ทั้งงานขัดใจอยู่ไม่กี่เรื่อง แต่เรื่องที่ดูจะหนักใจสุดคือ Shonichi Ver. สุดพิเศษ
งาน General Election ถ้าส่องกระแสตามแท็กในทวิตหรือโซเชี่ยลต่างๆจะเห็นได้ว่า งานนี้จะเป็นงานที่ใหญ่จริง คนติดตามดูเยอะจริง
ปกติงานของ BNK48 ก็จะมีแต่คนที่ชอบ BNK48 พวกเราจากหลายๆด้อมนี่แหละที่แห่ไปดู และหวีดในโลกโซเชี่ยลด้วยกัน
เช่น คอนเสิร์ต Space Mission กับ AKB48 Asia Festival 2019 แต่งาน General Election แฟนคลับจากวงอื่นๆ
หรือติ่งของวงเกาหลีเขาก็ดูกันเยอะนะ แต่ดูทางไลฟ์ ก็เข้าใจเพราะเขาอาจจะแค่รู้จักหรือตามห่างๆ
ไม่ได้ตามแบบจริงจังเหมือนกับโอตะเหมือนกับพวกเรา ไม่ต้องเสียตังค์ไปซื้อบัตรเพื่อมาดู ไม่ต้องลงทุนขนาดนั้น
แต่เราเองก็ติดตามวงนี้จริงจังแต่ก็ไม่ได้ไปเพราะเงินหมดแล้ว...
ดูไลฟ์อยู่บ้านตอนร้องเพลงวันแรก อื้ม รู้เลยว่าเดี๋ยวต้องโดนด่า โดนแซะแน่เลย ก็คงจะไม่ออกโรงปกป้องอะไร
เพราะขนาดเป็นแฟนคลับยังรู้สึกได้ แต่ก็ไม่ได้อะไร เงียบๆไว้ ส่องกระแสในโซเชี่ยลก็ยังไม่เห็นมีใครจุดประเด็นนี้เหมือนกัน
จนกระทั่งประกาศอันดับเสร็จสรรพจบงานจบไลฟ์ ก็เข้าไปส่องกระแสตลอด ยินดีกับคนนู้นคนนั้น สปีชที่น่าประทับใจ อะไรต่างๆ
ลืมเรื่องร้องเพลงวันแรกไปเพราะให้ความสนใจกับอันดับ แต่รุ่งขึ้นวันต่อมา ยังคงประทับใจและตราตรึงใจก็เข้าไปส่องแท็กอีกรอบ
สิ่งแรกที่เห็นคือ คนอื่นเขาตัดช่วงร้องเพลงวันแรกมาลงแล้วก็มีคนมาวิจารณ์ไปตามความเป็นจริงกันเยอะเลย บางคนเห็นบอกว่า
คงจะขายแต่ความพยายามจริงๆ ไม่ก็
ตลกท่อนร้องเพลงไม่เอาไหน ไม่เอาไหนจริงๆด้วย และเจ็บสุดคือบอกว่า
เหมือนไม่ได้ซ้อมกันมาเลย ความรู้สึกตอนนั้นมันแบบ ... กุ! ว่า!! แล้ววววววววววว!!! ...
ในฐานะแฟนคลับวงนี้คือเจ็บจังเลยแต่เถียงไม่ออกมันคือความจริง และเห็นด้วยกับโอตะบางท่านที่กล่าวไว้ว่า..
