[CR] โมโกจู สวรรค์ของนักพจญภัย ที่โหดที่สุดในประเทศไทย


โมโกจู ทริปเปิดป่า 17-21/11/18

ถ้าพูดถึงเดินป่า ตอนนี้เรานึกถึงแต่...โมโกจู
โมโกจูเป็นทริปเดินป่าที่ว่ากันว่าโหดที่สุดในประเทศไทยเลยน่ะ
เหมือนเป็นปริญญาเอกของการเดินป่า ที่นี่ใช้เวลาเดินป่าถึง 5วัน4คืน
เพื่อเดินทางไปพิชิตยอดเขาที่มีความสูง 1,964เมตรเลยแหละ

เราเชื่อว่ายังมีอีกหลายๆคนที่ยังไม่รู้จักโมโกจูแน่ๆ ไม่เคยได้ยินหรือไม่เคยผ่านหูมาเลยซักครั้ง
โมโกจูเป็นเขาที่โด่งดังในกลุ่มคนชอบปีนเขามากๆ และยังเป็นทริปที่จองยากที่สุด
ใครที่ว่าเขาช้างเผือกจองยากแล้ว โมโกจูยากกว่านั้นหลายร้อยเท่า
และปีนึงจะมีคนได้ไปแค่ประมาณ240คนเท่านั้น

จุดเริ่มต้นครั้งนี้ของเราเริ่มจากเนื่องด้วยจากที่ปีที่แล้วเราได้ไปเขาช้างเผือก
แล้วก็รู้สึกติดใจการเดินป่ามายังไงก็ไม่รู้ หลังจากกลับลงมา
ก็ไปเปิดเจอทริปปีนเขาที่น่าสนใจเยอะมาก จนไปเจอโมโกจูนี่แหละ
ที่ว่าเป็นทริปที่จองยาก แถม5วัน4คืน อะไรมันจะขนาดนั้นนนนน!!
ดูเป็นเขาที่ท้าทายสุด เพราะฉะนั้นเรานี่แหละต้องไปให้ได้!!!!!

โมโกจู5วัน4คืน
วันที่1 : อุทยาน(16กม.)-แคมป์แม่กระสา
ทางราบ มีชันบ้างช่วงแรกๆ
วันที่2 : แคมป์แม่กระสา(4กม.)-แคมป์แม่เรวา-(3กม.)น้ำตกแม่รีวา
เส้นทางป่าไผ่ เดินงาน ก็จะยกย่อชิดหน่อยๆ
วันที่3 : แคมป์แม่เรวา(8กม.)-แคมป์ตีนดอย-(1กม.)หินเรือใบ
ทางขึ้นเขาแบบชันชันชัน ชันยาวๆตลอดเกือบ8กิโลไปเลย ชันแบบสุดลูกหูลูกตา สุดยอดของความชัน
วันที่4 : แคมป์ตีนดอย(12กม.)-แคมป์แม่กระสา
เส้นทางที่ว่าขึ้นชันๆมาเมื่อวาน วันนี้เลยลงกันแบบยาว ลงจนนิ้วเท้าระบมไปเล๊ยยยยย
วันที่5 : แคมป์แม่กระสา(16กม.)-อุทยาน
ทางราบตลอดทาง มีทางขึ้นเขานิดหน่อย

การจองทริป
การจองทริปเป็นอะไรที่ยากมากจริงๆ ใครที่อยากจะไปจริงๆ ต้องตั้งตารอวันประกาศกันเลยแหละ
ทางอุทยานจะประกาศการจองทริปประมาณช่วงเดือนตุลาคม แต่ปีนี้ล่าช้าไปเดือนพฤศจิกายน
เนื่องจากเราฉายเดี่ยว ไม่มีเพื่อนไปด้วยเพราะมันโหดเกิน เราเลยต้องไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ
ซึ่งเราก็ได้ไปเจอ เพจ:หาเพื่อนเดินขึ้นโมโกจู ซึ่งเพจนี้จะมีจัดกลุ่มโดยคาดเดาวันที่ที่อุทยานจะเปิด
แล้วตั้งเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้ต่างคนต่างที่มาได้มาจับกลุ่มร่วมกัน
ซึ่งเมื่อเราได้กลุ่มแล้ว ก็เริ่มคุยกันถึงวิธีการจอง จองยังไง ใครอยู่ที่ไหน มาจากไหนกันบ้าง
แล้วรอทางอุทยานประกาศ ถ้าวันที่เราได้คาดการณ์ไว้ตรงกับวันที่ทางอุทยานประกาศ ก็เตรียมพร้อม
สำหรับการจองได้เลย **ห้ามใช้เมลเดิมส่งเมลซ้ำน่ะ**

