คนจีนกับคนแขก เขาไม่โดนสอนเรื่องมารยาทสังคมหรอครับ ?

ผมไม่ได้เหยีดประเทศนะครับแค่ไม่เข้าใจ  วันนี้ผมมีโอกาสขึ้นเครื่องการบินไทยบินจาก Guangzhou-Bangkok (TG669) พบเหตุการณ์มหัศจรรย์มากมาย เดียวผมไล่เหตุการณ์ที่วันนี้ผมเจอให้ฟังเป็นข้อๆ

1. ผมเจอนายสถานนีที่กวางโจ่ว เป็นคนจีน ดุพวกแขกแบบแย่มาก เสียงดังใส่หน้า แล้วไม่ใช่ดุคนเดียวเจอเกือบทุกราย น่าจะเถียงกันเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเกิน (ดุเฉพาะแขก) ทีแรกผมก็ไม่ค่อยชอบเพราะบริษัทที่เขาทำงานเหมือนเป็นตัวแทนประเทศไทย ดุลูกค้าแบบนั้นไม่ค่อยเหมือนมารยาทคนไทย

2. ระหว่างรอผ่าน ตม ที่จีน แขกครอบครัวแขก ผู้หญิงอยู่หน้าผม แต่ผมเห็นเขาคุยกับแฟนและลูกเขานอกแถว เหมือนผู้ชายกำลังกรอกใบ Departure ให้ผู้หญิงมาต่อแถวก่อน (ในใจคิดต้องมาแซงคนในแถวแน่เลย)  สักพักส่งลูก 2 คนเดินมาก่อนแล้วตัวสามีก็ค่อยๆข้ามคิวมาเรื่อยๆ  ทีแรกผมจะบอกให้เขาไปต่อแถวแล้ว แต่ไมก็ไม่อยากมีเรื่อง สรุปให้เขาแซงหน้าผมไปพร้อมกับ 20 คนที่อยู่ข้างหลังผม (ผมหันไปมองไม่มีคนว่าอะไรเขาด้วย)

3. พอเครื่องขยับออกจาก Gate เตรียมวิ่งไป Runway เพื่อ take off แอร์ก็ปิดห้องน้ำ พอปิดเท่านั้นเระ ผู้หญิงจีนคนแรกจูงมือลูกจะเข้าห้องน้ำ คือมันก็ไม่ควรเพราะตั้งนานไม่พาลูกมาเข้า พอเครื่องบินขยับเท่านั้นแหละ เดินมาเลย แต่ในใจก็ไม่อยากอคติอะไรเพราะเด็กควบคุมไม่ได้ (เด็กประมาณไม่เลย 10 ขวบ)

4. สักพักผู้หญิงคนจีนวัยกลางคนที่สองก็วิ่งไปเข้าห้องน่ำอีก แอร์การบินไทยก็ใจดีบอกรีบๆนะ เครื่องจะขึ้นแล้ว (เขาน่าจะเข้าไปอึ เพราะเขาเป็นคนสุดท้ายที่เข้าห้องน้ำก่อนเครื่องออก แล้วพอเครื่องขึ้นผมเข้าห้องนั้นคนแรกพอดี (ผมนั่งติดห้องน้ำและที่นั่งแอร์เลยเห็นเหตุการณ์หมด)  จะบอกว่าคนนั้นอึแล้วมีเศษอึติดโถ่ด้วย

5. ตอนอยู่บนฟ้าก็ไม่ค่อยมีอะไร ผู้โดยสารเรื่องมากเรื่อง อาหาร น้ำ ก็เป็นเรื่องปกติ ผมว่างานบริการก็คงชินแล้ว แต่พอเครื่องลงเท่านั้นแหละ ยังอยู่บน Runway เสียงปลดเข็มขัดดังทั้งลำ ไม่รู้จะรีบไปไหนกัน บางคนก็เปิดโทรศัพท์เล่นเน็ตเฉยๆ บางคนก็หยิบมาโทร (ส่วนมากเป็นจีน)

6. พอเครื่องหันเข้า taxi เท่านั้นละ แขกผู้หญิงคนแรกลุกขึ้นแล้วจะวิ่งไปข้างหน้าเครื่องเจอแอร์คนไทยดัก จับใจความได้ว่าจะต่อเครื่อง อีก 30 นาที Boarding แอร์บอกให้กลับไปที่นั่งก่อน เดียวลงไปมีเจ้าหน้าที่รับอยู่แล้วเพราะต่อเครื่องการบินไทย (เคสนี้ยังพอทำความเข้าใจได้เพราะกลัวตกเครื่อง)

