1,249 ม. เหนือระดับน้ำทะเล
ระยะเดินเท้า 8 กม.
2 วัน 1 คืน : 28-29 ม.ค. 2562
(อยู่บ้านอีต่องวันที่ 27)
สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิวการเที่ยวเขาที่น่าจะมีรีวิวเกิน 100 รีวิวในพันทิพย์แล้ว 555 นั่นก็คือ "เขาช้างเผือก" ครับ หลังจากโทรจองทั้งหมด 80 สาย ผมก็จองเขาที่จองยากที่สุดนี้ได้ 555 แต่ก็ต้องลางาน 2 วัน จันทร์ กับ อังคาร ครับ
ก่อนรีวิว ขออนุญาตฝากบล็อกเดินเขาส่วนตัวไว้ด้วยนะครับ แต่ข้อมูลในพันทิพย์ใส่มาครบนะครับ ไม่จำเป็นต้องตามไปอ่านในนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้www.athaitrekker.com
รูปถ่ายจะติดบุคคลอื่นมาด้วย แต่เลือกรูปที่เห็นข้างหลังหรือปิดหน้าหรือเห็นไกล ๆ นะครับ หากท่านใดพบรูปตัวท่านเองในนี้แล้วต้องการให้ลบออก แจ้งได้นะครับผม
เอาหล่ะ งั้นมาเริ่มกันเลย
ไปยังไง
จากกรุงเทพพวกผมขับรถไปโดยใช้เส้นทาง บรมราชชนนี (338) > เพชรเกษม (AH2) > ทางเลี่ยงเมืองบ้านโป่ง (323) > ทางหลวงหมายเลข 3272 > ทางหลวงหมายเลข 4088 เข้าสู่บ้านอีต่อง ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 9 ชั่วโมงรวมหยุดกินข้าวเช้าที่นครปฐม และข้าวกลางวันที่เขื่อนวชิราลงกรณ์ (แนะนำนะครับ) ส่วนหนึ่งของเส้นทางบนเขามีชำรุดเลยต้องขับช้าด้วยความระมัดระวังครับ
วันแรกนอนที่หมู่บ้านอีต่อง สถานที่เที่ยวรอบ ๆ ก็มี ตัวตลาด เนินช้างศึก เนินเสาธง ช่องทางมิตรภาพ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น และ น้ำตกผาแป
ในส่วนของน้ำตกผาแปผมไม่ได้ไปนะครับ ไม่มีเวลา
หมู่บ้านอีต่องยามเย็น
สะพานแขวนป้ายไม้ในตำนาน
ตลาด
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
ช่องทางมิตรภาพ เดินทะลุช่องนี้ไปเป็นพม่าแล้วครับ (หมายถึงแผ่นดินนะครับไม่ใช่คน)
เนินเสาธง
อาทิตย์ตกดินที่เนินช้างศึก
เนินช้างศึกใครไม่มีรถ สามารถเดินขึ้นได้จากหมู่บ้านอีต่องนะครับ ตรงที่มีป้ายสีฟ้า ๆ บอกว่า "ทางขึ้นเนินช้างศึก 1.2 กม." ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมงครับ พวกผมก็จอดรถที่หมู่บ้านแล้วเดินขึ้นไปครับ
รายงานตัวขึ้นเขาช้างเผือก
ทุกคนที่จะขึ้นเขาต้องรายงานตัวตอนเช้าของวันที่จะขึ้นเขาที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ แต่พวกผมพักในหมู่บ้านอีต่อง เลยต้องขับรถย้อนมาที่อุทยานก่อนที่จะขับกลับไปที่หมู่บ้านอีต่องอีกครั้งหนึ่งเพราะจุดเริ่มเดินอยู่ที่นั่น - -‘ ตรงนี้รู้สึกว่าไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ถ้าพักในอุทยานแห่งชาติก็จะสะดวกครับ ผมออกจากหมู่บ้านอีต่องมาถึงอุทยานประมาณ 6:30 น. ก็เจอนักเดินเขารอลงทะเบียนแล้วครับ ไม่เปลี่ยว ไม่เหงา 555 รายงานตัวเสร็จก็กลับไปหมู่บ้านอีต่องครับ
การเดินเขาครั้งนี้ผมไม่ได้เอาอะไรไปทำกินด้านบนครับ ซื้ออาหารให้พอ 4 มื้อ แพ็คใส่กล่องข้าว แล้วเอาติดตัวไปด้วย ร้านอาหารที่หมู่บ้านเขารู้ว่าจะมีคนเดินเขา เขาก็เปิดขายกันตั้งแต่ 6:00 น. ครับ อ้อ น้ำคนละ 3 ลิตรนะครับ พอต่อการอยู่บนเขาประมาณ 24 ชม.
