"โมโกจู" เป็นสถานที่ที่ผมยอมรับว่าเคยคิดว่าไม่อยากไป เพราะด้วยระยะเวลาของทริป 5วัน4คืน ที่ค่อนข้างยาวนาน ระยะทางไกลกว่า 64กม. ที่ถือว่าเป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่ไกลที่สุด(อย่างเป็นทางการ) เพื่อที่จะไปแค่ถ่ายรูปกับก้อนหินรูปทรงคล้ายๆเรือใบแค่ก้อนเดียว...
แต่ความคิดก็เปลี่ยนไปหลังจากที่ผมกลับมา จากสถานที่ที่เคยมองว่าไม่มีอะไรดึงดูดใจได้มากกว่าก้อนหินก้อนนึง แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันมีมากกว่านั้น ตั้งแต่การเข้าถึงที่ไม่ใช่ว่าใครๆก็สามารถไปได้ง่ายๆ การจองด้วยการส่งรายชื่อทางอีเมล ถือว่าเป็นเรื่องยากที่สุดในบรรดาการจองทริปกับอุทยานทั้งหลาย ยากยิ่งกว่าการโทรจองทริปเขาช้างเผือก หรือแม้กระทั่งทริปลำคลองงูที่ขึ้นชื่อในอันดับต้นๆของความยากในการจอง
ระยะเวลา 5วัน4คืน ที่ฟังดูเหมือนจะยาวนานสำหรับคนทำงานที่ยังไงก็ต้องลางานแน่ๆ แต่เมื่อ"เรื่องราวระหว่างทาง"ที่หลอมรวมให้สมาชิกทั้งหมดที่ไปด้วยกันมีความสามัคคีกันเป็นทีม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มันทำให้เวลา 5วัน4คืน นั้นดูเหมือนจะสั้นไปด้วยซ้ำ
ระยะทางรวม64 กิโลเมตรกว่าๆ แบ่งตามความยาวไกลที่ต้องเดินในแต่ละวัน ก็ไม่ได้ยากเย็นเกินที่คนทั่วๆไปจะเดินไปถึง จะถึงช้าถึงเร็วก็ไม่มีคำชื่นชม ถ้วยรางวัล หรือแม้กระทั่งคำติด่าว่ากล่าว แค่จะเอาชนะใจตัวเองได้มั้ย
"...วันต่อวัน ดันให้ถึง คำนึงทีม
ไม่ต้องรีบ เร่งไป ให้ถึงก่อน
ช้าหรือเร็ว ถึงยังไง ก็ได้นอน
ควรพักผ่อน ให้พอเพียง เคียงข้างกัน
สามัคคี กันเป็นทีม นั้นดีแน่
ไม่เพียงแต่ ไปแต่ตัว มัวแข่งขัน
ค่อยๆเดิน นู่นนี่ไป พูดคุยกัน
เดินทั้งวัน ก็ไม่เหนื่อย เมื่อยก็นอน
โอ้จุดหมาย อยู่ไม่ไกล เรารู้แน่
คอยเคียงแค่ เพื่อร่วมทาง มากับฉัน
นึกถึงตอน เพื่อนเจ็บป่วย ใครช่วยกัน
เพื่อนเท่านั้น ที่ร่วมทาง ตรงกลางใจ
ถึงใครเขา จะเดินเร็ว อย่าไปฝืน
แคร์คนอื่น ดูเราเอง ไหวแค่ไหน
พลาดหกล้ม ข้อเท้าแพลง จะยังไง
ต้องพลาดไป ถึงจุดหมาย เสียดายแทน..."
Day 1 : เริ่มเดินจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ - แคมป์แม่กระสา ระยะทาง16 กม.