BNK48 เป็นวงที่มีสายร้องเยอะแต่ว่าทางผู้ใหญ่ของวงไม่เคยนำคนเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับวง
คิดว่าแฟนคลับด้วยกันคงไม่กล้าเปิดเรื่องนี้แต่ที่แน่ๆคือรู้สึกว่ามันเพี้ยนเหมือนกันแน่ๆ
คงไม่หน้ามืดตามัวกันขนาดนั้น สุดท้ายก็ต้องเป็นแฟนคลับวงอื่นพูดถึงเรื่องนี้
วันนี้เราว่างมากเลยดูไลฟ์น้องอุ้ม แล้วน้องก็พูดถึงตอนร้องเพลงวันแรก น้องแค่พูดเฉยๆนะ ไม่ได้ออกมาแก้ตัวหรืออะไร
น้องอาจจะไม่รู้ว่ามีคนวิจารณ์เรื่องนี้ด้วยซ้ำ เพราะบอกว่าหลังจากคอนแล้วก็งานประกาศคือป่วยเลยแล้วก็นอนยาวๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เมมเบอร์หลายคนก็น่าจะไม่รู้เพราะงานเยอะ ซ้อมก็ต้องซ้อม เรียนก็ต้องเรียน ในวันเดียวกันก็มีทั้งคอนเสิร์ตและงานประกาศผล
เซ็มบัทสึ 16 คนวันต่อมาก็แสดงคอนเสิร์ตตั้งแต่เที่ยงแต่คงเตรียมตัวกันตั้งแต่เช้า เมมเบอร์หลายคนก็ไปเชียร์ให้กำลังใจ
มาวันนี้รุ่นสองน้องนิวก็มีงานแถลงข่าวซีรีย์เรื่องใหม่และเป็นเรื่องแรกของน้องมีรุ่นพี่ โมเป้หวาน ไปให้กำลังใจอีก
เท่าที่รู้มาคือหลายคนบอกว่าหลังจากจบงานนอนยาวๆ ตื่นเที่ยงบ่ายโมงบ่ายสอง ไม่ก็กลับไปอ่านหนังสือสอบกลับไปเรียน
ช่วงนี้เหมือนเป็นช่วงพักผ่อน กลับไปทำหน้าที่ที่นอกเหนือจากไอดอล BNK48 คงไม่ค่อยรู้ว่าใครเขาวิจารณ์วงว่ายังไงบ้าง
และน้องกำลังพูดถึงความรู้สึกในงานคอนเสิร์ตกับงานประกาศผลและเบื้องหลังการซ้อมก่อนจะถึงวันจริงอะไรแบบนี้
น้องบอกว่า
ทุกคนในวงตารางงานชนกับตารางซ้อมกันเกือบทุนคน ไม่มีเวลามาซ้อมด้วยกัน
ทำให้นึกถึงที่เจนนิษฐ์ลงไอจีพิมพ์ถึงโชว์ End Roll ในคอน Asiafes ว่า
ยากมาก ต้องแกะท่าเองจากวิดีโอของรุ่นพี่เพราะไม่มีเวลาไปเรียนเต้นเลย มัวแต่ถ่ายหนังกับทำงาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ระบบ 48Group วงรุ่นพี่ไม่แน่ใจแต่วงรุ่นน้องให้ดูคลิปแล้วฝึกซ้อมกันเอาเอง ถ้าจำไม่ผิดเคยดูรายการ Produce48 ฝั่งเด็กญี่ปุ่น AKB48 บอกว่าเพราะว่าด้วยสมาชิกวงที่เยอะ ครูไม่สามารถสอนให้รายละเอียดได้ครบทุกคน ส่วนใหญ่ก็เลยดูคลิป แกะท่ากันเอง และซ้อมกันเองในวง ในฐานะที่ตามวงนี้เหตุผลฟังขึ้นเพราะเรารู้ว่าเป็นวงที่ทุกคนงานเยอะมาก
พักผ่อนไม่เพียงพอหลายคน ก่อนหน้านี้เหมือนเคยฟังเมมเบอร์สักคนบอกว่า
หลายคนในวงแทบจะไม่มีเวลาว่างตรงกันเลย
เพราะไหนจะด้วยเป็นวงที่อายุเฉลี่ยเป็นเด็กวัยเรียนกันทั้งนั้น ที่ญี่ปุ่นไม่รู้ยังไงนะ
แต่ที่ไทยให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนมาก แต่บางคนเขาก็พยายามถึงขั้นอุส่าโดดเรียนหนีมาซ้อมกับเพื่อนๆในวงเลยนะ
คิดว่านี่ก็ชัดแล้วว่าเป็นเหตุผลอีกข้อหนึ่งการที่ทุกคนมีเรื่องให้รับผิดชอบมากมายและไม่ค่อยได้ซ้อมด้วยกัน
ต้องซ้อมกันเอง ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลเบสิกที่ทำให้โชว์ออกมาได้ไม่ดี
และเหตุผลอีกข้อนึงคือ ในไลฟ์น้องอุ้มน้องก็เล่าๆไปนั่นแหละแต่เราจับจุดได้..