กลับมาถึงหมู่บ้านอีต่องก็ตรงมาที่ศาลาของหมู่บ้านที่ติดกับโรงเรียนเพื่อติดต่อลูกหาบ ลูกหาบแบกน้ำหนักต่ำสุด 30 กก. กก. ละ 500 บาทครับ รวมเป็น 1,500 บาท กลุ่มผมเลยแชร์น้ำหนักกับน้องอีกกลุ่มหนึ่ง ก็จ่ายกลุ่มละ 750 บาท ติดต่อลูกหาบเสร็จก็เดินไป 3 แยก เพื่อเตรียมขึ้นเขา ไม่ต้องกลัวว่าจะหาสถานที่อะไรไม่เจอนะครับ ถามชาวบ้านได้เลยว่าอะไรอยู่ตรงไหน
ลูกหาบกำลังชั่งน้ำหนักของ
3 แยก พร้อมป้ายบอกทาง
ทางเดิน
ทางเดินขึ้นเขาเริ่มที่หลังหมู่บ้านอีต่อง ในช่วงแรกทางเดินไม่ชันมาก เดินร่ม ๆ ใต้ต้นไม้ พอสูงขึ้นไปทางจะชันขึ้น ต้นไม้จะหายไปกลายเป็นทุ่งหญ้า แดดแรง และร้อนมาก ใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมงก็มาถึงลานกางเต็นต์ครับ
ตอนแรกก็เดินกันใต้ต้นไม้
ต่อมาก็ โล่ง ๆ ร้อน ๆ แบบนี้เลยหล่ะครับ 555 ผ้าบัฟ ปลอกแขน แว่นกันแดด หมวก ต้องไม่ลืม
ลานกลางเต็นต์ครับ พื้นที่แคบ แต่จำกัดนักท่องเที่ยวที่ 60 คน ก็จัดสรรกันได้ฮะ
สันคมมีด
ไฮไลต์ของการปีนเขาช้างเผือกก็คือ "สันคมมีด" ครับ "สันคมมีด" จะอยู่ระหว่างลานกลางเต็นต์และยอดเขาช้างเผือกครับ หลังจากที่ทุกคนมาถึงลานกลางเต็นเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องจัดแจงเรื่องของตัวเอง เช่น กางเต็นต์ เอาของเข้า พักผ่อน เติมพลัง พอ 15:00 น. จนท. จะพาทุกคนเดินไปปีนสันคมมีดเพื่อไปยังยอดเขาช้างเผือก ไปก่อนไม่ได้นะครับ และจะมีเวลาให้อยู่ด้านบนประมาณ 2 ชั่วโมง พอ 17:00 น. จนท. จะพาทุกคนกลับมาลานกลางเต็นต์ ไม่มีการอยู่บนนั้นตามใจฉัน เพราะอันตรายครับ
มองกลับมาลานกางเต็นต์ ขณะกำลังเดินขึ้นยอดเขา
ในส่วนของสันคมมีดนั้น...ไต่เชือกสิฮะ
ขณะปีนมีความรู้สึกว่า จนท. คงจะบึนปากที่นักท่องเที่ยวแต่ละคนพกกล้องกันมาพะรุงพะรัง
แต่ทำไงได้หล่ะฮะ ไม่ได้มากันบ่อย แล้วเขาก็สวยขนาดนี้ ดังนั้นอย่าลืมเตรียมเป้เล็ก ๆ เพื่อใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยนะครับ
ทางแคบ ๆ กับคนเท่ ๆ เห็นเพื่อนร่วมทางหลายคนเท่ได้โดยไม่ต้องทำอะไร 555
จนท. บริการดีมาก รู้สึกปลอดภัยสุด ๆ
เลยช่วงทางแคบ ๆ มาแล้วก็เตรียมปีนขึ้นยอดครับ ชัน ๆ ร้อน ๆ ครับ
อ้อ อีกอย่าง ถุงมือควรเตรียมไปด้วยนะฮะ
นี่ไง เห็นมะ พวกที่เท่ได้โดยไม่ต้องพยายามอะไร
ยอดเขาช้างเผือก เป็นคนไทย ต้องถ่ายรูปกับป้ายฮะ
เดินกันตามสันเขาครับ สวย ๆ
บริเวณสันคมมีดจากอีกมุมหนึ่ง
ทางลงกลับไปลานกางเต็นต์ฮะ
ขอแนบรูปอีกสองสามรูปเพิ่มเติมนะฮะ
ตกดึกใครไม่รู้จะทำอะไรก็นอนดูดาวไป เห็นหลายคนถ่ายภาพดาวครับ
หรือจะเม้าต์เต็นต์ข้าง ๆ ก็ได้ แต่อย่าเม้าต์แรง เขามันเงียบ ได้ยินกันทั่ว 555
ถ้าเต็นต์ใครโปรงแสงก็ถ่ายภาพเต็นต์สวย ๆ ได้แบบนี้ครับ
ดวงอาทิตย์ขึ้นครับ
ทางเดินขณะลงเขา
ถ้าไม่ได้ไปคนเดียวก็จะมีโมเม้นต์น่ารัก ๆ แบบนี้
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
สำหรับ 2 คนนะครับ
ค่าน้ำมัน: 1200 บาท (ผมขับรถไปกันเองครับ)
ค่าเข้า: 80 บาท
ค่าเข้าสำหรับรถ: 30 บาท
ประกันอุบัติเหตุ: 20 บาท
ลูกหาบ: 750 บาท
