ผมกับแฟนรู้จักกันมาได้ประมาณ 2 ปี (คบกันจริงจัง 1 ปี) ซึ่งตลอดเวลาผมกับแฟนแทบไม่มีปัญหากันเลย
ทะเลาะกันแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ตามประสา แฟนอายุ 23 ปี เพิ่งจบและเริ่มทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนปกติ
เธอเป็นคนน่ารักนะ รูปร่างหน้าตาดี เอาใจเก่ง วางตัวดี พูดจาดี ดูแลตัวเองได้ ฟังดูแล้วก็น่าจะมาจากครอบครัวที่ดี
แต่ไม่น่าเชื่อว่าตลอดเวลาที่คบกันมา จะได้ยินเรื่องครอบครัวเขาในแง่ลบตลอด เธอชอบระบายให้ฟัง และก็จะร้องไห้ทุกครั้ง
ที่พูดถึงเรื่องที่บ้าน ...
ครอบครัวเธอมี 4 คน พ่อ แม่ พี่สาวที่ห่างกับเธอ 7 ปี และตัวเธอเอง แต่ตอนนี้พี่สาวไม่ได้อยู่ที่บ้านเพราะทำงานไกล (แต่ในกทม.นี่แหละ)
เลยออกมาอยู่คนเดียวได้หลายปีแล้ว (น่าจะตั้งแต่เรียนจบ) และตอนนี้ก็แต่งงานไปแล้วด้วย เธอเลยอยู่ที่บ้านกับพ่อและแม่
ประเด็นคือตรงนี้ เธอชอบเล่าให้ฟังว่า โดนที่พ่อด่าแบบไม่มีเหตุผลอยู่บ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้มีโดนทำร้ายบ้างด้วยเข็มขัด
และแม่เองก็แทบจะปกป้องอะไรไม่ได้ เพราะแม่เป็นคนเชื่องช้า และเริ่มมีอาการพูดไม่รู้เรื่อง คำที่พ่อด่ามักจะเป็นคำหยาบคาย เหมือนไม่ได้พูดกับลูก
"เป็นเ-ี่ยอะไรของ" ประมาณนี้ / ถามว่าเธอเป็นเด็กไม่ดีหรอ?? เท่าที่รู้ เธอต้องทำงานบ้านเอง ดูแลบ้าน หาข้าวหาปลาให้พ่อแม่
คอยเก็บของที่พ่อแม่ทำรกไว้ พ่อกับแม่แทบจะไม่ทำอะไรเลย เธอนั่งรถตู้กลับถึงบ้านก็ต้องเตรียมข้าวให้พ่อแม่ ซักผ้า กวาดบ้าน และค่อยอาบน้ำ นอน
ส่วนพ่อแม่ก็ออกไปทำงานบางวัน ไม่ได้ออกทุกวัน / พ่อแม่เธอชอบใช้ให้เธอทำโน่นนี่นั่นตลอด (ทั้งที่ตัวเองทำได้) จริงๆแล้วอาจจะเป็นเรื่องปกติ
แต่กับพี่สาวไม่ยักกะโดน เวลาพี่สาวกลับมาบ้านเสาร์-อาทิตย์ พี่สาวก็จะเป็นคอยคอยใช้เธอต่อ โดยที่พ่อแม่ไม่ใช้ให้พี่สาวทำ
โดยอ้างว่าเป็นลูกคนเล็กก็ต้องทำ พี่เค้าโตแล้ว มีครอบครัวแล้ว (มันเกี่ยวกันมั้ย??) / พ่อและพี่สาวมักใช้ถ้อยคำจิกหัว หยาบคายเวลาจะให้ทำอะไร
พอเธอไม่ว่างทำหรือจะไม่ทำก็จะโดนด่า / พี่สาวเธอทำอะไรได้อิสระ ตามใจตลอด แต่เธอเองแค่จะออกจากบ้านยังไม่ได้ /
พี่สาวเธอพูดว่า ท่านแก่แล้ว อยู่บ้านช่วยท่านทำโน่นนี่บ้าง (เดี๋ยว...คุณเองไม่มาทำล่ะ??? แล้วที่น้องคุณทำอยู่ทุกวันนี่คืออะไร??) /
เธอเคยโดนด่าจนร้องไห้ แล้วเธอบอกว่า "ทำไมไม่พูดกันดีดี หนูเป็นลูกพ่อหรือป่าว" พ่อบอกมาด้วยคำพูดที่น่าอนาถว่า "เป็นลูก กูจะพูดอะไรก็ต้องทำ"
"ไม่มีสิทธิ์เถียง" "ทำไมกูต้องพูดดีกับ" / ไม่ว่าใครจะสร้างปัญหาในบ้านมักจะลงที่เธอตลอด เธอไม่มีสิทธิ์คิดและทำอะไรเลย
เธอมักจะระบายกับผมและบ่นว่า เวลาพ่อแม่อยู่บ้านเธอไม่โอเค สุขภาพจิตเสีย เธอจะดีใจมากที่พ่อแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัดนานๆ
แรกๆ ผมรู้สึกว่าเธอคิดไม่ถูก แต่หลังๆ ผมเปลี่ยนความคิดละ...