น้องบอกว่าตอนซ้อมร้องเพลงวันแรก
ข้างๆน้องคนที่ยืนขนาบน้องทั้งสองข้างคือพี่แพนด้ากับพี่นาย สองคนนี้อย่างที่รู้กันคือเป็นสายร้องเพลงโดยตรง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สองคนนี้ผ่านออดิชั่นเพลง mata เพลงแนวของสายร้องที่แท้จริงที่เซ็นเตอร์เป็นมายยู แต่แพนด้ากับนายคืออยู่ระดับเสียงต่ำ ส่วนอุ้มเสียงปกติเวลาร้องด้วยกันทำให้เพี้ยนได้ง่าย
มีโอกาสทำให้เพี้ยนสูงมาก น้องเลยไปขอครูเปลี่ยนที่ให้อยู่กับสายเสียงปกติ ครูก็เลยเปลี่ยนให้
แล้วก็มีการเปลี่ยนตำแหน่งเรื่อยๆ แต่สุดท้ายน้องก็ได้อยู่กับกลุ่มสายเสียงปกตินี่แหละ สิ่งที่น้องทำคือถูกแล้ว
เพราะอันนี้คือน้องรู้สึกเองว่าไม่สามารถร้องได้ เพราะการที่มีคนร้องเสียงต่ำ ไม่ใช่ระดับเสียงเดียวกัน มายืนร้องขนาบข้าง
มันทำให้น้องรู้สึกว่าจะร้องเพี้ยนเลยขอเปลี่ยนตำแหน่ง ส่วนคนอื่นไม่รู้ว่าถูกจัดกลุ่มยังไงนะ งงจัง
เพราะว่าเคยอยู่ทีมร้องเพลงประสานเสียงแบบกลุ่มของโรงเรียน เคยไปแข่งขันจากภายในโรงเรียน ไประดับตำบล ระดับอำเภอ
ระดับจังหวัดแต่ระดับจังหวัดได้ที่ 2 ยังจำรูปแบบการสอนของการร้องเพลงประสานเสียงได้เสมอ และทุกครั้งที่ไปแข่ง
จากหลายโรงเรียนที่เป็นคู่แข่งคือเหมือนกันหมด
ทุกคนในทีมประสานเสียงต้องแบ่งเป็นกลุ่มๆถูกแยกตามระดับเสียงเอาไว้เลย
ว่านี่ เสียงสูง กลาง ต่ำ แล้วก็จัด 3 กลุ่มนี้เป็น 3 แถว เราอยู่เสียงต่ำก็มักจะอยู่แถวสุดท้ายอยู่แถวระดับเสียงเดียวกันแถว 3 ตลอด
คนที่เป็นสมาชิกเข้ามาใหม่ก็ต้องมีการทดสอบเสียงจากครูว่าอยู่ระดับไหนจะได้อยู่ถูกกลุ่ม ตำแหน่งจะได้ถูกต้องว่าควรจะยืนอยู่ตรงไหน
หรือมันมีแบบที่ว่าไม่จำเป็นต้องจัดระดับกลุ่มเสียงด้วยรึเปล่า? แต่แบบนั้นก็น่าจะต้องแบบเก่งมากๆระดับมืออาชีพสุดๆรึเปล่า?