ค่า จนท. นำทาง: 418 บาท (ตอนลงทะเบียนจ่าย 300 บาทต่อคน ถ้าคนที่จองมาครบ เขาจะคืนให้ 91 บาท)
ค่าที่พัก 1 คืน: 800 บาท
ค่าอาหารน้ำ: 3,000 บาท (รวมหมดตั้งแต่ออกจาก กทม. ยันวันกลับ)
รวม: 6,298 บาท
ป.ล. ห้องน้ำเหม็นรุนแรงมาก 555 เป็นไปได้อย่าไปขรี้บนนั้น กินไฟเบอร์น้อย ๆ ก่อนปีนนะฮะ 555
[CR] เผือกเรื่องของเขา ที่ เขาช้างเผือก
ระยะเดินเท้า 8 กม.
2 วัน 1 คืน : 28-29 ม.ค. 2562
(อยู่บ้านอีต่องวันที่ 27)
สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิวการเที่ยวเขาที่น่าจะมีรีวิวเกิน 100 รีวิวในพันทิพย์แล้ว 555 นั่นก็คือ "เขาช้างเผือก" ครับ หลังจากโทรจองทั้งหมด 80 สาย ผมก็จองเขาที่จองยากที่สุดนี้ได้ 555 แต่ก็ต้องลางาน 2 วัน จันทร์ กับ อังคาร ครับ
ก่อนรีวิว ขออนุญาตฝากบล็อกเดินเขาส่วนตัวไว้ด้วยนะครับ แต่ข้อมูลในพันทิพย์ใส่มาครบนะครับ ไม่จำเป็นต้องตามไปอ่านในนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปถ่ายจะติดบุคคลอื่นมาด้วย แต่เลือกรูปที่เห็นข้างหลังหรือปิดหน้าหรือเห็นไกล ๆ นะครับ หากท่านใดพบรูปตัวท่านเองในนี้แล้วต้องการให้ลบออก แจ้งได้นะครับผม
จากกรุงเทพพวกผมขับรถไปโดยใช้เส้นทาง บรมราชชนนี (338) > เพชรเกษม (AH2) > ทางเลี่ยงเมืองบ้านโป่ง (323) > ทางหลวงหมายเลข 3272 > ทางหลวงหมายเลข 4088 เข้าสู่บ้านอีต่อง ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 9 ชั่วโมงรวมหยุดกินข้าวเช้าที่นครปฐม และข้าวกลางวันที่เขื่อนวชิราลงกรณ์ (แนะนำนะครับ) ส่วนหนึ่งของเส้นทางบนเขามีชำรุดเลยต้องขับช้าด้วยความระมัดระวังครับ
วันแรกนอนที่หมู่บ้านอีต่อง สถานที่เที่ยวรอบ ๆ ก็มี ตัวตลาด เนินช้างศึก เนินเสาธง ช่องทางมิตรภาพ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น และ น้ำตกผาแป
ในส่วนของน้ำตกผาแปผมไม่ได้ไปนะครับ ไม่มีเวลา
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
เนินช้างศึกใครไม่มีรถ สามารถเดินขึ้นได้จากหมู่บ้านอีต่องนะครับ ตรงที่มีป้ายสีฟ้า ๆ บอกว่า "ทางขึ้นเนินช้างศึก 1.2 กม." ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมงครับ พวกผมก็จอดรถที่หมู่บ้านแล้วเดินขึ้นไปครับ
ทุกคนที่จะขึ้นเขาต้องรายงานตัวตอนเช้าของวันที่จะขึ้นเขาที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ แต่พวกผมพักในหมู่บ้านอีต่อง เลยต้องขับรถย้อนมาที่อุทยานก่อนที่จะขับกลับไปที่หมู่บ้านอีต่องอีกครั้งหนึ่งเพราะจุดเริ่มเดินอยู่ที่นั่น - -‘ ตรงนี้รู้สึกว่าไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ถ้าพักในอุทยานแห่งชาติก็จะสะดวกครับ ผมออกจากหมู่บ้านอีต่องมาถึงอุทยานประมาณ 6:30 น. ก็เจอนักเดินเขารอลงทะเบียนแล้วครับ ไม่เปลี่ยว ไม่เหงา 555 รายงานตัวเสร็จก็กลับไปหมู่บ้านอีต่องครับ
การเดินเขาครั้งนี้ผมไม่ได้เอาอะไรไปทำกินด้านบนครับ ซื้ออาหารให้พอ 4 มื้อ แพ็คใส่กล่องข้าว แล้วเอาติดตัวไปด้วย ร้านอาหารที่หมู่บ้านเขารู้ว่าจะมีคนเดินเขา เขาก็เปิดขายกันตั้งแต่ 6:00 น. ครับ อ้อ น้ำคนละ 3 ลิตรนะครับ พอต่อการอยู่บนเขาประมาณ 24 ชม.
