สยอง!!! การล่าแม่มดยุคใหม่!!! ในปาปัวนิวกินี รุมข่มขืน!!! ทรมาน!!! เผาทั้งเป็น!!!
4/1/2019
เปิดเรื่องราวสยองขวัญ การล่าแม่มดยุคปัจจุบันที่ปาปัวนิวกินี ผู้หญิงมากมายถูกชาวบ้านลากไปรุมข่มขืน ทรมาน และเผาทั้งเป็น
เพราะเชื่อว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนตาย เผยเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน และเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ
ในยุคปัจจุบันนี้ ถ้าหากเอ่ยถึงวลีว่า "ล่าแม่มด" เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงการกระทำที่คนจำนวนหนึ่งหรือจำนวนมาก รวมตัวกันออกไปกดดัน หรือตามล่าใครบางคนที่กระทำความผิดบางอย่าง จนสร้างความโกรธแค้นให้กับสังคม ไม่ใช่การล่าแม่มดที่มีความหมายตรงตามตัว เหมือนในสมัยยุคกลางของยุโรป ที่ผู้คนหวาดกลัวเรื่องลึกลับ เวทมนตร์ ไปจนถึงหลายสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ และออกไปตามล่าตัวผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้มาฆ่า การเผาแม่มดทั้งเป็นในช่วงนั้นมีขึ้นอยู่ตลอด และมีผู้หญิงเสียชีวิตเพราะสังคมคิดว่าเป็นแม่มด รวมจำนวนแล้วนับแสนราย
ทุกวันนี้โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมาก วิทยาการและเทคโนโลยีก้าวหน้าไปกว่าสมัยก่อน แม้ว่าเรื่องราวเหนือธรรมชาติบางอย่างจะยังคงไม่สามารถอธิบายได้ แต่มนุษย์ก็เข้าใจมันมากขึ้น และคงไม่มีใครมาทำเรื่องโหดร้ายอย่างการจับแม่มดไปเผา ทว่าในอีกมุมหนึ่งของโลก วัฒนธรรมน่าหวาดหวั่นเช่นนี้ยังคงมีอยู่ และมันโหดร้ายทารุณเกินกว่าที่หลายคนจะคาดคิด
ทางสำนักข่าว AFP ได้ลงพื้นที่ทำข่าวเรื่องการล่าแม่มดในยุคปัจจุบันนี้ และได้เผยแพร่เรื่องนี้ไว้เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2562 โดยเหตุการณ์น่าสลดใจดังกล่าวเกิดขึ้นในหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่สูงของประเทศปาปัวนิกินี รวมถึงในจังหวัดเอนก้า ชาวบ้านที่นี่เชื่อว่าโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคเอดส์ เอชไอวี เบาหวาน และอาการหัวใจวาย เป็นผลมาจากการทำคุณไสยมนตร์ดำของแม่มด เนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแพทย์สมัยใหม่
เมื่อชาวบ้านพบมีผู้คนล้มตายไปด้วยอาการหัวใจวาย หรืออะไรทำนองนี้ ทั้งที่ดูปกติแข็งแรงดี พวกเขาจึงคิดว่ามันคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจากถูกแม่มดทำของใส่ หรือทำพิธีสาปแช่ง ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงรวมตัวกันออกไปจับตัวผู้หญิงต้องสงสัยที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์คาถา และนำมาจัดการอย่างโหดเหี้ยม
ผู้หญิงเหล่านี้จะถูกรุมข่มขืน และถูกทรมานต่าง ๆ นานา ก่อนจะเผาให้ตายทั้งเป็น โดยการล่าแม่มดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ถูกบันทึกเอาไว้ได้ โดยคลิปวิดีโอในโทรศัพท์มือถือเผยให้เห็นว่า หญิงชราคนหนึ่งส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด และกล่าวร้องขอชีวิตอย่างน่าเวทนา ขณะที่เธอถูกรุมข่มขืน และถูกรุมทุบตีอย่างสาหัสในกระท่อม หลังจากนั้นกลุ่มชาวบ้านก็ลากร่างโชกเลือดของเธอออกไปด้านนอก เนื้อตัวของเธอเปลือยเปล่าและเต็มไปด้วยบาดแผล หญิงชราถูกทุบตีต่ออีกหลายยก ก่อนจะถูกจุดไฟเผาให้ตายทั้งเป็น
เหตุการณ์สยองขวัญนี้เกิดขึ้นกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านจำนวนมากออกมายืนมุงดูกันเต็มไปหมด แต่ไม่มีใครเอ่ยปากห้าม หรือยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเธอเลยแม้แต่คนเดียว เพราะพวกเขาเชื่อว่ามันเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว และเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถหยุดยั้งการกระทำของแม่มดได้ โดยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีผู้หญิงในปาปัวนิวกินีกว่า 20 คน ถูกฆ่าตายในการล่าแม่มด และยังมีอีกมากที่ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
