คุณพ่อเป็นเจ้าของสิทธิ์เช่าที่ราชพัสดุค่ะ(สัญญาเช่า5ปี เคยอยู่ก่อนจะได้สิทธิ์ ปี 2546 และทำเรื่องของเช่าที่ราชพัสดุจนได้สิทธิ์ ปี 2557)
ทำธุรกิจ ไม่ประสบความสำเร็จ จึงขายกันเองให้นาย ก. และคุณพ่อย้ายออกจากที่เช่าราชพัสดุ ปี 2552(ขายก่อนได้ใบครอบครองสิทธิ์)
นาย ก. ก็ขายต่อให้นาง ข.
ทุกคนทราบว่าที่ราชพัสดุขายไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ครอบครอง
นางข.เริ่มสร้างบ้านใหญ่โต บนพื้นดินราชพัสดุ ปี 2554 เมื่อถึงปี2557 หนังสือเช่าที่ราชพัสดุชื่อคุณพ่อ ก็ มาค่ะ คุณพ่อไม่มีความประสงค์จะเช่าแล้ว แต่ต้องไปรับและต่อสัญญาณเช่าให้นาง ข. เพราะสงสาร บ้านใหญ่โตมากพึ่งสร้างเสร็จ และนางข. ก็ขอร้องกลัวถูกโดนรื้อถอน
คุณพ่อก็ต่อให้ 5 ปีจะหมดอายุ 28 กพ 2562 (อีกประมาณ 1เดือน)
แต่!!!! โชคร้ายของคุณพ่อ ท่านพบว่าป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย 6เดือนหลังทราบท่านก็เสียชีวิต(เสียชีวิต วันที่ 15 ตุลาคม2559) ช่วงระยะเวลาที่ทราบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ท่านก็บอกนาง ข. ว่ามีอะไรให้รีบทำนะเรื่องที่ดิน ผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอยู่ได้ไม่นาน นางข.รับทราบ
-------------------------------
คุณพ่อและคุณแม่จดทะเบียน สมรส มีบุตร2คน ทุกคนในครอบครัวไม่มีความประสงค์จะรับสิทธิ์การเช่าที่ราชพัสดุ
25 มค 2562 นางข. หาทางติดต่อเพราะคุณพ่อเสียไม่มีหนทางติดต่อ ไปค้นข้อมูลทะเบียนราชจนพบ บ้านและเขียนโน็ตและเบอร์โทรไว้
28 มค 2562 ดิฉันบุตรสาวสะดวกเดินทาง นำใบมรณะบัตรของคุณพ่อไปให้ เมื่อพบกัน นางข. พยายามให้ดิฉัน/คุณแม่รับสิทธิ์การเช่า และจะต้องมาเซ็นให้นางข.ทุก 5 ปี
29 มค 2562 คุณแม่คุยกับนาง ข. แสดงความประสงค์ชัดเจน ไม่เซ็น ให้นางข.หา ทนายช่วยเหลือเอา ช่วยไม่ได้จริงๆ คุณก็ทราบตั้งแต่ก่อนซื้อแล้วว่าเป็นเจ้าของที่ดินไม่ได้ อย่าหาว่าแม่ใจร้ายเลย ลูกหลานแม่จะเดือดร้อน ต้องมาเซ็นทุก5ปี
*ในมุมดิฉันและคุณแม่ไม่มีความประสงค์ที่จะเช่าที่ราชพัสดุ เพราะพวกเราไม่ได้อยู่ ต้องการให้รัฐเวียนคืนที่ดิน
1.ภาระทุก5ปี รุ่นแม่ยังคุยกันได้ ถ้าอีก30ปี 40ปี จะทำยังไง ทำไมต้องให้ลูกหลานมาเดือดร้อนกับที่ดินที่เราไม่ได้อาศัยอยู่
2.อีกใจก็สงสาร เขาสร้างบ้านหลังใหญ่จริงๆค่ะ
3.ข้อนี้สำคัญที่สุด ดิฉันและคุณแม่เป็นราชการทั้งคู่กลัวสิ่งที่คุณพ่อทำไว้จะส่งผลกระทบกับชีวิต (ซื้อขายที่ดินราชพัสดุ ผิดกฏหมาย)
ต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฏหมาย นางข.พยายามนำเรื่องเงินมาพูด แต่พวกเราไม่ได้ต้องการ
--------------------------------------
รบกวนพี่ๆที่มีความรู้ช่วยทีค่ะ
1.ถ้าดิฉันและคุณแม่ ไม่เซ็นต่อสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ สัญญาเช่าที่ราชพัสดุจะสิ้นสุดไหมค่ะ
2.ต้องดำเนินแจ้งอะไรไหมค่ะถ้าไม่ต่อ หายไปเลยสัญญาจะขาด เวียนคืนส่วนกลางเลยไหม(ใบครอบครองสิทธิ์ชื่อคุณพ่ออยู่กับนาง ข.)
