ทำไมต้องเรา ทำไมต้องธุรกิจเรา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ คำถามพวกนี้วนไปวนมาในหัวผม เริ่มคิดวนไปวนมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561
ผมเป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้างครับ ร้านแบบดั้งเดิมนั่นแหละ ... ผมเรียนจบมหาลัยก็ออกมาช่วยทำธุรกิจที่บ้านเลยครับ ออกมาทำพร้อมกับความคาดหวังของพ่อแม่นั่นแหละ แต่ผมก็ชอบค้าขายมาตั้งแต่เด็กแล้วแหละ ช่วยงานที่ร้านมาตลอด ราวๆปี 2555 ผมเรียนจบออกมาช่วยธุรกิจ ในสถานการณ์ที่ ธุรกิจกำลังไปได้ดี รายได้ 6 หลักปลายๆต่อเดือน (ช่วงหน้าร้อนพีคๆหน่อยบางเดือนก็ 7 หลักนิดๆหน่อยๆ) พร้อมกับหนี้สินก้อนใหญ่ๆกองหนึ่ง ( วงODในธุรกิจของพ่อ 3 ล้านจาก 4 ล้าน , สินเชื่อที่อยู่อาศัย บ้านในหมู่บ้านจัดสรรอีก 6 ล้านจาก 9 ล้าน) ด้วยที่ว่าช่วงนั้น รายได้ดีครับ กำไรต่อเดือนราวๆ 20-40% แต่!!!!!!!!!!!! มันไม่ใช่รายได้แบบเงินสดไงครับ มันเป็น Cr.ของร้านค้า กับ บริษัทรับเหมาก่อสร้างโครงการหมู่บ้าน ซึ่งวางบิลไปเดือนนี้เงินได้คืออีกสองเดือนโน่น เงินที่ได่ในเดือนนี้ก็เป็นเงินของบิลที่วางไปแล้ว 30-45 วัน ซึ่งก็โอเคครับ ธุรกิจมันก็ไปได้ดี มีกำไรไม่ตึงเครียด
ชีวิตมีความสุขเพื่อนๆอิจฉาไม่ต้องออกไปผจญรถติดทำงานอยู่บ้านสบายๆร่ำรวยมีบ้านมีรถพร้อม ก็จริงครับ ตอนนั้นผมผยองมากบอกเลย (ไม่ได้ร่ำรวยหรือจทำตัวอวดรวยอะไรแบบนั้นนะครับ ผยองแบบ ไม่ค่อยสนใจ ประมาณว่าไม่ค่อยเห็นหัวใครอ่ะพูดแบบหยาบๆ) คิดว่าเฮ้ย เลือกถูกทางแล้วกรู ชีวิตนี้เดินถูกสายละ ยังไงซะไอ้วัสดุก่อสร้าง คนมันก็สร้างบ้านหมู่บ้านมันก็ขึ้นเรื่อยๆ ยังไงมันก็ไม่ตันหรอก อยู่ได้ยาวๆมีลูกให้ลูกทำต่อมั่งคั่งร่ำรวยกันสืบไปเลยสบายๆ มองไปโน่นนนน 20 30 ปีละ (ฝันไปไกลเล้ยยย ตอนนั้นแฟนก็ยังไม่มีมองถึงลูกละ 5555) แต่ก็นั่นแหละครับ เวลาผ่านไป 4-5 ปี อะไรๆก็เปลี่ยนไปไวมาก จากบ้านที่สร้างแบบ ก่ออิฐฉาบปูน มันเหลือแต่บ้านระดับหรูๆ บ้านระดับกลางที่ขึ้นเยอะๆมันกลายเป็นบ้านน๊อคดาว(คือมาเป็นแผ่นปูนที่เจาะประตูหน้าต่างไว้ แล้วเอามาวางเป็นทรงบ้านได้เลยไม่ต้องก่อ ใครไม่รู้ก็ไปเปิดอากู๋อ่านเอานะ) รายได้จากเดือนๆนึงเกือบ 7 หลัก มันเหลือแค่ 6 หลักกลางๆ แต่ก็เออ ยังพอทำใจ มันก็ไม่ได้แย่มากหรอก เพราะหนี้มันก็ค่อยๆลดไปละ คชจ.เรื่องนี้มันก็ลงไปเยอะ (ผ่อนบ้านมันลดต้นลดดอกหนะ)
