ไขปริศนา Ata มนุษย์ต่างดาว Atacama จาก DNA

1.

Ata มีรูปร่างที่ผิดปรกติ เหมือนมนุษย์ต่างดาว Atacama Alien  โครงกระดูก/ซากมัมมี่จาก Chile
ที่มีความยาวเพียง 6 นิ้ว ที่นำไปสู่การมโน/แนวคิดทฤษฏีต่าง ๆ หลายเรื่อง
งานวิจัยจาก  DNA ได้อธิบายความโชคร้ายของเธอ และร่างกายของเธอ (Credit Bhattacharya S et al. 2018)



มีการค้นพบโครงกระดูกมัมมี่ที่รู้จักกันดีในชื่อ Ata
เธอถูกค้นพบในเมืองร้างที่เคยทำเหมือง ไนเตรด ในทะเลทราย Atacama ของชิลี
เธอมีรูปร่างขนาดเล็กกว่าตุ๊กตาบาร์บี้ Barbie
เธอที่มีหัวกะโหลกที่เรียวยาวและความผิดปกติอื่น ๆ
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็มีการขยายความ/มโนเรื่องราวต่าง ๆ
แทบจะไม่เคยขาดแคลนทฤษฎีที่เกี่ยวกับมนุษย์
มีทั้งการบอกว่า เธอมาจากต่างดาว มาจากการผสมพันธุ์ของเทพอสูรมาร
ผลการศึกษาในวันนี้  คงได้ตอบคำถามนี่อีกหลายเรื่อง


หัวข้อหลัก ๆ ที่วนเวียนอยู่รอบซากศพของเธอ
คงจะต้องคุ้นเคยกับคำว่า  มนุษย์ต่างดาว Atacama
ผ่านเรื่องราวของ Sirius ในปี 2013
โดย Steven Greer ผู้ก่อตั้งศูนย์การศึกษาด้านเชาวน์ปัญญาและการเปิดเผยข้อมูลความลับ
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีพื้นฐานมาจากความพยายามของ Steven Greer
ในการเปิดเผยภาพรวมของการพบเห็น UFO
และการเผชิญหน้าจากมนุษย์ต่างดาวจากนอกโลก
ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ทฤษฎี UFO และทฤษฎีสมคบคิดต่างชาติ


Garry Nolan นักวิจัยกับทีมงานจาก Stanford University
ได้ร่วมกันตรวจสอบและวิเคราะห์ DNA บางส่วน/โครงกระดูกของเธอ
และพิสูจน์ได้ว่า  เธอเป็นมนุษย์


ซึ่งแต่เดิม  หลายคนที่เขียนเรื่องราวและมโนถึง Ata
ต่างไม่สามารถอธิบายถึงขนาดรูปร่างของเธอ
และความผิดปกติทางกายภาพอื่น ๆ ของร่างกายเธอได้


แม้ว่าทางผู้ผลิตรายการภาพยนตร์
ตกลงที่จะส่งภาพถ่ายและซากศพของ Ata ให้กับ Garry Nolan
ซึ่งท่านอธิบายว่า  น่าตื่นเต้นมาก
หลังจากที่ท่านเสนอว่า จะใช้เครื่องมือจีโนม Genome
ที่สามารถตรวจสอบ DNA ของโครงกระดูกได้
และวิธีการอื่น  ๆ ที่ใกล้เคียงและคล้ายคลึงมาก
เพราะท่านเชื่อว่า โครงกระดูกของ Ata  อาจไม่ใช่มนุษย์ต่างดาว
ซึ่งขัดแย้งกับผู้สร้างภาพยนตร์คือ  ไม่เชื่อในทางพยาธิวิทยา
ในขณะที่ท่านและทีมงานทำการวิจัยเรื่องนี้
ต่างมีความคิดเห็นขัดแย้งกับเจ้าของร่าง Ata


ผมเข้าไม่ถึงเรื่องนี้ในตอนแรก
แต่ผมเชื่อในสัญญาณแรกของมนุษย์
คือ การโยนความเชื่อทุกอย่างออกไป
มันมีความผิดปกติและจำเป็นต้องถูกค้นหา

ผมไม่ได้แตะต้องร่าง Ata มาก่อนเลย
ผมต้องรอคอยเป็นเวลากว่า 20 ปี
" Garry Nolan


Garry Nolan ได้ส่งภาพถ่ายจากผู้สร้างภาพยนตร์
ไปให้กับเพื่อนร่วมงานของท่าน
ซึ่งอยู่ในหน่วยดูแลทารกแรกเกิด
และได้ส่งต่อไปยัง Ralph Lachman
ศาสตราจารย์คลินิกรังสีวิทยา  ผู้เชี่ยวชาญด้านคนแคระ
ที่ทำงานอยู่ที่ International Skeletal Dysplasia Registry
ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยแคระแกรนกว่า 15,000 รายทั่วโลก
มีการจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่นี้
และมีคนแคระถึง 700 หรือ 800 รายทุกปี
ในครั้งแรก Ralph Lachman ก็ยังไม่แน่ใจ
ตอนที่ท่านมองเห็นภาพ  Ata เป็นครั้งแรก

