[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้....." เก็บภาษีต่างชาติ-เปิดราคายา ทางแก้ รพ.ขูดค่ารักษา ".....
[spoilเก็บภาษีต่างชาติ-เปิดราคายา ทางแก้ รพ.ขูดค่ารักษา
14 พฤษภาคม 2015ทีดีอาร์ไอชวนอ่าน, ข่าววิโรจน์ ณ ระนอง, ภาษี, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงสาธารณสุข, ระบบประกันสังคม, ระบบหลักประกันสุขภาพ, โรงพยาบาลเอกชน, เมดิคัลทัวริสต์, กระทรวงท่องเที่ยว, นักท่องเที่ยวต่างชาติ, พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ
ปี2015-05-14
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาตรการจริงจังทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งให้แก้ปัญหาโรงพยาบาลเอกชนราคาสูงเกินจริง โดยกางเอากฎหมายทุกฉบับเพื่อหาทางควบคุมผู้ให้บริการเอาเปรียบคนไข้
แต่จนแล้วจนรอดก็ยังหาทางออกไม่ได้ เนื่องด้วยประเทศไทยเปิดเสรีให้กับโรงพยาบาลเอกชนจนหลายแห่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ท่ามกลางการเติบโตของตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางมารักษาในประเทศไทย จนดูเหมือนว่าหากจะหันมาควบคุมราคาในเวลานี้ก็สายไปเสียแล้ว
วิโรจน์ ณ ระนอง ผู้อำนวยการวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขและการเกษตร สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า การคุมค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชนนั้นยากมาก เพราะประชาชนไม่มีทางรู้ว่าเมื่อป่วยแต่ละครั้งต้องรักษาอะไรบ้าง วิธีแก้ปัญหาคือใช้วิธีทำแบบระบบหลักประกันสุขภาพคือ เฉลี่ยค่ารักษาเป็นรายคน ทำให้ค่ายาและค่ารักษาถูกลง แต่วิธีดังกล่าวก็ไม่ได้ช่วยหากคนไข้ไปรักษาโรงพยาบาลเอกชนด้วยตัวเอง
“ในช่วง 10 ปีหลัง การเติบโตของเมดิคัลทัวริสต์ได้กระตุ้นให้ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นมาก จากเดิมมีไม่กี่พันก็สามารถนอนโรงพยาบาลได้หนึ่งคืน ทำให้ขณะนี้มันเฉลี่ยขึ้นมาที่คืนละหมื่นบาท”
ในส่วนการหาต้นทุนนั้น วิโรจน์ บอกว่า บริการสุขภาพไม่มีต้นทุนจริงๆว่าค่ารักษาอยู่ที่เท่าไร แต่แปรผันขึ้นลงตามอุปสงค์-อุปทาน เพราะฉะนั้นเมื่อมีผู้รักษามากขึ้นและด้านซัพพลายไม่เพียงพอ ค่าบริการก็ย่อมแพงขึ้นเหมือนกับสินค้าเกษตร
“ทีดีอาร์ไอเคยเสนอให้เก็บภาษีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารักษาตัวโดยเฉพาะ เพื่อนำภาษีมาผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขเพิ่มขึ้น และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงพยาบาลรัฐในการรักษาผู้ป่วย แต่สุดท้ายเราก็โดนกระทรวงท่องเที่ยวโจมตี และทุกรัฐบาลก็สนับสนุนและโปรโมทให้นักท่องเที่ยวเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทย”
วิโรจน์ บอกอีกว่า อีกวิธีที่น่าจะทำได้ก็คือ ทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และระบบประกันสังคมให้พอเป็นทางเลือกและเป็นระบบที่ไว้ใจได้ โดยอาจไม่ต้องดีมากแต่เวลาที่จำเป็นต้องสามารถเข้าถึงได้ ไม่ต้องรอคิวหรือติดเงื่อนไขจนทำให้ได้รับการรักษาล่าช้า และทำให้ระบบเอกชนกลายเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีเงินจริงๆก็น่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง
ขณะที่ ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) วิเคราะห์ว่า สาเหตุสำคัญของค่าใช้จ่ายสูงเกินจริง ได้แก่ 1.ค่ายา 2.ค่าวินิจฉัย 3.ค่าอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ และ 4.ค่าตัวแพทย์ ซึ่งรัฐสามารถดูแลได้โดยอาศัยกลไกต่างๆ แต่ที่สำคัญคือ สภาเภสัชกรรมและแพทยสภาจะต้องคุมเข้มคนในวิชาชีพไม่ให้หาเศษหาเลยกับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา
สำหรับเรื่องราคายา กระทรวงพาณิชย์สามารถบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ เพื่อเปิดเผยราคายาในตลาด และถ้าหากเปิดเผยออกมาแล้วยามีราคาแพงก็จะได้ร่วมกันหาต้นทุนที่แท้จริงว่ายาแต่ละชนิดมีราคาสูงเกินไปหรือไม่ และที่สูงมาจากสาเหตุใด เพราะข้อมูลล่าสุดพบว่าบริษัทยาส่วนมากมีค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมการขายสูงกว่าค่าวิจัยและพัฒนา
“หากรัฐบาลจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ควรเริ่มจากการเผยราคายาที่แท้จริง เพราะราคายาบางอย่างเราซื้อแพงกว่าประเทศอื่นเยอะ และทุกวันนี้โรงพยาบาลเอกชนก็จัดซื้อยารวมในราคาถูกจึงไม่มีเหตุผลที่จะอ้างให้ค่ารักษาพยาบาลแพง” ภญ.นิยดา กล่าว
————————
หมายเหตุ: พิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์โพสต์ ทูเดย์ วันที่ 14 พฤษภาคม 2558 ในชื่อ “เก็บภาษีต่างชาติ-เปิดราคายาทางแก้ รพ.ขูดค่ารักษา”
]
....." เก็บภาษีต่างชาติ-เปิดราคายา ทางแก้ รพ.ขูดค่ารักษา ".....
ที่มา :
https://tdri.or.th/2015/05/20150514/
_________________________________________________
....." ดร.เดือนเด่น เผยรพ.เอกชน 5 ดาว คิดค่าบริการสูงกว่ารัฐ 2.5-7 เท่า ".....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดร.เดือนเด่น เผยรพ.เอกชน 5 ดาว คิดค่าบริการสูงกว่ารัฐ 2.5-7 เท่า
25 มิถุนายน 2015ทีดีอาร์ไอชวนอ่าน, ข่าวเดือนเด่น นิคมบริรักษ์, ค่ารักษาพยาบาล, Medical hub, ราคายา, โรงพยาบาลเอกชน 5 ดาว
ปี2015-06-23
นักวิชาการทีดีอาร์ไอชี้ค่ารักษาพยาบาล รพ.เอกชนสูงกว่ารัฐเป็นไปตามกลไกตลาด ระบุสิ่งที่รัฐต้องเข้ามากำกับดูแล คือ ค่าใช้จ่ายที่สูงเกินจริง-ราคายา ขณะที่นายกสมาคมรพ.เอกชนย้ำชัดค่ารักษาไม่แพงเป็นไปตามต้นทุนและศักยภาพในการให้บริการ
งานสัมมนาเรื่อง “มาตรฐานค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน” (ที่มารูปภาพ: www.isranews.org/)
23 มิถุนายน 2558 คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการศึกษามาตรฐานค่ารักษาพยาบาลของสถานพยาบาล จัดสัมมนาเรื่อง “มาตรฐานค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน” ณ ห้องรับรอง1-2 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2
ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการด้านนโยบายการแข่งขันทางการค้าและคุ้มครองผู้บริโภค ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจรายสาขา สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)กล่าวถึงผลการศึกษาอัตราค่าบริการของโรงพยาบาลเอกชนในปี 2552 ว่า โรงพยาบาลเอกชนคิดอัตราค่าบริการต่างกันหลายเท่าตัว โดยเอกชน 5 ดาวจะคิดค่าบริการสูงกว่าของรัฐ 2.5-7 เท่า และเอกชนแสวงหากำไร 1.4-4 เท่า
