แชร์ประสบการณ์ แท้งสมบูรณ์ตอนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะเพื่อนชาวพันทิพ เราอายุ 31 ปี แต่งงานอยู่กินกับสามีมา 2 ปี และไม่ได้คุมกำเนิด เรากับสามีทำงานอยู่กันละจังหวัดเจอกันแค่วันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น เราตั้งท้องแบบไม่รู้ตัว เพราะว่าประจำเดือนของเราไม่เคยมาตรงตามกำหนด เราเริ่มรู้ตัวว่าท้องก็หลังจากการเดินทางไกลไปศึกษาดูงานกับที่ทำงาน ตอนไปดูงานเราต้องนั่งรถไกลมาก เราเวียนหัว เหงื่อไหลไม่หยุดทั้งที่เป็นรถแอร์ เหนื่อยง่ายมาก แต่เราไม่รู้ตัวว่าเราตั้งท้องนึกว่าตัวเองเมารถ หลังจากกลับมาจากการศึกษาดูงานเรา 2 วันเรารู้สึกว่าตัวเองผิดปกติจึงไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ เราดีใจมาก เรารอคอยมานานมากๆแล้ว เรารีบบอกสามีว่าเราตั้งท้อง สามีเราดีใจมากเขาแทบไม่ให้เราทำอะไรเลย ตั้งใจจะไปตรวจที่โรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น แต่ในคืนนั้นเองเราปวดท้องอย่างรุนแรงและมีเลือดออก เราตกใจมาก สามีเรารีบพาไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ เราแจ้งพยาบาลว่าเราตั้งท้องแต่มีเลือดออก เนื่องจากเป็นหยุดจึงมีแค่หมอเวร ไม่มีหมอเฉพาะทาง แต่หมอเวรก็ดูแลเราดีมาก หมอทำงานตรวจเลือดและตรวจภายใน บอกว่าเราตั้งท้องได้ 8 สัปดาห์ แต่มีเลือดออก เป็นไปได้สองอย่างคือ เด็กกำลังฝังตัวหรือกำลังจะแท้ง เราตกใจมาก เพราะ 8 สัปดาห์คงไม่ใช่เป็นการฝังตัว แต่หมอก็ให้กลับบ้านไม่ให้อยู่ดูอาการ เรารีบบอกพ่อแม่เรา ว่าเราท้องแต่มีเลือดออก พ่อแม่เรารีบพาไปหาหมอที่คลินิคเฉพาะทางในตัวจังหวัด คุณหมอตรวจอัตตร้าซาวด์เจอเด็กยังหัวใจเต้น นั่นเป็นการเจอลูกครั้งแรกของเรา น้ำตาไหลเราบอกหมอว่าทำทุกอย่างให้เขาอยู่กับเรา คุณหมอฉีดยากันแท้งให้เรา 1 เข็ม พร้อมทั้งในเรานอนนิ่งๆ ไม่จำเป็นไม่ต้องขยับตัวและนัดเราอีก 1 สัปดาห์ หลังจากกลับจากคลีนิค 2 วันเลือดก็หยุดไหล เราก็ไปหาหมอตามนัด และเริ่มฝากครรภ์กับคุณหมอที่คลีนิคที่เรารักษาตัว ขณะที่เราท้องเราใช้ชีวิตคนเดียว อยู่คนเดียวไปทำงานด้วยการขับรถเอง ทำอะไรเองทุกอย่าง เราทำงานค่อนข้างหนักไม่ค่อยได้หยุดพัก เรามีอาการท้องแข็งอยู่บ่อยๆ ทั้งๆที่เราถามคนอื่นเขาก็บอกอาการท้องแข็งจะเกิดตอนใกล้คลอดแต่เราเริ่มเป็นตั้งแต่ท้องได้ 12 สัปดาห์ นั่นเป็นอาการผิดปกติแต่เราไม่เคยใส่ใจเลย คิดแต่ว่าตัวเองแข็งแรง ลูกแข็งแรง เพราะเวลาไปตรวจทุกครั้งลูกจะดิ้นดีมากในจอแสดงผล คุณหมอก็นัดเรา 2 สัปดาห์ครั้ง จนอายุครรภ์ได้ 16 สัปดาห์คุณหมอแจ้งว่าไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว คุณหมอจะเปลี่ยนเป็นนัดเรา 1 เดือนครั้ง ซึ่งคุณหมอนัดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2561  เราใช้ชีวิตปกติ เราเดินมาก เดินขึ้นลงบันไดตึกสามชั้นบ่อยๆเราท้องเราไม่เคยนอนกลางวัน กลางคืนเราก็นอนไม่ค่อยหลับ พักผ่อนน้อยงานก็เยอะ และที่สำคัญเราท้องแข็งบ่อยมาก เราเริ่มรู้สึกตัวว่าลูกดิ้นแล้ว เขาเริ่มรับรู้เมื่อเราคุยกับเขา เรียกชื่อเขาเขาจะดิ้นตอบสนองเรา เราคุยกับลูกทุกคืนก่อนนอน เปิดเพลงฟังบ้าง คุยกันบ้างเป็นแบบนี้อยู่ทุกคืน เราเริ่มตั้งความหวังกับเขา ว่าเขาจะออกมาน่ารักเป็นเด็กดีหรือเปล่าตามประสาคนเป็นแม่  วันจันทร์ที่ 19 พ.ย.61 ก่อนวันครบรอบนัดพบกับคุณหมอ 6 วัน เราทำงานตามปกติแต่วันนั้นมีเรื่องให้ต้องเดินบ่อยมาก ท้องเราก็เริ่มแข็ง แต่เราก็คิดว่าแข็งแรงตอนเย็นหลังเลิกงานเราไปซื้อน้ำ 1 แพ็ค เรายกน้ำแพ็คนั้นกลับห้องพักเองเพราะคิดว่าไม่ได้หนักอะไร แค่น้ำแพ็คเดียว ถึงห้องเรากินข้าวอาบน้ำ รีดผ้าเตรียมไว้สำหรับไปทำงานวันอังคาร เราไม่มีอาการใดๆเลยปกติทุกอย่างไม่ปวดท้องไม่ท้องแข็ง แต่มีเลือดออกซึมเล็กน้อยตอนเข้าห้องน้ำ เราตกใจมากรีบโทรบอกพี่ที่พักอยู่ข้างห้องให้พาเราไปโรงพยาบาลเพราะเรามีเลือดออก พี่พาไปที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตอนนั้นเราไม่ได้ปวดท้องเลย เราแจ้งพยาบาลว่าเราท้อง 20 สัปดาห์ แล้วมีเลือดออกแต่ไม่มาก พยาบาลพาเราไปนอนรอคุณหมอเวรอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน เรานอนรอนานมากหมอมาตรวจเราตอนเกือบ 2 ทุ่ม ขณะนั้นเราเริ่มปวดท้อง พยาบาลมาวัดความดัน ความดันเราต่ำมาก จึงให้นอนในห้องฉุกเฉินไปก่อน จนคุณมาหมอเวรมาดูอาการ ซักประวัติถามว่าเราทำอะไรทำไมมีเลือดออก เราก็บอกว่าเราไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ปวดท้องเลย คุณหมอจึงขอตรวจภายใน พอหมอใส่เครื่องมือตรวจภายเลือดไหลออกมาเยอะมากและไหลไม่หยุดเปื้อนไปหมด