จากการไปพบหมอตามนัดครั้งที่แล้ว ทำให้ผมได้ใบนัดพบหมอวันที่ 24 มกราคม 2562 อีกครั้งเพื่อตรวจติดตามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง ต้องปรับอะไรบ้าง อาการดีขึ้นหรือเปล่า
ep.1 >>
https://ppantip.com/topic/38383640
ไปศรีธัญญากันเถอะ ชาวไบโพเลี่ยน
ep.2 >>
https://ppantip.com/topic/38444283
42 วันของการเป็นไบโพเลี่ยน (พร้อมอัพเดตพบหมอ)
แต่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ผมต้องไปทำงานที่ ตจว. วันที่ 20-31 มกราคม 62 ต้องแย่แน่ๆเพราะยาจะหมดวันที่ 23 (เท่ากับจะต้องขาดยา 8 วัน) และผิดนัดหมอที่จะตรวจติดตามอาการของผมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องใหญ่โตทีเดียวสำหรับการรักษา และต้องทำให้ผมมาเขียนเล่าประสบการณ์การรักษาของผมเร็วกว่าเดิม แต่ก็ดีใจที่ได้เจอกันเร็วขึ้น (^o^)
ทำอย่างไร!?
1.บิดเลย! กลับมาค่อยว่ากัน (ไม่แนะนำ แหะๆ)
2.โทรเลื่อนนัด
ผมเลือกข้อ 2 ครับ เมื่อวาน (17 มกราคม 62) ตัดสินใจโทรเลื่อนนัด (มีเบอร์และเงื่อนไขการเลื่อนอยู่ในใบนัดครับ) เอาเป็นว่าสรุปการสนทนาให้อ่านเลยนะครับ เพราะเจ้าหน้าที่ส่งไม้ต่อกันสามคน (คุยไม่รู้เรื่อง)
ผม : ขอเลื่อนนัดครับ จาก 24 มกราคม เป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ได้ไหมไหมครับ เพราะผมต้องไป ตจว. 20-31 มกราคม
เจ้าหน้าที่ : ขอเลขทั่วไปของผู้ป่วยด้วยครับ
ผม : มันคืออะไรครับ...(-_-“)
เจ้าหน้าที่ : อยู่ด้านขวาบนใบนัดนะครับ ขึ้นด้วย HNแล้วก็ตัวเลข
ผม : แป็บนะครับ.... อ่อ HNxxxxxx ครับ
เจ้าหน้าที่ : แต็กๆๆๆๆ (พิมพ์ข้อมูล) ...เป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ไม่ได้นะครับเพราะจะขาดยาไม่ได้เลย ถ้าอย่างนั้นต้องมาก่อนนัดครับ ผมนัดให้เร็วที่สุดคือวันที่ 22 มกราคม ครับ
ผม : ผมมีงานด่วนจริงๆครับ ผมออกเดินทางวันที่ 20
เจ้าหน้าที่ : งั้นคุณมาวันที่ 18 มกราคม ได้ไหม แล้วให้พบหมอคนอื่นไปก่อนเพื่อรับยาให้ครบวัน
ผม : ได้ครับ ขอบคุณมากครับ
.......................................
วันนี้ 18 มกราคม 2562 ครบ 50 วันที่เข้ารับการรักษาโรคไบโพลาร์
มาถึงก็เอาใบนัดยื่นเพื่อรับบัตรคิวแล้วบอกเหตุผลการมาก่อนนัด จากนั้นทำตามขั้นตอนเดิมเหมือนที่เคยมา วัดความดัน ช่างน้ำหนัก แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ “น้ำหนัก” ครับ
-มาครั้งแรก 76 กิโลกรัม
-ครั้งที่สอง 80 กิโลกรัม!!!
-ครั้งที่สาม 82 กิโลกรัม!!!!!!!!