จากผลการศึกษาความแตกต่างระหว่างสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน ในปี 2557 เปรียบเทียบเฉพาะโรคต้อกระจกและไส้ติ่ง ค่ารักษาพยาบาลจะมีความห่างกันค่อนข้างมาก คือ มีอัตราค่าบริการสูงในโรคต้อกระจกมากกว่าของรัฐ 11.7 เท่า ส่วนไส้ติ่งสูงกว่าของรัฐ 8.3 เท่า
ดร.เดือนเด่น กล่าวอีกว่า จากการศึกษาที่ผ่านมาสรุปได้ว่า สถานพยาบาลเอกชน 5 ดาวจะมีอัตราค่าบริการแพงที่สุด รองลงมาจะเป็นเอกชนที่อยู่ตามหัวเมืองและมูลนิธิ และความแตกต่างเรื่องการบริการบางแห่งจะเพิ่มสูงขึ้นหากเป็นโรงพยาบาลเอกชน 5 ดาว
ส่วนการที่ไทยจะเป็น Medical Hub นั้นจะส่งผลกับค่ารักษาหรือไม่ ดร.เดือนเด่น กล่าวว่า จากผลการศึกษา ค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน 5 ดาวที่มีความเกี่ยวโยงกับ Medical Hub สูงกว่าโรงพยาบาลอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งมีอัตราการเพิ่งที่สูงขึ้น จึงอาจสรุปได้ว่า Medical Hub มีผลทำให้ค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น แต่ตัวเลขเชิงปริมาณยังไม่สามารถยืนยันได้
สำหรับกรณีที่เป็นข้อถกเถียงในสังคมเรื่องค่ารักษาพยาบาลแพงของโรงพยาบาลเอกชนและกำลังหาทางออกว่าจะมีการควบคุมราคาหรือไม่นั้น ดร.เดือนเด่น กล่าวว่า ค่ารักษาพยาบาลแพงไม่ใช่ประเด็นเพราะโรงพยาบาลเอกชนค่ารักษาพยาบาลแพงกว่าของรัฐเป็นเหตุผลไปตามกลไกของตลาดธุรกิจ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่การกำกับควบคุมค่ารักษาพยาบาลของเอกชนที่สูงเกินความคาดหมาย นั่นหมายความว่าหากคนไข้ เช่น จะคลอดบุตรยินยอมที่จะจ่ายในราคา 5 หมื่นบาท แปลว่า สามารถจ่ายได้ในราคานี้ แต่หากเข้าไปรับการรักษาหรือใช้บริการจาก 5 หมื่น กลายเป็น 1 แสนบาท แบบนี้จึงเรียกว่า ค่ารักษาสูงเกินกว่าความเป็นจริงและเป็นประเด็นที่ต้องแก้ไขที่รัฐต้องเข้าไปดูแล
นักวิชาการทีดีอาร์ไอ กล่าวด้วยว่า จากการไปศึกษาหรือสำรวจสถานพยาบาลเอกชนพบว่า จะมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆซึ่งใช้เป็นกลยุทธ์ในการกำหนดราคาที่จะซ่อนค่าใช้จ่ายแฝงไว้ข้างใน เช่น โฆษณาค่าห้องต่างจากความเป็นจริงและใช้ค่ายาอุด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการกำกับดูแลค่ายาด้วย ซึ่งจากการสำรวจได้ข้อมูลว่า ยาไทลินอลที่ข้างนอกขายเม็ดละ 1 บาท แต่เอกชนสำหรับผู้ป่วยนอกคิดเม็ดละ 3 บาท และผู้ป่วยในเม็ดละ 12 บาท ดังนั้นจะต้องมีการกำกับในเรื่องของราคายา
ด้านนพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า การที่โรงพยาบาลเอกชนมีความแตกต่างเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากรัฐ เนื่องจากต้นทุนและกลไกการแข่งขันทางธุรกิจในตลาดเสรี เรามีการควบคุมมาตรฐานการพัฒนาระบบบริการ และระบบบริหารบุคลากรมีการใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย มีกระบวนการวินิจฉัยและรักษาที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมทั้งพื้นที่บริการทางกายภาพก็ไม่อึดอัดและมีสภาพที่เอื้อต่อการบำบัดรักษา