ในฐานะที่ตามมาตลอด
ถ้าไม่มองเป็นคนๆแต่มองโดยรวมของวงพอจะมองความสามารถด้านการร้องของ BNK48 ออก
ว่าอยู่ในระดับไหน ครูที่สอนน้องๆก็น่าจะรู้ดีไม่ต้องทำให้ยากถึงขนาดนั้นก็ได้นี่นา ไม่งั้นมันก็จะออกมาแย่ คนอื่นจะดูถูกเอา
ค่อนข้างงงใจกับที่น้องเล่ามาเพราะ
มันรู้สึกเหมือนครูที่สอนน้องๆจัดกลุ่มประสานเสียงแบบมั่วๆซะมากกว่า
ตั้งแต่ที่น้องเล่าไปเรื่อยๆตามสไตล์น้องแต่อินี่งงมากทำไมถึงจับกลุ่มให้คนระดับเสียงต่ำยืนขนาบข้างคนระดับเสียงปกติ
งงใจมากว่าทางคุณครูที่สอนร้องเพลงหรือผู้ใหญ่เขาจัดตำแหน่งการยืนร้องเพลงประสานเสียงยังไงให้น้องๆในวง
ถ้าจะจัดตามความนิยม ความเหมาะสมของตำแหน่งในวง กัปตัน เซ็นเตอร์ หรืออะไรยังไงก็แล้วแต่ คือไม่ว่าอะไรเลยนะ
เห็นด้วยควรจัดให้ดูมีความหมาย เพราะสมมุตินะ ตำแหน่งกัปตันวง พี่เฌอก็สมควรมากที่จะอยู่ตรงกลางแถวหน้าอะถูกแล้ว
แต่ถ้าพี่เฌอเสียงระดับปกติก็ให้แถวหน้าเป็นระดับเสียงปกติ น่าจะได้อยู่แหละมั้ง แล้วก็ทั้งแถวก็ต้องเป็นคนระดับเสียงปกติ
ก็ควรเป็นเซ็ตเดียวกันเป็นกลุ่มเป็นแถวระดับเสียงเดียวกันสิ ไม่ใช่ไปเอาคนเสียงต่ำมายืนขนาบข้างมันจะพากันเพี้ยน
ก็เลยแบบ.. โอเค แค่ 2 ข้อที่รู้มาก็ไม่แปลกใจละว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เวลาแฟนคลับวงอื่นหรือคนอื่นเขามองมา
เขาก็มองแค่สิ่งที่เห็นตรงหน้า ตัดสินไปตามภาพที่เห็น ก็เหมือนกับโชว์ที่ออกมานี้ว่า
ไม่ซ้อมกันมา ไม่มีความสามารถ
เราในฐานะแฟนคลับ ต่อให้เรารู้ว่าเด็กของเราหลายคน
งานยุ่ง ไม่มีเวลา ติดภารกิจทางการศึกษา หรือบางคนมีดีแต่ไม่ได้โอกาส
ไม่ได้โชว์ความสามารถมากกว่านี้หรือเหตุข้อ 2 ที่เราบอก ต่อให้อธิบายอะไรไปคนอื่นเขาก็มองเป็นข้อแก้ตัวหรือด่าแต่อฟช.
หรืออันนี้จะเห็นบ่อยมากที่ชอบบอกว่า
โอตะก็เอาแต่โทษทุกสิ่งทุกอย่างว่าผิดส่วน BNK48 ทำอะไรก็ไม่ผิดสำหรับโอตะอยู่ดี
ก็เลยเงียบๆปล่อยให้มันจางหายไปดีกว่า เคยอ่านทวิตหนึ่งในกูเกิ้ลเมื่อนานมากแล้วคือประมาณว่า
“ไม่มีใครเขาสนใจหรอกว่ากว่าที่ผลงานคุณจะเสร็จสมบูรณ์ออกมาได้ ต้องพยายามมากแค่ไหน
เขาจะไม่สนใจและไม่พยายามเข้าใจถึงแม้คุณจะมีภาระมากมายขนาดไหน ต้องอดหลับอดนอนกี่วัน มีอุปสรรคอะไรบ้าง
เพราะยังไงสุดท้ายเขาก็ตัดสินกันจากผลงานหรือภาพที่เห็นแค่นั้นแหละ”
[BNK48] รู้เหตุผลมา 2 ข้อแล้วว่าทำไม Shonichi Ver. สุดพิเศษ ถึงออกมาเพี้ยนขนาดนี้
งาน General Election ถ้าส่องกระแสตามแท็กในทวิตหรือโซเชี่ยลต่างๆจะเห็นได้ว่า งานนี้จะเป็นงานที่ใหญ่จริง คนติดตามดูเยอะจริง
ปกติงานของ BNK48 ก็จะมีแต่คนที่ชอบ BNK48 พวกเราจากหลายๆด้อมนี่แหละที่แห่ไปดู และหวีดในโลกโซเชี่ยลด้วยกัน
เช่น คอนเสิร์ต Space Mission กับ AKB48 Asia Festival 2019 แต่งาน General Election แฟนคลับจากวงอื่นๆ
หรือติ่งของวงเกาหลีเขาก็ดูกันเยอะนะ แต่ดูทางไลฟ์ ก็เข้าใจเพราะเขาอาจจะแค่รู้จักหรือตามห่างๆ
ไม่ได้ตามแบบจริงจังเหมือนกับโอตะเหมือนกับพวกเรา ไม่ต้องเสียตังค์ไปซื้อบัตรเพื่อมาดู ไม่ต้องลงทุนขนาดนั้น
แต่เราเองก็ติดตามวงนี้จริงจังแต่ก็ไม่ได้ไปเพราะเงินหมดแล้ว...