แต่!!!!(แต่ทีไรมีเรื่องตล๊อดดด) ปัญหาก็มาอีก คู่แข่งครับ ยังไม่ใช่คู่แข่งออนไลน์นะ อันนี้มันมาในรูปแบบเจ้าไม่มีศาลครับ บางคนเห็นว่าการขายวัสดุก่อสร้างสมัยนี้ไม่ต้องมีของเยอะแล้ว ไม่ต้องจมทุนมาก (อย่างที่บอก บ้านแบบเดิมก่อฉาบ คุณต้องมีไม้แบบ เหล็กเส้น ของหลายๆอย่างครบเพื่อขาย) มีแค่สินค้าไม่กี่ประเภทคุณก็ขายโครงการได้แล้ว คนก็แห่ หลังไหลมาทำ เช่าที่ริมทาง เอาของมาลงตูมๆ มาที ถนนเส้นนึงมี 5 - 6 ราย ตัดราคากันแบบกำไรหลักบาทสองบาทก็ทำ มันทำให้ ลค.ติดราคาถูก(บางทีราคาถูกของดีก็ดีไป เจอของไม่ดีก็ซวยไป) พอเคยได้ราคานี้ ก็เข้าใจว่านี่แหละราคากลางทุกร้านมันต้องราคานี้ แล้วร้านพวนี้พอขายไม่ดี ค่าเช่าแพงขาดทุน บลาๆ มันก็ไปละครับ ย้ายออก (ร้านทำแบบง่ายๆมุงๆหลังคาสังกะสีทำเพิงเก็บของแบบง่ายๆ) พอออกไป มันมาทำลายราคาเสียไปแล้ว ร้านที่อยู่กันมาแต่เดิมก็ซวยไป โดนเล่นราคาไปซะเละแล้ว
ต่อมาก็ในเรื่องของรูปแบบออนไลน์ ครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยลองนะครับ ลองมาแล้ว แต่ออนไลน์กับ วัสดุก่อสร้างเนี่ย มันไม่ง่ายเท่าไหร่เลย บางทีเคสลูกค้าอยู่แม่ฮ่องสอน จะสั่งไม้(อันนี้ไม่ได้โม้นะเรื่องจริงๆเลย) ละแบบค่าไม้เนี่ยหมื่นกว่าบาท แต่ค่าส่งคงเท่ากับค่าของ -..- ผมลองร่วมกับ App ชื่อดังรายนึง สีเหลืองๆ คือ เข้าใจว่าเค้าก็ทำธุรกิจอ่ะนะ ค่ารายเดือนรายปีก็ไม่ใช่เล่นๆเลย แต่สิ่งที่จะได้มาไม่ใช่การได้มาซึ่งลูกค้า แต่เป็นการได้มาซึ่งระบบบริหาร ความสัมพันธ์กับลูกค้า =..= ครับ คือลูกค้าเก่าฉันก็ดูแลได้แหละ ฉันอยากได้ลูกค้าใหม่ต่างหาก ถ้าอยากอยู่ในกลุ่มที่เขาแนะนำลูกค้าให้(วึ่งไม่รับประกันว่าจะสร้างยอดขายให้เราได้จริงแค่ไหน) ต้องเสียค่าสมาชิกอีกระดับนึง (แบบธรรมดาหลักพัน แบบแนะนำหลักหมื่น) ซึ่งธุรกิจร้านเล็กๆแบบผมคงไม่กล้าทุ่มเงินอะไรขนาดนั้น แต่ก็ยังไม่ได้ยอมแพ้นะครับ ทุกวันนี้ผมเริ่มติดต่อร้านวัสดุก่อสร้างร้านเล็กๆแบบผมนี่แหละ ติดต่อไปเข้าไปคุยราคาสินค้าไว้ก่อน เวลาผมมีลูกค้าหรือไซส์งานของ บ.ลูกค้าที่ไปอยู่โซนนั้นก็ค่อยติดต่อฝากส่งของกันโดยไม่แย่งลูกค้ากัน (อันนี้ลองแล้วเวิคดีครับแต่สำคัญมากครั้งแรกต้องไปเองไปแสดงตัวตนไปคุยพร้อมเอกสารร้านเราให้ชัดเจนครับ) เชื่อว่าถ้า SME รวมใจกันมันก็แข็งแกร่งขึ้นมาได้