หมอเองก็ตกใจและบอกว่าปากมดลูกเราเปิด เหมือนเตรียมจะคลอดแล้ว คุณหมอจึงคุยกับเราบอกเราว่าโรงพยาบาลไม่มีเครื่องมือที่จะช่วยเราได้ จึงจะส่งตัวเราไปที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดและบอกว่าเราจะต้องคลอดแล้ว ในหัวเราหนักอึ้งไปหมด เราจะคลอดได้ไงลูกเราเพิ่ง 20 สัปดาห์ เพิ่ง 5 เดือนเอง เรานอนร้องไห้อยู่บนเตียงผู้ป่วย เราทำอะไรไม่ถูก พี่ที่พามาโรงพยาบาลก็ตกใจ พยาบาลเอาเอกสารเยอะแยะมาให้เซ็น เราจึงโทรบอกพ่อแม่เราที่อยู่คนละอำเภอ และบอกสามีเรา คุณหมอเตรียมจะส่งตัวเราไปที่ รพ.ประจำจังหวัด แต่คุณหมอเฉพาะทางได้โทรมาหาหมอเวรแล้วบอกไม่ให้ส่งตัวเราไป เพราะเราอาจจะคลอดระหว่างทาง เสี่ยงมากกลัวจะช่วยเราไม่ได้ คุณหมอเวรจึงสั่งให้เรานอนที่ รพ.นั้น เราขอคุณหมอให้ทำทุกอย่างไม่ให้ลูกเราคลอดออกมาก คุณหมอฉีดยาขยายปอดให้เด็ก ฉีดยายับยั่งการคลอด ซึ่งยาตัวนี้พอฉีดเข้าไปเราตัวสั่นไปทั้งตัว คุณหมอบอกยาค่อนข้างแรงกลัวเราจะรับไม่ไหว แต่เราบอกคุณหมอให้ฉีดเลย เราอยากเก็บลูกไว้ คุณหมอพยายามอธิบายว่าถ้าเด็กคลอดออกมาตอนนี้มีโอกาศที่เด็กจะไม่อยู่กับเราถึง 80 เปอร์เซ็น สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือนอนนิ่งๆ ไม่ขยับตัว ไม่เดิน และอย่าให้น้องคลอดออกมาตอนนี้ สามีและพ่อแม่เรา มาถึงตอน 5 ทุ่ม เรานอนร้องไห้บอกสามีว่าเราจะเอาลูกไว้ เราไม่ให้ลูกไปไหนลูกต้องอยู่กับเรา เราบอกลูกให้สู้ไปกับเรา ให้ลูกอยู่กับเรา คืนนั้นเราไม่ได้นอนทั้งคืน ร้องไห้ตลอด จนวันอังคารเรานอนรอคุณหมอเฉพาะทางจน บ่ายสามโมงเราก็ยังไม่ได้เจอคุณหมอเลย มีพี่พยาบาลมาคุยกับเราว่าเราเหมือนจะคลอดตั้งแต่เมื่อคืนแต่เราก็ไม่คลอดอาจเป็นเพราะยาที่ฉีดให้ และก็ถามเราว่าเราอยากย้ายไปโรงพยาบาลประจำจังหวัดหรือเปล่า เพราะคุณหมอที่เราฝากครรภ์ เขาเป็นอาจารย์หมออยู่ที่ รพ.ประจำจังหวัด เราก็ตอบว่าเราอยากไป เพราะเรานอนรอมา 1 คืนแล้วเรายังไม่เจอคุณหมอเฉพาะทางของ รพ.อำเภอนี้เลย รพ.จึงส่งตัวเราไปที่ รพ.ประจำจังหวัดก่อนเดินทาง คุณหมอบอกว่าเราต้องฉีดยาให้เราอีก 3 เข็ม ยาตัวนี้อาจทำให้เราตัวสั่นอีก เราก็บอกให้หมอฉีดเลยเพื่อลูกเราทนได้  พอไปถึง รพ.