(เดินง่าย,ทางชัด,ไกล,ร้อนถึงร้อนมาก,ไม่มีร่มเงา)
Day 2 : แคมป์แม่กระสา - แคมป์แม่เรวา ระยะทาง 5กม./ แคมป์แม่เรวา-น้ำตกแม่รีวา 6 กม.ไปกลับ
(เดินง่าย,ทางไม่ชัน,วางของไว้ที่แคมป์เดินตัวเปล่าไปเล่นน้ำตก)
Day 3 : แคมป์แม่เรวา - แคมป์ตีนดอย ระยะทาง 8 กม./ แคมป์ตีนดอย-ยอดโมโกจู 2กม.ไปกลับ
ต้องเตรียมตัวเก็บของแต่เช้ามืด,ทางชัน,เดินค่อนข้างยาก, มีน้ำให้เติมที่คลอง1 กับ คลอง2, บนยอดอากาศหนาว ลมแรง เลือกจุดตั้งแคมป์ได้4จุด
1.แคมป์คลอง2ตรงนี้มีคลองเล็กๆไหลผ่านสะดวกเรื่องน้ำกิน น้ำใช้ แต่เดินขึ้นยอดไกลหน่อย
2.แคมป์ตีนดอยจุดแรก ตรงนี้ป่าค่อนข้างทึบ ลมไม่เเรง แต่พื้นที่ลาดเอียง
3.แคมป์ตีนดอยจุด2พื้นที่เรียบ กว้าง ลมไม่แรงมาก
4.แคมป์ตีนดอยบนสุด ตรงนี้น่ากางที่สุด ไกล้ยอดที่สุด แต่กลางคืนลมแรง อากาศหนาว
Day 4 : แคมป์ตีนดอย - ยอดโมโกจู ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ไปกลับ 2 กม./ แคมป์ตีนดอย - แคมป์แม่กระสา ระยะทาง13กม.
(วันที่3ขึ้นชันยังไง วันนี้ก็ลงชันๆอย่างนั้น แวะเก็บของที่ทิ้งไว้ที่แคมป์แม่เรวา+ทานข้าวกลางวัน )
Day 5 : แคมป์แม่กระสา - อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ระยะทาง 16 กม.
(อากาศร้อนมาก , ไม่แนะนำรองเท้ายาง เตรียมข้าวกลางวันไปกินกลางทาง)
ฝากติดตามเพจน้อยๆไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ รักน้อยๆก็พอ แต่ขอให้รักนานๆ
https://www.facebook.com/MountainDairy427/
[CR] MOKOJU เขาที่คุณก็รู้ว่าใคร 5Day4Nightในป่าแม่วงก์
"โมโกจู" เป็นสถานที่ที่ผมยอมรับว่าเคยคิดว่าไม่อยากไป เพราะด้วยระยะเวลาของทริป 5วัน4คืน ที่ค่อนข้างยาวนาน ระยะทางไกลกว่า 64กม. ที่ถือว่าเป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่ไกลที่สุด(อย่างเป็นทางการ) เพื่อที่จะไปแค่ถ่ายรูปกับก้อนหินรูปทรงคล้ายๆเรือใบแค่ก้อนเดียว...
แต่ความคิดก็เปลี่ยนไปหลังจากที่ผมกลับมา จากสถานที่ที่เคยมองว่าไม่มีอะไรดึงดูดใจได้มากกว่าก้อนหินก้อนนึง แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันมีมากกว่านั้น ตั้งแต่การเข้าถึงที่ไม่ใช่ว่าใครๆก็สามารถไปได้ง่ายๆ การจองด้วยการส่งรายชื่อทางอีเมล ถือว่าเป็นเรื่องยากที่สุดในบรรดาการจองทริปกับอุทยานทั้งหลาย ยากยิ่งกว่าการโทรจองทริปเขาช้างเผือก หรือแม้กระทั่งทริปลำคลองงูที่ขึ้นชื่อในอันดับต้นๆของความยากในการจอง
ระยะเวลา 5วัน4คืน ที่ฟังดูเหมือนจะยาวนานสำหรับคนทำงานที่ยังไงก็ต้องลางานแน่ๆ แต่เมื่อ"เรื่องราวระหว่างทาง"ที่หลอมรวมให้สมาชิกทั้งหมดที่ไปด้วยกันมีความสามัคคีกันเป็นทีม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มันทำให้เวลา 5วัน4คืน นั้นดูเหมือนจะสั้นไปด้วยซ้ำ