7. ระหว่างยังอยู่บน Taxi แขกผู้ชายประมาณ 3 คน ก็ลุกขึ้นยืนไปหยิบกระเป๋าแอร์ข้างหน้าผมก็เดินไปบอกให้นั่งลง

8. ระหว่างแอร์ที่นั่งหน้าผมคุยกับแขก 3 คนที่หยิบกระเป๋า เจอคนจีนผู้ชาย อายุเยอะละ 2 คน ลุกขึ้น (อยู่คนละฝั่ง) แอร์เลยตะโกนบอกให้นั่ง เขาก็ไม่นั่งแอร์อีกคนเลยต้องลุกไปคุย

9. พอเครื่องเริ่มขยับเข้ามาใกล้อาคารผู้โดยสาร ทีนี้แหละ มีแขกหลายกลุ่ม จีนหลายครอบครัว ลุกขึ้นหยิบกระเป๋า (เครื่องยังวิ่งอยู่)  เหมือนคนมันลุกเยอะแอร์กับสจ๊วตบอกให้นั่งไม่ไหวละ เพราะน่าจะสัก 20 คนได้ (เฉพาะเท่าที่ผมเห็นนะ ไม่รู้ตอนอื่นเป็นยังไง) เขาเลยเลิกเตือนคงเห็นว่าปลอดภัยแล้วด้วยแหละเพราะจะถึงอาคารผู้โดยสารละ

ผมนะสงสารพนักงานบนเครื่องมากเลย  ต้องมานั่งคุมคนพวกนี้ พูดอะไรก็ไม่ฟัง ชอบทำห้องน้ำเละด้วย (คือก็ไม่เข้าใจทำไมฉี่กับอึมันหลุดมานอกโถ่ได้) แค่นี้แหละครับ 2 ชม ที่สนามบินและ 3 ชมบนเครื่อง  เจอไป 9 ดอก  ไม่รู้ทำไมพวกนี้เป็นแบบนี้ ทีแรก ผมเข้าใจว่าคนนั่งการบินไทยน่าจะมีมารยาทกว่าพวกนั่ง Low cost นะเนื่องจากจ่ายแพงกว่าน่าจะมีกำลังซื้อมากกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ที่คุณ จขกท เล่ามา เราทั้งขำ ทั้งสงสารคุณ

คุณเล่าได้ฮาออกแนวรันทดดี เห็นภาพเลย

//

ที่คุณเล่ามาทั้งหมดเนี่ย เป็นเรื่องปกติของไฟล์ทจีน ไฟล์ทแขก บางเส้นทางนะ

เจอบ่อยๆ แล้วคุณจะชินไปเอง

//

แต่คุณลองไปถามลูกเรือการบินไทยหลายๆ คนดูสิ เขาชอบทำไฟล์ทจีน ไฟล์ทแขกนะ

เพราะ ผดส อาจจะโกลาหลเหมือนจับปูใส่กระด้งสักหน่อย แต่เขาไม่เรื่องมากนะ

เรายืนยัน

//

การเดินทางในแต่ละไฟล์ท ในแต่ละเส้นทาง แต่ละเวลา ของแต่ละสายการบิน
คือ มันจะมีธรรมชาติเฉพาะตัวของมันอยู่นะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของธรรมชาติของผู้โดยสารชาติต่างๆ

//

ส่วนตัว ในบางเส้นทาง เราชอบบินไฟล์ทที่เจอทัวร์จีนนะ

เพราะถ้าเรานั่งชั้นประหยัด ถ้าเจอทัวร์จีนเนี่ย เราจะได้อัพเกรดไปนั่งชั้นบิสซิเนส คลาส เสมอ

แล้วเวลาไปรอบอร์ดดิ้งที่เกท ไปดูทัวร์จีนก็สนุกไปอีกแบบ คือ เค้าตะโกนคุยกันหัวเกทท้ายเกท

แรกๆ เจอ  นึกว่าเขาทะเลาะกัน

//

เรากับทัวร์จีนเนี่ย เราไม่รังเกียจพวกเขานะ เพราะสำหรับพวกเขา ในกลุ่มที่เป็นชาวบ้านหน่ะ หลายๆ สิ่งที่พวกเขาทำ
มันเกิดจากความไม่รู้ ความไม่เคยนั่นเอง

