ดงพญาไฟ (เรื่องสั้นลึกลับ/ระทึกขวัญ)



*ห้ามคัดลอกหรือนำไปเผยแพร่ที่อื่นโดยเด็ดขาด *



รางวัลชมเชยโครงการประกวดเรื่องสั้น ปี 2561 เรื่องเล่าในเงาจันทร์ ชมรมวรรณศิลป์ ม.เกษตรศาสตร์
---------------------------------------------
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ พรานคำเมี่ยง และ ลาแม
ที่บังเอิญได้รับแผนที่ขุมสมบัติซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ
พวกเขาจึงออกเดินทางไปยังใจกลางของดงพญาไฟเพื่อค้นหาสมบัตินั้น
ทว่าระหว่างทางทั้งสองพบเจอเข้ากับสิ่งลี้ลับอาถรรพ์มากมาย
แล้วทั้งคู่จะมีชีวิตรอดออกมาหรือไม่


---------------------------------------------



“เคยได้ยินตำนานดงพญาไฟมั้ย”

พรานเมี่ยงเกริ่นนำก่อนขยับปีกหมวกคาวบอยทรงสูง​ ​แสงจากกองไฟโลมเลียใบหน้าเกรียมแดด​สะท้อนให้เห็นแววตาสีเลือดจ้องเขม็ง​ ขณะที่บรรยากาศรอบข้างเย็นเยียบชวนโหวงเหวง​​ สงัดเงียบราวกับพงไพรแห่งนี้ถูกสาปให้หลับใหลภายใต้มนต์สะกด​ ไร้สิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกจากชายทั้งสอง

“เคยได้ยินมาบ้างครับลุง​ แต่ไม่บ่อย​ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดถึงมัน​” ผู้ร่วมเดินทางกล่าวขณะนั่งทำความสะอาดเล็บด้วยปาก​ แม้ลาแมจะไม่เชื่อเรื่องภูตผีปิศาจ​แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มรื่นรมย์ทุกครั้งที่รับฟัง อาจไม่ใช่เรื่องตลกเสียทีเดียว แต่มันก็ทำให้เขายิ้มเยาะในใจได้เสมอเมื่อมีโอกาสพบเจอคู่สนทนาที่เชื่อในเรื่องงมงาย

แม้ปัจจุบันป่าอาถรรพ์อย่างดงพญาไฟจะถูกขนานนามใหม่ว่าดงพญาเย็น​แล้วก็ตาม​ แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มเติบโตมาพร้อมกับชื่อเดิมที่บรรพบุรุษปลูกฝัง​ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้งสองคนยังคงกล่าวถึงมัน

ทั้งคู่นั่งล้อมกองไฟที่ถูกก่อขึ้นป้องกันสัตว์ร้ายในยามวิกาล​ เติมเชื้อเพลิงให้ลุกโชนอยู่เสมอ​ ข้างกันมีห้างที่ขัดขึ้นบนต้นไม้สูงสำหรับพักอาศัยชั่วคราว​ ทั้งนี้เพื่อป้องกันสัตว์ร้ายอย่างหมูป่า​ เสือโคร่ง​ เสือดาว​ รวมไปถึงสัตว์มีพิษ​ต่างๆนานา​ ฉะนั้นปืนผาหน้าไม้จึงไม่เคยอยู่ห่างกายของชายทั้งสอง​ บรรจุกระสุนเต็มโม่เตรียมประจัญบาน​พร้อมหยิบใช้งานได้ทันท่วงที

หากเป็นป่าอื่นสัตว์ร้ายอาจน่าหวั่นเกรง​ ​แต่ไม่ใช่กับดงพญาไฟแห่งนี้​ซึ่งมีบางอย่างที่น่าหวาดหวั่นยิ่งกว่า มีตำนานเล่าขานจากบรรพบุรุษเป็นมรดกตกทอดสู่คนรุ่นหลังมากมาย​ ​บ้างก็ว่ามีอสูรร้ายใต้พิภพรอพรากวิญญาณเหยื่อลงสู่ประตูยมโลก​ บ้างก็ว่ามีนกการเวกยักษ์ขนาดเท่ามังกรถูกสาปให้​เฝ้าทรัพย์สมบัติชั่วกัปชั่วกัลป์​ ​หรือ​เหล่าภูตผีที่สิงสถิตตามพืชลำต้นสูงใหญ่​รอใครคนหนึ่งมาเป็นตัวตายตัวแทน​ ฝังกายเป็นราก​ เกศาเป็นใบ​ หัวใจเป็นลำต้น