อาจเป็นเพราะผลกระทบจากยาที่ทำให้เรากินเยอะขึ้น เยอะขึ้นมากๆ
มาครั้งนี้ต้องรอนานหน่อยเพราะเรามาแบบผิดนัด (มาก่อนนัด) สักพักก็ได้คุยกับแผนกคัดกรองเพื่อกรอกรายละเอียดอาการและความต้องการก่อนที่จะไปพบหมอ(แต่เป็นหมออีกคนไม่ใช่หมอเจ้าของไข้) ซึ่งไม่ต้องห่วงเพราะว่าโรงพยาบาลเขามีข้อมูลของเราอยู่แล้ว ไม่ต้องกล้วว่าจะต้องเริ่มใหม่ หมอคนประจำได้บรีฟเคสของผมให้หมอคนนี้ก่อนด้วยครับ เลยไม่ยาก
พอเข้าห้องตรวจ
หมอ : สวัสดีจ้าาา
ผม : สวัสดีครับ
หมอก็ซักถามอาการตามปกติเหมือนครั้งก่อน
ผม : อาการที่เพิ่มมาคือนอนไม่หลับครับ
หมอ : มีตื่นกลางดึกไหม
ผม : มีครับ 2-3 ครั้ง....ในคืนเดียวนะครับ เป็นที่ลักษณะงานด้วยครับบางวันเข้างานเช้าต้องตื่นตีห้า บางวันก็เข้างานเย็นแล้วเลิกดึก
หมอ : แสดงว่ายาทำอะไรคุณไม่ได้เลย 555555 ใช่ๆ พฤติกรรมการนอนก็มีส่วน มันไม่ปกติเนอะ
ผม : (“-..-)....(ครับ)
หมอ : เห็นบอกตรงคัดกรองว่ามีกล้ามเนื้ออ่อนแรงด้วยใช่ไหม ไหนยื่นแขนให้หมอดูหน่อย (พร้อมยืดแขนตรงสองข้างทำเป็นตัวอย่าง)
ผม : ยื่น (ระริกๆๆ)
หมอ : โหสั่นมากเลย
ผม : เป็นตะคริวบ่อยมากด้วยครับช่วงนี้
หมอ : โอเค มีพูดจาสลับหน้าหลังไหม
ผม : มีครับ เป็นบางครั้ง แล้วก็เรียบเรียงคำพูดไม่ถูก
หมอ : นอนก็ไม่หลับ พูดจากไม่รู้เรื่องอีก 555555 ปรับยาให้ยากจังเลย 5555
ผม : (“-..-)....(หมออารมณ์ดีจังวะ)
หมอ : ปกติกินยากี่โมงคะ
ผม : 2-4 ทุ่มครับแล้วแต่เวลาเลิกงานตอนไหนครับ
หมอ : นี่ก็เป็นส่วนนึงนะ กินยาไม่ค่อยตรงเวลา งั้นเอางี้ กินยาให้ตรงเวลาไปเลย ตอนสองทุ่ม 1 ครั้ง แล้วหมอเพิ่มตอนเช้าแปดโมงเช้าอีก 1 ครั้ง ตอนเช้าจะได้ดีดๆหน่อย พูดจาจะได้รู้เรื่อง 55555
ผม : (“-..-)....(หมอดีดจังวะ) ครับขอบคุณครับ
หมอ : หมอก็พูดขำๆไปงั้นแหละนะ 555
หมอพูดพร้อมเขียนใบสั่งยาให้เสร็จสรรพ แล้วนัดวันอีกครั้ง หลังจากกลับจาก ตจว.
-รับใบนัด+ใบสั่งยา
-ส่งใบสั่งยา+รอจ่ายเงิน (ครั้งนี้ค่าใช้จ่าย 850 บาท)
-รอรับยา แล้วกลับบ้านได้
สรุปหมอให้ยาตัวใหม่มาเหมือนจะกินยาน้อยลงกว่าเก่าด้วย แล้วให้หยุดยาเก่าทั้งหมด ผ่าม!!! (-..-“)!