อ่ะๆ โม้มาเยอะเลยอ่านมาแล้วหลายๆคนคงคิดอ่าวก็ดีหนิ ไอ้ตอนต้นที่บ่นๆ ทำไมต้องเรา ทำไมต้องธุรกิจเรา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ มันคืออะไรล่ะ อืมมมม นั่นแหละครับ เมื่อปลายปี 2561 การประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ การออกนโยบายวางดาวน์สำหรับบ้านหลังแรก หลังสอง หลังสาม มันทำให่วงการนี้สะเทือนน่าดูครับ(คนอื่นๆผมไม่รู้นะ พอดีผมขายแต่โครงการหมู่บ้านจัดสรร) ลูกค้าผม โครงการสั่งหยุดเอาดื้อๆเลย บอกรอดูสถานการณ์ก่อน คือจากปกติ รายได้ 6 หลักกลางๆ มันเหลือ แค่ต้นๆครับ ยอดตกฮวบฮาบมากมายหนี้สินที่มีมันก็ต้องผ่อนต่อ (ตอนนี้หนี้ทั้งสองส่วนหาร 2 ไปเลยครับลดไปเยอะละ) แต่ก็มานั่งคิดมากอีกตามเคย คือดูทรงแล้วปีนี้คงฟื้นยากอยู่
มันทำให้ผมคิดขึ้นได้ครับ สมัยก่อนเรียนบริหารธุรกิจมา องค์กรต้องวาง Vision Mission ระยะสั้น ระยะยาวถูกสอนมาว่าระยะสั้น 3 ปีระยะยาว 10 ปี อะไรก็ว่าไป แต่ด้วยยุคสมัยนี้ เชื่อเถอะครับ ระยะสั้นมันแค่ 3 4 เดือนอะไรๆก็เปลี่ยนไปเยอะแล้ว ธุรกิจสมัยนี้ความแน่นอนมันสั้นยิ่งนักถ้ามีลูกคงบอกมัน คิดให้ดีก่อนนะ เดี๋ยวนี้ร้านพ่อไม่ได้ขายดีแบบเดิมแล้วลูก 5555
เชื่อว่าหลายๆคนที่มาอ่านคงเป็นเจ้าของร้านวัสดุเหมือนผม รุ่นหนึ่งรุ่นสองก็ว่ากันไป หรือเป็นคนที่อยากมาเริ่มทำธุรกิจ ผมฝากไว้ละกันครับ เดี๋ยวนี้ธุรกิจทำไม่ยากครับ แต่ทำให้ยั่งยืนยากครับ (ร้านผมอยู่มา 30 ปีแล้ว พ่อทำมากับมือ แต่ไม่รู้จะอยู่ได้อีกกี่ปี...) ใครมีอะไรแนะนำแบ่งปันพูดคุยกันเข้ามานะครับ อยากฟังของคนอื่นบ้าง
สู้ๆกันต่อไป ตราบใดที่ยังมีหนี้ 55555
เรื่องเล่าของ SME ร้านวัสดุก่อสร้างรุ่นที่ 2
ผมเป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้างครับ ร้านแบบดั้งเดิมนั่นแหละ ... ผมเรียนจบมหาลัยก็ออกมาช่วยทำธุรกิจที่บ้านเลยครับ ออกมาทำพร้อมกับความคาดหวังของพ่อแม่นั่นแหละ แต่ผมก็ชอบค้าขายมาตั้งแต่เด็กแล้วแหละ ช่วยงานที่ร้านมาตลอด ราวๆปี 2555 ผมเรียนจบออกมาช่วยธุรกิจ ในสถานการณ์ที่ ธุรกิจกำลังไปได้ดี รายได้ 6 หลักปลายๆต่อเดือน (ช่วงหน้าร้อนพีคๆหน่อยบางเดือนก็ 7 หลักนิดๆหน่อยๆ) พร้อมกับหนี้สินก้อนใหญ่ๆกองหนึ่ง ( วงODในธุรกิจของพ่อ 3 ล้านจาก 4 ล้าน , สินเชื่อที่อยู่อาศัย บ้านในหมู่บ้านจัดสรรอีก 6 ล้านจาก 9 ล้าน) ด้วยที่ว่าช่วงนั้น รายได้ดีครับ กำไรต่อเดือนราวๆ 20-40% แต่!!!!!!!!!!!! มันไม่ใช่รายได้แบบเงินสดไงครับ มันเป็น Cr.ของร้านค้า กับ บริษัทรับเหมาก่อสร้างโครงการหมู่บ้าน ซึ่งวางบิลไปเดือนนี้เงินได้คืออีกสองเดือนโน่น เงินที่ได่ในเดือนนี้ก็เป็นเงินของบิลที่วางไปแล้ว 30-45 วัน ซึ่งก็โอเคครับ ธุรกิจมันก็ไปได้ดี มีกำไรไม่ตึงเครียด