“ดังนั้นผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีการเปรียบเทียบค่ารักษาพยาบาลทั้งๆที่รู้ว่าต้นทุนเราต่างกัน”
นพ.เฉลิม กล่าวถึงต้นทุนของยาและการบริหารจัดการยานั้นเป็นผลต่อต้นทุนทางตรงของระบบยาโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากมีกระบวนการดูแลและการเก็บรักษายา 24 ชั่วโมง มีการควบคุมการใช้และสั่งจ่ายยาโดยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทั้งระบบ ใช้ต้นทุนในการสต็อกยาให้เพียงพอ รวมทั้งมีการใช้เทคโนโลยีในการจัดเก็บที่มีราคาสูง เช่น มีการใช้หุ่นยนต์จ่ายยา ราคา 40 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งต้นทุนเหล่านี้คือการบริหารของทางโรงพยาบาลเอกชนเอง ในขณะที่โรงพยาบาลรัฐเรื่องการบริหารจัดการยาจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่มาจากงบประมาณระบบภาษี
นายกสมาคมโรงพยาลเอกชน กล่าวด้วยว่า หากมองความเป็นจริงแล้ว ค่ายาและค่าบริการในโรงพยาบาลเอกชนนั้น “ไม่แพง” แต่เป็นการสะท้อนต้นทุนที่จะสนับสนุนศักยภาพการดูแลสุขภาพของประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปสู่ระดับสากล และทั้งหมดคือการลงทุน และการลงทุนนี้เป็นคำตอบว่าทำไมจึงมีความแตกต่างเรื่องราคา การสะท้อนต้นทุนของโรงพยาบาลเอกชนเป็นการตอบโจทย์ระบบเศรษฐกิจเสรี
—————————–
ตีพิมพ์ครั้งแรก: ในเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา วันที่ 23 มิถุนายน 2558 ใน “ดร.เดือนเด่น เผยรพ.เอกชน 5 ดาว คิดค่าบริการสูงกว่ารัฐ 2.5-7 เท่า”
ที่มา :
https://tdri.or.th/2015/06/20150623/
______________________________________________________
....." พินิจเศรษฐกิจการเมือง: “ความเป็นธรรม” ผู้ป่วย หรือ “ความอยู่รอด” รพ.เอกชน จากกรณีคุมค่ายา ".....
ที่มา :
https://tdri.or.th/2019/01/%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87-3/
______________________________________________________________________
ป.ล. บทความบางชิ้นเป็นบทความเก่าที่เคยนำเสนอมาก่อนแล้ว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
มุมมองเรื่องค่ารักษารพ.เอกชน - จากนักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
....." เก็บภาษีต่างชาติ-เปิดราคายา ทางแก้ รพ.ขูดค่ารักษา ".....
ที่มา : https://tdri.or.th/2015/05/20150514/
_________________________________________________
....." ดร.เดือนเด่น เผยรพ.เอกชน 5 ดาว คิดค่าบริการสูงกว่ารัฐ 2.5-7 เท่า ".....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่มา : https://tdri.or.th/2015/06/20150623/
______________________________________________________
....." พินิจเศรษฐกิจการเมือง: “ความเป็นธรรม” ผู้ป่วย หรือ “ความอยู่รอด” รพ.เอกชน จากกรณีคุมค่ายา ".....
ที่มา : https://tdri.or.th/2019/01/%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87-3/
______________________________________________________________________
ป.ล. บทความบางชิ้นเป็นบทความเก่าที่เคยนำเสนอมาก่อนแล้ว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน