จะบอกว่าเป็นคราวซวยของลูกค้าธนาคารกสิกรไทยก็ได้
เหตุการณ์เช่นนี้น่าจะเคยเกิดขึ้นกับบางคน หรือหลายคน
แต่ยอมรับว่า วันนี้ผมซวยเอง ที่เลือกได้ แต่ดันไม่เลือก
เรื่องของเรื่องคือตามแผนเดิม วันนี้เลิกงาน ว่าจะแวะไปหาอะไรทาน ที่โรบินสันสมุทรปราการ
ออกจากที่ทำงานมาเห็นอากาศขมุกขมัวด้วยฤทธิ์ปาบึก
ก็เปลี่ยนแผนในใจ กลับไปหาอะไรทานแถวบ้าน แล้วเปิดแอร์นอนตีพุงดูบอล FA Cup ดีกว่า
แต่พอผ่านหน้าโรบินสัน ไม่รู้อะไรดลใจให้เลี้ยวเข้าไป
คิดว่า ทำธุระอะไรเสร็จ รีบกลับไปดูบอลดีกว่า
ก็ไปโอนเงินเข้าแบ๊งค์ต่างๆ เข้าบัญชีนั่นนู่นนี่
จะกลับอยู่แล้ว ใจดันคิดว่าโอนเงินใส่แบ๊งค์กสิกรไว้มั่งดีกว่า
ด้วยความที่เบี้ยน้อยหอยน้อย เอาวะ ไหนๆ ก็มาแล้ว
ปลายเดือนจะได้ไม่ต้องรับภาระมาก ก็เดินไปโอนที่ตู้กสิกร สาขาในห้าง
โอนเข้าบัตรเอทีเอ็มเราไว้
พอกดใส่จำนวนเงินเสร็จ เหลือขั้นตอนสุดท้าย คือกดยืนยันการโอน
พอเราจิ้มกดปุ่มยืนยันการโอน เสียงดังติ๊ดยังไม่ทันขาดเสียง
ตู้ฝากเงินก็กระชากดังชึ่งงงง เหมือนนัดกันไว้
แล้วหน้าจอก็ขึ้นมาอย่างที่เห็น
เราก็ยืนรออยู่พักนึง หวังว่ามันจะฟื้นขึ้นมา มันไม่ฟื้น
เลยเดินไปกวักมือเรียกน้องที่เดินไปเดินมาอยู่บริเวณหน้าสาขา
น้องเดินมาดู ผมก็บอกน้องว่า จะเอาบัตรคืนทำยังไง
น้องบอกว่า เครื่องมันกินบัตรพี่ไปแล้ว
พี่ต้องมาติดต่อขอรับบัตรในวันหลัง
พูดจบน้องก็หันไปคุยกับลูกค้าคนอื่นต่อ
ในใจเราคิดว่า อะไรฟะ หางานให้ตรูแท้ๆ
เรายืนลังเลอยู่พักหนึ่ง เลยตัดสินใจเดินไปหาน้องในสาขา
แจ้งเหตุการณ์ให้น้องฟัง น้องถามว่า "เงินเข้าป่าวพี่"
อ้าว นั่นน่ะสิ เพิ่งรู้ว่าต้องลุ้นตรงจุดนี้ด้วย
นึกว่าลุ้นรับบัตรคืนอย่างเดียว
ในใจคิดว่า มันต้องเข้าสิวะ ก็ฉันกดยืนยันไปแล้ว
น้องเลยโทรหาคอลเซนเตอร์ให้
ใช้เวลาคุยอยู่ประมาณ 20 นาทีแหละ
โอนสายไปมากับพนักงาน 3 - 4 คน หลากหลายหน่วยงาน
(แต่ดีอย่างคือ ตอนโอนสายเราไม่ต้องเล่าเรื่องให้คนใหม่ฟังทุกครั้ง)
โอนไปโอนมา คนโน้นที คนนี้ที
สรุปได้แว่
เราต้องอายัดบัตรเอทีเอ็มของเรานั้นทิ้งเสีย
เพื่อจะสามารถมาขอบัตรใหม่ได้ในวันพรุ่งนี้
ส่วนเรื่องเงินที่เราฝาก ตรวจสอบแล้วเงินไม่เข้า
ต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกสามวัน
เราถามกลับไปว่า จะตรวจสอบยังไง
จนท.ปลายสายบอกว่า จะมีจนท.ไปเปิดตู้ดู
หากพบว่ามีเงินเกิน จะคืนเข้าบัญชีเรา
ซึ่งอันนี้มีความรู้สึกไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่ง
ต้องลุ้นกันต่อไปอีกสามวัน
ถามว่า เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดกับคนที่ขัดสนมากๆ จะทำอย่างไร
เงินจำนวนนี้ ถึงไม่มาก แต่ก็สร้างความเดือดร้อนให้เราได้
หลังจากเสียเวลาเจรจากับ คอลเซนเตอร์อยู่นาน
ในใจคิดทันที ว่ารู้งี้ตรูไม่น่าไปยุ่งกะตู้นั้นเลย
อุทาหรณ์สอนเตือนใจว่า
ครั้งต่อไป ไม่จำเป็นอย่าใช้ตู้ธนาคาร
อย่าไปเล่นกับเทตโนโลยีที่ไม่เสถียร
คุณจะเสียทั้งเวลา และอาจสูญเสียเงินด้วยก็ได้
ให้มุ่งไปเคาน์เตอร์อย่างเดียวเท่านั้น