อันนี้รูปยาเก่าที่ต้องกินก่อนนอนวันละเท่านี้
ส่วนยาใหม่ที่ได้วันนี้มี 2 เวลา คือ
ยากินหลังอาหารตอน 8 โมงเช้า
1.Lamotrigine 25 mg (ครั้งละครึ่งเม็ด) ใช้รักษาโรคลมชักทั้งในผู้ใหญ่และในเด็กที่มีมากกว่า 12 ปีขึ้นไป และใช้รักษาอาการทางจิตประสาทประเภท Bipolar disoder
ผลข้างเคียง : คลื่นไส้ ปวดศรีษะ เหนื่อยง่าย วิงเวียน ตัวสั่น สับสน อาจเกิดภาวะจิต/ประสาทหลอน ตาพร่า ตลอดจนมีอาการปวดหลัง
2.Sertraline 50 mg (ครั้งละครึ่งเม็ด) ใช้รักษาอาการซึมเศร้า บำบัดอาการย้ำคิดย้ำทำ บำบัดอาการตื่นตระหนก รักษาอาการผิดปกติหลังได้รับความสะเทือนใจ รักษาอาการกังวลต่อการเข้าสังคม
ผลข้างเคียง :
- มีภาวะนอนไม่หลับหรือเกิดภาวะซึมเศร้ามากขึ้น รวมถึงเกิดภาวะอยากทำร้ายตนเองหรือคิดฆ่าตัวตาย
- ก่อให้เกิดอาการวิงเวียน ง่วงนอน ปวดศีรษะ เกิดภาวะตัวสั่น เกิดลมชัก รู้สึกสับสน
- เจ็บหน้าอก ชีพจรเต้นผิดปกติ มีอาการบวมตามมือ-เท้า ความดันโลหิตสูงหรือไม่ก็ต่ำ หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- เกิดอาการท้องเสียหรือท้องผูก ปากแห้ง คลื่นไส้ ปวดท้อง เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่อักเสบ ลิ้นเป็นแผล เลือดออกในทางเดินอาหาร
- ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
- ทำให้สมรรถนะทางเพศของบุรุษถดถอย/นกเขาไม่ขัน
- เกิดสิว ผื่นคัน เหงื่อออกมาก ลมพิษ
- เกิดภาวะโลหิตจาง รวมถึง เม็ดเลือดขาวต่ำ เม็ดเลือดทุกชนิดต่ำ) และ เกล็ดเลือดต่ำ
- ทำให้เอนไซม์การทำงานของตับเพิ่มสูงขึ้นในเลือด ตับทำงานผิดปกติ/ตับอักเสบ
- การมองเห็นผิดปกติ เห็นภาพไม่ชัดเจน ปวดตา รูม่านตาขยาย
- คอหอยอักเสบ คัดจมูก มีอาการหาวบ่อย
ยากินก่อนนอนตอน 2 ทุ่ม
3.Valproate (Depakine chrono) 500 mg (ครั้งละ 1 เม็ด) อันนี้ยาตัวเก่าแต่ปรับขนาดลงจาก ครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง ใช้รักษาและป้องกันโรคอารมณ์สองขั้ว และการแปรปรวนของอารมณ์ ใช้รักษาอาการของโรคลมชัก ใช้ป้องกันอาการโรคไมเกรน
ผลข้างเคียง : เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หิวบ่อย น้ำหนักเพิ่ม ตากระตุก วิงเวียน อ่อนเพลีย จิต/ประสาทหลอน
4.Quetiapine (Seroquel) 25 mg (ครั้งละ 1 เม็ด) อันนี้ยาตัวเก่าแต่ปรับขนาดลงจาก 50 mg ครั้งละ 2 เม็ด ใช้บำบัดอาการโรคจิตเภท รักษาโรคไบโพลาร์/อารมณ์สองขั้ว รักษาอาการซึมเศร้า
ผลข้างเคียง :
- มีภาวะตัวสั่นของร่างกาย ง่วงนอน วิงเวียน วิตกกังวล อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น รู้สึกสับสน เดินเซ การคิดช้าลง
- ปากแห้ง ท้องผูก อาเจียน อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร มีน้ำลายมาก ท้องอืด กระเพาะอาหารอักเสบ
- หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นผิดจังหวะ
- น้ำหนักตัวเพิ่มหรือไม่ก็ลดคอเลสเตอรอลในเลือดสูง มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
- เกิดผื่นคัน มีสิว สีผิวซีดลง
- เกิดการติดเชื้อเช่น ปอดบวม
- การมองภาพผิดปกติ ตาแห้ง ปวดตา และเกิดต้อหิน
