Wendy Halison
.....เว็นดี้เติบโตที่ลอสแอนเจลิส ในครอบครัวของเธอประกอบไปด้วย พ่อแม่ และพี่สาวที่ชื่อ ลินดา
เว็นดี้ชอบวาดรูปและเล่นเปียโน แถมยังเป็นคนที่ยิ้มสวยและมีเสน่ห์
.....เว็นดี้เข้าเรียนที่ San Fernando Valley State College และอาศัยอยู่ที่ Mid City กับพ่อแม่และสุนัขพุดเดิ้ลหนึ่งตัว ส่วนลินดานั้นได้แต่งงานกับ กิล ครอท และแยกบ้านออกไปอยู่เองแล้ว
.....วันอาทิตย์ ปี1968 เว็นดี้ได้โทรหาลินดาผู้เป็นพี่สาว โดยชักชวนให้ลินดาออกไปซื้อไดร์เป่าผมรุ่นใหม่ที่เธอเพิ่งเห็นในหนังสือพิมพ์ด้วยกัน แต่ลินดาปฏิเสธ เพราะช่วงวันหยุดเธออยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้เต็มที่ เว็นดี้จึงขับรถธันเดอร์เบิร์ดสีเขียวคู่ใจเพื่อไปหาซื้อไดร์เป่าผมเอง โดยเธอมุ่งตรงไปที่ Wilshire Boulevard หลังจากซื้อของที่ต้องการแล้ว เธอก็ได้แวะเติมแก๊สที่สถานีเติมแก๊สแถวนั้น นักเรียนผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอก
....................และเว็นดี้ก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย.................เกิดอะไรขึ้นกับเธอ!?
.....หลังจากที่พ่อแม่รอเธอเป็นเวลานานแต่เธอก็ยังไม่กลับมา ผู้เป็นแม่จึงโทรเเจ้งตำรวจว่าเว็นดี้หายตัวไป แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเธอหายตัวไปเพราะมันเพิ่งไม่กี่ชั่วโมงมานี้เอง ทางครอบครัวจึงตัดสินใจออกตามหาเว็นดี้ด้วยตัวเอง
......กิล ครอท ผู้เป็นพี่เขยได้จ้างเฮลิคอปเตอร์เพื่อออกบินไปบริเวณรอบๆด้วยความหวังว่าจะเจอเว็นดี้ โดยมีแฟนหนุ่มของเว็นดี้ขึ้นไปช่วยกันตามหาบนเครื่องด้วย แฟนหนุ่มของเว็นดี้สังเกตเห็นรถคันสีเขียวที่คุ้นตา จอดอยู่ที่บริเวณ Fairfax Avenue ทั้งสองคนรีบลงไปดู ก็พบว่าเป็นรถเว็นดี้จริงๆ โดยกุญแจรถนั้นตกอยู่ที่เบาะด้านหลังคนขับ และพวกเขาก็พบว่า "ร่างกายของเว็นดี้นั้นถูกยัดไว้ในฝากระโปรงท้ายรถ"
.....จากผลการตรวจสอบนั้น ตำรวจบอกว่า เว็นดี้พยายามต่อสู้กับคนร้าย และเธอถูกรัดคอตาย โดยพบเชือกที่ใช้ฆาตกรรมตกอยู่บริเวณรถ ที่เลวร้ายไปกว่านั้นเธอยังถูกข่มขืนอีกด้วย เครื่องประดับทุกชิ้นยังอยู่ครบถ้วน มีเพียงสิ่งเดียวที่หายไป นั่นก็คือ ไดร์เป่าผมที่เธอเพิ่งซื้อมานั่นเอง
.....ตำรวจสันนิษฐานว่า ต้องมีใครบางคนที่รู้ว่าเธอจะออกมาช้อปปิ้งคนเดียว และลงมือข่มขืนก่อนสังหารเธอ ผู้ต้องสงสัย มีทั้ง แฟนหนุ่ม พี่เขยและเพื่อนสนิทเว็นดี้อีก 2 คน แต่ผลการสอบสวนก็ออกมาว่าเขาทั้ง 4 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเว็นดี้
.....เวลาล่วงเลยมาจนปี 1998 วิทยาการในการตรวจหาDNAล้ำหน้าไปมาก ตำรวจลองเอาน้ำอสุจิที่ได้จากกางเกงและกางเกงในของเว็นดี้ที่ยังเก็บไว้มาตรวจสอบ โดยใช้เวลาหลายปี เพราะขั้นตอนในการเเยกดีเอ็นเอน้ำอสุจิจากหลักฐานเมื่อสามสิบปีที่แล้วนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก จนในปี 2016 พวกเขาก็ได้รู้ว่าฆาตกรคือใคร
.....มันคือ Edwin Dean Richardson ชายผู้ที่เคยก่อคดีลักพาตัวเด็ก ขโมยของ และย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆจนมาก่อคดี ฆ่าข่มขืน เว็นดี้ หลังจากนั้นเขาก็ก่อคดีข่มขืน ผญ อีกหลายรายจนถูกจับเข้าคุกที่รัฐโอไฮโอ แม้ว่าในตอนที่ผลตรวจดีเอ็นเอออกมานั้นเขาจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่ทางตำรวจยังมีตัวอย่างดีเอ็นเอของเขาเก็บไว้อยู่ และผลออกมาตรงกับคราบน้ำอสุจิที่พบบนกางเกงของเว็นดี้ทุกประการ
.....คดีนี้จึงถูกปิดลงในที่สุด ทางพี่สาวของเว็นดี้ก็รู้สึกดีใจมาก ที่รู้ว่าใครฆ่าน้องเสาวเธอ แม้ว่ามันคนนั้นจะตายจากไปแล้วก็ตาม
เราแปลสรุปมาจากภาษาอังกฤษอีกที ไม่สละสลวยยังไงขออภัยด้วยนะคะ 🙏🙏
คดีของ Wendy Halison ที่ใช้เวลาเกือบครึ่งศตวรรษในการตามหาตัวผู้กระทำผิด
.....เว็นดี้เติบโตที่ลอสแอนเจลิส ในครอบครัวของเธอประกอบไปด้วย พ่อแม่ และพี่สาวที่ชื่อ ลินดา
เว็นดี้ชอบวาดรูปและเล่นเปียโน แถมยังเป็นคนที่ยิ้มสวยและมีเสน่ห์
.....เว็นดี้เข้าเรียนที่ San Fernando Valley State College และอาศัยอยู่ที่ Mid City กับพ่อแม่และสุนัขพุดเดิ้ลหนึ่งตัว ส่วนลินดานั้นได้แต่งงานกับ กิล ครอท และแยกบ้านออกไปอยู่เองแล้ว
.....วันอาทิตย์ ปี1968 เว็นดี้ได้โทรหาลินดาผู้เป็นพี่สาว โดยชักชวนให้ลินดาออกไปซื้อไดร์เป่าผมรุ่นใหม่ที่เธอเพิ่งเห็นในหนังสือพิมพ์ด้วยกัน แต่ลินดาปฏิเสธ เพราะช่วงวันหยุดเธออยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้เต็มที่ เว็นดี้จึงขับรถธันเดอร์เบิร์ดสีเขียวคู่ใจเพื่อไปหาซื้อไดร์เป่าผมเอง โดยเธอมุ่งตรงไปที่ Wilshire Boulevard หลังจากซื้อของที่ต้องการแล้ว เธอก็ได้แวะเติมแก๊สที่สถานีเติมแก๊สแถวนั้น นักเรียนผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอก
....................และเว็นดี้ก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย.................เกิดอะไรขึ้นกับเธอ!?