ประจำจังหวัดเรานอนรออยู่ห้องฉุกเฉินประมาณ 1 ชั่วโมง มีคุณหมอมาอัลตร้าซาวด์ลูกเรายังหัวใจเต้น เราได้แต่บอกให้ลูกสู้ ให้ลูกอยู่กับเรา พอได้เจอคุณหมอที่เราฝากครรภ์  คุณหมอตรวจภายในแล้วบอกว่าไม่ไหวแล้วคุณแม่ยังไงก็ต้องคลอด ถ้านี้เป็นเมืองนอกอายุครรภ์แค่นี้เอาเอาเด็กไว้ได้ แต่ที่นี้เมืองไทย เราไม่สามารถรักษาน้องไว้ได้ถ้าน้องคลอดออกมาตอนนี้ เราร้องไห้ตลอด บอกลูกแม่ขอโอกาศได้ไหมให้ลูกอยู่กับแม่นะ คุณหมอบอกคุฯหมอจะไม่ฉีดยา จะไม่เหน็บยา ให้เรานอนรอจนกว่าเขาจะคลอดเอง เราได้แต่นอนร้องไห้ ลูกเราดิ้นปกติ หัวใจยังเต้นอยู่ตลอด ผิดแต่ปากมดลูกเราเปิด เราอยู่ รพ.ต่ออีก 2 วันน้องก็ไม่มีวี่แววว่าจะคลอด เราเริ่มใจดีขึ้นคิดว่าลูกคงสู้ไปกับเรา น้องคงอยากอยู่กับเราต่อ เราใช้ชีวิตอยู่บนเตียง รพ. จนวันที่ 22 พ.ย. 61 คุณหมอเวรมาตรวจแล้วบอกเราว่าจะให้เรากลับบ้าน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เราดีใจมาก จะได้กลับบ้านและลูกก็สู้มาก แต่เราก็ค่อนข้างแปลกใจที่อยู่ๆหมอก็จะให้กลับบ้าน พี่พยาบาลที่ดูแลเราก็เดินมาบอกว่าคุณหมอจะให้กลับนะเราอยากกลับไหม หรือจะรอคุณหมอที่เราฝากครรภ์ เราก็ขอให้พี่เขาโทรหาคุณหมอให้เรา และเราได้รับคำตอบกลับมาว่าไม่ให้กลับให้อยู่ดูอาการต่อ เราก็ต้องนอน รพ.ต่อไป สามีเราเฝ้าเราไม่ห่าง ขณะนั้นเป็นเวลาเที่ยงเราก็กินข้าวตามปกติ ทุกอย่าปกติ ไม่มีอาการปวดท้องใดๆเลย สามีเราจึงออกไปกินข้าวนอก รพ. เรานอนอยู่คนเดียวแล้วรู้สึกปวดท้องเหมือนจะเข้าห้องน้ำหนัก เราเลยเดินไปที่ห้องน้ำเอง พอเดินไปถึงห้องน้ำเรากำลังจะนั่งลง เราก็รู้สึกเหมือนมีออะไรหลุดออกมา เราก้มลงไปมองเห็นเป็นลูกใสๆ มีน้ำอยู่ข้างในหลุดออกมา เราจึงเรียกพยาบาล พี่พยาบาลรีบเดินมาดูแล้วบอกเราว่าเป็นถุงน้ำคร่ำ ไม่ต้องตกใจและพาเราเดินกลับมาไปเตียงพอไปถึงเตียงถึงน้ำก็แตก เราตกใจมาก พี่พยาบาลบอกเราว่าเราคงคลอดเเน่นอนวันนี้แล้วละ เราร้องไห้ คิดว่าทุกอย่างดีขึ้นมากแล้ว ทำมันถึงได้เลวร้ายลงขนาดนี้ เราโทรตามสามีให้รีบกลับมา เราจะคลอดแล้วสามีเราตกใจมาก เพราะตอนเช้าถึงเที่ยงเราไม่เป็นอะไรเลย ปกติดีมากๆ ทำไมอยู่ถึงเป็นแบบนี้ เราได้แต่โทษตัวเองว่าเราไม่น่าเดินไปเองเลย พี่พยาบาลก็ปลอบใจบอกเราว่าน้องจะคลอดอยู่แล้วต่อให้เรานอนอยู่เฉยเขาก็คลอดอย่าโทษตัวเอง