- เกิดอาการประสาทหลอน อยากทำร้ายตนเองหรือคิดฆ่าตัวตาย
5.Clonazepam (Prenapril) 2 mg (ครั้งละ 1 เม็ด) ใช้บำบัดป้องกันการเกิดลมชักทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ ใช้บำบัดอาการโรคแพนิค/ภาวะตื่นตระหนกในผู้ใหญ่
ผลข้างเคียง :
- โลหิตจาง เกิดภาวเม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophil ในเลือดสูง และมีเลือดออกใต้ผิวหนัง/ห้อเลือด
- ท้องผูกหรือไม่ก็ท้องเสีย เบื่ออาหาร ปวดท้อง ปากแห้ง เกิดแผลที่เหงือก
- วิงเวียน กระสับกระส่าย เดินเซ สติปัญญาลดลง ความจำด้อยลง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดศีรษะ หนังตากระตุก พูดไม่ชัด
- ชีพจรเต้นเร็ว เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดปกติ หน้าแดง หลอดเลือดดำที่ขาอักเสบ(หลอดเลือดอักเสบ)
- ค่าเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดสูงขึ้น และอาจมีภาวะตับโต
- ผมร่วง เกิดผื่นคัน เกิดสิว ลมพิษ รู้สึกแสบร้อนที่ผิวหนัง
- เกิดโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะลำบาก/ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อย เลือดออกจากท่อทางเดินปัสสาวะ/ปัสสาวะเป็นเลือด
- เบื่ออาหาร ร่างกายขาดน้ำ/ กระหายน้ำ/ภาวะขาดน้ำ น้ำหนักตัวเพิ่มหรือไม่ก็ลด โรคเกาต์ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดหลัง ปวดขา ปวดคอ ปวดข้อ เป็นตะคริวที่ขา ตาพร่า
- เซื่องซึม สับสน ประสาทหลอน ก้าวร้าว อยู่ไม่สุข วิตกกังวล นอนไม่หลับ ฝันร้าย มีความรู้สึกอยากทำร้ายตนเอง
- เกิดโรคติดเชื้อที่ช่องทางเดินหายใจส่วนบน ไซนัสอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ ไอ หลอดลมอักเสบ
.......................................
ผมมองว่าผลข้างเคียงของยามันไม่ได้เกิดทุกอย่างกับทุกคนนะ เฉพาะของผมที่เกิดผลข้างเคียงชัดเจนเลย (จากตัวยาเก่าที่ทานมา) คือ
ปวดศรีษะ เหนื่อยง่าย วิงเวียน ตัวสั่น สับสน ง่วงนอน สับสน เซื่องซึม อยู่ไม่สุข วิตกกังวล นอนไม่หลับ ฝันร้าย กระหายน้ำ หิวบ่อย น้ำหนักตัวเพิ่ม เกิดผื่นคัน กล้ามเนื้ออ่อนแรง พูดไม่ชัดสลับไปมา ตาพร่า ตาแห้ง ปวดตา ท้องผูก สมรรถนะทางเพศของบุรุษถดถอย (นกเขาไม่ขัน T^T)
ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆขอบอกว่าไม่รู้ครับตรวจไม่เป็น พวกเม็ดเลือดต่ำ จิตหลอน หัวใจเต้นผิดปกติ หลอดเลือดดำที่ขาอักเสบ ใครจะรู้วะ (-..-")
ถึงนกเขาจะไม่ขัน เอ้ย! ถึงจะรักษาด้วยหมอคนละคนกัน แต่เจตนาของหมอก็คือรักษาโรคครับ
อยากให้เพื่อนพี่น้องที่เป็นอยู่ทั้งไบโพลาร์ ซึมเศร้า ย้ำคิดย้ำทำ หรือโรคอื่นๆมีกำลังใจสู้ ผมเขียนกระทู้นี้เพื่ออยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเป็นกำลังใจอีกหนึ่งกำลังใจ ว่ายังมีคนสู้อยู่ตรงนี้ 1 คน คุณก็ต้องสู้ด้วย อย่าท้อแท้นะครับ อ่อ แล้วถ้าไม่มีเหตุจำเป็นอย่าขาดยานะครับ โทรไปเลื่อนเขาได้ เขาก็พยายามแก้ปัญหาให้เราจนได้ครับ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ และหมอๆด้วยครับ สู้!!!
เจอกันอีกทีวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 ครับ (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะครับ)
[CR] ต้องไปทำงาน ตจว.ไบโพลาร์ยาจะหมด ทำอย่างไรดี? ep.3
จากการไปพบหมอตามนัดครั้งที่แล้ว ทำให้ผมได้ใบนัดพบหมอวันที่ 24 มกราคม 2562 อีกครั้งเพื่อตรวจติดตามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง ต้องปรับอะไรบ้าง อาการดีขึ้นหรือเปล่า
ep.1 >>https://ppantip.com/topic/38383640
ไปศรีธัญญากันเถอะ ชาวไบโพเลี่ยน
ep.2 >>https://ppantip.com/topic/38444283
42 วันของการเป็นไบโพเลี่ยน (พร้อมอัพเดตพบหมอ)
แต่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ผมต้องไปทำงานที่ ตจว. วันที่ 20-31 มกราคม 62 ต้องแย่แน่ๆเพราะยาจะหมดวันที่ 23 (เท่ากับจะต้องขาดยา 8 วัน) และผิดนัดหมอที่จะตรวจติดตามอาการของผมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องใหญ่โตทีเดียวสำหรับการรักษา และต้องทำให้ผมมาเขียนเล่าประสบการณ์การรักษาของผมเร็วกว่าเดิม แต่ก็ดีใจที่ได้เจอกันเร็วขึ้น (^o^)
ทำอย่างไร!?
1.บิดเลย! กลับมาค่อยว่ากัน (ไม่แนะนำ แหะๆ)
2.โทรเลื่อนนัด
ผมเลือกข้อ 2 ครับ เมื่อวาน (17 มกราคม 62) ตัดสินใจโทรเลื่อนนัด (มีเบอร์และเงื่อนไขการเลื่อนอยู่ในใบนัดครับ) เอาเป็นว่าสรุปการสนทนาให้อ่านเลยนะครับ เพราะเจ้าหน้าที่ส่งไม้ต่อกันสามคน (คุยไม่รู้เรื่อง)
ผม : ขอเลื่อนนัดครับ จาก 24 มกราคม เป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ได้ไหมไหมครับ เพราะผมต้องไป ตจว. 20-31 มกราคม
เจ้าหน้าที่ : ขอเลขทั่วไปของผู้ป่วยด้วยครับ
ผม : มันคืออะไรครับ...(-_-“)
เจ้าหน้าที่ : อยู่ด้านขวาบนใบนัดนะครับ ขึ้นด้วย HNแล้วก็ตัวเลข
ผม : แป็บนะครับ.... อ่อ HNxxxxxx ครับ
เจ้าหน้าที่ : แต็กๆๆๆๆ (พิมพ์ข้อมูล) ...เป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ไม่ได้นะครับเพราะจะขาดยาไม่ได้เลย ถ้าอย่างนั้นต้องมาก่อนนัดครับ ผมนัดให้เร็วที่สุดคือวันที่ 22 มกราคม ครับ
ผม : ผมมีงานด่วนจริงๆครับ ผมออกเดินทางวันที่ 20
เจ้าหน้าที่ : งั้นคุณมาวันที่ 18 มกราคม ได้ไหม แล้วให้พบหมอคนอื่นไปก่อนเพื่อรับยาให้ครบวัน
ผม : ได้ครับ ขอบคุณมากครับ
.......................................
วันนี้ 18 มกราคม 2562 ครบ 50 วันที่เข้ารับการรักษาโรคไบโพลาร์
มาถึงก็เอาใบนัดยื่นเพื่อรับบัตรคิวแล้วบอกเหตุผลการมาก่อนนัด จากนั้นทำตามขั้นตอนเดิมเหมือนที่เคยมา วัดความดัน ช่างน้ำหนัก แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ “น้ำหนัก” ครับ
-มาครั้งแรก 76 กิโลกรัม
-ครั้งที่สอง 80 กิโลกรัม!!!
-ครั้งที่สาม 82 กิโลกรัม!!!!!!!!