อย่างไรก็ตาม​ลาแมและพรานเมี่ยงก็อยู่ที่ดงพญาไฟแห่ง​นี้แล้ว​ และทั้งคู่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าตำนานเล่าขานในอดีต​ถูกเสริมแต่งให้น่ากลัวเกินจริง เพราะเมื่อได้เข้ามาสัมผัสกับตัวเองแล้ว ป่าดงดิบแห่งนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากป่ายางทั่วไปที่พวกเขาคุ้นชิน

“แล้วลุงถามทำไม​ หรือว่ามีเรื่องเล่า” ลาแมวางยาเส้นลงบนใบจาก​อย่างประณีต มวนขนาดครึ่งนิ้วก้อย​ ก่อนบรรจงสูบอย่างพิถีพิถัน​ หูก็คอยเงี่ยฟังอย่างตั้งใจ

“เออสิวะ​ ข้าจะเล่าให้เอ็งฟัง​ รับรองว่าเป็นตำนานที่เอ็งไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแน่นอน” พรานเมี่ยงดึงมวนใบจากที่มือของอีกฝ่ายขึ้นสูบ​ ก่อนตบท้ายด้วยเหล้าขาวเพื่อช่วยขับเคลื่อนวาจาให้ลื่นไหล

บัดนี้ชายฉกรรจ์ทั้งสองสนทนาภายใต้ดวงจันทร์ที่ส่องสว่าง​ หนองน้ำสะท้อนเงาจันทร์ราวกับมันมีสองดวง​ ส่งผลให้บรรยากาศรอบข้างยิ่งขมุกขมัวทวีเป็นสองเท่า​ จะว่ามืดก็ไม่ใช่​ ​โพล้เพล้ก็ไม่เชิง​ เสมือนจุดเทียนในห้องปิดตายที่ไร้ช่องรับแสง​ วาววับอย่างน่าพิศวง

ขณะเมฆลอยคล้อยต่ำ เสียงแหบพร่าแต่หนักแน่นของพรานเมี่ยงก็ลั่นขึ้นท่ามกลางผู้รับฟังอีกคนที่ตั้งตารอคอย​ เรื่องราวลึกลับเหลือคณากำลังอุบัติขึ้น​ สีหน้าคร่ำเคร่งราวกับคนละคน​ของนายพรานมือฉมัง​นั้น​เดาได้เลยว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่

“เมื่อประมาณ​ ๑๒๐​ ปีที่แล้ว​ ดงพญาไฟ​แห่งนี้เต็มไปด้วยความน่าพรั่นพรึงของภูตผีปิศาจ​ ไข้ป่า​และอาถรรพ์ลึกลับ​ บรรพบุรุษของข้าพร่ำบอกเสมอว่าผู้ใดที่ได้ย่างกรายเข้าไปในป่าผืนนี้แล้ว​น้อยคนนักที่จะได้กลับออกมา​ ฉะนั้นปู่ของข้าจึงประกาศกร้าวห้ามคนในตระกูลเข้าไปเด็ดขาด” พรานขมังเวทย์หยุดพักหายใจ​ก่อนกระดกเหล้าขาวอึกใหญ่

“แต่พวกเราก็เข้ามาแล้ว” ลาแมหัวเราะในลำคอ​ ความรู้สึกละโมบที่เก็บงำในใจเอ่อล้นออกมาทางสีหน้า​ แววตาถูกครอบงำด้วยกิเลสตัณหา

“เอ็งก็รู้ดีว่าอะไรทำให้เรามาอยู่ตรงนี้” พรานเมี่ยงหัวเราะลั่นจนหนวดสั่นไหว ก่อนว่าต่อ​