หนึ่งในผู้หญิงที่รอดชีวิตจากการล่าแม่มดคือแม่ลูกสองวัย 55 ปี ที่ชื่อ เรเชล โดยประสบการณ์เลวร้ายนี้เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2560 เรเชลเดินทางไปร่วมงานศพของชนเผ่าอื่นในพื้นที่ใกล้เคียง ในขณะที่เธอกำลังจะกลับบ้านนั้น ลูกชายของผู้เสียชีวิตได้เข้ามาลากตัวเธอออกไปคุย เขาเชื่อว่าเธอทำพิธีบางอย่างใส่พ่อของเขาจนเป็นเหตุให้พ่อตัวเองเสียชีวิต และควักหัวใจไปจากศพ ชาวบ้านคนอื่น ๆ ต่างก็สงสัยเธอเช่นกัน เรเชลได้กล่าวปฏิเสธไปว่าเธอไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ เธอถูกลากไปทรมานด้วยมีด ฉมวก และของมีคมร้อนจัด กลุ่มคนที่กระทำแบบนี้ล้วนเป็นชาวบ้านที่เรเชลรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และพวกเขาทำแบบนี้กับเธออยู่ทั้งวัน
เรเชลร้องขอชีวิตแต่ไร้ผล คิดว่าตัวเองคงจะต้องตาย ชาวบ้านยืนมองเธอโดยที่ไม่มีใครช่วย แต่ในที่สุดก็มีจำนวนเล็กน้อยเข้ามาช่วยเหลือหลังจากทุกอย่างจบลง เธอสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ แต่ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นฝันร้ายที่หลอกหลอนเธอไปตลอดชีวิต นอกจากนี้แล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวยังได้ทิ้งแผลเป็นเอาไว้บนร่างกายของเธอหลายแห่ง แผลที่ใหญ่ที่สุดคือบริเวณสีข้างด้านขวา และมันเป็นสิ่งย้ำเตือนเรเชลอยู่ทุกวันว่าเธอได้ผ่านพ้นอะไรมา
เอเปเนส นิลลี เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโส เปิดเผยว่า พื้นที่จังหวัดเอ็นกา และภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศปาปัวนิวกินี มีความเชื่อเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติและเรื่องเกี่ยวกับเวทมนตร์อย่างแพร่หลาย แม้ว่าความเชื่อเหล่านี้จะสืบเนื่องมานานตั้งแต่สมัยโบราณ แต่การจับแม่มดไปทรมานและเผาทั้งเป็นไม่ใช่วิถีปฏิบัติเก่าแก่ มันเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน และความเชื่อน่ากลัวนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมาก
ในขณะเดียวกัน แอนตัน ลูตซ์ มิชชันนารีนิกายลูเธอร์แรนในพื้นที่ ก็ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการช่วยเหลือผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อการล่าแม่มดในพื้นที่เมืองเอ็นกา เหยื่อหลายคนเป็นเยาวชน และมีแม้กระทั่งเด็กเล็กอายุแค่ 6 ขวบ
"ผู้คนแถบนี้มีความเชื่อเรื่องผี เรื่องหนือธรรมชาติต่าง ๆ มาตั้งแต่โบร่ำโบราณ มันมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานหินพูดได้ และความเชื่อน่าสนใจอีกมากมาย แต่การฉุดผู้หญิงไปข่มขืนและทรมานอย่างโหดเหี้ยมจนตาย มันไม่เคยเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งใหม่ เพิ่งมีขึ้นเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน และในปี 2561 เหตุการณ์เลวร้ายสะเทือนขวัญแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาอย่างน่ากลัว มีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อแทบจะทุก 2 สัปดาห์ หรือ 1 สัปดาห์" มิชชันนารี กล่าว
ทั้งนี้ทางหน่วยงานท้องถิ่นก็พยายามแก้ไขปัญหานี้ แต่ก็เป็นไปได้ยากมาก แม้แต่อัยการสูงสุดยังถูกโจมตี มีการติดป้ายโปสเตอร์รณรงค์ต่อต้านการกระทำแบบนี้ ระบุว่าผิดกฎหมาย แต่มันก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งความเชื่อน่ากลัวนี้ได้ และสามารถบอกได้เลยว่า จะมีผู้หญิงอีกกี่คนที่ต้องตกเป็นเหยื่อ
https://hilight.kapook.com/view/182426
สยอง!!! การล่าแม่มดยุคใหม่!!! ในปาปัวนิวกินี รุมข่มขืน!!! ทรมาน!!! เผาทั้งเป็น!!!