ระยะหลังๆ ผมได้เริ่มเข้าไปในบ้าน ได้เจอ ได้พูดคุยมากขึ้นกับคนในครอบครัว ผมสรุปว่า มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผมรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างเวลาพ่อพูดกับผม
พ่อขี้อวด คิดว่าตัวเองเก่ง รู้ทุกอย่าง ชอบสอน ถือดี อีโก้สูงมากกกกกก จังหวะที่คุยๆกัน ชอบทำเหมือนผมไม่รู้อะไรเลย ชอบถามเชิงเหยียดว่า
"รู้มั้ยว่า...." "พ่อนี่พูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่ประถม ไม่กลัว เราอะ พูดได้มั้ย??" "พ่อรู้หมดใครเป็นยังไง" "ได้นั่นมา นี่มา รู้นั่น รู้นี่" ผมก็ได้แต่พยักหน้า
ล่าสุด ที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เรื่องมันมีอยู่ว่า เธอบอกที่บ้านไว้ว่า จะชวนไปไหนเสาร์อาทิตย์ ให้บอกล่วงหน้า (ก็ควรจะหลายวันหน่อย) เพราะเธอต้อง
มาทำงานวันเสาร์หรืออาทิตย์ในบางวันซึ่งสามารถขยับชดเชยกันได้ (แต่ต้องรู้คิวก่อนไง) ปรากฏว่าสัปดาห์นี้เธอไม่โดนงาน แต่เธอมีนัดกับผมวันอาทิตย์
(ปกติเจอกัน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เฉพาะวันทำการ เพราะผมก็งานยุ่ง และเสาร์หรืออาทิตย์ผมก็จะให้เวลากับครอบครัวบ้าง) แล้วจู่ๆ พี่สาวก็ไลน์มาบอกเธอว่า
"รู้ยังพ่อแม่จะพาไปอยุธยาวันเสาร์" "รู้ยังว่าพี่ฝากหน้ากากกันฝั่นไว้เป็นอาทิตย์แล้ว" ประเด็นคือพ่อแม่ไม่บอกอะไรเลยทั้ง 2 เรื่อง ไปอยุธยาพี่สาวรู้ทั้งที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เธอดันไม่รู้ เธอก็บอกไปว่า "วันอาทิตย์ไม่อยู่บ้านนะ" แปลว่าวันเสาร์ไปได้ถูกมั้ยครับ แต่...สักพักแม่ก็โทรมาหาเธอ
แล้วเธอก็โดนด่าครับ
พ่อตะโกนเข้ามาในสาย "เป็นเ-ี่ยไร เสาร์อาทิตย์ไม่เคยอยู่บ้าน จะออกไปไหนนักหนา บลาๆๆๆ"
เธอตอบกับแม่ "หนูบอกไปแล้วว่า วันอาทิตย์ วันเสาร์ไปได้ ..เปิดลำโพงดิแม่ พ่อจะได้รู้เรื่อง"
แม่ก็ไม่เปิด เธอก็โดนด่า แม่เธอพยายามจะบอกแบบที่เธอบอก แต่เหมือนพูดไม่รู้เรื่อง พ่อก็ยิ่งด่าหนัก เธอบอกให้แม่เปิดลำโพง 3 รอบ
เพราะเธอโดนด่าจนร้องไห้แล้ว
พ่อด่าต่อด้วยอารมณ์ "กูเหนื่อยนะ ทุกวันต้องออกไปทำงานแล้วก็ต้องมาวุ่นวายเรื่องด้วย" "แล้วจะออกไปไหนทุกวันๆ" "วันนี้ก็ออกไปทำงาน" (เอ้าก็วันทำงานป่าววะ)
เธอเริ่มหงุดหงิดที่พ่อใช้อารมณ์ "หนูบอกแล้วไงว่าหนูไปได้วันเสาร์อะ"
พ่อ "แล้ววันอาทิตย์จะออกไปไหนอีก"
เธอต้องโกหก "ก็มีงาน ต้องออก"
พ่อแถไม่ถูก "สรุปคือจะไปทำงานใช่มั้ย" แล้วก็บ่นๆ ไรต่อ ผมก็จำที่เธอเล่าไม่ได้
ประเด็นที่เธอต้องโกหก ก็เพราะ พ่อเคยบอกว่า "อยู่ติดบ้านบ้าง จะออกไปทำเ-ี่ยไรทุกวันๆ ออกเดือนละครั้งก็พอ" (ได้หรอ??? ทำไมวะ???)