อาจเป็นเพราะผลกระทบจากยาที่ทำให้เรากินเยอะขึ้น เยอะขึ้นมากๆ
มาครั้งนี้ต้องรอนานหน่อยเพราะเรามาแบบผิดนัด (มาก่อนนัด) สักพักก็ได้คุยกับแผนกคัดกรองเพื่อกรอกรายละเอียดอาการและความต้องการก่อนที่จะไปพบหมอ(แต่เป็นหมออีกคนไม่ใช่หมอเจ้าของไข้) ซึ่งไม่ต้องห่วงเพราะว่าโรงพยาบาลเขามีข้อมูลของเราอยู่แล้ว ไม่ต้องกล้วว่าจะต้องเริ่มใหม่ หมอคนประจำได้บรีฟเคสของผมให้หมอคนนี้ก่อนด้วยครับ เลยไม่ยาก
พอเข้าห้องตรวจ
หมอ : สวัสดีจ้าาา
ผม : สวัสดีครับ
หมอก็ซักถามอาการตามปกติเหมือนครั้งก่อน
ผม : อาการที่เพิ่มมาคือนอนไม่หลับครับ
หมอ : มีตื่นกลางดึกไหม
ผม : มีครับ 2-3 ครั้ง....ในคืนเดียวนะครับ เป็นที่ลักษณะงานด้วยครับบางวันเข้างานเช้าต้องตื่นตีห้า บางวันก็เข้างานเย็นแล้วเลิกดึก
หมอ : แสดงว่ายาทำอะไรคุณไม่ได้เลย 555555 ใช่ๆ พฤติกรรมการนอนก็มีส่วน มันไม่ปกติเนอะ
ผม : (“-..-)....(ครับ)
หมอ : เห็นบอกตรงคัดกรองว่ามีกล้ามเนื้ออ่อนแรงด้วยใช่ไหม ไหนยื่นแขนให้หมอดูหน่อย (พร้อมยืดแขนตรงสองข้างทำเป็นตัวอย่าง)
ผม : ยื่น (ระริกๆๆ)
หมอ : โหสั่นมากเลย
ผม : เป็นตะคริวบ่อยมากด้วยครับช่วงนี้
หมอ : โอเค มีพูดจาสลับหน้าหลังไหม
ผม : มีครับ เป็นบางครั้ง แล้วก็เรียบเรียงคำพูดไม่ถูก
หมอ : นอนก็ไม่หลับ พูดจากไม่รู้เรื่องอีก 555555 ปรับยาให้ยากจังเลย 5555
ผม : (“-..-)....(หมออารมณ์ดีจังวะ)
หมอ : ปกติกินยากี่โมงคะ
ผม : 2-4 ทุ่มครับแล้วแต่เวลาเลิกงานตอนไหนครับ
หมอ : นี่ก็เป็นส่วนนึงนะ กินยาไม่ค่อยตรงเวลา งั้นเอางี้ กินยาให้ตรงเวลาไปเลย ตอนสองทุ่ม 1 ครั้ง แล้วหมอเพิ่มตอนเช้าแปดโมงเช้าอีก 1 ครั้ง ตอนเช้าจะได้ดีดๆหน่อย พูดจาจะได้รู้เรื่อง 55555
ผม : (“-..-)....(หมอดีดจังวะ) ครับขอบคุณครับ
หมอ : หมอก็พูดขำๆไปงั้นแหละนะ 555
หมอพูดพร้อมเขียนใบสั่งยาให้เสร็จสรรพ แล้วนัดวันอีกครั้ง หลังจากกลับจาก ตจว.
-รับใบนัด+ใบสั่งยา
-ส่งใบสั่งยา+รอจ่ายเงิน (ครั้งนี้ค่าใช้จ่าย 850 บาท)
-รอรับยา แล้วกลับบ้านได้
สรุปหมอให้ยาตัวใหม่มาเหมือนจะกินยาน้อยลงกว่าเก่าด้วย แล้วให้หยุดยาเก่าทั้งหมด ผ่าม!!! (-..-“)!
