ถูกเลิกจ้างกระทันหัน หลังทำงานมา 2 ปี 364 วัน (1 วันก่อนครบ 3 ปีเต็ม)

สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะมาเล่าประสบการณ์ในการถูกเลิกจ้างกระทันหัน เผื่อจะได้เป็นประโยชน์กับผู้อื่นที่เป็นลูกจ้างแล้วโดนเอาเปรียบแบบผม ผมพยามหากระทู้ที่คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่เจอที่ตรงท่าใหร่เพราะว่าเถียงกันเพียงแค่ 1 วันทำงานเท่านั้น

ผมเคยทำงานในบริษัทฝรั่งอยู่แห่งหนึ่งในกรุงเทพแล้วถูกเลิกจ้างกระทันหันเมื่อปลายกุมภาพันธ์ปี 2561 เป็นเรื่องบังเอิญที่ผมเริ่มงานวันที่ 2 มีนาคม 2558 ซึ่งตรงกับวันจันทร์ พอมาถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ก็ได้ถูกเลิกจ้างอย่างที่กล่าว โดยไม่มีเหตุผล ผมไม่เคยกระทำผิดไม่เคยมีการตักเตือนแต่ก็ได้จดหมายชมเชยและเงินโบนัสทุกปีแม่กระทั่งปลายปีสุดท้าย ตอนแรกก็รู้สึกว่ามืดแปดด้านทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่ทันตั้งตัว ได้ทราบข่าว 2 วันล่วงหน้าทางโทรศัพท์จากเจ้าของบริษัทเท่านั้นเอง แต่ผมก็ไม่ได้ตอบตกลงอะไรทั้งสิ้นเพียงแต่ขอเวลาตัดสินใจหน่อยนึงเพราะผมมาดูเวลาแล้วก็รู้ว่าเจตนาเค้าเป็นยังไงที่จะเลิกจ้างผมก่อนครบสามปี ก็เลยตัดสินใจใช้วันลา 2 วันสุดท้ายนั้นก่อนเก็บของออกจากบริษัทมาเงียบๆก่อน ยังไม่ทันได้ลาใครเลย และสุดท้ายจดหมายเลิกจ้างก็มาทางอีเมลในวัน 28 กุมภาพันธ์ พร้อมกับค่าชดเชยเพียง 4 เดือนเท่านั้น provident fund ก็ได้เพียงร้อยละ 50 เท่านั้น

พอออกมาแล้วผมก็ตั้งหน้าตั้งตาหาข้อมูลข้อกฎหมายว่าผมจะเรียกร้องค่าเสียหายยังไงได้บ้าง เพราะว่าทำกับผมแบบนี้ทำให้ผมเสียชื่อเสียงในวงการมากแม้แต่ภายในบริษัทกันเองผมก็ไม่ได้มีโอกาสได้อธิบายความจริงกับเพื่อนร่วมงาน  

ก็โชคดีที่หาข้อมูลมาว่าสลิปเงินเดือนผมได้รับเป็นรายเดือนระบุชัดเจนเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2558 และมีครบจำนวน 36 เดือนเต็ม แล้วก็สัญญาจ้างที่ระบุไว้ว่าเริ่มงานวันที่ 2 มีนาคม 2558 และทางบริษัทสามารถจะเลิกจ้างได้เมื่อไหร่ก็ได้โดยไม่มีเหตุผลโดยไม่มีการบอกกล่าว ผมก็ไม่ได้เซ็นไว้ เมื่อมีข้อมูลเพียงพอผมก็ดำเนินการหาทนายส่งฟ้องศาลแรงงานกลางเลย

เท่าที่อ่านข้อกฎหมายมาก็เข้าใจได้ว่ามันมีข้อกฎหมายหลายข้อที่น่าสนใจ

1. เรื่องของระยะเวลาการทำงานซึ่งถ้านับวันแล้วผมก็ทำงานได้ 2 ปี 364 วันจริงๆเพราะวันที่หนึ่งเป็นวันอาทิตย์
2. แต่ในเวลาเดียวกันผมก็มีเอกสารที่ระบุว่าผมเริ่มวันที่หนึ่งซึ่งเป็นวันอาทิตย์ชัดเจนในสลิปเงินเดือนเพราะฉะนั้นในแง่เอกสารผมก็ทำงานครบ 3 ปีเต็ม ต้องชดเชย 6 เดือน ถ้านับวันหยุดรวมตามที่มาตราหนึ่งได้กล่าวไว้ว่าให้รวมเป็นประโยชน์ของลูกจ้างถ้านายจ้างมีเจตนาที่จะไม่ให้ได้รับผลประโยชน์
3. บวกกับการเลิกจ้างทางบริษัทไม่ได้ให้เหตุผลอะไรเลยที่จะตำหนิว่าผมกระทำผิดเป็นเหตุให้เลิกจ้างแล้วก็ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้าซึ่งผมก็ฟ้องเลิกจ้างไม่เป็นธรรมเช่นเดียวกัน (แต่วันสืบพยานทางบริษัทยกแม่น้ำมาทั้งห้าเลยว่าผมทำผิดเยอะแยะไปหมดแต่ก็มีหลักฐานไม่กี่ข้อเท่านั้น)
4. มีอยู่มาตรานึงที่ระบุว่าหากนายจ้างไม่ให้เหตุผลในจดหมายการเลิกจ้าง นายจ้างจะไม่สามารถนำเหตุผลนั้นมาสู้คดีภายหลังได้

จากวันที่จากวันที่ยื่นฟ้องไป รวมไกล่เกลี่ย 2 นัด (ซึ่งทางบริษัทก็ไม่ได้มาส่งแต่ทนายมา) จนถึงสืบพยานที่สุดท้ายก็มาเอง ถึงวันนี้ก็ใกล้จะครบหนึ่งปีพอดี นานพอสมควร แต่ก็ไม่นานเกินรอแล้วเพราะศาลนัดตัดสินอาทิตย์หน้านี้ ผมเองก็ใจจดใจจ่ออยากจะทราบผลว่าจะได้ความเป็นธรรมหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เดินหน้ากับชีวิตการงานต่อได้อย่างเต็มที่ไม่มีเรื่องเก่าๆมาให้กวนใจ

พอทราบผลอาทิตย์หน้าแล้วผมจะมาเล่าให้ฟังในตอนที่สองนะครับ

ระหว่างนี้หากใครมีความคิดเห็นยังไงกับสถานการณ์แบบผมก็เสนอได้เลยนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่