สงครามกำจัดนกกระจอกบ้านของจีนในอดีต


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

The Great Sparrow campaign documentary


1.




ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950
ประเทศจีนมีการโฆษณาชวนเชื่อ
ด้วยภาพต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ด้วยการปิดป้ายไปตามสถานที่ต่าง ๆ
ตามโรงเรียนเด็กประถม-มัธยม ฯลฯ
ชุมชน หมู่บ้าน ทุกหนทุกแห่ง
เช่น ภาพเด็กชายล่านกกระจอก
แบบการละเล่นกีฬาของเด็ก ๆ
ภาพโฆษณาชวนเชื่อหลายภาพเหล่านี้
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
รณรงค์ที่เป็นวาระแห่งชาติ
ทั้งนี้ เพื่อกำจัดศัตรูพืชที่ต้องรับผิดชอบ
ต่อการแพร่กระจายของโรคระบาด
ของพืชและสัตว์ที่มีผลกระทบต่อคนจีน
ศัตรูสี่ตัวที่ถูกเลือกขึ้นมาเพื่อทำการกำจัด  
ได้แก่ ยุง หนู แมลงวัน นกกระจอก
ด้วยเหตุผลสรุปที่สำคัญที่สุดคือ  
ต้องฆ่าเท่านั้น
เพราะพวกศัตรูสี่ตัวเหล่านี้
จะต้องรับผิดชอบต่อการระบาดของเชื้อโรค
และการขาดแคลนอาหารของคนจีน


นก เป็นสัตว์ตัวแรกสุด
ที่เป็นตัวการสร้างปัญหา
การขาดแคลนธัญพืช พืช และผลไม้  
เพราะพวกนกจิกกินพืช ผลไม้ และธัญพืช
ความคิดที่ไร้สติเรื่องนี้ คือ
การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับห่วงโซ่อาหาร

ทำให้เกิดความไม่สมดุล
ของระบบนิเวศอย่างรุนแรง
และด้วยนโยบายที่รัฐบาล
ที่เข้าใจผิดในเรื่องนี้อย่างแรง
จึงส่งผลกระทบด้านอื่น ๆ ตามมา
ทำให้เกิดเหตุการณ์ทำลายห่วงโซ่อาหาร
ซึ่งทำให้คนตายถึง 50 ล้านคนในเวลา 3 ปี
แค่ 6.25% ของประชากรจีน 800 ล้านคนเอง

(จีน อินเดีย มักจะประกาศการตาย
ของประชาชนชาติตนเองเป็น %
จะได้ดูว่าจำนวนคนไม่มากเกินไป
ยิ่งในอดีตที่เวลามีภัยพิบัติแต่ละครั้ง
มีคนตายกันเป็นหลักหมื่นหลักแสนคน
มักจะประกาศตัวเลขเป็น % จะได้ดูว่าไม่มาก

 
The Great Sparrow Campaign
คือ วาระแห่งชาติของจีน
โครงการรณรงค์กำจัดนกกระจอก
เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ยิ่งใหญ่
กว่าโครงการ  Great Leap Forward
โครงการก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่
ซึ่งริเริ่มโดยประธาน เหมาเจ๋อตง

เริ่มต้นในปี 1958
เพื่อเปลี่ยนประเทศเกษตรกรรมส่วนใหญ่
ในอดีตของจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยม
ที่เจริญรุ่งเรืองผ่านกิจกรรมทางอุตสาหกรรม
ที่รวดเร็วและการสั่งสมยาวนาน
ด้วยการควบคุมการเกษตร
จากศูนย์กลางอำนาจจากส่วนกลาง
และด้วยการสร้างอำนาจการผูกขาด
โดยรัฐบาลจีนแต่เพียงผู้เดียว
ในการกระจายกำลังการผลิตอุตสาหกรรม
และกระจายการทำไร่ไถนา
และทำสวนทั่วทั้งประเทศจีน
ในยุคนั้น จีนจะมีมาตรฐานเวลา
เดียวกันทั่วประเทศทุกมณฑล
แม้ว่าอีกฟากหนึ่งของประเทศ
จะยังมืดอยู่ก็ตาม แต่จีนไม่สนใจ
ซึ่งผิดกับสหรัฐอเมริกาจะมีเวลา
ตามเขตพื้นที่ของประเทศ