วิธีการจองแบบเป็นลำดับขั้นตอน
1. หาร่วมกลุ่ม ในเพจ:หาเพื่อนเดินโมโกจู
2. เมื่อหากลุ่มได้แล้ว รออุทยานประกาศ
3. เมื่ออุทยานประกาศแล้ว เตรียมใบสมัครเพื่อจองทริป
4. ซ้อมส่ง E-mail ให้เมลถึงเมลปลายทาง12:00ตรง จับกันเป็นวินาทีไปเลย
5. เมื่อส่งแล้วก็นั่งภาวนาอยู่หน้าคอม
6. รอประกาศแค่นั้นเลย

ตัวอย่างการซ้อมส่งเมล จริงจังแค่ไหนเรียกจริงจัง!! คำนวณเป็นวินาทีกันเลยทีเดียว
เราจะกดส่งลงท้ายที่ 56วินาทีกดไปเลย อย่ามือลั่นน่ะ55

การเดินทาง
สามารถเดินทางได้ด้วนรถยนต์ส่วนตัว หรือ รถทัวร์จ้า
ส่วนเราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพ-คลองลาน
ไปโดยรถทัวร์ของ บขส. ไปลงที่คลองลาน
ค่ารถทัวร์ ไป-กลับ 574บาท
จากคลองลาน เราต่อรถเหมาไปลงมี่อุทยาน
ไปกลับ 200บาท

ค่าใช้จ่าย
ค่ารถทัวร์ ไปกลับ 574+10=584บาท
ค่ารถจากคลองลานเข้าอุทยาน ไปกลับ200บาท
มัดจำค่านำทางโมโกจู 30% 281.25
ค่านำทางโมโกจู 70% 1593.75
(ค่านำทาง13,500ลูกหาบ9000/÷12คน=1,875บาท)
ค่าวัตถุดิบที่เราซื้อไปทำอาหารข้างบน 5วัน 12มื้อ 415บาท
รวม 3,074บาท

อาหารการกิน
เนื่องจากเราไปอยู่กินนอนในป่า แน่นอนแหละก็ต้องเตรียมของกินไปให้พร้อม ในกลุ่มของพวกเราก็จะรวมตัวลิสรายการอาหารที่จะทำ และรายการวัตถุดินที่จะซื้อมาทำกินกัน จำนวนวุตถุดิบที่จะนำมาทำอาหาร ต้องให้พอกับจำนวนคนทั้งหมด ซึ่งทั้งทริปมี 12คน +ลูกหาบ 3คน +เจ้าหน้าที่ 2คน รวม 17คน เรื่องอาหารการกิน เราต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับลูกหาบและเจ้าหน้าที่ด้วย



