พิธีศพ จำเป็นไหมที่ต้องมี ความเชื่อ เรื่อง ชีวิตหลังความตาย แล้ว ถึงจะมีพิธีศพ ในทุกศาสนา และ บทสวดพระอภิธรรม พิธีศพ

เป็นที่รู้กันดีทุกคนนะคับ  ว่า  พิธีศพของไทย  เรานั้น  ไม่ว่า  จะเป็นแบบไทยหรือแบบจีน  ซึ่งก็เป็นพุทธเหมือนกัน  แต่คนละนิกาย
นั้น  มีต้นทุนในการจัดงาน  ที่สูงมาก  เรียกได้ว่า  แทนที่จะได้ไว้อาลัยคนตาย  แบบหมดห่วงในทุกๆเรื่อง
กลับต้องมีเจ็บเอง  กลับ  ค่าใช้จ่าย  ต้นทุก  หลายอย่างที่สูงมาก  เช่น  แค่จ้างคนมาวางดอกไม้  ขั่นต่ำ  4  ช่อ  ยัง  9000 เลย
ตก  ช่อละ  2250  บาท  

ซึ่ง  จริงๆ  อ้างมีคนบอกว่า  คิดแบบนี้  ไม่มีความรู้สึกร่วมไว้อาลัยให้คนตายบางเลยหรอ  ผมแค่มองอีกแง่หนึ่งนะคับ

แต่แน่นอน  ทุกเรื่อง  มีข้อเสีย  

ก็มี

ข้อดี  คือ
1.ได้เจอ  ญาติในวงตระกูล  ที่ปกติจะไม่ได้เจอกันเลย  เพื่อนจากญาติฝ่ายต่างๆ  อ้างได้ผลประโยชน์จากการ  รู้จักญาติพวกนี้  ตีสนิทให้เขาช่วย
    เราในอนาคตได้
2.ราคาสินค้าต่างๆ  ที่ใช้ในการขายเพื่อจัดงานศพ  เช่น  ช่อดอกไม้  เสา  โลงศพ  ....  และ  ค่าบริการ  ของผ็มาจัดงานศพให้เรา  อย่าง  มูลนิธิ
   นั้น  จะแพงเป็นพิเศษ  เพราะ  ในทางเศรษฐศาสตร์  มันเป็นกิจกรรมที่เลือกไม่ได้  ก็ต้องถูกกดราคา  เพราะ  Demand  เยอะ  อยู่แล้ว
   เรียกได้  ว่า  โดยผูกขาดราคานั้นแหละ  จะเป็นการช่วยให้  การกระจายรายได้  ไปสู่คนอื่นได้มากขึ้น

ข้อเสีย
1.ค่ายใช้จ่าย  ต้นทุน  ที่แพงเหมือนที่บอกไปละ  อยากรู้เหมือนกันว่า  พิธีศพ  ศาสนาอื่นในโลกนี้  มีไหมที่ต้นทุนต่ำ  
   และส่วนใหญ่  จะต้นทุนสูงหมดเลยไหม