ประธานเหมาเจ๋อตง
ได้มีคำสั่งให้ยกเลิกกรรมสิทธิ์
ในที่ดิน/ทรัพย์สินส่วนบุคคลของทุกคน
ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐทั้งหมด
กรรมกรชาวนาทุกคน
จึงเป็นคนงาน/ไพร่รัฐทั้งหมดเช่นกัน

ทั้งยังมีคำสั่งให้ทำไร่ทำนาทำสวนในที่ดิน
เป็นกรรมสิทธิ์รวมของชุมชนทุกหมู่บ้าน

ชาวไร่ชาวนาชาวสวนจำนวนมาก
จึงถูกไล่ออกจากที่ดินดั้งเดิมของบรรพบุรุษ
และชาวไร่ชาวนาชาวสวนต้องรับคำสั่ง
ให้ร่วมทำงานในโครงการต่าง ๆ เช่น
โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

การผลิตเหล็กและเหล็กกล้า
ด้วยการนำหม้อไห กะทะ เศษเหล็ก
โลหะต่าง ๆ มาหลอมขึ้นมาใหม่
เพื่อทำการผลิตเหล็ก/เหล็กกล้าแข่งขัน
กับโซเวียตรัสเซีย และชาติตะวันตก
เพราะแนวคิดเพ้อฝัน/มโนของประธานฯ ว่า
จีนเคยเป็นแหล่งผลิตกะบี่
ที่ยอดเยี่ยมในวรยุทธ์/กำลังภายใน
และเคยผลิตอาวุธปืนใหญ่ในอดีต
มาก่อนหลายชาติในยุโรป


ในเวลาเดียวกันนั้น
เหมาเจ๋อตง ได้เปิดตัวโครงการรณรงค์
ปลุกใจให้รักชาติด้วยเป้าหมายกำจัด
พวกสัตว์ที่แพร่กระจายโรค
ซึ่งมี ยุง หนู แมลงวัน

เหมาเจ๋อตงได้หยิบยก
ตัวการสำคัญที่สุด คือ นกกระจอกบ้าน
ที่เชื่อว่าเป็นศัตรูที่สำคัญในการกัดกินธัญพืช
ที่คณะที่ปรึกษาของเหมาเจ๋อตง  
ได้คำนวณตัวเลขออกมาว่า
นกกระจอกบ้านตัวเดียว
จะกินข้าวถึง 4.5 กิโลกรัมในแต่ละปี
และนกกระจอกบ้าน 1 ล้านตัวที่ถูกฆ่าตาย
จะมีอาหารเพียงพอสำหรับ
ประชากรจีนถึง 60,000 คน




2.


Eurasian tree sparrow
(Passer montanus)
Ⓒhedera.baltica / Flickr


3.




มีเพียงชาวบ้านเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ที่ตระหนักถึงผลของการรบกวน
สมดุลตามธรรมชาติ/ระบบนิเวศ
ที่จะส่งผลร้ายต่อระบบนิเวศของชาติ
และแม้ว่าพวกเขาจะคัดค้านก็ไม่ได้ผลอยู่ดี
เพราะในตอนนั้นเหมาเจ๋อตุง
เป็นผู้นำรัฐที่มีอำนาจสูงสุด
มักเชื่อมั่นในความคิดตนเองสูงมาก
แบบทำตัวดื้อตาใสไม่ยอมรับฟังความคิดใคร
และรอบข้างก็เต็มไปด้วยลูกสมุนคอยพยัก
พวกบริวารที่ชอบเอื้อนเอ่ยให้คนบ้ายอว่า
ดีครับพี่ ชอบครับนาย เหมาะสมครับท่าน
ไม่มีใครกล้าคัดค้าน
หรือแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วย
เพราะต่างกลัวว่าจะต้องไปนอน
สงบสติอารมณ์ใต้รากหญ้าคา