เธอบอกผมว่า เสาร์อาทิตย์ เธอไม่ได้ทำงาน เธอก็อยากออกบ้าง (บางทีก็ไปกับเพื่อน บางทีก็เจอกับผม) ถือว่าเป็นวันที่เธอได้พัก เธอควรจะเลือกได้
ว่าเธอจะอยู่บ้าน หรือ เธอจะออกข้างนอก (และการอยู่บ้านใช่ว่าจะดี เป็นแบบนี้ใครอยากจะอยู่บ้านละครับ) / แล้วพ่อกับแม่ไม่มีสังคม คุณแต่งงานกันแล้ว
ความสุขของคุณก็อยู่ด้วยกันแล้ว คุณก็อยู่บ้านได้สิ แต่เธอกับผมไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เจอกันแบบที่พ่อแม่อยู่
อยากให้เธออยู่บ้านเพื่อจะได้คอยใช้ให้ทำโน่นทำนี่ ทำงานทุกวันแล้วยังต้องมาอยู่แต่บ้านอีก นี่บ้านหรือสถานกักกันครับ
เธอเคยคิดว่าจะออกมาอยู่คนเดียว เพราะเธอสุขภาพจิตเสียทุกวัน กลับบ้านไปไม่รู้จะโดนด่า โดนใช้ให้ทำอะไรอีก
จริงๆความคิดผมว่า เธอไม่ได้มีปัญหากับการดูแลบ้านหรอก เพราะเวลาพ่อแม่ไม่อยู่ เธอก็ยังทำงานบ้านปกติ
แต่ธอมีปัญหากับการพูด การใช้อารมณ์ การไร้เหตุผลของพ่อแม่มากกว่า และยังเรื่องของกฎห้ามออกข้างนอกอีก
ผมบอกเธอว่า คนที่อกตัญญูคือคนที่ทิ้งพ่อแม่มาเสวยสุข แล้วลืมท่าน ปล่อยให้ท่านลำบาก แต่การออกมาจากบ้านเพราะทนไม่ไหวกับเรื่องพวกนี้
ไม่ใช่อกตัญญูนะ เธอเองก็ไม่ใช่จะสบายขึ้น ต้องแบกภาระในการดูแลตัวเองด้วยซ้ำ
ผมกลัวว่าวันนึงผมจะต้องฉะกับที่บ้านเขา แล้วจะเกิดปัญหา ผมไม่ชอบครอบครัวเขาเลย ตอนนี้ผมบอกเขาว่า ผมรับครอบครัวไม่ได้นะ
ซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน หมายความว่าอนาคต ผมจะไม่อยากสุงสิงกับที่บ้านเขา แล้วเขาจะรับได้มั้ย ถ้ารับได้ก็โอเค (เรารักแต่ลูกสาวคุณนะ แต่เราไม่รักพวกคุณ) แต่ถ้ารับไม่ได้ แล้วถ้าวันนึงผมต้องดองกับบ้านนี้ ผมจะอยู่เฉยๆได้หรือครับ ให้แฟนถูกทำแบบนี้
เป็นคุณคุณจะทำยังไงครับ
เราไม่ชอบครอบครัวแฟน เพราะเผด็จการ ชายเป็นใหญ่ กดขี่ แฟนถูกเลี้ยงเหมือนทาส จะเข้าไปยุ่งดีมั้ย?
ทะเลาะกันแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ตามประสา แฟนอายุ 23 ปี เพิ่งจบและเริ่มทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนปกติ
เธอเป็นคนน่ารักนะ รูปร่างหน้าตาดี เอาใจเก่ง วางตัวดี พูดจาดี ดูแลตัวเองได้ ฟังดูแล้วก็น่าจะมาจากครอบครัวที่ดี
แต่ไม่น่าเชื่อว่าตลอดเวลาที่คบกันมา จะได้ยินเรื่องครอบครัวเขาในแง่ลบตลอด เธอชอบระบายให้ฟัง และก็จะร้องไห้ทุกครั้ง
ที่พูดถึงเรื่องที่บ้าน ...
ครอบครัวเธอมี 4 คน พ่อ แม่ พี่สาวที่ห่างกับเธอ 7 ปี และตัวเธอเอง แต่ตอนนี้พี่สาวไม่ได้อยู่ที่บ้านเพราะทำงานไกล (แต่ในกทม.นี่แหละ)
เลยออกมาอยู่คนเดียวได้หลายปีแล้ว (น่าจะตั้งแต่เรียนจบ) และตอนนี้ก็แต่งงานไปแล้วด้วย เธอเลยอยู่ที่บ้านกับพ่อและแม่
ประเด็นคือตรงนี้ เธอชอบเล่าให้ฟังว่า โดนที่พ่อด่าแบบไม่มีเหตุผลอยู่บ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้มีโดนทำร้ายบ้างด้วยเข็มขัด
และแม่เองก็แทบจะปกป้องอะไรไม่ได้ เพราะแม่เป็นคนเชื่องช้า และเริ่มมีอาการพูดไม่รู้เรื่อง คำที่พ่อด่ามักจะเป็นคำหยาบคาย เหมือนไม่ได้พูดกับลูก
"เป็นเ-ี่ยอะไรของ" ประมาณนี้ / ถามว่าเธอเป็นเด็กไม่ดีหรอ?? เท่าที่รู้ เธอต้องทำงานบ้านเอง ดูแลบ้าน หาข้าวหาปลาให้พ่อแม่
คอยเก็บของที่พ่อแม่ทำรกไว้ พ่อกับแม่แทบจะไม่ทำอะไรเลย เธอนั่งรถตู้กลับถึงบ้านก็ต้องเตรียมข้าวให้พ่อแม่ ซักผ้า กวาดบ้าน และค่อยอาบน้ำ นอน
ส่วนพ่อแม่ก็ออกไปทำงานบางวัน ไม่ได้ออกทุกวัน / พ่อแม่เธอชอบใช้ให้เธอทำโน่นนี่นั่นตลอด (ทั้งที่ตัวเองทำได้) จริงๆแล้วอาจจะเป็นเรื่องปกติ
แต่กับพี่สาวไม่ยักกะโดน เวลาพี่สาวกลับมาบ้านเสาร์-อาทิตย์ พี่สาวก็จะเป็นคอยคอยใช้เธอต่อ โดยที่พ่อแม่ไม่ใช้ให้พี่สาวทำ
โดยอ้างว่าเป็นลูกคนเล็กก็ต้องทำ พี่เค้าโตแล้ว มีครอบครัวแล้ว (มันเกี่ยวกันมั้ย??) / พ่อและพี่สาวมักใช้ถ้อยคำจิกหัว หยาบคายเวลาจะให้ทำอะไร
พอเธอไม่ว่างทำหรือจะไม่ทำก็จะโดนด่า / พี่สาวเธอทำอะไรได้อิสระ ตามใจตลอด แต่เธอเองแค่จะออกจากบ้านยังไม่ได้ /
พี่สาวเธอพูดว่า ท่านแก่แล้ว อยู่บ้านช่วยท่านทำโน่นนี่บ้าง (เดี๋ยว...คุณเองไม่มาทำล่ะ??? แล้วที่น้องคุณทำอยู่ทุกวันนี่คืออะไร??) /
เธอเคยโดนด่าจนร้องไห้ แล้วเธอบอกว่า "ทำไมไม่พูดกันดีดี หนูเป็นลูกพ่อหรือป่าว" พ่อบอกมาด้วยคำพูดที่น่าอนาถว่า "เป็นลูก กูจะพูดอะไรก็ต้องทำ"
"ไม่มีสิทธิ์เถียง" "ทำไมกูต้องพูดดีกับ" / ไม่ว่าใครจะสร้างปัญหาในบ้านมักจะลงที่เธอตลอด เธอไม่มีสิทธิ์คิดและทำอะไรเลย
เธอมักจะระบายกับผมและบ่นว่า เวลาพ่อแม่อยู่บ้านเธอไม่โอเค สุขภาพจิตเสีย เธอจะดีใจมากที่พ่อแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัดนานๆ
แรกๆ ผมรู้สึกว่าเธอคิดไม่ถูก แต่หลังๆ ผมเปลี่ยนความคิดละ...