ระยะทางรวม64 กิโลเมตรกว่าๆ แบ่งตามความยาวไกลที่ต้องเดินในแต่ละวัน ก็ไม่ได้ยากเย็นเกินที่คนทั่วๆไปจะเดินไปถึง จะถึงช้าถึงเร็วก็ไม่มีคำชื่นชม ถ้วยรางวัล หรือแม้กระทั่งคำติด่าว่ากล่าว แค่จะเอาชนะใจตัวเองได้มั้ย
"...วันต่อวัน ดันให้ถึง คำนึงทีม
ไม่ต้องรีบ เร่งไป ให้ถึงก่อน
ช้าหรือเร็ว ถึงยังไง ก็ได้นอน
ควรพักผ่อน ให้พอเพียง เคียงข้างกัน
สามัคคี กันเป็นทีม นั้นดีแน่
ไม่เพียงแต่ ไปแต่ตัว มัวแข่งขัน
ค่อยๆเดิน นู่นนี่ไป พูดคุยกัน
เดินทั้งวัน ก็ไม่เหนื่อย เมื่อยก็นอน
โอ้จุดหมาย อยู่ไม่ไกล เรารู้แน่
คอยเคียงแค่ เพื่อร่วมทาง มากับฉัน
นึกถึงตอน เพื่อนเจ็บป่วย ใครช่วยกัน
เพื่อนเท่านั้น ที่ร่วมทาง ตรงกลางใจ
ถึงใครเขา จะเดินเร็ว อย่าไปฝืน
แคร์คนอื่น ดูเราเอง ไหวแค่ไหน
พลาดหกล้ม ข้อเท้าแพลง จะยังไง
ต้องพลาดไป ถึงจุดหมาย เสียดายแทน..."
Day 1 : เริ่มเดินจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ - แคมป์แม่กระสา ระยะทาง16 กม.
(เดินง่าย,ทางชัด,ไกล,ร้อนถึงร้อนมาก,ไม่มีร่มเงา)
Day 2 : แคมป์แม่กระสา - แคมป์แม่เรวา ระยะทาง 5กม./ แคมป์แม่เรวา-น้ำตกแม่รีวา 6 กม.ไปกลับ
(เดินง่าย,ทางไม่ชัน,วางของไว้ที่แคมป์เดินตัวเปล่าไปเล่นน้ำตก)
Day 3 : แคมป์แม่เรวา - แคมป์ตีนดอย ระยะทาง 8 กม./ แคมป์ตีนดอย-ยอดโมโกจู 2กม.ไปกลับ
ต้องเตรียมตัวเก็บของแต่เช้ามืด,ทางชัน,เดินค่อนข้างยาก, มีน้ำให้เติมที่คลอง1 กับ คลอง2, บนยอดอากาศหนาว ลมแรง เลือกจุดตั้งแคมป์ได้4จุด
1.แคมป์คลอง2ตรงนี้มีคลองเล็กๆไหลผ่านสะดวกเรื่องน้ำกิน น้ำใช้ แต่เดินขึ้นยอดไกลหน่อย
2.แคมป์ตีนดอยจุดแรก ตรงนี้ป่าค่อนข้างทึบ ลมไม่เเรง แต่พื้นที่ลาดเอียง
3.แคมป์ตีนดอยจุด2พื้นที่เรียบ กว้าง ลมไม่แรงมาก
4.แคมป์ตีนดอยบนสุด ตรงนี้น่ากางที่สุด ไกล้ยอดที่สุด แต่กลางคืนลมแรง อากาศหนาว
Day 4 : แคมป์ตีนดอย - ยอดโมโกจู ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ไปกลับ 2 กม./ แคมป์ตีนดอย - แคมป์แม่กระสา ระยะทาง13กม.
(วันที่3ขึ้นชันยังไง วันนี้ก็ลงชันๆอย่างนั้น แวะเก็บของที่ทิ้งไว้ที่แคมป์แม่เรวา+ทานข้าวกลางวัน )
Day 5 : แคมป์แม่กระสา - อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ระยะทาง 16 กม.
(อากาศร้อนมาก , ไม่แนะนำรองเท้ายาง เตรียมข้าวกลางวันไปกินกลางทาง)
ฝากติดตามเพจน้อยๆไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ รักน้อยๆก็พอ แต่ขอให้รักนานๆ
https://www.facebook.com/MountainDairy427/
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น