ของใช้ที่จำเป็น
อยู่ในป่า 5วัน4คืน ควรเตรียมอะไรไปบ้าง **นี่คือคำเตือน**55555
บอกเลยว่าเราควรเตรียมไปเฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้น อะไรที่ไม่จำเป็นให้ตัดออก
ของกลุ่มเรา มีลูกหาบ3คน ซึ่งจะแบกอาหาร อุปกรณ์ทำครัวต่างๆทั้งหมด
และก็จำพวกเต้นท์ ส่วนเสื้อผ้าถุงนอนก็จะแบกกันขึ้นไปเอง
ซึ่งบอกเลย ไม่ควรเอาไปเยอะ เพราะมันจะตัดกำลังเราไปเยอะเหมือนกัน
- เสื้อผ้า ไม่ต้องเอาไปเยอะ ใส่ซ้ำๆเอาได้ (ซักได้แต่ต้องเอาแบบผ้าแห้งไวไป)
- เสื้อกันหนาว
- หมวก
- รองเท้าเดินป่า + รองเท้าแตะ
- ถุงนอน + หมอนลม
- กล้อง + อุปกรณ์ต่างๆ
- Powerbank
- ถุงกันทาก
- ถุงเท้าหนาๆ
- อุปกรณ์เดินป่า (ไม้เท้าเดินป่า หม้อสนาม ช้อนส้อม จานชามส่วนตัว)
- Rain Cover
- เสื้อกันฝน
- ยาสามัญ + ยากันยุง

กระเป๋าควรใช้แบบไหน
กระเป๋าที่อยากจะแนะนำให้ใช้ควรที่จะมีซัพพอร์ทหลัง มีสายรัดสะโพกเพื่อถ่ายเทน้ำหนัก ควรเป็นกระเป๋าเป้ Backpack ของเราเอาไปขนาด 32ลิตร (น้ำหนักกระเป๋าแค่เกือบๆ900กรัม)สำหรับบางคนอาจจะน้อยไป แต่เราไม่อยากเอาไปใบใหญ่มาก เพราะกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่มาก ก็จะใส่ของได้เยอะ มันเลยอาจจะทำให้เราใส่ของเพิ่มไปเรื่อยๆ จนทำให้กระเป๋ามันหนักเกินไป เราเลยเลือกที่จะเอาไปเท่านี้ ซึ่งน้ำหนักของกระเป๋าก็มีผลน่ะ สำหรับใครที่กำลังเลือกซื้อ ก็ขอแนะนำกระเป๋าที่น้ำหนักเบา ถ้าใบใหญ่มาก กระเป๋าก็กินไปเกือบๆ 2โลแล้ว เพื่อนๆก็ลองหาเลือกๆที่ตัวเองถูกใจกันดูน่ะค่า^^

รองเท้า
รองเท้าที่จะแนะนำ ควรเป็นรองเท้าที่แข็งแรง ทนทาน ลุยน้ำ ลุยดิน ลุยป่าไม้
ถ้าเป็นรองเท้าที่แห้งไวก็จะดีมากๆเลย

วันนัดพบ 16/11/18
จุดนัดพบของพวกเราส่วนหนึ่ง นัดเจอกันที่หมอชิต รถของพวกเราเวลา 22:00น.
นี่คือตั๋วของเราาาาา ตั๋วไป-กลับจ้า^^
รถทัวร์ของเราจะมีแวะกินข้าว ช่วงๆตี1 ที่สำคัญจะมีข้าวต้มดักเอาไว้
อย่าพึ่งใจรีรีบร้อน ขางๆเดินไปนิดนึงมีราดหน้า ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ
ของเรากินก๋วยเตี๋ยว ซดน้ำร้อนๆ บอกเลยอร่อย


วันแรก 17/11/18
ตี4 เรามาถึงตลาดคลองลาน มาถึงไวไปตลาดที่เราจะซื้อเนื้อสัตว์ยังไม่เปิดเลย
ตลาดสดจะอยู่ตรงเซเว่น ลงรถแล้วถึงเลย ตอนนี้เราทำได้แค่รอเวลาเท่านั้น
ส่วนรถที่จะมารับเราไปที่อุทยานนัดเอาไว้ 7โมงเช้า


ระหว่างที่เรารอรถมา ก็แวะๆเดินไปดูร้านที่เปิด ซื้อผัก ซื้อหมูสด เครื่องปรุงต่างๆ
เตรียมของกันให้ครบ เหลือดีกว่าขาดน้าาาาา^^

แล้วเราก็ต้องเตรียมมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงไปกินด้วยน้าา
ในตลาดก็จะมีข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวหนียวหมูฝอย ไก่ทอด ปาท่องโก๋