ดูไลฟ์อยู่บ้านตอนร้องเพลงวันแรก อื้ม รู้เลยว่าเดี๋ยวต้องโดนด่า โดนแซะแน่เลย ก็คงจะไม่ออกโรงปกป้องอะไร
เพราะขนาดเป็นแฟนคลับยังรู้สึกได้ แต่ก็ไม่ได้อะไร เงียบๆไว้ ส่องกระแสในโซเชี่ยลก็ยังไม่เห็นมีใครจุดประเด็นนี้เหมือนกัน
จนกระทั่งประกาศอันดับเสร็จสรรพจบงานจบไลฟ์ ก็เข้าไปส่องกระแสตลอด ยินดีกับคนนู้นคนนั้น สปีชที่น่าประทับใจ อะไรต่างๆ
ลืมเรื่องร้องเพลงวันแรกไปเพราะให้ความสนใจกับอันดับ แต่รุ่งขึ้นวันต่อมา ยังคงประทับใจและตราตรึงใจก็เข้าไปส่องแท็กอีกรอบ
สิ่งแรกที่เห็นคือ คนอื่นเขาตัดช่วงร้องเพลงวันแรกมาลงแล้วก็มีคนมาวิจารณ์ไปตามความเป็นจริงกันเยอะเลย บางคนเห็นบอกว่า
คงจะขายแต่ความพยายามจริงๆ ไม่ก็ ตลกท่อนร้องเพลงไม่เอาไหน ไม่เอาไหนจริงๆด้วย และเจ็บสุดคือบอกว่า
เหมือนไม่ได้ซ้อมกันมาเลย ความรู้สึกตอนนั้นมันแบบ ... กุ! ว่า!! แล้ววววววววววว!!! ...
ในฐานะแฟนคลับวงนี้คือเจ็บจังเลยแต่เถียงไม่ออกมันคือความจริง และเห็นด้วยกับโอตะบางท่านที่กล่าวไว้ว่า..
BNK48 เป็นวงที่มีสายร้องเยอะแต่ว่าทางผู้ใหญ่ของวงไม่เคยนำคนเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับวง
คิดว่าแฟนคลับด้วยกันคงไม่กล้าเปิดเรื่องนี้แต่ที่แน่ๆคือรู้สึกว่ามันเพี้ยนเหมือนกันแน่ๆ
คงไม่หน้ามืดตามัวกันขนาดนั้น สุดท้ายก็ต้องเป็นแฟนคลับวงอื่นพูดถึงเรื่องนี้
วันนี้เราว่างมากเลยดูไลฟ์น้องอุ้ม แล้วน้องก็พูดถึงตอนร้องเพลงวันแรก น้องแค่พูดเฉยๆนะ ไม่ได้ออกมาแก้ตัวหรืออะไร
น้องอาจจะไม่รู้ว่ามีคนวิจารณ์เรื่องนี้ด้วยซ้ำ เพราะบอกว่าหลังจากคอนแล้วก็งานประกาศคือป่วยเลยแล้วก็นอนยาวๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และน้องกำลังพูดถึงความรู้สึกในงานคอนเสิร์ตกับงานประกาศผลและเบื้องหลังการซ้อมก่อนจะถึงวันจริงอะไรแบบนี้
น้องบอกว่า ทุกคนในวงตารางงานชนกับตารางซ้อมกันเกือบทุนคน ไม่มีเวลามาซ้อมด้วยกัน
ทำให้นึกถึงที่เจนนิษฐ์ลงไอจีพิมพ์ถึงโชว์ End Roll ในคอน Asiafes ว่า
ยากมาก ต้องแกะท่าเองจากวิดีโอของรุ่นพี่เพราะไม่มีเวลาไปเรียนเต้นเลย มัวแต่ถ่ายหนังกับทำงาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ในฐานะที่ตามวงนี้เหตุผลฟังขึ้นเพราะเรารู้ว่าเป็นวงที่ทุกคนงานเยอะมาก
พักผ่อนไม่เพียงพอหลายคน ก่อนหน้านี้เหมือนเคยฟังเมมเบอร์สักคนบอกว่า หลายคนในวงแทบจะไม่มีเวลาว่างตรงกันเลย