ไม่ว่าเราจะไปไหน เราเจอทัวร์จีนบ่อยมากกกกกกกกกกก

เพราะในแต่ละเมืองที่เราต้องไปบ่อยๆ ทัวร์จีนนิยมไปกันมาก หรือ แม้แต่ในกรุงเทพฯ เราเจอทัวร์จีนเสมอ

เวลาที่มีโอกาส เราชอบคุยกับพวกเขา

หลายๆ คนเนี่ย พูดภาษาอังกฤษได้ บางคนที่เราเจอมาก็เป็นนักเรียนนอก เป็นข้าราชการ

เวลาที่เราเจอพวกเขาที่คิวตรวจรักษาความปลอดภัยที่สนามบินสุวรรณภูมิ เราก็ชอบยิ้มให้พวกเขานะ ถ้าเขามองเรา

บางคน พอเรายิ้มให้ เขายิ้มตอบ แล้วทักเราล้งเล้งเลย

บางคนก็มีเตือนเพื่อนในกรุ๊ปเดียวกัน ว่าไม่ให้แซงคิวเราด้วย ☺️😄😄

//

สมัยก่อน สมัยที่ทัวร์จีนเพิ่งออกเที่ยวใหม่ๆ เราก็กลัวนะ มีรำคาญบ้างอะไรบ้าง
แต่พอเจอบ่อยๆ จะรู้เองว่า พวกเขาไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร

//


(ที่เล่ามานี่ คือเราเดินทางมานาน เดินทางสม่ำเสมอทุกเดือน เดินทางหลายเส้นทาง และ ใช้บริการหลายสายการบิน
เป็นผู้โดยสารที่ใช้บริการทุกคลาส ไม่ว่าจะชั้นประหยัด ชั้นธุรกิจ ชั้นเฟิสท์

จึงมีโอกาสได้เห็น พฤติกรรมของผู้โดยสารชาติต่างๆ มาเยอะ รวมไปถึงพฤติกรรม และ สไตล์ในการทำงานของลูกเรือ(แอร์, สจ๊วต)
ชาติต่างๆ ด้วย )



_____________



# แวะกลับมา *Edit* เพิ่มเติม …

ขอขอบคุณเพื่อนๆ สมาชิกฯ ที่เห็น คห ของเรามีประโยชน์ และ กดโหวต กดถูกใจ หรือ กดทึ่ง ให้

ไหนๆ คห นี้ ก็ขึ้นไปค้างอยู่บนจอสีชมพูแล้ว

เราก็จะมาขอเล่าต่อนะ

คือ ก่อนหน้านี้ ที่ข้อความข้างบน เราได้พูดถึงคนจีนไปแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดถึงคนแขก

//

เราเป็นคนไทยอีกคนหนึ่ง ที่บ่อยครั้ง ต้องใช้ชีวิตอยู่ในดงแขก ทุกสถาบันแขก

ปท แขก เมืองแขก ก็ไปมาแล้วหลายเมือง หลาย ปท ดีลกับคนแขกมาแล้วทุกสัญชาติแขก

เรามองคนแขกแบบแนวบวก และ ไม่ได้ตั้งธงรังเกียจเอาไว้ก่อน แบบที่คุณ คห 9-1 ที่ข้างล่างกล่าวไว้ เช่นกัน

//

ทุกๆ คนแขก มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแขกอินเดีย แขกบังคลาเทศ แขกศรีลังกา แขกเนปาล แขกภูฏาน แขกปากีสถาน
แขกตะวันออกกลาง แขกแอฟริกาเหนือ แขกแถบเมดิเตอร์เรเนี่ยน

แขกสิงคโปร์ (คนแขกที่เกิดและโตในสิงค์ฯ) แขกมาเลเซีย (คนแขกที่เกิดและโตในมาเลเซีย) แขกเคนย่า (คนแขกที่เกิดและโตในเคนย่า)
แขกแอฟริกาใต้ (คนแขกที่เกิดและโตในแอฟริกาใต้)

หรือ แขกที่มาจากอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย

ดังที่กล่าวยกตัวอย่างมานี้ เป็นต้น

ดีลมาด้วยหมดแล้ว เจอมาหมดแล้ว แทบจะทุกสถาบันแขก

//

จะบอกให้ว่า การดีลกับแขก โดยเฉพาะแขกอินเดีย คือ คุณต้องเข้มแข็งมาก ต้องมีจุดยืน ต้องเด็ดเดี่ยว เด็ดขาด ชัดเจน