ระวัง** ฝากเงินที่ตู้ธนาคาร ใช่ว่าจะสะดวกรวดเร็วอย่างที่คุณคิดเสมอไป
เหตุการณ์เช่นนี้น่าจะเคยเกิดขึ้นกับบางคน หรือหลายคน
แต่ยอมรับว่า วันนี้ผมซวยเอง ที่เลือกได้ แต่ดันไม่เลือก
เรื่องของเรื่องคือตามแผนเดิม วันนี้เลิกงาน ว่าจะแวะไปหาอะไรทาน ที่โรบินสันสมุทรปราการ
ออกจากที่ทำงานมาเห็นอากาศขมุกขมัวด้วยฤทธิ์ปาบึก
ก็เปลี่ยนแผนในใจ กลับไปหาอะไรทานแถวบ้าน แล้วเปิดแอร์นอนตีพุงดูบอล FA Cup ดีกว่า
แต่พอผ่านหน้าโรบินสัน ไม่รู้อะไรดลใจให้เลี้ยวเข้าไป
คิดว่า ทำธุระอะไรเสร็จ รีบกลับไปดูบอลดีกว่า
ก็ไปโอนเงินเข้าแบ๊งค์ต่างๆ เข้าบัญชีนั่นนู่นนี่
จะกลับอยู่แล้ว ใจดันคิดว่าโอนเงินใส่แบ๊งค์กสิกรไว้มั่งดีกว่า
ด้วยความที่เบี้ยน้อยหอยน้อย เอาวะ ไหนๆ ก็มาแล้ว
ปลายเดือนจะได้ไม่ต้องรับภาระมาก ก็เดินไปโอนที่ตู้กสิกร สาขาในห้าง
โอนเข้าบัตรเอทีเอ็มเราไว้
พอกดใส่จำนวนเงินเสร็จ เหลือขั้นตอนสุดท้าย คือกดยืนยันการโอน
พอเราจิ้มกดปุ่มยืนยันการโอน เสียงดังติ๊ดยังไม่ทันขาดเสียง
ตู้ฝากเงินก็กระชากดังชึ่งงงง เหมือนนัดกันไว้
แล้วหน้าจอก็ขึ้นมาอย่างที่เห็น
เราก็ยืนรออยู่พักนึง หวังว่ามันจะฟื้นขึ้นมา มันไม่ฟื้น
เลยเดินไปกวักมือเรียกน้องที่เดินไปเดินมาอยู่บริเวณหน้าสาขา
น้องเดินมาดู ผมก็บอกน้องว่า จะเอาบัตรคืนทำยังไง
น้องบอกว่า เครื่องมันกินบัตรพี่ไปแล้ว
พี่ต้องมาติดต่อขอรับบัตรในวันหลัง
พูดจบน้องก็หันไปคุยกับลูกค้าคนอื่นต่อ
ในใจเราคิดว่า อะไรฟะ หางานให้ตรูแท้ๆ
เรายืนลังเลอยู่พักหนึ่ง เลยตัดสินใจเดินไปหาน้องในสาขา
แจ้งเหตุการณ์ให้น้องฟัง น้องถามว่า "เงินเข้าป่าวพี่"
อ้าว นั่นน่ะสิ เพิ่งรู้ว่าต้องลุ้นตรงจุดนี้ด้วย
นึกว่าลุ้นรับบัตรคืนอย่างเดียว
ในใจคิดว่า มันต้องเข้าสิวะ ก็ฉันกดยืนยันไปแล้ว
น้องเลยโทรหาคอลเซนเตอร์ให้
ใช้เวลาคุยอยู่ประมาณ 20 นาทีแหละ
โอนสายไปมากับพนักงาน 3 - 4 คน หลากหลายหน่วยงาน
(แต่ดีอย่างคือ ตอนโอนสายเราไม่ต้องเล่าเรื่องให้คนใหม่ฟังทุกครั้ง)
โอนไปโอนมา คนโน้นที คนนี้ที
สรุปได้แว่
เราต้องอายัดบัตรเอทีเอ็มของเรานั้นทิ้งเสีย
เพื่อจะสามารถมาขอบัตรใหม่ได้ในวันพรุ่งนี้
ส่วนเรื่องเงินที่เราฝาก ตรวจสอบแล้วเงินไม่เข้า
ต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกสามวัน
เราถามกลับไปว่า จะตรวจสอบยังไง
จนท.ปลายสายบอกว่า จะมีจนท.ไปเปิดตู้ดู
หากพบว่ามีเงินเกิน จะคืนเข้าบัญชีเรา
ซึ่งอันนี้มีความรู้สึกไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่ง
ต้องลุ้นกันต่อไปอีกสามวัน
ถามว่า เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดกับคนที่ขัดสนมากๆ จะทำอย่างไร
เงินจำนวนนี้ ถึงไม่มาก แต่ก็สร้างความเดือดร้อนให้เราได้
หลังจากเสียเวลาเจรจากับ คอลเซนเตอร์อยู่นาน
ในใจคิดทันที ว่ารู้งี้ตรูไม่น่าไปยุ่งกะตู้นั้นเลย
อุทาหรณ์สอนเตือนใจว่า
ครั้งต่อไป ไม่จำเป็นอย่าใช้ตู้ธนาคาร
อย่าไปเล่นกับเทตโนโลยีที่ไม่เสถียร
คุณจะเสียทั้งเวลา และอาจสูญเสียเงินด้วยก็ได้
ให้มุ่งไปเคาน์เตอร์อย่างเดียวเท่านั้น