คุณหมอเวรเดินมาอธิอธิบายอะไรกับเรายาวมากแต่สมองเราไม่รับรู้อะไรแล้ว เรานอนร้องไห้อย่างเดียวถึงน้ำคร่ำแตกตอนบ่ายโมง คุณหมอเวรให้เรานอนรอจนกว่าเด็กจะออกมาเอง ขณะนั่นลูกเราอยู่สูงมากไม่ได้อยู่ในบริเวณเตรียมคลอดที่ท้องด้านล่าง ทำให้ตัวน้องก็ไม่ยอมออกมา เรานอนปวดท้องมีเลือดออกเยอะมาก สามีเราก็ตกใจมากเลือดออกตลอดเวลา เปลี่ยนผ้าปูที่นอนสามครั้งเลือกออกเยอะ พยาบาลก็มาดูมาเจาะเลือกเราตลอด ตอนนั้นค่าความเข็มของเลือดเราต่ำมาก ตัวเราเริ่มซีดและเริ่มไม่รู้สึกตัว นอนอยู่บนกองเลือดอยู่ถึงบ่ายสามโมงพยาบาลบอกว่ามีเลือดออกประมาณ 3 ลิตร คุณหมอที่เราฝากครรภ์ก๋เดินทางมาถึงวันนั้นหมอออกต่างจังหวัดจึงเดินทางมาถึงช้า คุณหมอบอกว่าน้องนอนขวางอยู่จึงคลอดไม่ได้ คุณหมอเริ่มกดท้องเรา เราบอกลูกเราว่าถ้าไม่ไหวก็ไปเถอะลูกแม่ยอมให้ไปแล้ว คุณหมอกดอยู่สองสามครั้ง กดแรงมากและดึงลูกเราออกมาเขาออกมาตอนนั้นเขาเสียแล้วหมอบอกเขาหายใจเองไม่ได้จึงเสีย หลังจากลูกออกมากแล้วเรานอนไม่รู้สึกตัว พยาบาลบอกเราเสียเลือดมาก ค่าเลือดเหลือแค่ 25 ถือว่าเป็นค่าที่ต่ำมาก คุณหมอจึงเร่งน้ำเกลือให้เราก็เราช็อค เรารู้สึกตัวตอน 6 โมงเย็น เราร้องไห้ตลอด ร้องจนตาบวม มันเป็นภาวะที่มีมีความเข้มแข็งเลย เราออนแอร์มาก สามีกอดเราไว้ตลอด เลือดเราก็ยังออกไม่หยุด จนเช้าวันที่ 23 พ.ย.61 คุณหมอมาตรวจความเข้มข้นของเลือด ยังต่ำอยู่มาก เลยจะให้เลือดเรา 1 ถุง นอนนอรอเลือดอยู่ 1 วันเพราะเราเลือกกรุ๊ป AB ไม่มีเลือดใน รพ. ต้องรอเลือดส่งมาจาก รพ.อื่น เรานอนพักฝื้นอยู่ รพ.ต่ออีก เพราะค่าเลือดต่ำ หลังจากการให้เลือดแล้ว ค่าเลือดขึ้นมาแค่ 27 พี่พยาบาลบอกว่ายังต่ำมากอาจารย์หมอมาตรวจก็ยังไม่ให้กลับบ้าน ให้เราพักฝื้นต่อ จนวันที่ 25 พ.ย.61 คุณหมอจึงให้กลับบ้านและให้ลาพักฝื้นอีก 10 วัน เป็นการตั้งท้องที่ทำให้เราดีใจสุดๆ และเป็นความทรมานที่ต้องเจอแบบสุดๆเช่นกัน เป็นประสบการณ์ที่เราจะไม่ลืมเลยในชีวิตนี้ และเราสัญญากับตัวเองว่าถ้าเราตั้งท้องอีกเราจะดูแลเขาให้ดีที่สุด จะไม่ประมาทแบบนี้อีก ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ เราทั้งพิมพ์ไป ทั้งห้องไห้ไป อาจทำให้บ้างเหตุการณ์ไม่ต่อเนื่องกันต้องขออภัยด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่