ระยะหลังๆ ผมได้เริ่มเข้าไปในบ้าน ได้เจอ ได้พูดคุยมากขึ้นกับคนในครอบครัว ผมสรุปว่า มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผมรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างเวลาพ่อพูดกับผม
พ่อขี้อวด คิดว่าตัวเองเก่ง รู้ทุกอย่าง ชอบสอน ถือดี อีโก้สูงมากกกกกก จังหวะที่คุยๆกัน ชอบทำเหมือนผมไม่รู้อะไรเลย ชอบถามเชิงเหยียดว่า
"รู้มั้ยว่า...." "พ่อนี่พูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่ประถม ไม่กลัว เราอะ พูดได้มั้ย??" "พ่อรู้หมดใครเป็นยังไง" "ได้นั่นมา นี่มา รู้นั่น รู้นี่" ผมก็ได้แต่พยักหน้า
ล่าสุด ที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เรื่องมันมีอยู่ว่า เธอบอกที่บ้านไว้ว่า จะชวนไปไหนเสาร์อาทิตย์ ให้บอกล่วงหน้า (ก็ควรจะหลายวันหน่อย) เพราะเธอต้อง
มาทำงานวันเสาร์หรืออาทิตย์ในบางวันซึ่งสามารถขยับชดเชยกันได้ (แต่ต้องรู้คิวก่อนไง) ปรากฏว่าสัปดาห์นี้เธอไม่โดนงาน แต่เธอมีนัดกับผมวันอาทิตย์
(ปกติเจอกัน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เฉพาะวันทำการ เพราะผมก็งานยุ่ง และเสาร์หรืออาทิตย์ผมก็จะให้เวลากับครอบครัวบ้าง) แล้วจู่ๆ พี่สาวก็ไลน์มาบอกเธอว่า
"รู้ยังพ่อแม่จะพาไปอยุธยาวันเสาร์" "รู้ยังว่าพี่ฝากหน้ากากกันฝั่นไว้เป็นอาทิตย์แล้ว" ประเด็นคือพ่อแม่ไม่บอกอะไรเลยทั้ง 2 เรื่อง ไปอยุธยาพี่สาวรู้ทั้งที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เธอดันไม่รู้ เธอก็บอกไปว่า "วันอาทิตย์ไม่อยู่บ้านนะ" แปลว่าวันเสาร์ไปได้ถูกมั้ยครับ แต่...สักพักแม่ก็โทรมาหาเธอ
แล้วเธอก็โดนด่าครับ
พ่อตะโกนเข้ามาในสาย "เป็นเ-ี่ยไร เสาร์อาทิตย์ไม่เคยอยู่บ้าน จะออกไปไหนนักหนา บลาๆๆๆ"
เธอตอบกับแม่ "หนูบอกไปแล้วว่า วันอาทิตย์ วันเสาร์ไปได้ ..เปิดลำโพงดิแม่ พ่อจะได้รู้เรื่อง"
แม่ก็ไม่เปิด เธอก็โดนด่า แม่เธอพยายามจะบอกแบบที่เธอบอก แต่เหมือนพูดไม่รู้เรื่อง พ่อก็ยิ่งด่าหนัก เธอบอกให้แม่เปิดลำโพง 3 รอบ
เพราะเธอโดนด่าจนร้องไห้แล้ว
พ่อด่าต่อด้วยอารมณ์ "กูเหนื่อยนะ ทุกวันต้องออกไปทำงานแล้วก็ต้องมาวุ่นวายเรื่องด้วย" "แล้วจะออกไปไหนทุกวันๆ" "วันนี้ก็ออกไปทำงาน" (เอ้าก็วันทำงานป่าววะ)
เธอเริ่มหงุดหงิดที่พ่อใช้อารมณ์ "หนูบอกแล้วไงว่าหนูไปได้วันเสาร์อะ"
พ่อ "แล้ววันอาทิตย์จะออกไปไหนอีก"
เธอต้องโกหก "ก็มีงาน ต้องออก"
พ่อแถไม่ถูก "สรุปคือจะไปทำงานใช่มั้ย" แล้วก็บ่นๆ ไรต่อ ผมก็จำที่เธอเล่าไม่ได้
ประเด็นที่เธอต้องโกหก ก็เพราะ พ่อเคยบอกว่า "อยู่ติดบ้านบ้าง จะออกไปทำเ-ี่ยไรทุกวันๆ ออกเดือนละครั้งก็พอ" (ได้หรอ??? ทำไมวะ???)