กลับมาถึงหมู่บ้านอีต่องก็ตรงมาที่ศาลาของหมู่บ้านที่ติดกับโรงเรียนเพื่อติดต่อลูกหาบ ลูกหาบแบกน้ำหนักต่ำสุด 30 กก. กก. ละ 500 บาทครับ รวมเป็น 1,500 บาท กลุ่มผมเลยแชร์น้ำหนักกับน้องอีกกลุ่มหนึ่ง ก็จ่ายกลุ่มละ 750 บาท ติดต่อลูกหาบเสร็จก็เดินไป 3 แยก เพื่อเตรียมขึ้นเขา ไม่ต้องกลัวว่าจะหาสถานที่อะไรไม่เจอนะครับ ถามชาวบ้านได้เลยว่าอะไรอยู่ตรงไหน
ทางเดินขึ้นเขาเริ่มที่หลังหมู่บ้านอีต่อง ในช่วงแรกทางเดินไม่ชันมาก เดินร่ม ๆ ใต้ต้นไม้ พอสูงขึ้นไปทางจะชันขึ้น ต้นไม้จะหายไปกลายเป็นทุ่งหญ้า แดดแรง และร้อนมาก ใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมงก็มาถึงลานกางเต็นต์ครับ
ไฮไลต์ของการปีนเขาช้างเผือกก็คือ "สันคมมีด" ครับ "สันคมมีด" จะอยู่ระหว่างลานกลางเต็นต์และยอดเขาช้างเผือกครับ หลังจากที่ทุกคนมาถึงลานกลางเต็นเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องจัดแจงเรื่องของตัวเอง เช่น กางเต็นต์ เอาของเข้า พักผ่อน เติมพลัง พอ 15:00 น. จนท. จะพาทุกคนเดินไปปีนสันคมมีดเพื่อไปยังยอดเขาช้างเผือก ไปก่อนไม่ได้นะครับ และจะมีเวลาให้อยู่ด้านบนประมาณ 2 ชั่วโมง พอ 17:00 น. จนท. จะพาทุกคนกลับมาลานกลางเต็นต์ ไม่มีการอยู่บนนั้นตามใจฉัน เพราะอันตรายครับ
ขณะปีนมีความรู้สึกว่า จนท. คงจะบึนปากที่นักท่องเที่ยวแต่ละคนพกกล้องกันมาพะรุงพะรัง
แต่ทำไงได้หล่ะฮะ ไม่ได้มากันบ่อย แล้วเขาก็สวยขนาดนี้ ดังนั้นอย่าลืมเตรียมเป้เล็ก ๆ เพื่อใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยนะครับ
ขอแนบรูปอีกสองสามรูปเพิ่มเติมนะฮะ
หรือจะเม้าต์เต็นต์ข้าง ๆ ก็ได้ แต่อย่าเม้าต์แรง เขามันเงียบ ได้ยินกันทั่ว 555
สำหรับ 2 คนนะครับ
ค่าน้ำมัน: 1200 บาท (ผมขับรถไปกันเองครับ)
ค่าเข้า: 80 บาท
ค่าเข้าสำหรับรถ: 30 บาท
ประกันอุบัติเหตุ: 20 บาท
ลูกหาบ: 750 บาท
ค่า จนท. นำทาง: 418 บาท (ตอนลงทะเบียนจ่าย 300 บาทต่อคน ถ้าคนที่จองมาครบ เขาจะคืนให้ 91 บาท)
ค่าที่พัก 1 คืน: 800 บาท
ค่าอาหารน้ำ: 3,000 บาท (รวมหมดตั้งแต่ออกจาก กทม. ยันวันกลับ)
รวม: 6,298 บาท
ป.ล. ห้องน้ำเหม็นรุนแรงมาก 555 เป็นไปได้อย่าไปขรี้บนนั้น กินไฟเบอร์น้อย ๆ ก่อนปีนนะฮะ 555
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น