เมื่อเราหาอะไรกินกันซักพัก รถก็มารับแล้ว พร้อมลุยแล้วค่า^^



เมื่อเราไปถึงก็ทำการเปลี่ยนเสื้อผ้า ชั่งของ เตรียมของที่จะให้ลูกหาบแบก
ซึ่งกลุ่มเรามีลูกหาบทั้งหมด3คน ได้คนละ20กิโล รวม60กิโล
ซึ่ง!! มัยไม่พอ ยังไม่ทันใส่เตนท์เลย ของกินก็เกินน้ำหนักกันแล้ว
ทำกันยังไงหละ ก็ต้องช่วยๆกันถือไง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ชาย อิอิ^^

ลำพังแค่กระเป๋าของเราเองก็ 10กิโลแล้วเด้อ ไม่เคยแบกของ10กิโลด้วยรถยะทางไกลเท่านี้เลย
นี่คือมีแต่ของที่จำเป็นละนะ ไม่รู้มันหนักอะไร งงใจจริงๆ (อ้อ!!ในกระเป๋ามีน้ำประมาณเกือบๆ2ลิตร)

นี่คือของที่ทุกคนต้องแบกกันเอง ฮาๆ เอาเรื่องไปเลย

ก่อนที่เราจะเริ่มออกเดิน เราก็ต้องมีการประชุมกันก่อนซักนิด เพราะเราต้องไปอยู่ในป่าตั้ง 5วัน4คืน
ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมาบอกว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ควรระวังอะไรบ้าง วันไหนเดินระยะทางแค่ไหน
และสัตว์ตัวน้อยๆที่ควรระวัง

พร้อมแล้วก็ถ่ายรูปรวมกันซักหน่อย!!

เราเริ่มออกเดิน 09:38น. แหม่!! แดดกำลังดีไปเลยจ้า ร้อนสุดๆ

ระยะแรกๆเราจะเดินมาเรื่อยๆ แล้วก็จะเจอกันมอขี้แตก
ซึ่งเป็นเนินที่ทรหดมากๆ แดดก็จะร้อนหน่อยๆ
เมื่อผ่านมอขี้แตกมาได้ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นทางเรียบ
ทางเนินบ้างสลับบ้าง เป็นทางเดินง่าย แต่เหนื่อยมาก


จุดตรงนี้เลยมอขี้แตกมาหน่อย เป็นจุดสุดท้ายที่จะมีสัญญาณมือถือ แล้วจะมีอีกจุดตรงวันที่สาม วันที่เราพักกินข้าวก่อนถึงแคมป์ตีนดอย


แดดมันก็จะร้อนๆประมาณนี้


เดินพักเดินพัก และแล้วเราก็ถึง เท้าที่แบบปวดมาก
หลัง สะโพก เคล็ดไปหมดเลยจ้า เหงื่อท่วมตัวสุดยอด
ถึง 15:45น.ใช้เวลา 6ชั่วโมง7นาที

หลังจากนั่งพักกินขนมรองท้องซักแปปเราก็กางเต้นกัน อาบน้ำที่ลำธารแล้วก็ทำกับข้าวกินกัน


เรื่องไฟไม่ต้องห่วง ลูกหาบจะเป็นคนก่อกองไฟให้เองเลยจ้า
ลูกหาบกลุ่มเราน่ารักและใจดีมาก หุงข้าวให้ แถมยังทำกับข้าวให้ด้วย
พี่ๆเค้ากลัวว่า ถ้าให้พวกเราทำกว่าจะได้กินคง...อีกหลายชั่วโมง55555


หน้าตาอาหารวันแรกก็จะอลังๆประมาณนี้ หลังจากที่เรากินเสร็จแล้วก็ได้เวลานอนพัก
เตรียมแรงสำหรับวันพรุ่งนี้ต่อจ้า

เราสามารถโหลดของที่ตอนนี้เราคิดว่าไม่จำเป็นทิ้งไว้ที่แคมป์ได้น่ะ เพราะยังไงวันคืนที่4 เร่ต้องมานอนื่แคมป์นี้กันอยู่แล้ว
ชื่อสินค้า:   โมโกจู
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่