คนไทยส่วนใหญ่จะแพ้ทางแขก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ปากหนัก มีอะไรไม่พูด ขี้เกรงใจ ขี้ตกใจ ขี้ใจเล็กใจน้อย ขี้กลัว
ระบบความคิดซับซ้อน (ซับซ้อนแบบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และ ในหลายๆ กรณี คือคิดซับซ้อนในทางลบด้วย) เป็นต้น

แต่สำหรับเรา อาทิเช่น  เวลาเดิน แขกจะแหวกทางให้

หรือ ถ้าเคยดีลกันแล้วจะไม่กล้ามาวุ่นวาย ไม่กล้ามาตุกติกกับเรา ไม่กล้าลองของ ไม่กล้างองแงกับเรา แต่จะสงบเสงี่ยม พูดจารู้เรื่องขึ้นมาทันที
และ ทำงานดีขึ้นมาทันตาเห็น

หรือ เดินกันทางใครทางมัน

แล้วขอให้จำเอาไว้ว่า คนแขกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะแขกอินเดีย เขาจะรักษาคอนเน็คชั่นเอาไว้เสมอ

หรือ คนแขกอินเดียจะตีมึนเก่ง แถเก่ง เถียงเก่ง ไล่ต้อนไม่จนมุมหรอก จะไม่ยอมรับผิด แต่ในขณะเดียวกันเขาจะปรับปรุงตัว ทำให้เป็นที่พอใจ
คือเขาทำดีๆ เป็น แต่ถ้าไม่จำเป็นเขาจะไม่ทำ และ คุณเองจะเป็นฝ่ายที่ถูกเขาเอาเปรียบ เพราะฉนั้นกับคนแขกอินเดีย คุณต้องเด็ดขาด ชัดเจน


อันนี้จากประสบการณ์ในการดีลกับแขกอินเดียของเราในหลายระดับ

คนอินเดียหนึ่ง คนจีนหนึ่ง คนเวียตนามหนึ่ง คนพวกนี้ขยันทำมาหากิน ค้าขายเก่ง คนตะวันออกกลางบางชาติ คนแอฟริกาเหนือบางชาติด้วย
คนพวกนี้อดทน ต่อสู้ชีวิตเก่ง

คนแต่ละชาติหน่ะ ถ้ารู้ระบบความคิดเขา รู้วัฒนธรรมเขา รู้ประวัติศาสตร์เขา รู้ประเพณีเขาบ้าง รู้จักสังคมของเขาบ้าง
ดีลด้วยไม่ยากหรอก ถ้ารู้ทางกัน และ มองเขาอย่างเข้าใจ โดยที่มองมาจากข้างบน มองแบบสังเกตการณ์
ไม่ใช่มองจากระดับเดียวกันนะ



เล่าแค่นี้พอ เจ็บคอแระ แค็กๆๆ ไอกระด็อกกระแด็ก ☺️😁😄
ความคิดเห็นที่ 35
นานาสงสัยขอมาแชร์ให้ฟังนะ... แต่เราขอพูดในส่วนของคนจีน  เนื่องจากเราย้ายมาอาศัย/ทำงานอยู่ที่ประเทศจีนมา 6ปีกว่าๆ แล้ว
การที่คนไทยส่วนหนึ่งไป judge คนจีนว่าไม่มีมารยาท/ไร้มารยา/มารยาทต่ำไม่ดี หรืออะไรก็แล้วแต่  ของแชร์กันไว้นะคะว่า
คนจีนเขาไม่มีการพูด/อบรมณ์เรื่องของการวางตัวในสังคมในที่สาธารณะ ว่าใครต้องพูดน้ำเสียงยังไงให้ จะต้องทำกริริยาท่าทางแบบไหน
ถึงได้เรียกว่า"มีมารยาท" คือเค้าไม่ได้มีการประพฤติปฏิบัติตรงนี้ แต่ทุกคนจะใช้ชีวิติในแบบที่ตนเองอยากทำ โดยถือเป็นสิทธิ/กิจวัตรของเค้า
สมัยแรกๆเราก็ทำใจไม่ได้ ทำใจลำบาก ยิ่งเวลาต้องออกไปทานข้าว/ไปงานเลี้ยง/ร่วมเดินทางกันคนจีนที่บริษัท เราจะเจออะไรต่อมิอะไร
ที่คิดว่า "ถ้าเป็นที่ไทยจะไม่ทำกิริยา-มารยาทแบบนี้แน่นอน" แต่นั่นแหละ เราไปเปลี่ยนอะไรเขาไม่ได้ จนถึงจุดนึงที่พยายามเปิดใจและ
มองอะไรให้กว้าง ถึงได้รู้ว่าคนบ้านเขาแค่ใช้ชีวิตในแบบที่เขาอยากให้นั่นเอง ไม่ได้มาประดิษฐ์ประดอยอะไรเวลาอยู่ในสังคน (จุดที่มีคนเยอะๆ)
ยิ่งถ้าเป็นคนจีนรุ่นสมัยก่อนๆเนี่ยจะทำแบบไม่สนใครเลย เพราะเขาใช้ชีวิตกันมาแบบนั้นเป็นธรรมนองคลองธรรมมาตลอด  แต่พวกคนจีนรุ่นใหม่
พวกคนกลุ่มใหม่(ที่ไปร่ำเรียนเมืองนอก) ก็จะมีคนที่รู้จักการวางตัวในสังคมที่ดีขึ้นบ้าง บางคนก็วางตัวได้ดีเลย **ไม่ใช่เป็นกันทุนคน