***************************************************************************************************************

เอาละ  นอกเรื่องมานาน  เข้าประเด็นหลักๆ  ของเรื่องกันเลย
ผมลองสังเกต  ในแต่ละพิธีศพ  และ  ความเชื่อของคนทั้งโลก   หลายๆศาสนา  อย่าง  พุทธ  คริส  อิสลาม  ไม่ว่ายังไงก็ต้องมี  พิธีศพ  เพราะ
อันเนื่องมาจาก   ญาติผู้ตาย  หรือ  ประชาชนคนส่วนใหญ่ในแต่ละประเทศ   แต่ละโซนของโลกนั้น  
มีความเชื่อ  เรื่อง  ชีวิตหลังความตาย  ซึ่งมีได้หลายแบบ  ตั้งแต่  แบบ  
-  พุทธ  ที่แค่เวียนวายตายเกิด   ในแต่ละภพภูมิ  32  ภพภูมิ  
-  คริส  ตายไป  ถูกพระเจ้าพิพากษา  ไปลงนรก  หรือ  ขึ้นสวรรค์  ไปอยู่ดินแดนเดียวกับ  พระเจ้า
-  อิสลาม  ก็คล้ายๆ  คริส  มี  นรก  สวรรค์  ของอัลเลาะห์  ซึ่ง  อัลเลาะห์  เป็นคนสร้างขึ้น
นั้นหมายความว่า  พิธิศพ  เกิดมาจาก  คนส่วนใหญ่ของประเทศ  ของโลก  เชื่อว่า  ชีวิตหลังความตายในรูปแบบต่างๆมีจริง
หาก  ไม่มีความเชื่อ  เรื่อง  ชีวิตหลังความตาย  แล้ว  จะยังคงมีพิธีศพอยู่อีกไหม  

***************************************************************************************************************

เป็นที่รู้กันอยู่นะว่า  พุทธแท้  ไม่เชื่อ  ว่า  พระสวดอภิธรรมศพ  นั้นแล้ว  ผู้ตาย  หรือ   ญาติที่มาร่วมงานศพ  จะได้บุญ  แต่ความจริง  คือ  มันมีคนส่วนใหญ่เลยที่  เชื่อ  ว่า  พระสวด  แล้วได้บุญ  จึงทำให้  พอคนตายเสร็จ  แล้ว  ไม่เผาหรือฝังเลย  ต้องมานอนในโลง  เล่นๆ  3  วัน  7  วัน  หรือ มากกว่า
ซึ่งแปลกมาก  ที่  ทำไม  ความเชื่อแบบนี้  มันสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้  ทำให้คนส่วนใหญ่คิดจริงๆ  
ว่า  ทำบุญถวายของพระ   กวาดน้ำ  สวดใน  ฟังพระสวดในงานศพ  และงานต่างๆ  แล้วได้บุญ  ทั้งๆที่  ไอบทสวด  ภาษา  บาลี  นั้น  
ถึง  แปลเป็นไทย  ก็เป็นแค่คำพูด  ซึ่งมีความหมายเป็น  เนื้อหา  แบบ  พุทธแท้ซ้อนอยู่  
แต่เดียวก่อน  ความแปลกของมันอยู่ตรงนี้   ถึงแม้ว่า  จะแปลเป็นไทย  แล้ว  คนไทยส่วนใหญ่  ก็ไม่มีวันเข้าใจมันอยู่ดี

โดยเฉพาะ  บทสวด  พระอภิธรรม  ในงานศพ  ซึ่งประกิบไปด้วย  7  บท
แต่ละบท  มีเนื้อหา  ตามนี้
1.พระสังคิณี  เกี่ยวข้องกับ  Input  Output  ของกรรม  ที่เกิดจาก  อารมณ์ที่ด้านบวก(กุศล) และ  อารมณ์ที่ด้านลบ(อกุศล)
2.พระวิภังค์ เกี่ยวข้องกับ  การทำงาน  ขันธ์ 5
3.พระธาตุกถา เกี่ยวข้องกับ  การสงเคราะห์ธรรม  (อันนี้ผมยังไม่เข้าใจมันเลย)  แต่น่าจะแค่การแบ่งหมวดหมู่ของสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ
4.พระปุคคะละปัญญัติ เกี่ยวข้องกับ (อันนี้โดนหลายเรื่องเลย  ยากมาก)  
   การทำงานของ  จิต  เช่น  ขัน 5  ปฏิจจสมุปบาท  12    และ  
   ความสามารถของ  จิต  เช่น  อริยสัจ  4  ธาตุ  4  ธาตุ  18  อินทรีย์  22  และ  
   การพัฒนาการของ  จิต  เช่น  ญาณ1(โสดาบรรณ)  ยั่งไปถึง  ญาณ  4  อรูปญาณ  4  นิพพาน(อรหัตถ์)
5.พระกถาวัตถุ เกี่ยวข้องกับ  
   ธรรมชาติที่แท้จริงของจักรวาลนี้  ที่เกิดจากเหตุปัจจัยปรุงแต่งกันเอง  เรียกว่า  ปรมัตถธรรม
   ธรรมชาติที่แท้จริงของนิพพาน  ว่า  นิพพาน  มีลักษณะอย่างไร  
6.พระยะมะกะ เกี่ยวข้องกับ  การแยกประเภทของ  สิ่งที่เป็น  กุศล  และ  อกุศล
7.พระมหาปัฏฐาน เกี่ยวข้องกับ  ความสามารถของ  จิต  เจตสิก  รูปนาม  มรรค  8  ...  เป็นต้น