.....หลังจากที่พ่อแม่รอเธอเป็นเวลานานแต่เธอก็ยังไม่กลับมา ผู้เป็นแม่จึงโทรเเจ้งตำรวจว่าเว็นดี้หายตัวไป แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเธอหายตัวไปเพราะมันเพิ่งไม่กี่ชั่วโมงมานี้เอง ทางครอบครัวจึงตัดสินใจออกตามหาเว็นดี้ด้วยตัวเอง
......กิล ครอท ผู้เป็นพี่เขยได้จ้างเฮลิคอปเตอร์เพื่อออกบินไปบริเวณรอบๆด้วยความหวังว่าจะเจอเว็นดี้ โดยมีแฟนหนุ่มของเว็นดี้ขึ้นไปช่วยกันตามหาบนเครื่องด้วย แฟนหนุ่มของเว็นดี้สังเกตเห็นรถคันสีเขียวที่คุ้นตา จอดอยู่ที่บริเวณ Fairfax Avenue ทั้งสองคนรีบลงไปดู ก็พบว่าเป็นรถเว็นดี้จริงๆ โดยกุญแจรถนั้นตกอยู่ที่เบาะด้านหลังคนขับ และพวกเขาก็พบว่า "ร่างกายของเว็นดี้นั้นถูกยัดไว้ในฝากระโปรงท้ายรถ"
.....จากผลการตรวจสอบนั้น ตำรวจบอกว่า เว็นดี้พยายามต่อสู้กับคนร้าย และเธอถูกรัดคอตาย โดยพบเชือกที่ใช้ฆาตกรรมตกอยู่บริเวณรถ ที่เลวร้ายไปกว่านั้นเธอยังถูกข่มขืนอีกด้วย เครื่องประดับทุกชิ้นยังอยู่ครบถ้วน มีเพียงสิ่งเดียวที่หายไป นั่นก็คือ ไดร์เป่าผมที่เธอเพิ่งซื้อมานั่นเอง
.....ตำรวจสันนิษฐานว่า ต้องมีใครบางคนที่รู้ว่าเธอจะออกมาช้อปปิ้งคนเดียว และลงมือข่มขืนก่อนสังหารเธอ ผู้ต้องสงสัย มีทั้ง แฟนหนุ่ม พี่เขยและเพื่อนสนิทเว็นดี้อีก 2 คน แต่ผลการสอบสวนก็ออกมาว่าเขาทั้ง 4 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเว็นดี้
.....เวลาล่วงเลยมาจนปี 1998 วิทยาการในการตรวจหาDNAล้ำหน้าไปมาก ตำรวจลองเอาน้ำอสุจิที่ได้จากกางเกงและกางเกงในของเว็นดี้ที่ยังเก็บไว้มาตรวจสอบ โดยใช้เวลาหลายปี เพราะขั้นตอนในการเเยกดีเอ็นเอน้ำอสุจิจากหลักฐานเมื่อสามสิบปีที่แล้วนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก จนในปี 2016 พวกเขาก็ได้รู้ว่าฆาตกรคือใคร
.....มันคือ Edwin Dean Richardson ชายผู้ที่เคยก่อคดีลักพาตัวเด็ก ขโมยของ และย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆจนมาก่อคดี ฆ่าข่มขืน เว็นดี้ หลังจากนั้นเขาก็ก่อคดีข่มขืน ผญ อีกหลายรายจนถูกจับเข้าคุกที่รัฐโอไฮโอ แม้ว่าในตอนที่ผลตรวจดีเอ็นเอออกมานั้นเขาจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่ทางตำรวจยังมีตัวอย่างดีเอ็นเอของเขาเก็บไว้อยู่ และผลออกมาตรงกับคราบน้ำอสุจิที่พบบนกางเกงของเว็นดี้ทุกประการ
.....คดีนี้จึงถูกปิดลงในที่สุด ทางพี่สาวของเว็นดี้ก็รู้สึกดีใจมาก ที่รู้ว่าใครฆ่าน้องเสาวเธอ แม้ว่ามันคนนั้นจะตายจากไปแล้วก็ตาม
เราแปลสรุปมาจากภาษาอังกฤษอีกที ไม่สละสลวยยังไงขออภัยด้วยนะคะ 🙏🙏