ตอนนี้ทำตามความฝันสำเร็จแล้วค่ะ ก็เลยอยากตั้งกระทู้นี้เพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่ตัดสินใจเลือกทำตามความฝัน และเพื่อเตือนสติตัวเองในอนาคต ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องผ่านอุปสรรคอะไรมามากขนาดไหน
นี่คือหนึ่งในกระทู้ที่เคยตั้งเมื่อเกือบสิบเอ็ดปีที่แล้ว
http://topicstock.ppantip.com/library/topicstock/2008/08/K6891999/K6891999.html
ช่วงที่ลังเลว่าจะลาออกดีไหม ตั้งกระทู้ไปเยอะมาก เป็นสิบกระทู้ เพราะมันก็ตัดสินใจยากที่จะทิ้งอาชีพที่มั่นคงแน่ๆ ไปทำสิ่งที่เราไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า แต่ช่วงนั้นก็เป็นโรคซึมเศร้า และเรียนต่อไปไม่ได้จริงๆ บวกกับได้ข่าวเพื่อนร่วมรุ่นเสียชีวิตไปสองคน ทำให้ตระหนักว่าเราไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่อีกนานเท่าไร เลือกใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองอยากใช้ดีกว่าต้องตายโดยยังไม่รู้เลยว่าถ้าได้ทำสิ่งที่ชอบจะเป็นยังไง
ช่วงแรกที่ลาออก โดนคนดูถูกเยอะมาก มีแต่คนด่าว่าโง่ ล้มเหลวที่ไม่เรียนให้จบ ปีแรกที่เรียนอักษร ก็มีคนพูดว่าไปเรียนได้เกรดแค่นี้เองหรอ (ภาษาอังกฤษได้ C+ เกือบทุกตัว) ตอนนั้นคิดแค่ว่าขอแค่เรียนสิ่งที่ชอบก็พอแล้ว จะเกรดอะไรเราก็มีความสุข
เราไม่ได้เรียนอักษรเพราะแค่อยากใช้ภาษาได้ดี เราเรียนเพราะคลั่งไคล้มากแบบอยากรู้ลึกซึ้งในด้านประวัติศาสตร์ วรรณคดี ภาษาศาสตร์ ฯลฯ อยากเรียนภาษาโบราณ แบบที่ไม่มีที่สอนพิเศษไหนสอนแน่ๆ แม้แต่ในมหาวิทยาลัยอื่นก็อาจไม่มีสอนด้วยซ้ำ
เราเลือกเรียนเอกจีน โดยไม่มีพื้นฐานอะไรมาก่อนเลย เริ่มใหม่ตั้งแต่ศูนย์ ปีแรกที่เข้าเอกเครียดมาก เพราะต้องเรียนกับคนที่ยื่นวิชาจีนเข้ามา บางคนเรียนจีนตั้งแต่เด็กด้วยซ้ำ เราเรียนไม่ทันเพื่อนเลย สอบออกมาได้คะแนนต่ำสุด เครียดมากจนเคยคิดจะย้ายเอก ไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา และอาจารย์ในเอกอื่นๆ แล้วก็ตัดสินใจว่าจะลองสู้แบบสุดตัวดู ไปถามเพื่อนที่เขาเรียนเก่งๆ ว่าเขามีวิธียังไงบ้าง แล้วก็ลองทำตาม เราได้เกรดดีขึ้นเรื่อยๆ และได้ 4.00 ติดกันสองเทอม สุดท้ายก็เรียนจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และสอบได้ทุนไปเรียนต่อโทเอกที่อเมริกาตั้งแต่เพิ่งจบ ใช้เวลาเรียนโทและเอกรวมกัน 4.5 ปี จบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน Ivy League และท็อป 10 ของอเมริกา
ตอนเรียนป.เอก เป็นช่วงทรมานที่สุด นอกจากเรียนหนักแล้ว เงินก็ไม่ค่อยพอใช้ ด้วยความที่สาขานี้ที่อเมริกาไม่ค่อยมีเงินเหมือนกัน บางทีก็เคยคิดว่าน่าจะเลือกสายที่มีทุนวิจัยมากกว่านี้ แต่ตลอดเกือบสิบเอ็ดปี เราไม่เคยเสียใจที่เลือกลาออกมาทำตามฝันเลยค่ะ แม้ว่าเพื่อนๆจบมาจะเงินเดือนเป็นแสน ในขณะที่เราเงินเดือนแค่สามหมื่น เราได้เรียนสิ่งที่อยากเรียน ได้ทำอาชีพที่อยากทำ ได้มีเวลาว่างไปเรียนอย่างอื่นเพิ่มเติม ถ้าต้องตายตอนนี้ก็ไม่เสียใจแล้วค่ะ เพราะได้ใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองอยากใช้แล้ว เป้าหมายถัดไปคือเลี้ยงน้องหมาให้มีสุขภาพดี เพราะพวกเขาทำให้เราผ่านเวลาแย่ๆของชีวิตไปได้