เรื่องนี้  เติ้งเสี่ยวผิง  
สรุปบทเรียนภายหลังพัฒนาจีน
แบบทุบโต๊ะพูดเลยให้จบง่าย ๆ ว่า  
เหมาเลวสาม ดีเจ็ด เจ๊ากันไป

ทั้งนี้เพื่อไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์เหมาเจ๋อตง
และมีการชำระประวัติศาสตร์จีนใหม่
อาจจะมีการตามล้างตามเช็ดอีกรอบ
เพราะท่าน/แกนนำหลายคนที่โด่งดังในอดีต
ต่างก็เคยร่วมวงอไพบูลย์ในช่วงนั้นด้วย


“ เหมาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกสัตว์เลย
เขาไม่ต้องการคำวิพากษ์วิจารณ์
เรื่องแผนการที่เขาคิด/มโน
หรือการรับฟังผู้เชี่ยวชาญ  
เมื่อเขาตัดสินใจว่า
ควรกำจัดศัตรูสี่ตัว  
พวกมันก็จะต้องถูกกำจัด "
Dai Qing หนึ่งในบรรดานักเคลื่อนไหว
ด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน
ให้สัมภาษณ์กับ BBC


มีการล่าสังหารนกกระจอกบ้าน  
แบบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ด้วยการทำทุกวิธีทุกหนทุกแห่ง
อย่างไม่น่าเชื่อเลยในทุกวันนี้
ทำทุกวิธีที่ทำได้เพื่อฆ่านกกระจอกบ้าน  
ที่ได้รับคำบัญชามาจากเหมาเจ๋อตง

พวกนกกระจอกบ้าน
จะถูกยิงตกลงมาจากท้องฟ้า
รังนกกระจอกบ้านจะถูกทำลายรื้อทิ้ง
มีการทุบไข่นกกระจอกบ้านทิ้ง
และลูกนกกระจอกบ้านจะถูกฆ่าตายทุกตัว
มีการวางแหอวนลอบในสถานที่ต่าง ๆ
เพื่อดักจับนกกระจอกบ้านมาฆ่าทิ้ง
ฝูงนกกระจอกบ้านที่บินหนี
ออกไปอยู่ตามชนบท/ตามทุ่งนา/ป่าเขา
ก็จะถูกวางยาพิษด้วยอาหาร
และน้ำที่ผสมยาพิษแบบกินแล้วตาย
ทำให้เกิดหางเลขเคราะห์กรรม
ก็ไปตกที่นกประเภทอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน


เรื่องที่เลวร้ายและโหดร้ายมากที่สุด คือ
การทำให้พวกนกกระจอกบ้าน
ต่างเหนื่อยล้า/อ่อนล้า/หมดแรงบิน
ชาวบ้านต่างถูกปลุกระดมมวลชน
ให้ออกมาจากบ้านพัก/ที่ทำงานรวม
ด้วยการตีหม้อ ไห กะทะ อะไรก็ได้
ในสถานที่โล่ง ใต้ต้นไม้ต่าง ๆ
ที่นกกระจอกบ้านบินไปหลบอยู่
ด้วยการสร้างเสียงอึกทึกครึกโครม
เพื่อคุกคามฝูงนกกระจอกบ้าน

จนฝูงนกกระจอกบ้าน
ที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว
จำต้องบินวนเป็นวงกลมไปมา
ด้วยความหวาดกลัวที่จะลงมาพักด้านล่าง
จนกระทั่งพวกนกกระจอกบ้าน
ต่างล้มตายลงไปเพราะความอ่อนเพลีย
จากการบินโดยไม่ได้หยุดพัก




4.



5.



6.