อันนี้รูปยาเก่าที่ต้องกินก่อนนอนวันละเท่านี้
ส่วนยาใหม่ที่ได้วันนี้มี 2 เวลา คือ
ยากินหลังอาหารตอน 8 โมงเช้า
1.Lamotrigine 25 mg (ครั้งละครึ่งเม็ด) ใช้รักษาโรคลมชักทั้งในผู้ใหญ่และในเด็กที่มีมากกว่า 12 ปีขึ้นไป และใช้รักษาอาการทางจิตประสาทประเภท Bipolar disoder
ผลข้างเคียง : คลื่นไส้ ปวดศรีษะ เหนื่อยง่าย วิงเวียน ตัวสั่น สับสน อาจเกิดภาวะจิต/ประสาทหลอน ตาพร่า ตลอดจนมีอาการปวดหลัง
2.Sertraline 50 mg (ครั้งละครึ่งเม็ด) ใช้รักษาอาการซึมเศร้า บำบัดอาการย้ำคิดย้ำทำ บำบัดอาการตื่นตระหนก รักษาอาการผิดปกติหลังได้รับความสะเทือนใจ รักษาอาการกังวลต่อการเข้าสังคม
ผลข้างเคียง :
- มีภาวะนอนไม่หลับหรือเกิดภาวะซึมเศร้ามากขึ้น รวมถึงเกิดภาวะอยากทำร้ายตนเองหรือคิดฆ่าตัวตาย
- ก่อให้เกิดอาการวิงเวียน ง่วงนอน ปวดศีรษะ เกิดภาวะตัวสั่น เกิดลมชัก รู้สึกสับสน
- เจ็บหน้าอก ชีพจรเต้นผิดปกติ มีอาการบวมตามมือ-เท้า ความดันโลหิตสูงหรือไม่ก็ต่ำ หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- เกิดอาการท้องเสียหรือท้องผูก ปากแห้ง คลื่นไส้ ปวดท้อง เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่อักเสบ ลิ้นเป็นแผล เลือดออกในทางเดินอาหาร
- ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
- ทำให้สมรรถนะทางเพศของบุรุษถดถอย/นกเขาไม่ขัน
- เกิดสิว ผื่นคัน เหงื่อออกมาก ลมพิษ
- เกิดภาวะโลหิตจาง รวมถึง เม็ดเลือดขาวต่ำ เม็ดเลือดทุกชนิดต่ำ) และ เกล็ดเลือดต่ำ
- ทำให้เอนไซม์การทำงานของตับเพิ่มสูงขึ้นในเลือด ตับทำงานผิดปกติ/ตับอักเสบ
- การมองเห็นผิดปกติ เห็นภาพไม่ชัดเจน ปวดตา รูม่านตาขยาย
- คอหอยอักเสบ คัดจมูก มีอาการหาวบ่อย
ยากินก่อนนอนตอน 2 ทุ่ม
3.Valproate (Depakine chrono) 500 mg (ครั้งละ 1 เม็ด) อันนี้ยาตัวเก่าแต่ปรับขนาดลงจาก ครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง ใช้รักษาและป้องกันโรคอารมณ์สองขั้ว และการแปรปรวนของอารมณ์ ใช้รักษาอาการของโรคลมชัก ใช้ป้องกันอาการโรคไมเกรน
ผลข้างเคียง : เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หิวบ่อย น้ำหนักเพิ่ม ตากระตุก วิงเวียน อ่อนเพลีย จิต/ประสาทหลอน
4.Quetiapine (Seroquel) 25 mg (ครั้งละ 1 เม็ด) อันนี้ยาตัวเก่าแต่ปรับขนาดลงจาก 50 mg ครั้งละ 2 เม็ด ใช้บำบัดอาการโรคจิตเภท รักษาโรคไบโพลาร์/อารมณ์สองขั้ว รักษาอาการซึมเศร้า
ผลข้างเคียง :
- มีภาวะตัวสั่นของร่างกาย ง่วงนอน วิงเวียน วิตกกังวล อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น รู้สึกสับสน เดินเซ การคิดช้าลง
- ปากแห้ง ท้องผูก อาเจียน อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร มีน้ำลายมาก ท้องอืด กระเพาะอาหารอักเสบ
- หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นผิดจังหวะ
- น้ำหนักตัวเพิ่มหรือไม่ก็ลดคอเลสเตอรอลในเลือดสูง มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
- เกิดผื่นคัน มีสิว สีผิวซีดลง
- เกิดการติดเชื้อเช่น ปอดบวม
- การมองภาพผิดปกติ ตาแห้ง ปวดตา และเกิดต้อหิน
- เกิดอาการประสาทหลอน อยากทำร้ายตนเองหรือคิดฆ่าตัวตาย