ชีวิตมีความสุขเพื่อนๆอิจฉาไม่ต้องออกไปผจญรถติดทำงานอยู่บ้านสบายๆร่ำรวยมีบ้านมีรถพร้อม ก็จริงครับ ตอนนั้นผมผยองมากบอกเลย (ไม่ได้ร่ำรวยหรือจทำตัวอวดรวยอะไรแบบนั้นนะครับ ผยองแบบ ไม่ค่อยสนใจ ประมาณว่าไม่ค่อยเห็นหัวใครอ่ะพูดแบบหยาบๆ) คิดว่าเฮ้ย เลือกถูกทางแล้วกรู ชีวิตนี้เดินถูกสายละ ยังไงซะไอ้วัสดุก่อสร้าง คนมันก็สร้างบ้านหมู่บ้านมันก็ขึ้นเรื่อยๆ ยังไงมันก็ไม่ตันหรอก อยู่ได้ยาวๆมีลูกให้ลูกทำต่อมั่งคั่งร่ำรวยกันสืบไปเลยสบายๆ มองไปโน่นนนน 20 30 ปีละ (ฝันไปไกลเล้ยยย ตอนนั้นแฟนก็ยังไม่มีมองถึงลูกละ 5555) แต่ก็นั่นแหละครับ เวลาผ่านไป 4-5 ปี อะไรๆก็เปลี่ยนไปไวมาก จากบ้านที่สร้างแบบ ก่ออิฐฉาบปูน มันเหลือแต่บ้านระดับหรูๆ บ้านระดับกลางที่ขึ้นเยอะๆมันกลายเป็นบ้านน๊อคดาว(คือมาเป็นแผ่นปูนที่เจาะประตูหน้าต่างไว้ แล้วเอามาวางเป็นทรงบ้านได้เลยไม่ต้องก่อ ใครไม่รู้ก็ไปเปิดอากู๋อ่านเอานะ) รายได้จากเดือนๆนึงเกือบ 7 หลัก มันเหลือแค่ 6 หลักกลางๆ แต่ก็เออ ยังพอทำใจ มันก็ไม่ได้แย่มากหรอก เพราะหนี้มันก็ค่อยๆลดไปละ คชจ.เรื่องนี้มันก็ลงไปเยอะ (ผ่อนบ้านมันลดต้นลดดอกหนะ)
แต่!!!!(แต่ทีไรมีเรื่องตล๊อดดด) ปัญหาก็มาอีก คู่แข่งครับ ยังไม่ใช่คู่แข่งออนไลน์นะ อันนี้มันมาในรูปแบบเจ้าไม่มีศาลครับ บางคนเห็นว่าการขายวัสดุก่อสร้างสมัยนี้ไม่ต้องมีของเยอะแล้ว ไม่ต้องจมทุนมาก (อย่างที่บอก บ้านแบบเดิมก่อฉาบ คุณต้องมีไม้แบบ เหล็กเส้น ของหลายๆอย่างครบเพื่อขาย) มีแค่สินค้าไม่กี่ประเภทคุณก็ขายโครงการได้แล้ว คนก็แห่ หลังไหลมาทำ เช่าที่ริมทาง เอาของมาลงตูมๆ มาที ถนนเส้นนึงมี 5 - 6 ราย ตัดราคากันแบบกำไรหลักบาทสองบาทก็ทำ มันทำให้ ลค.ติดราคาถูก(บางทีราคาถูกของดีก็ดีไป เจอของไม่ดีก็ซวยไป) พอเคยได้ราคานี้ ก็เข้าใจว่านี่แหละราคากลางทุกร้านมันต้องราคานี้ แล้วร้านพวนี้พอขายไม่ดี ค่าเช่าแพงขาดทุน บลาๆ มันก็ไปละครับ ย้ายออก (ร้านทำแบบง่ายๆมุงๆหลังคาสังกะสีทำเพิงเก็บของแบบง่ายๆ) พอออกไป มันมาทำลายราคาเสียไปแล้ว ร้านที่อยู่กันมาแต่เดิมก็ซวยไป โดนเล่นราคาไปซะเละแล้ว
ต่อมาก็ในเรื่องของรูปแบบออนไลน์ ครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยลองนะครับ ลองมาแล้ว แต่ออนไลน์กับ วัสดุก่อสร้างเนี่ย มันไม่ง่ายเท่าไหร่เลย บางทีเคสลูกค้าอยู่แม่ฮ่องสอน จะสั่งไม้(อันนี้ไม่ได้โม้นะเรื่องจริงๆเลย) ละแบบค่าไม้เนี่ยหมื่นกว่าบาท แต่ค่าส่งคงเท่ากับค่าของ -..- ผมลองร่วมกับ App ชื่อดังรายนึง สีเหลืองๆ คือ เข้าใจว่าเค้าก็ทำธุรกิจอ่ะนะ ค่ารายเดือนรายปีก็ไม่ใช่เล่นๆเลย แต่สิ่งที่จะได้มาไม่ใช่การได้มาซึ่งลูกค้า แต่เป็นการได้มาซึ่งระบบบริหาร ความสัมพันธ์กับลูกค้า =..