ในเวลานั้นเราไม่รู้ว่า
เธอเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือไม่
เธอดูไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปเลย
แม้แต่ในภาพที่ผมได้รับ
” Ralph Lachman





ทุกวันนี้ ต้องขอบคุณ DNA ที่มีคุณภาพสูง
DNA ที่สกัดจากไขกระดูกของเธอ
Garry Nolan และเพื่อนร่วมงานได้อธิบาย
ถึงรายละเอียดใหม่ ๆ อื่น ๆ อีกมากมาย
เกี่ยวกับตัวเธอที่พิจารณาจากการหาลำดับ จีโนม Genome ทั้งหมด


หนึ่งในความลึกลับที่เปิดเผยเกี่ยวกับ Ata
คือ ขนาดของร่างกายเธอ  เธอเป็นผู้หญิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการวิเคราะห์อายุกระดูก
ผลการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ก็ได้บ่งชี้ข้อมูลว่า
เธอมีอายุราว 6-8 ปีในช่วงเวลาที่เธอตาย
และมีอีกแง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจคือ
โครงกระดูกเธอดูเหมือนจะมี turricephaly
หรือเป็นรูปหัวกะโหลกรูปทรงกรวยที่มีความเรียวยาว
ความผิดปกติที่เห็นได้ชัดอย่างรวดเร็ว
คือ  Ata มีซี่โครง 10 คู่แทนที่จะเป็น 12 คู่แบบคนปกติ


ตามคำขอของ  Ralph Lachman
ที่ขอให้ Garry Nolan ช่วยภาพผลการ X-ray และ CT Scan
โครงกระดูก Ata จาก Barcelona ที่เคยทำเรื่องนี้ไว้
และท่านก็ได้รับเอกสารชุดนี้มา
และส่งมอบมาให้  Ralph  Lachman
ทำความเข้าใจความผิดปกติของร่างเธอได้แม่นยำมากขึ้น


หนึ่งในคำถามที่น่าสงสัยมากที่สุดที่ Ralph Lachman
ค้นพบคือ อายุของเธอในตอนที่เธอตาย
ขนาดศพที่เล็กมากจะเข้าคู่กันกับ
ขนาดของร่างทารกในครรภ์อายุ 22 สัปดาห์
แต่กลับพบว่า  ระดับแคลเซียมในกระดูกสูงมาก
จากการสังเกตที่พบทำให้ระบุได้ว่า
เป็นไปได้ว่าศพเด็กคนนี้อายุระหว่าง 5-8 ปี


ต่อมา Ralph  Lachman ได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว
ที่คล้ายคลึงกันของคนแคระในประวัติศาสตร์
และพบว่าคนแคระหลายคนรวมถึง
คนประหลาดในละครสัตว์
ในศตวรรษที่ 19 ชื่อ Tom Thumb
และสตรีชาว Italian ที่ยาวเพียง 6 นิ้วตอนคลอด
และยาวถึง 19 นิ้วตอนที่เธอตายตอนอายุ 8-9 ขวบ


คำอธิบายที่เป็นไปได้อีกข้อหนึ่ง
สำหรับโครงกระดูกขนาดเล็ก
แล้วกลายเป็นว่า  มีชั้นปูนไปจับเกาะกระดูกมากขึ้น
มัมมี่ตามธรรมชาติก็ยังมีกระบวนการ
ที่ทำให้โครงกระดูกมีอายุมากกว่าที่เป็นจริง


“ กระบวนการมัมมี่ในอียิปต์
ทำให้เกิดการกลายเป็นปูนเช่นนี้
ในช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลัง
หากเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้น
กับมัมมี่ที่ฝังในพื้นที่ธรรมชาติ
ถ้าซากศพอยู่ในที่แห้งแล้ง
ซากศพที่ฝังอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานหลายปี
และแล้วมันก็จะแห้งและเกลือ(ในดินรอบ ๆ ศพ)ก็จะเข้าไปสะสม
ซึ่งสามารถนำไปสู่การกลายเป็นปูนที่เกิดขึ้นตามมาได้ในกระดูก ”
Ralph Lachman


Garry Nolan และ Ralph Lachman  ต่างยอมรับว่า
งานวิจัยของพวกท่านยังไม่เสร็จสมบูรณ์
เพราะการพิสูจน์ได้ว่าเธอเป็นมนุษย์
แต่ยังไม่สามารถอธิบายลักษณะที่ผิดปกติทั้งหมดได้