เพราะไหนจะด้วยเป็นวงที่อายุเฉลี่ยเป็นเด็กวัยเรียนกันทั้งนั้น ที่ญี่ปุ่นไม่รู้ยังไงนะ
แต่ที่ไทยให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนมาก แต่บางคนเขาก็พยายามถึงขั้นอุส่าโดดเรียนหนีมาซ้อมกับเพื่อนๆในวงเลยนะ
คิดว่านี่ก็ชัดแล้วว่าเป็นเหตุผลอีกข้อหนึ่งการที่ทุกคนมีเรื่องให้รับผิดชอบมากมายและไม่ค่อยได้ซ้อมด้วยกัน
ต้องซ้อมกันเอง ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลเบสิกที่ทำให้โชว์ออกมาได้ไม่ดี
และเหตุผลอีกข้อนึงคือ ในไลฟ์น้องอุ้มน้องก็เล่าๆไปนั่นแหละแต่เราจับจุดได้.. น้องบอกว่าตอนซ้อมร้องเพลงวันแรก
ข้างๆน้องคนที่ยืนขนาบน้องทั้งสองข้างคือพี่แพนด้ากับพี่นาย สองคนนี้อย่างที่รู้กันคือเป็นสายร้องเพลงโดยตรง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่แพนด้ากับนายคืออยู่ระดับเสียงต่ำ ส่วนอุ้มเสียงปกติเวลาร้องด้วยกันทำให้เพี้ยนได้ง่าย
มีโอกาสทำให้เพี้ยนสูงมาก น้องเลยไปขอครูเปลี่ยนที่ให้อยู่กับสายเสียงปกติ ครูก็เลยเปลี่ยนให้
แล้วก็มีการเปลี่ยนตำแหน่งเรื่อยๆ แต่สุดท้ายน้องก็ได้อยู่กับกลุ่มสายเสียงปกตินี่แหละ สิ่งที่น้องทำคือถูกแล้ว
เพราะอันนี้คือน้องรู้สึกเองว่าไม่สามารถร้องได้ เพราะการที่มีคนร้องเสียงต่ำ ไม่ใช่ระดับเสียงเดียวกัน มายืนร้องขนาบข้าง
มันทำให้น้องรู้สึกว่าจะร้องเพี้ยนเลยขอเปลี่ยนตำแหน่ง ส่วนคนอื่นไม่รู้ว่าถูกจัดกลุ่มยังไงนะ งงจัง
เพราะว่าเคยอยู่ทีมร้องเพลงประสานเสียงแบบกลุ่มของโรงเรียน เคยไปแข่งขันจากภายในโรงเรียน ไประดับตำบล ระดับอำเภอ
ระดับจังหวัดแต่ระดับจังหวัดได้ที่ 2 ยังจำรูปแบบการสอนของการร้องเพลงประสานเสียงได้เสมอ และทุกครั้งที่ไปแข่ง
จากหลายโรงเรียนที่เป็นคู่แข่งคือเหมือนกันหมด ทุกคนในทีมประสานเสียงต้องแบ่งเป็นกลุ่มๆถูกแยกตามระดับเสียงเอาไว้เลย
ว่านี่ เสียงสูง กลาง ต่ำ แล้วก็จัด 3 กลุ่มนี้เป็น 3 แถว เราอยู่เสียงต่ำก็มักจะอยู่แถวสุดท้ายอยู่แถวระดับเสียงเดียวกันแถว 3 ตลอด
คนที่เป็นสมาชิกเข้ามาใหม่ก็ต้องมีการทดสอบเสียงจากครูว่าอยู่ระดับไหนจะได้อยู่ถูกกลุ่ม ตำแหน่งจะได้ถูกต้องว่าควรจะยืนอยู่ตรงไหน
หรือมันมีแบบที่ว่าไม่จำเป็นต้องจัดระดับกลุ่มเสียงด้วยรึเปล่า? แต่แบบนั้นก็น่าจะต้องแบบเก่งมากๆระดับมืออาชีพสุดๆรึเปล่า?