3.ในกรณีที่จะช่วยนางข. มีหนทางไหนไหมค่ะ ช่วยในทางที่ถูกต้องตามกฏหมาย
สอบถามที่ดินราชพัสดุค่ะ
ทำธุรกิจ ไม่ประสบความสำเร็จ จึงขายกันเองให้นาย ก. และคุณพ่อย้ายออกจากที่เช่าราชพัสดุ ปี 2552(ขายก่อนได้ใบครอบครองสิทธิ์)
นาย ก. ก็ขายต่อให้นาง ข.
ทุกคนทราบว่าที่ราชพัสดุขายไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ครอบครอง
นางข.เริ่มสร้างบ้านใหญ่โต บนพื้นดินราชพัสดุ ปี 2554 เมื่อถึงปี2557 หนังสือเช่าที่ราชพัสดุชื่อคุณพ่อ ก็ มาค่ะ คุณพ่อไม่มีความประสงค์จะเช่าแล้ว แต่ต้องไปรับและต่อสัญญาณเช่าให้นาง ข. เพราะสงสาร บ้านใหญ่โตมากพึ่งสร้างเสร็จ และนางข. ก็ขอร้องกลัวถูกโดนรื้อถอน
คุณพ่อก็ต่อให้ 5 ปีจะหมดอายุ 28 กพ 2562 (อีกประมาณ 1เดือน)
แต่!!!! โชคร้ายของคุณพ่อ ท่านพบว่าป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย 6เดือนหลังทราบท่านก็เสียชีวิต(เสียชีวิต วันที่ 15 ตุลาคม2559) ช่วงระยะเวลาที่ทราบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ท่านก็บอกนาง ข. ว่ามีอะไรให้รีบทำนะเรื่องที่ดิน ผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอยู่ได้ไม่นาน นางข.รับทราบ
-------------------------------
คุณพ่อและคุณแม่จดทะเบียน สมรส มีบุตร2คน ทุกคนในครอบครัวไม่มีความประสงค์จะรับสิทธิ์การเช่าที่ราชพัสดุ
25 มค 2562 นางข. หาทางติดต่อเพราะคุณพ่อเสียไม่มีหนทางติดต่อ ไปค้นข้อมูลทะเบียนราชจนพบ บ้านและเขียนโน็ตและเบอร์โทรไว้
28 มค 2562 ดิฉันบุตรสาวสะดวกเดินทาง นำใบมรณะบัตรของคุณพ่อไปให้ เมื่อพบกัน นางข. พยายามให้ดิฉัน/คุณแม่รับสิทธิ์การเช่า และจะต้องมาเซ็นให้นางข.ทุก 5 ปี
29 มค 2562 คุณแม่คุยกับนาง ข. แสดงความประสงค์ชัดเจน ไม่เซ็น ให้นางข.หา ทนายช่วยเหลือเอา ช่วยไม่ได้จริงๆ คุณก็ทราบตั้งแต่ก่อนซื้อแล้วว่าเป็นเจ้าของที่ดินไม่ได้ อย่าหาว่าแม่ใจร้ายเลย ลูกหลานแม่จะเดือดร้อน ต้องมาเซ็นทุก5ปี
*ในมุมดิฉันและคุณแม่ไม่มีความประสงค์ที่จะเช่าที่ราชพัสดุ เพราะพวกเราไม่ได้อยู่ ต้องการให้รัฐเวียนคืนที่ดิน
1.ภาระทุก5ปี รุ่นแม่ยังคุยกันได้ ถ้าอีก30ปี 40ปี จะทำยังไง ทำไมต้องให้ลูกหลานมาเดือดร้อนกับที่ดินที่เราไม่ได้อาศัยอยู่
2.อีกใจก็สงสาร เขาสร้างบ้านหลังใหญ่จริงๆค่ะ
3.ข้อนี้สำคัญที่สุด ดิฉันและคุณแม่เป็นราชการทั้งคู่กลัวสิ่งที่คุณพ่อทำไว้จะส่งผลกระทบกับชีวิต (ซื้อขายที่ดินราชพัสดุ ผิดกฏหมาย)
ต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฏหมาย นางข.พยายามนำเรื่องเงินมาพูด แต่พวกเราไม่ได้ต้องการ
--------------------------------------
รบกวนพี่ๆที่มีความรู้ช่วยทีค่ะ
1.ถ้าดิฉันและคุณแม่ ไม่เซ็นต่อสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ สัญญาเช่าที่ราชพัสดุจะสิ้นสุดไหมค่ะ
2.ต้องดำเนินแจ้งอะไรไหมค่ะถ้าไม่ต่อ หายไปเลยสัญญาจะขาด เวียนคืนส่วนกลางเลยไหม(ใบครอบครองสิทธิ์ชื่อคุณพ่ออยู่กับนาง ข.)
3.ในกรณีที่จะช่วยนางข. มีหนทางไหนไหมค่ะ ช่วยในทางที่ถูกต้องตามกฏหมาย