Garry Nolan ให้สัมภาษณ์ว่า
โครงกระดูกของ  Ata  ถ้ามีการกลายพันธุ์ก็จะหายากมาก
เพราะเป็นแบบ/เหตุการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ท่านจึงได้ติดต่อนักวิจัยจากประเทศเยอรมนี
เพื่อหวังว่าจะเข้าถึงตัวอย่างที่คล้ายกัน
เพื่อนำมาเปรียบเทียบ DNA ของนักวิจัยเยอรมันนี
กับ DNA ของ Ata ว่าเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร


“ ถ้าผมจัดลำดับของ (DNA) สิ่งเหล่านั้นด้วย
เราสามารถระบุสาเหตุของเรื่องนี้ได้
ถ้ามันมีการกลายพันธุ์ที่คล้ายคลึงกัน
ยีนที่คล้ายกัน  มันน่าอัศจรรย์
เราจะสามารถไขปริศนาได้ ”
Garry Nolan





ผลจากการถอดรหัส DNA ของเธอ
ผ่านการจัดลำดับพบการกลายพันธุ์ที่แปลกใหม่ในหลาย ๆ ยีน Genes ของ Ata
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง COL1A1, COL2A1, KMT2D, FLNB, ATR, TRIP11 และ PCNT
แม้ว่า Genes จำเฉพาะของเธอจะมีความแตกต่าง


แต่งานวิจัยก่อนหน้านี้แทบไม่เกี่ยวข้องกับ Ata
ในการเชื่อมโยง Genes กับร่างการของเธอ
เพียงแต่ระบุว่า โรคที่ทำให้มีร่างกายขนาดเล็ก
ความผิดปกติของซี่โครง  ความผิดปกติของกะโหลก
ความผิดปกติของกะโหลกร่วมกัน
ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยที่ทำการศึกษาเรื่องนี้


จากหลักฐานทางพันธุกรรม
ของริ้วรอยกระดูกที่เกิดก่อนวัยอันควร
นักวิจัยเชื่อว่า Ata  คลอดก่อนกำหนดระยะเวลา
แทนที่จะคลอดในเวลา 9-10 เดือนแบบเด็กทั่ว ๆ ไป


ผลจากหลักฐานส่วนหนึ่งในการหาลำดับจีโนมทั้งหมด
ทีมงานสามารถตัดสินว่า Ata นั้นน่าจะเป็นสายเลือดของชาวชิลี
ด้วยการตรวจลายเซ็นเฉพาะในจีโนมของเธอ
เพราะทีมนักวิจัยได้ใช้ชุดข้อมูลที่แตกต่างกันจำนวนหนึ่ง
โดยรวบรวมจากชาวบ้านถึง 1,000 ราย  
โครงการจีโนมเพื่อค้นหาญาติทางพันธุกรรม
ที่ใกล้ชิดกับเธอมากที่สุด
พบว่ามีปรากฏในบุคคล 3 รายจาก Andean ชิลี


กรอบระยะเวลาของ Ata ยังคงเป็นปริศนา
แม้ว่านักวิจัยพยายามที่จะหาคำตอบในเรื่องนี้
ด้วยการหาปริมาณการย่อยสลายในสารพันธุกรรมของเธอ
เพราะทันทีที่สิ่งมีชีวิตตายลง จุลินทรีย์ สิ่งเจือปน สิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ก็จะเริ่มเกิดขึ้นทันที
ทั้งขึ้นอยู่กับอัตราการย่อย/สลายตัว (จำนวนจุลินทรีย์ สภาพแวดล้อม อุณภูมิบริเวณพบศพ)
อย่างที่ทราบอายุประมาณการมาก่อนหน้านี้
ทีมงานได้ประเมินอายุศพของเธอว่าน้อยกว่า 500 ปีที่ผ่านมา


นักวิจัยได้พบ Ata  ใน La Noria
เมืองที่มีการทำเหมืองแร่ไนเตรต Nitrate
ในศตวรรษที่ 19  เมืองแห่งนี้ถูกทิ้งร้างไป
เรื่องนี้จึงเพิ่มแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ว่า
ผลจากการสัมผัสกับไนเตรตจำนวนมาก/เวลานาน
ส่งผลไปถึงมดลูกของแม่เธอ
ซึ่งอาจจะนำไปสู่การกลายพันธุ์ใหม่
อย่างที่พบเห็น/ค้นพบใน DNA ของเธอ Ata


เรียบเรียง/ที่มา


https://bit.ly/2RlgUYC
https://bit.ly/2sBFA4Q
https://bit.ly/2S99JqJ
https://bit.ly/2UfWzFO



2.



3.



4.



5.



6.



7.



8.

ที่มา  https://bit.ly/2HC0D1N


9.



10.



11.



12.

http://www.internationalgenome.org/


13.

Atacama Desert


14.

Atacama Desert


15.



16.



17.



18.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่