เนื่องจากผมเห็นคนแชร์รูปหมอกที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเช้าวันที่ 13 มค. 62 แล้วรู้สึกว่าหมอกนั้นไม่ใช่หมอก PM 2.5 แต่อย่างใด
เอาแบบมองกันง่ายๆเลย ถ้าฝุ่นPM2.5 หนาขนาดนั้น คนคงสำลักควันตาย ที่กั้นจมูกก็เอาไม่อยู่หรอกครับ
แต่ใช่ว่าผมจะปฎิเสธว่า กทม ไม่มีฝุ่น PM2.5 แต่เราต้องแยกแยะว่าฝุ่น PM2.5 จะปรากฎไม่ได้หนาชัดเจนขนาดนั้น แต่ปรากฎเป็นหมองควันจางๆบางทำให้ทัศนวิสัยลดต่ำ 2-4กิโลเมตร ในขณะที่หมอกที่เกิดจากไอน้ำจะสามารถทำให้ทัศนวิสัยลดลงต่ำกว่า 1 กิโลเมตร
ภาพนี้แสดงถึงหมอกควันจริงๆใน กทม.
จริงๆแล้วผมเป็นเด็กลาดกระบังที่อยู่แถวนั้นมา 4 ปีแล้ว ช่วงเดือนมกราคมเป็นช่วงเดือนที่เกิดหมอกตอนเช้าได้เป็นปกติอยู่แล้ว
และนี่คือค่าที่วัดได้จากสถานีอุตุนิยมวิทยาสุวรรณภูมิ
จะเห็นว่าค่าความชื้นสัมพัทสูงมากเกิน 85% แบบนี้ถ้าเจออากาสเย็นหน่อยไอน้ำก็กลั่นเป็นหมอกได้ไม่ยาก
และทัศวิสัยลงต่ำถึง 1 กิโลเมตร พอสักสายๆ ก็กลับมาเป็นปกติ
อย่างไรผมก็อยากให้คนไทยแยกแยะและไม่ตื่นตะหนกกับภาพหมอกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผมยอมรับว่าหลังจาก 9โมงเช้า สิ่งที่ปรากฎทั้งหมดก็คือหมอก PM2.5 นั่นเอง
ผมว่าเราแยกแยะระหว่างหมอกจริงๆกับฝุ่น PM2.5 กันหน่อยเถอะครับ
เอาแบบมองกันง่ายๆเลย ถ้าฝุ่นPM2.5 หนาขนาดนั้น คนคงสำลักควันตาย ที่กั้นจมูกก็เอาไม่อยู่หรอกครับ
แต่ใช่ว่าผมจะปฎิเสธว่า กทม ไม่มีฝุ่น PM2.5 แต่เราต้องแยกแยะว่าฝุ่น PM2.5 จะปรากฎไม่ได้หนาชัดเจนขนาดนั้น แต่ปรากฎเป็นหมองควันจางๆบางทำให้ทัศนวิสัยลดต่ำ 2-4กิโลเมตร ในขณะที่หมอกที่เกิดจากไอน้ำจะสามารถทำให้ทัศนวิสัยลดลงต่ำกว่า 1 กิโลเมตร
ภาพนี้แสดงถึงหมอกควันจริงๆใน กทม.
จริงๆแล้วผมเป็นเด็กลาดกระบังที่อยู่แถวนั้นมา 4 ปีแล้ว ช่วงเดือนมกราคมเป็นช่วงเดือนที่เกิดหมอกตอนเช้าได้เป็นปกติอยู่แล้ว
และนี่คือค่าที่วัดได้จากสถานีอุตุนิยมวิทยาสุวรรณภูมิ
จะเห็นว่าค่าความชื้นสัมพัทสูงมากเกิน 85% แบบนี้ถ้าเจออากาสเย็นหน่อยไอน้ำก็กลั่นเป็นหมอกได้ไม่ยาก
และทัศวิสัยลงต่ำถึง 1 กิโลเมตร พอสักสายๆ ก็กลับมาเป็นปกติ
อย่างไรผมก็อยากให้คนไทยแยกแยะและไม่ตื่นตะหนกกับภาพหมอกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผมยอมรับว่าหลังจาก 9โมงเช้า สิ่งที่ปรากฎทั้งหมดก็คือหมอก PM2.5 นั่นเอง