แต่มีหนึ่งสิ่งที่เราประทับใจคนบ้านเขาคือ ความจริงใจ ไม่เฟค... อะไรชอบเขาก็ชอบ อะไรไม่ชอบเขาก็จะไม่สนใจไม่ใส่ใจ  
ไม่มาประดิษฐ์ปั้นหน้าอย่าง แต่ลับหลังมาทำอีกอย่าง... อ่อ ที่สำคัญ คนจีนส่วนใหญ่ชอบ, ประทับใจคนไทยและประเทศไทยมาก
ทุกที่เราไป ไม่ว่าจะเป็นตลาด สถานที่ท่องเที่ยว บ้านเพื่อน เวลาเขาถามไถ่ว่าเป็นคนที่ไหน พอเราตอบไปว่าเป็น ไท่กั๋ว... เขาจะยิ้มปรี่ยินดีมาก
ที่ได้เจอคนไทย  อย่างไปตลาดพวกพ่อค้าแม่ค้าจะชอบลดราคา แถมของให้เราตลอด  ไปเที่ยวบ้านเพื่อน..พ่อ/แม่เขาก็มาสอนการใช้ตะเกียบ
พอเห็นเราใช้ตะเกียบเก่ง (คีบถั่วมาทานได้) เข้านี่ปรบมือยิ้มหัวเราก็แบบสนุกสนานมาก ^^"

เคยมีเห็นการณ์ครั้งหนึ่ง ที่ได้ขึ้นแท็กซี่ แล้วลุงคนขับก็ขอซื้อเงินไทย/แบงค์ไทยจากเรา เขาบอกว่าอยากได้มาก เป็นแบงค์หรือเป็นเหรียญก็ได้
เขาอยากได้มาก  เพราะ "บนเงินของคนไทยมีรูปกษัตริย์อยู่....ประเทศของเขาไม่เคยมีเงินแบบนี้ เขาอยากได้มาก ช่วยขายให้เขาเถอะ"
ตอนนั้นเราพกแค่แบงค์ร้อย กับแบงค์ 50บาท เป็นธนบัตรไทยแค่2ใบในกระเป๋าเท่านั้นจริงๆ พอเราหยิบให้เค้า....คนขับก็ถึงกับแวะจอดข้างทาง
พูดขอบใจเราหลายต่อหลายครั้งเลย  โดยเฉพาะแบงค์ 50บาทเนี่ย เค้าชื่นชมว่าสีสวย สวยมากๆ  
คนเราจะมองอะไร ก็อยากให้คิดว่า เราควรต้องเปิดทัศนคติมองอะไรให้กว้างจริงๆ กว้างกว่ามุมมองเพียงด้านนึงของตัวเรานะ  
เพราะจุดที่เรายืนมองอยู่....มันอาจจะไม่ได้เห็นอะไรรอบด้านได้หรอกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 5
ในสายตาคนอื่น มี 3 ชนชาติที่คนเขาไม่ค่อยชอบมมารยาทที่เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว

จีน ไทย อินเดีย

เข้าใจตรงกันนะ
ความคิดเห็นที่ 14
Keep calm and stop racism.
ความคิดเห็นที่ 1
อ่านเรื่องของคุณแล้วต้องเตือนตัวเองว่า พยายามเลี่ยงที่นั่งติดห้องน้ำ ถ้าต้องบินร่วมกับผู้โดยสารจีนและแขกเพี้ยนแหวะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่