“เพราะตำนานเมื่อครั้งก่อนมีอยู่จริง เรื่องราวของเมืองลับแลในสถานที่ลึกลับ​เกินกว่าที่ใครเคยย่างกราย​ ดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณที่ยังไม่มีใครค้นพบนอกจากบรรพบุรุษของข้า​ ปู่มิ่งเคยหลุดเล่าให้ฟังขณะร่ำสุราว่าในส่วนลึกสุดของดงพญาไฟที่โอบล้อมไปด้วยหุบเขากินคน​นั้น​ ​มีนครโบราณที่ปกครองด้วยชนเผ่ามายาซึ่งพวกมันไม่ต้อนรับคนนอก​ ทำหน้าที่เฝ้าขุมทรัพย์ของอดีตกษัตริย์ที่สิ้นชีพจากไข้ป่ามาลาเรียเมื่อครั้งก่อน​ ปกป้องของรักของหวงของนายมันจากเหล่านักล่าขุมทรัพย์​ ไม่สำคัญว่าพวกมันเป็นมนุษย์​ ​ภูตผี​ หรือปิศาจ​ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ได้พบเห็นพวกมันแล้ว​ น้อยคนนักที่จะได้กลับออกไปโดยมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ขนาดปู่ข้าที่ชำนาญในมนต์ดำ​ ช่ำชองในศาสตร์ขมังเวทย์​ ยังมีชีวิตอยู่ไม่พ้น ๗ วันหลังกลับออกไปเลย”

สีหน้าของลาแมเริ่มหวั่นวิตก​ ขนาดชายหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อเรื่องงมงายยังเสียวสันหลังวาบ เรื่องเล่าของพรานผู้ช่ำชองมนต์ดำตรึงความสนใจจากชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี ทุกคำพูดที่กลั่นออกจากปากของพรานเมี่ยงเข้มขลังทรงพลังอย่างน่าประหลาดจนทำให้ชายหนุ่มสองจิตสองใจว่ามันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ ประกอบกับลายแทงสมบัติที่วางอยู่เบื้องหน้าแล้วทำให้ลาแมเชื่อเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็อดถามย้ำอีกครั้งไม่ได้

“แล้วลุงคิดว่าปู่มิ่งพูดจริงรึเปล่า”

“ปู่ข้าไม่เคยพูดปด” พรานเมี่ยงสวนขณะเพลิดเพลินกับการพยายามม้วนหนวดให้เป็นเกลียว​ “แต่นี่ก็ผ่านมาร้อยกว่าปีแล้วนะ เอ็งคิดว่าคนป่าพวกนั้นยังมีชีวิตอยู่เหรอวะ”

“ยังไงก็ช่างเถอะ​ อย่าลืมส่วนแบ่งของผมก็แล้วกัน” ลาแมทวงถามในสิ่งที่เขาสมควรได้รับ ข้อตกลงถูกกำหนดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เป้าหมายคือสมบัติของอดีตกษัตริย์ที่สูญสิ้นบัลลังก์เมื่อครั้งอดีต พวกเขาไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรนอกเหนือจากลงแรงเท่านั้น แค่อาจต้องอดทนมากกว่าทหารหาญเพื่อจะได้เข้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของป่าดงดิบแห่งนี้ได้โดยไม่สูญสิ้นลมหายใจเสียก่อน

ลายแทงเกรอะกรังถูกคลี่กางบนพื้นดินเหนียว พรานเมี่ยงชี้ไปยังจุดที่พวกเขาพักแรมซึ่งห่างจากเครื่องหมายกากบาทอีกเท่าตัว ตามแผนที่วางไว้ เมื่อรุ่งสางมาเยือน เขามั่นใจว่าจะเดินเท้าไปถึงจุดหมายก่อนพลบค่ำ เสบียงที่เตรียมไว้คงพอประทังชีพในอีกสองวัน อาศัยน้ำดื่มตามบึงเป็นระยะๆตลอดเส้นทางกลับหมู่บ้าน ส่วนอีกสองมื้อก่อนวันสุดท้ายที่จะถึงดักกระต่ายและกิ้งก่าย่างกินประทังความหิวเอาก็ได้

หากมันราบรื่นอย่างที่คิดก็คงดี  ทว่าบางอย่างกลับไม่ยินยอมให้เป็นเช่นนั้น เมื่อจู่ๆทั้งคู่รู้สึกเสียวสันหลังวาบโดยไม่รู้สาเหตุ ลมเย็นโอบล้อมไปทั่วอาณาเขต ต้นไม้ไหวเอนไปตามแรงลมปริศนาซึ่งไม่รู้ที่มา เสียงเสียดสีของแมกไม้คล้ายคลึงกับเสียงกรีดร้องของปิศาจจากขุมนรก สองชีวิตมิกล้าเอ่ยปากถึงเหตุการณ์อันน่าพิศวงตรงหน้า เพียงสบตากันก็รับรู้ได้ถึงความผิดปรกติโดยไม่ต้องสื่อสารเป็นคำพูด อาจเป็นไปได้ว่าอาถรรพ์ของดงพญาเย็นแห่งนี้กำลังแผลงฤทธิ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่