ซึ่งผม  ลองอ่านเล่นในงานศพ  ของ  ปู่ผม  ถึงกับอึ้งไปเลย  เพราะ  มันเอาเนื้อหา  ระดับ  คนได้ญาณ  อรหัตถ์  (ปริษญา เอก)  มาเทศน์สอน
คนทั่วไปที่มาร่วมงานศพ (เด็กอนุบาล) ที่ไม่ได้รู้เรื่อง  และ  อยากสนใจศาสนาพุทธอยู่ละ  
เอิ่ม  ผมก็มึนงงกับ  พวกพระ  ในวัด  ขึ้นมาทันที  เอาบทสวดแบบนี้มาเทศน์  คนไทย  แล้วเขาจะได้ไรหรอ  บุญก็ไม่ได้  
เนื้อหา  ใน  บทสวด  ก็ยาก  ระดับ  นรก  
ผมอ่านแล้ว  รู้สึกว่า  เทศน์สอน  ฟิสิกครอนตัม  กับ  เด็ก  ป.1  พึง  1+1 = 2  ได้  แบบนี้  แล้วใครจะไปเข้าใจ  พระไทย  คิดกันได้ไงนี้

เพราะงั้น  เรื่อง  บทสวด  สรุป  เทศไปก็เท่านั้น  นะคับ  เอาความรู้ระดับ  โหดขนาดนี้มา  เทศน์  แล้วหวังว่า  คนจะปลงกับชีวิต  555
  
***************************************************************************************************************
ต่อไปนี้  คือ  คำถาม
1.หาก  ไม่มีความเชื่อ  เรื่อง  ชีวิตหลังความตาย  แล้ว  จะยังคงมีพิธีศพอยู่อีกไหม  
2.มี  ศาสนา  ไหน  ใน  โลกไหม  ที่  ไม่มีความเชื่อ  เรื่อง  ชีวิตหลังความตาย   เลย  แต่ยังเป็น  ศาสนา  ได้  
*** ข้อ 2. ห้ามตอบพุทธ  เพราะ  ถ้าพุทธ  ไม่เชื่อ  การเวียนวานตายเกิด  จะพยายาม  นิพพาน  ไปเพื่อ  ???  
      อย่าอ้างด้วยว่า  นิพพาน  ชาตินี้  แล้ว  ทำให้ไม่มีทุกข์  อีก  ชาติหน้าจะมีหรือไม่ก็ไม่สน  เพราะ  ที่ต้องการ  นิพพาน  เพราะ  
      มัน  มี  ความเชื่อ  ว่า  การเวียนวายตายเกิด  นั้น   มันคือ  ที่สุดแห่งความโหดร้าย  อยู่  จึงต้องพยายามหนีไปจากมัน  มันเลยทำให้ฟังไม่ขึ้น  
***
3.บทสวด  ที่พระส่วนใหญ่ในไทย  ใช้เทศน์  ใน  งานศพ  มันยากเกินไป  สำหรับคนธรรมดา  ทำไมยังเอามันมาเทศน์อีก ?? ถึงแปลไทยก็ไม่มีวันเข้าใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่