เธอบอกผมว่า เสาร์อาทิตย์ เธอไม่ได้ทำงาน เธอก็อยากออกบ้าง (บางทีก็ไปกับเพื่อน บางทีก็เจอกับผม) ถือว่าเป็นวันที่เธอได้พัก เธอควรจะเลือกได้
ว่าเธอจะอยู่บ้าน หรือ เธอจะออกข้างนอก (และการอยู่บ้านใช่ว่าจะดี เป็นแบบนี้ใครอยากจะอยู่บ้านละครับ) / แล้วพ่อกับแม่ไม่มีสังคม คุณแต่งงานกันแล้ว
ความสุขของคุณก็อยู่ด้วยกันแล้ว คุณก็อยู่บ้านได้สิ แต่เธอกับผมไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เจอกันแบบที่พ่อแม่อยู่
อยากให้เธออยู่บ้านเพื่อจะได้คอยใช้ให้ทำโน่นทำนี่ ทำงานทุกวันแล้วยังต้องมาอยู่แต่บ้านอีก นี่บ้านหรือสถานกักกันครับ
เธอเคยคิดว่าจะออกมาอยู่คนเดียว เพราะเธอสุขภาพจิตเสียทุกวัน กลับบ้านไปไม่รู้จะโดนด่า โดนใช้ให้ทำอะไรอีก
จริงๆความคิดผมว่า เธอไม่ได้มีปัญหากับการดูแลบ้านหรอก เพราะเวลาพ่อแม่ไม่อยู่ เธอก็ยังทำงานบ้านปกติ
แต่ธอมีปัญหากับการพูด การใช้อารมณ์ การไร้เหตุผลของพ่อแม่มากกว่า และยังเรื่องของกฎห้ามออกข้างนอกอีก
ผมบอกเธอว่า คนที่อกตัญญูคือคนที่ทิ้งพ่อแม่มาเสวยสุข แล้วลืมท่าน ปล่อยให้ท่านลำบาก แต่การออกมาจากบ้านเพราะทนไม่ไหวกับเรื่องพวกนี้
ไม่ใช่อกตัญญูนะ เธอเองก็ไม่ใช่จะสบายขึ้น ต้องแบกภาระในการดูแลตัวเองด้วยซ้ำ
ผมกลัวว่าวันนึงผมจะต้องฉะกับที่บ้านเขา แล้วจะเกิดปัญหา ผมไม่ชอบครอบครัวเขาเลย ตอนนี้ผมบอกเขาว่า ผมรับครอบครัวไม่ได้นะ
ซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน หมายความว่าอนาคต ผมจะไม่อยากสุงสิงกับที่บ้านเขา แล้วเขาจะรับได้มั้ย ถ้ารับได้ก็โอเค (เรารักแต่ลูกสาวคุณนะ แต่เราไม่รักพวกคุณ) แต่ถ้ารับไม่ได้ แล้วถ้าวันนึงผมต้องดองกับบ้านนี้ ผมจะอยู่เฉยๆได้หรือครับ ให้แฟนถูกทำแบบนี้
เป็นคุณคุณจะทำยังไงครับ