แต่ก็มีนกกระจอกบ้านบางตัว
ที่บินเข้าไปหลบภัยในเขตพื้นที่
ของสถานทูต/กงศุลต่าง ๆ ภายในประเทศจีน

ที่สถานทูตโปแลนด์ในกรุงปักกิ่ง
หน่วยรักษาความปลอดภัยสถานทูต
ไม่ยอมให้ชาวจีนบุกเข้าไป
ในเขตพื้นที่ของสถานทูต
เพื่อเข้าไปกำจัดนกกระจอกบ้าน
ที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในพื้นที่สถานทูด

ฝูงชนชาวจีนต่างรายล้อม
รอบสถานทูตโปแลนด์
และตีกลองตีฆ้องร้องเป่า
ต่างพากันส่งเสียงดังอย่างต่อเนื่อง
อย่างกับพวกคนบ้าคลั่ง
เป็นเวลา 2 วัน 2 คืนติดต่อกัน

ผลสุดท้าย
คนในสถานทูตโปแลนด์
ต้องใช้พลั่ว เสียม บุ้งกี๋
ตักพวกนกกระจอกบ้านที่ตายแล้ว
ออกไปทิ้งด้านนอกสถานทูตโปแลนด์


ชาวบ้านหลายล้านคน
ต่างเข้าร่วมในโครงการวาระแห่งชาติ
อย่างมีประสิทธิภาพ/อย่างไร้เมตตาปราณี
มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้
รายงานว่า นกกระจอกบ้าน  194,432 ตัว
ถูกฆ่าตายภายในวันเดียว
(นับศพ ชิงรางวัลประธานเหมา)


" ในตอนเช้าของวันที่ 13 ธันวาคม
โครงการทำสงครามกำจัดนกกระจอกบ้าน
ได้เริ่มต้นขึ้นบนท้องถนนสายใหญ่/สายเล็ก
ธงแดงกำลังโบกปลิวสะบัดอยู่ทุกหนทุกแห่ง
บนอาคาร ในสนามหญ้า พื้นที่โล่ง ถนน
และตามทัองทุ่งท้องนาในชนบท
ต่างเต็มไปด้วยหุ่นไล่กาจำนวนมากมาย
ยาม นักเรียน โรงเรียนประถมและมัธยม
คนงานของรัฐบาล ในโรงงานรัฐบาล
ชาวนา และ กองทัพปลดแอกประชาชน
ต่างตะโกนคำขวัญของประธานเหมา ว่า
ทำสงครามกำจัดนกกระจอก

ในเขต Xincheng
พวกเขาทำหุ่นไล่กามากกว่า 80,000 ตัว
และธงสีสันสดใสกว่า 100,000 ผืน
ในชั่วเวลาข้ามคืนเพียงคืนเดียว
ชาวเมืองแถวถนน Xietu เขต Xuhui
ชาวเมืองแถวถนน Yangpu เขต Yulin
ยังได้ผลิตหุ่นไล่กาที่ใช้เชือกชัก
ให้เคลื่อนไหวไปมาได้จำนวนมาก

ในเมืองและนอกเมือง  
กำลังแรงงานเกือบครึ่งหนึ่ง
ต่างระดมกันจัดตั้งเป็นกองทัพ
ทำสงครามกับนกกระจอกบ้าน

ในขณะที่ผู้เฒ่า พวกเด็ก ๆ
ต่างอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน

คนงานโรงงานในเมือง
ต่างมุ่งมั่นทำสงครามกับนกกระจอกบ้าน
และต่างให้คำมั่นสัญญาว่า  
จะรักษากำลังการผลิตไว้คงเดิม
ในสวนสาธารณะ สุสาน โรงเรือนเพาะชำ
จะมีผู้คนจำนวนน้อยมาก

มีการตั้งเขตปลอดภัย
เพื่อยิงนกกระจอกบ้าน 150 แห่ง
โดยทีมปืนไรเฟิลมืออาชีพ
Nanyang Girls Middle School
ที่ผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคนิคการยิงนก
พลเมืองต่างเข้าร่วมต่อสู้กับ
สงครามกำจัดนกกระจอกบ้าน
ประมาณ 20.00 น. ของคืนนี้คาดว่า
จะมีฆ่านกกระจอกบ้านได้ 194,432 ตัว "



7.



8.

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่