ในฐานะที่ตามมาตลอด ถ้าไม่มองเป็นคนๆแต่มองโดยรวมของวงพอจะมองความสามารถด้านการร้องของ BNK48 ออก
ว่าอยู่ในระดับไหน ครูที่สอนน้องๆก็น่าจะรู้ดีไม่ต้องทำให้ยากถึงขนาดนั้นก็ได้นี่นา ไม่งั้นมันก็จะออกมาแย่ คนอื่นจะดูถูกเอา
ค่อนข้างงงใจกับที่น้องเล่ามาเพราะ มันรู้สึกเหมือนครูที่สอนน้องๆจัดกลุ่มประสานเสียงแบบมั่วๆซะมากกว่า
ตั้งแต่ที่น้องเล่าไปเรื่อยๆตามสไตล์น้องแต่อินี่งงมากทำไมถึงจับกลุ่มให้คนระดับเสียงต่ำยืนขนาบข้างคนระดับเสียงปกติ
งงใจมากว่าทางคุณครูที่สอนร้องเพลงหรือผู้ใหญ่เขาจัดตำแหน่งการยืนร้องเพลงประสานเสียงยังไงให้น้องๆในวง
ถ้าจะจัดตามความนิยม ความเหมาะสมของตำแหน่งในวง กัปตัน เซ็นเตอร์ หรืออะไรยังไงก็แล้วแต่ คือไม่ว่าอะไรเลยนะ
เห็นด้วยควรจัดให้ดูมีความหมาย เพราะสมมุตินะ ตำแหน่งกัปตันวง พี่เฌอก็สมควรมากที่จะอยู่ตรงกลางแถวหน้าอะถูกแล้ว
แต่ถ้าพี่เฌอเสียงระดับปกติก็ให้แถวหน้าเป็นระดับเสียงปกติ น่าจะได้อยู่แหละมั้ง แล้วก็ทั้งแถวก็ต้องเป็นคนระดับเสียงปกติ
ก็ควรเป็นเซ็ตเดียวกันเป็นกลุ่มเป็นแถวระดับเสียงเดียวกันสิ ไม่ใช่ไปเอาคนเสียงต่ำมายืนขนาบข้างมันจะพากันเพี้ยน
ก็เลยแบบ.. โอเค แค่ 2 ข้อที่รู้มาก็ไม่แปลกใจละว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เวลาแฟนคลับวงอื่นหรือคนอื่นเขามองมา
เขาก็มองแค่สิ่งที่เห็นตรงหน้า ตัดสินไปตามภาพที่เห็น ก็เหมือนกับโชว์ที่ออกมานี้ว่า ไม่ซ้อมกันมา ไม่มีความสามารถ
เราในฐานะแฟนคลับ ต่อให้เรารู้ว่าเด็กของเราหลายคน งานยุ่ง ไม่มีเวลา ติดภารกิจทางการศึกษา หรือบางคนมีดีแต่ไม่ได้โอกาส
ไม่ได้โชว์ความสามารถมากกว่านี้หรือเหตุข้อ 2 ที่เราบอก ต่อให้อธิบายอะไรไปคนอื่นเขาก็มองเป็นข้อแก้ตัวหรือด่าแต่อฟช.
หรืออันนี้จะเห็นบ่อยมากที่ชอบบอกว่า โอตะก็เอาแต่โทษทุกสิ่งทุกอย่างว่าผิดส่วน BNK48 ทำอะไรก็ไม่ผิดสำหรับโอตะอยู่ดี
ก็เลยเงียบๆปล่อยให้มันจางหายไปดีกว่า เคยอ่านทวิตหนึ่งในกูเกิ้ลเมื่อนานมากแล้วคือประมาณว่า
เขาจะไม่สนใจและไม่พยายามเข้าใจถึงแม้คุณจะมีภาระมากมายขนาดไหน ต้องอดหลับอดนอนกี่วัน มีอุปสรรคอะไรบ้าง
เพราะยังไงสุดท้ายเขาก็ตัดสินกันจากผลงานหรือภาพที่เห็นแค่นั้นแหละ”