลับมาเสมอ
หลังจากการตายครั้งที่สอง
"Jentulf" ได้เรียนรู้เกี่ยวกับบันทึกและพิธีกรรมเลือดมากมาย และได้ออกคำสั่งและมีภารกิจให้กับผู้กล้าไม่ว่าใครก็ตาม ที่สามารถเก็บเลือดของ Countess ที่เหลืออยู่ทั่วป่ามาได้จะได้รับทองเป็นรางวัล อีกทั้งยังเป็นการสกัดไม่ให้ภัยร้ายตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ปล.สำหรับ Countess นี่แน่นอนใครคุ้นกับเรื่องเล่าในแถบยุโรป ใช่แล้ว Ref การออกแบบอ้างอิงมาจาก Erzsébet Báthory นั่นเอง
ปล1.ในภาคสองเราก็จะได้มายัง Darkwood พบกับปราสาทของนางและได้ต่อสู้กับนางด้วย เพียงแต่รูปลักษณ์ต่างกันมากด้วยเทคโนโลยีในยุคนั้น
Diablo immortal Bestiary of Sanctuary -The Countess-
ในปี 1264 สิ่งที่หลงเหลืออยู่ คือปราสาทที่ตั้งตระหง่านโดดเดี่ยว เป็นอนุสรณ์สถานที่แห่งความชั่วร้ายที่แค่ยืนมองก็สามารถสัมผัสได้ มีเอกสาร นิทาน กระทั่งบทกวีที่เล่าเรื่องราวต่างต่างทั้งจริงและไม่จริงเกี่ยวกับที่แห่งนี้ แต่ความจริงนั้นแน่แท้ ไม่ใช่สภาพที่ทรุดโทรมของมันที่เป็นอันตราย แต่เมื่อก้าวเข้าไปแล้ว ผู้คนก็มักจะยอมจำนนต่อความชั่วร้ายที่อยู่ภายในโดยทันที
มีรายงานว่า Sisters of the Sightless Eye หลายคนเสียชีวิต เนื่องด้วยการถล่มลงมาของบันไดหอคอย ระหว่างการบุกเพื่อเข้าไปจัดการความชั่วร้าย และ Countess ได้ปรากฏตัวออกมาโดยไม่มีใครทราบว่ามาได้ยังไง แต่แล้วกลุ่มของนักผจญภัยก็ได้สังหารนางได้ และเก็บสิ่งของมีค่าไปด้วยมากมายแทบเกลี้ยงหอคอย
หลังจากการตายครั้งที่สอง "Jentulf" ได้เรียนรู้เกี่ยวกับบันทึกและพิธีกรรมเลือดมากมาย และได้ออกคำสั่งและมีภารกิจให้กับผู้กล้าไม่ว่าใครก็ตาม ที่สามารถเก็บเลือดของ Countess ที่เหลืออยู่ทั่วป่ามาได้จะได้รับทองเป็นรางวัล อีกทั้งยังเป็นการสกัดไม่ให้ภัยร้ายตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ปล.สำหรับ Countess นี่แน่นอนใครคุ้นกับเรื่องเล่าในแถบยุโรป ใช่แล้ว Ref การออกแบบอ้างอิงมาจาก Erzsébet Báthory นั่นเอง
ปล1.ในภาคสองเราก็จะได้มายัง Darkwood พบกับปราสาทของนางและได้ต่อสู้กับนางด้วย เพียงแต่รูปลักษณ์ต่างกันมากด้วยเทคโนโลยีในยุคนั้น