5.Clonazepam (Prenapril) 2 mg (ครั้งละ 1 เม็ด) ใช้บำบัดป้องกันการเกิดลมชักทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ ใช้บำบัดอาการโรคแพนิค/ภาวะตื่นตระหนกในผู้ใหญ่
ผลข้างเคียง :
- โลหิตจาง เกิดภาวเม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophil ในเลือดสูง และมีเลือดออกใต้ผิวหนัง/ห้อเลือด
- ท้องผูกหรือไม่ก็ท้องเสีย เบื่ออาหาร ปวดท้อง ปากแห้ง เกิดแผลที่เหงือก
- วิงเวียน กระสับกระส่าย เดินเซ สติปัญญาลดลง ความจำด้อยลง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดศีรษะ หนังตากระตุก พูดไม่ชัด
- ชีพจรเต้นเร็ว เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดปกติ หน้าแดง หลอดเลือดดำที่ขาอักเสบ(หลอดเลือดอักเสบ)
- ค่าเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดสูงขึ้น และอาจมีภาวะตับโต
- ผมร่วง เกิดผื่นคัน เกิดสิว ลมพิษ รู้สึกแสบร้อนที่ผิวหนัง
- เกิดโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะลำบาก/ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อย เลือดออกจากท่อทางเดินปัสสาวะ/ปัสสาวะเป็นเลือด
- เบื่ออาหาร ร่างกายขาดน้ำ/ กระหายน้ำ/ภาวะขาดน้ำ น้ำหนักตัวเพิ่มหรือไม่ก็ลด โรคเกาต์ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดหลัง ปวดขา ปวดคอ ปวดข้อ เป็นตะคริวที่ขา ตาพร่า
- เซื่องซึม สับสน ประสาทหลอน ก้าวร้าว อยู่ไม่สุข วิตกกังวล นอนไม่หลับ ฝันร้าย มีความรู้สึกอยากทำร้ายตนเอง
- เกิดโรคติดเชื้อที่ช่องทางเดินหายใจส่วนบน ไซนัสอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ ไอ หลอดลมอักเสบ
.......................................
ผมมองว่าผลข้างเคียงของยามันไม่ได้เกิดทุกอย่างกับทุกคนนะ เฉพาะของผมที่เกิดผลข้างเคียงชัดเจนเลย (จากตัวยาเก่าที่ทานมา) คือ
ปวดศรีษะ เหนื่อยง่าย วิงเวียน ตัวสั่น สับสน ง่วงนอน สับสน เซื่องซึม อยู่ไม่สุข วิตกกังวล นอนไม่หลับ ฝันร้าย กระหายน้ำ หิวบ่อย น้ำหนักตัวเพิ่ม เกิดผื่นคัน กล้ามเนื้ออ่อนแรง พูดไม่ชัดสลับไปมา ตาพร่า ตาแห้ง ปวดตา ท้องผูก สมรรถนะทางเพศของบุรุษถดถอย (นกเขาไม่ขัน T^T)
ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆขอบอกว่าไม่รู้ครับตรวจไม่เป็น พวกเม็ดเลือดต่ำ จิตหลอน หัวใจเต้นผิดปกติ หลอดเลือดดำที่ขาอักเสบ ใครจะรู้วะ (-..-")
ถึงนกเขาจะไม่ขัน เอ้ย! ถึงจะรักษาด้วยหมอคนละคนกัน แต่เจตนาของหมอก็คือรักษาโรคครับ
อยากให้เพื่อนพี่น้องที่เป็นอยู่ทั้งไบโพลาร์ ซึมเศร้า ย้ำคิดย้ำทำ หรือโรคอื่นๆมีกำลังใจสู้ ผมเขียนกระทู้นี้เพื่ออยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเป็นกำลังใจอีกหนึ่งกำลังใจ ว่ายังมีคนสู้อยู่ตรงนี้ 1 คน คุณก็ต้องสู้ด้วย อย่าท้อแท้นะครับ อ่อ แล้วถ้าไม่มีเหตุจำเป็นอย่าขาดยานะครับ โทรไปเลื่อนเขาได้ เขาก็พยายามแก้ปัญหาให้เราจนได้ครับ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ และหมอๆด้วยครับ สู้!!!
เจอกันอีกทีวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 ครับ (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะครับ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น