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังสู้อยู่นะคะ หลายคนคงมีความฝันที่ทำให้สำเร็จยากกว่าของเรา ไม่ต้องไปฟังคนที่มาบอกว่าเราทำไม่ได้ค่ะ
11 ปีหลังลาออกจากคณะที่ใครก็ว่าจบแล้วเงินดี เพื่อไปทำตามความฝัน
นี่คือหนึ่งในกระทู้ที่เคยตั้งเมื่อเกือบสิบเอ็ดปีที่แล้ว http://topicstock.ppantip.com/library/topicstock/2008/08/K6891999/K6891999.html
ช่วงที่ลังเลว่าจะลาออกดีไหม ตั้งกระทู้ไปเยอะมาก เป็นสิบกระทู้ เพราะมันก็ตัดสินใจยากที่จะทิ้งอาชีพที่มั่นคงแน่ๆ ไปทำสิ่งที่เราไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า แต่ช่วงนั้นก็เป็นโรคซึมเศร้า และเรียนต่อไปไม่ได้จริงๆ บวกกับได้ข่าวเพื่อนร่วมรุ่นเสียชีวิตไปสองคน ทำให้ตระหนักว่าเราไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่อีกนานเท่าไร เลือกใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองอยากใช้ดีกว่าต้องตายโดยยังไม่รู้เลยว่าถ้าได้ทำสิ่งที่ชอบจะเป็นยังไง
ช่วงแรกที่ลาออก โดนคนดูถูกเยอะมาก มีแต่คนด่าว่าโง่ ล้มเหลวที่ไม่เรียนให้จบ ปีแรกที่เรียนอักษร ก็มีคนพูดว่าไปเรียนได้เกรดแค่นี้เองหรอ (ภาษาอังกฤษได้ C+ เกือบทุกตัว) ตอนนั้นคิดแค่ว่าขอแค่เรียนสิ่งที่ชอบก็พอแล้ว จะเกรดอะไรเราก็มีความสุข
เราไม่ได้เรียนอักษรเพราะแค่อยากใช้ภาษาได้ดี เราเรียนเพราะคลั่งไคล้มากแบบอยากรู้ลึกซึ้งในด้านประวัติศาสตร์ วรรณคดี ภาษาศาสตร์ ฯลฯ อยากเรียนภาษาโบราณ แบบที่ไม่มีที่สอนพิเศษไหนสอนแน่ๆ แม้แต่ในมหาวิทยาลัยอื่นก็อาจไม่มีสอนด้วยซ้ำ
เราเลือกเรียนเอกจีน โดยไม่มีพื้นฐานอะไรมาก่อนเลย เริ่มใหม่ตั้งแต่ศูนย์ ปีแรกที่เข้าเอกเครียดมาก เพราะต้องเรียนกับคนที่ยื่นวิชาจีนเข้ามา บางคนเรียนจีนตั้งแต่เด็กด้วยซ้ำ เราเรียนไม่ทันเพื่อนเลย สอบออกมาได้คะแนนต่ำสุด เครียดมากจนเคยคิดจะย้ายเอก ไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา และอาจารย์ในเอกอื่นๆ แล้วก็ตัดสินใจว่าจะลองสู้แบบสุดตัวดู ไปถามเพื่อนที่เขาเรียนเก่งๆ ว่าเขามีวิธียังไงบ้าง แล้วก็ลองทำตาม เราได้เกรดดีขึ้นเรื่อยๆ และได้ 4.00 ติดกันสองเทอม สุดท้ายก็เรียนจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และสอบได้ทุนไปเรียนต่อโทเอกที่อเมริกาตั้งแต่เพิ่งจบ ใช้เวลาเรียนโทและเอกรวมกัน 4.5 ปี จบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน Ivy League และท็อป 10 ของอเมริกา
ตอนเรียนป.เอก เป็นช่วงทรมานที่สุด นอกจากเรียนหนักแล้ว เงินก็ไม่ค่อยพอใช้ ด้วยความที่สาขานี้ที่อเมริกาไม่ค่อยมีเงินเหมือนกัน บางทีก็เคยคิดว่าน่าจะเลือกสายที่มีทุนวิจัยมากกว่านี้ แต่ตลอดเกือบสิบเอ็ดปี เราไม่เคยเสียใจที่เลือกลาออกมาทำตามฝันเลยค่ะ แม้ว่าเพื่อนๆจบมาจะเงินเดือนเป็นแสน ในขณะที่เราเงินเดือนแค่สามหมื่น เราได้เรียนสิ่งที่อยากเรียน ได้ทำอาชีพที่อยากทำ ได้มีเวลาว่างไปเรียนอย่างอื่นเพิ่มเติม ถ้าต้องตายตอนนี้ก็ไม่เสียใจแล้วค่ะ เพราะได้ใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองอยากใช้แล้ว เป้าหมายถัดไปคือเลี้ยงน้องหมาให้มีสุขภาพดี เพราะพวกเขาทำให้เราผ่านเวลาแย่ๆของชีวิตไปได้
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังสู้อยู่นะคะ หลายคนคงมีความฝันที่ทำให้สำเร็จยากกว่าของเรา ไม่ต้องไปฟังคนที่มาบอกว่าเราทำไม่ได้ค่ะ