= ครับ คือลูกค้าเก่าฉันก็ดูแลได้แหละ ฉันอยากได้ลูกค้าใหม่ต่างหาก ถ้าอยากอยู่ในกลุ่มที่เขาแนะนำลูกค้าให้(วึ่งไม่รับประกันว่าจะสร้างยอดขายให้เราได้จริงแค่ไหน) ต้องเสียค่าสมาชิกอีกระดับนึง (แบบธรรมดาหลักพัน แบบแนะนำหลักหมื่น) ซึ่งธุรกิจร้านเล็กๆแบบผมคงไม่กล้าทุ่มเงินอะไรขนาดนั้น แต่ก็ยังไม่ได้ยอมแพ้นะครับ ทุกวันนี้ผมเริ่มติดต่อร้านวัสดุก่อสร้างร้านเล็กๆแบบผมนี่แหละ ติดต่อไปเข้าไปคุยราคาสินค้าไว้ก่อน เวลาผมมีลูกค้าหรือไซส์งานของ บ.ลูกค้าที่ไปอยู่โซนนั้นก็ค่อยติดต่อฝากส่งของกันโดยไม่แย่งลูกค้ากัน (อันนี้ลองแล้วเวิคดีครับแต่สำคัญมากครั้งแรกต้องไปเองไปแสดงตัวตนไปคุยพร้อมเอกสารร้านเราให้ชัดเจนครับ) เชื่อว่าถ้า SME รวมใจกันมันก็แข็งแกร่งขึ้นมาได้
อ่ะๆ โม้มาเยอะเลยอ่านมาแล้วหลายๆคนคงคิดอ่าวก็ดีหนิ ไอ้ตอนต้นที่บ่นๆ ทำไมต้องเรา ทำไมต้องธุรกิจเรา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ มันคืออะไรล่ะ อืมมมม นั่นแหละครับ เมื่อปลายปี 2561 การประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ การออกนโยบายวางดาวน์สำหรับบ้านหลังแรก หลังสอง หลังสาม มันทำให่วงการนี้สะเทือนน่าดูครับ(คนอื่นๆผมไม่รู้นะ พอดีผมขายแต่โครงการหมู่บ้านจัดสรร) ลูกค้าผม โครงการสั่งหยุดเอาดื้อๆเลย บอกรอดูสถานการณ์ก่อน คือจากปกติ รายได้ 6 หลักกลางๆ มันเหลือ แค่ต้นๆครับ ยอดตกฮวบฮาบมากมายหนี้สินที่มีมันก็ต้องผ่อนต่อ (ตอนนี้หนี้ทั้งสองส่วนหาร 2 ไปเลยครับลดไปเยอะละ) แต่ก็มานั่งคิดมากอีกตามเคย คือดูทรงแล้วปีนี้คงฟื้นยากอยู่
มันทำให้ผมคิดขึ้นได้ครับ สมัยก่อนเรียนบริหารธุรกิจมา องค์กรต้องวาง Vision Mission ระยะสั้น ระยะยาวถูกสอนมาว่าระยะสั้น 3 ปีระยะยาว 10 ปี อะไรก็ว่าไป แต่ด้วยยุคสมัยนี้ เชื่อเถอะครับ ระยะสั้นมันแค่ 3 4 เดือนอะไรๆก็เปลี่ยนไปเยอะแล้ว ธุรกิจสมัยนี้ความแน่นอนมันสั้นยิ่งนักถ้ามีลูกคงบอกมัน คิดให้ดีก่อนนะ เดี๋ยวนี้ร้านพ่อไม่ได้ขายดีแบบเดิมแล้วลูก 5555
เชื่อว่าหลายๆคนที่มาอ่านคงเป็นเจ้าของร้านวัสดุเหมือนผม รุ่นหนึ่งรุ่นสองก็ว่ากันไป หรือเป็นคนที่อยากมาเริ่มทำธุรกิจ ผมฝากไว้ละกันครับ เดี๋ยวนี้ธุรกิจทำไม่ยากครับ แต่ทำให้ยั่งยืนยากครับ (ร้านผมอยู่มา 30 ปีแล้ว พ่อทำมากับมือ แต่ไม่รู้จะอยู่ได้อีกกี่ปี...) ใครมีอะไรแนะนำแบ่งปันพูดคุยกันเข้ามานะครับ อยากฟังของคนอื่นบ้าง
สู้ๆกันต่อไป ตราบใดที่ยังมีหนี้ 55555