4/1/2019
เปิดเรื่องราวสยองขวัญ การล่าแม่มดยุคปัจจุบันที่ปาปัวนิวกินี ผู้หญิงมากมายถูกชาวบ้านลากไปรุมข่มขืน ทรมาน และเผาทั้งเป็น
เพราะเชื่อว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนตาย เผยเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน และเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ
ในยุคปัจจุบันนี้ ถ้าหากเอ่ยถึงวลีว่า "ล่าแม่มด" เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงการกระทำที่คนจำนวนหนึ่งหรือจำนวนมาก รวมตัวกันออกไปกดดัน หรือตามล่าใครบางคนที่กระทำความผิดบางอย่าง จนสร้างความโกรธแค้นให้กับสังคม ไม่ใช่การล่าแม่มดที่มีความหมายตรงตามตัว เหมือนในสมัยยุคกลางของยุโรป ที่ผู้คนหวาดกลัวเรื่องลึกลับ เวทมนตร์ ไปจนถึงหลายสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ และออกไปตามล่าตัวผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้มาฆ่า การเผาแม่มดทั้งเป็นในช่วงนั้นมีขึ้นอยู่ตลอด และมีผู้หญิงเสียชีวิตเพราะสังคมคิดว่าเป็นแม่มด รวมจำนวนแล้วนับแสนราย
ทุกวันนี้โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมาก วิทยาการและเทคโนโลยีก้าวหน้าไปกว่าสมัยก่อน แม้ว่าเรื่องราวเหนือธรรมชาติบางอย่างจะยังคงไม่สามารถอธิบายได้ แต่มนุษย์ก็เข้าใจมันมากขึ้น และคงไม่มีใครมาทำเรื่องโหดร้ายอย่างการจับแม่มดไปเผา ทว่าในอีกมุมหนึ่งของโลก วัฒนธรรมน่าหวาดหวั่นเช่นนี้ยังคงมีอยู่ และมันโหดร้ายทารุณเกินกว่าที่หลายคนจะคาดคิด
ทางสำนักข่าว AFP ได้ลงพื้นที่ทำข่าวเรื่องการล่าแม่มดในยุคปัจจุบันนี้ และได้เผยแพร่เรื่องนี้ไว้เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2562 โดยเหตุการณ์น่าสลดใจดังกล่าวเกิดขึ้นในหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่สูงของประเทศปาปัวนิกินี รวมถึงในจังหวัดเอนก้า ชาวบ้านที่นี่เชื่อว่าโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคเอดส์ เอชไอวี เบาหวาน และอาการหัวใจวาย เป็นผลมาจากการทำคุณไสยมนตร์ดำของแม่มด เนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแพทย์สมัยใหม่
เมื่อชาวบ้านพบมีผู้คนล้มตายไปด้วยอาการหัวใจวาย หรืออะไรทำนองนี้ ทั้งที่ดูปกติแข็งแรงดี พวกเขาจึงคิดว่ามันคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจากถูกแม่มดทำของใส่ หรือทำพิธีสาปแช่ง ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงรวมตัวกันออกไปจับตัวผู้หญิงต้องสงสัยที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์คาถา และนำมาจัดการอย่างโหดเหี้ยม
ผู้หญิงเหล่านี้จะถูกรุมข่มขืน และถูกทรมานต่าง ๆ นานา ก่อนจะเผาให้ตายทั้งเป็น โดยการล่าแม่มดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ถูกบันทึกเอาไว้ได้ โดยคลิปวิดีโอในโทรศัพท์มือถือเผยให้เห็นว่า หญิงชราคนหนึ่งส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด และกล่าวร้องขอชีวิตอย่างน่าเวทนา ขณะที่เธอถูกรุมข่มขืน และถูกรุมทุบตีอย่างสาหัสในกระท่อม หลังจากนั้นกลุ่มชาวบ้านก็ลากร่างโชกเลือดของเธอออกไปด้านนอก เนื้อตัวของเธอเปลือยเปล่าและเต็มไปด้วยบาดแผล หญิงชราถูกทุบตีต่ออีกหลายยก ก่อนจะถูกจุดไฟเผาให้ตายทั้งเป็น
เหตุการณ์สยองขวัญนี้เกิดขึ้นกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านจำนวนมากออกมายืนมุงดูกันเต็มไปหมด แต่ไม่มีใครเอ่ยปากห้าม หรือยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเธอเลยแม้แต่คนเดียว เพราะพวกเขาเชื่อว่ามันเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว และเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถหยุดยั้งการกระทำของแม่มดได้ โดยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีผู้หญิงในปาปัวนิวกินีกว่า 20 คน ถูกฆ่าตายในการล่าแม่มด และยังมีอีกมากที่ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
หนึ่งในผู้หญิงที่รอดชีวิตจากการล่าแม่มดคือแม่ลูกสองวัย 55 ปี ที่ชื่อ เรเชล โดยประสบการณ์เลวร้ายนี้เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2560 เรเชลเดินทางไปร่วมงานศพของชนเผ่าอื่นในพื้นที่ใกล้เคียง ในขณะที่เธอกำลังจะกลับบ้านนั้น ลูกชายของผู้เสียชีวิตได้เข้ามาลากตัวเธอออกไปคุย เขาเชื่อว่าเธอทำพิธีบางอย่างใส่พ่อของเขาจนเป็นเหตุให้พ่อตัวเองเสียชีวิต และควักหัวใจไปจากศพ ชาวบ้านคนอื่น ๆ ต่างก็สงสัยเธอเช่นกัน เรเชลได้กล่าวปฏิเสธไปว่าเธอไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ เธอถูกลากไปทรมานด้วยมีด ฉมวก และของมีคมร้อนจัด กลุ่มคนที่กระทำแบบนี้ล้วนเป็นชาวบ้านที่เรเชลรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และพวกเขาทำแบบนี้กับเธออยู่ทั้งวัน
เรเชลร้องขอชีวิตแต่ไร้ผล คิดว่าตัวเองคงจะต้องตาย ชาวบ้านยืนมองเธอโดยที่ไม่มีใครช่วย แต่ในที่สุดก็มีจำนวนเล็กน้อยเข้ามาช่วยเหลือหลังจากทุกอย่างจบลง เธอสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ แต่ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นฝันร้ายที่หลอกหลอนเธอไปตลอดชีวิต นอกจากนี้แล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวยังได้ทิ้งแผลเป็นเอาไว้บนร่างกายของเธอหลายแห่ง แผลที่ใหญ่ที่สุดคือบริเวณสีข้างด้านขวา และมันเป็นสิ่งย้ำเตือนเรเชลอยู่ทุกวันว่าเธอได้ผ่านพ้นอะไรมา
เอเปเนส นิลลี เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโส เปิดเผยว่า พื้นที่จังหวัดเอ็นกา และภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศปาปัวนิวกินี มีความเชื่อเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติและเรื่องเกี่ยวกับเวทมนตร์อย่างแพร่หลาย แม้ว่าความเชื่อเหล่านี้จะสืบเนื่องมานานตั้งแต่สมัยโบราณ แต่การจับแม่มดไปทรมานและเผาทั้งเป็นไม่ใช่วิถีปฏิบัติเก่าแก่ มันเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน และความเชื่อน่ากลัวนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมาก
ในขณะเดียวกัน แอนตัน ลูตซ์ มิชชันนารีนิกายลูเธอร์แรนในพื้นที่ ก็ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการช่วยเหลือผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อการล่าแม่มดในพื้นที่เมืองเอ็นกา เหยื่อหลายคนเป็นเยาวชน และมีแม้กระทั่งเด็กเล็กอายุแค่ 6 ขวบ
"ผู้คนแถบนี้มีความเชื่อเรื่องผี เรื่องหนือธรรมชาติต่าง ๆ มาตั้งแต่โบร่ำโบราณ มันมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานหินพูดได้ และความเชื่อน่าสนใจอีกมากมาย แต่การฉุดผู้หญิงไปข่มขืนและทรมานอย่างโหดเหี้ยมจนตาย มันไม่เคยเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งใหม่ เพิ่งมีขึ้นเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน และในปี 2561 เหตุการณ์เลวร้ายสะเทือนขวัญแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาอย่างน่ากลัว มีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อแทบจะทุก 2 สัปดาห์ หรือ 1 สัปดาห์" มิชชันนารี กล่าว
ทั้งนี้ทางหน่วยงานท้องถิ่นก็พยายามแก้ไขปัญหานี้ แต่ก็เป็นไปได้ยากมาก แม้แต่อัยการสูงสุดยังถูกโจมตี มีการติดป้ายโปสเตอร์รณรงค์ต่อต้านการกระทำแบบนี้ ระบุว่าผิดกฎหมาย แต่มันก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งความเชื่อน่ากลัวนี้ได้ และสามารถบอกได้เลยว่า จะมีผู้หญิงอีกกี่คนที่ต้องตกเป็นเหยื่อ
https://hilight.kapook.com/view/182426