'กฤษฎา' เต้นผาง! สั่งสอบเก็บค่าต๋ง 500 บาท โครงการสร้างความเข้มแข็งชาวสวนยาง
http://www.thansettakij.com/content/365291
นาย
กฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "
ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปแชร์ผ่านโซเซียล ว่า มีการตั้งโต๊ะเรียกเก็บเงินช่วยเหลือชาวสวนยางทอนคืน 500 บาทนั้น (ค่าต๋ง) ต่อคนต่อราย ในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง 1,800 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 15 ไร่ต่อราย (แบ่งเป็นเจ้าของสวนยาง ผู้เช่า 1,100 บาทต่อไร่ และผู้กรีดยาง 700 บาทต่อไร่) ได้สั่งการให้ปลัดเกษตรและสหกรณ์และผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทยขอให้ตรวจสอบด้วย หากมีมูลจริงให้ดำเนินการออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างดำเนินการทางวินัยและอาญา แล้วขอให้ทราบผลโดยด่วนด้วย
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ บ้านห้วยทรายขาว หมู่ 6 ต.สาคู อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี นาย
ณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ด้านอุตสาหกรรมและการผลิตยาง เปิดเผยยืนยันว่า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของ กยท. เพราะทางเจ้าหน้าที่น้ันได้มีการนัดหมายกับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการในวันที่ 25 ธ.ค. 2561 แต่ทางผู้ใหญ่บ้านได้นัดใหม่เป็นวันที่ 23 ธ.ค. 2561 เพื่อให้ลูกบ้านไปกรอกเอกสารและเก็บเงินรายละ 500 บาท จำนวน 264 ราย นั้น ทางเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง กยท. จะเร่งลงไปเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อรายงานให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้อีก
"ยืนยันว่า การเกษตรกรผู้เข้าร่วมสิทธิ์ในโครงการนี้แค่เตรียมเอกสาร หลักฐาน และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก ธ.ก.ส. ทั้งในส่วนของเกษตรกรเจ้าของสวนยาง ผู้เช่า หรือ ผู้ทำสวนยาง และผู้กรีดยาง เพื่อใช้ในการโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชี จะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น เป็นโครงการเร่งด่วนของรัฐบาลตามโครงการของรัฐบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางและคนกรีดยาง ซึ่งการกระทำอย่างนี้มองว่า ทำให้นโยบายรัฐบาลล้มเหลว เป็นจุดด่าง ที่ไม่ควรให้มีเหตุการณ์แบบนีเกิดขึ้นด้วยซ้ำไป" นาย
ณกรณ์ กล่าวย้ำในตอนท้าย
จากกรณีดังกล่าวนี้ นาย
วิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ได้รับรายงานจาก นาย
ธวัช หงส์บิน นายอำเภอพระแสง ว่า มีการเรี่ยไรเงินจากเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่หมู่ 6 ต.สาคู อ.พระแสง จริง! แต่เป็นการเรี่ยไรเงินตามความสมัครใจของชาวบ้าน เพื่อนำมาซ่อมแซมและสร้างกำแพงศาลาหมู่บ้านที่พังเสียหาย จึงได้สั่งให้ยุติการเรี่ยไรเงินดังกล่าวและให้คืนเงินกับชาวบ้านที่ถูกเรี่ยไรมา สิ่งสำคัญไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาเรี่ยไรเงินกันในวันนี้
ด้าน นาย
ธวัช หงส์บิน นายอำเภอพระแสง ชี้แจงว่า กำแพงศาลาหมู่บ้านที่มีความยาวประมาณ 40 เมตร ได้พังทลายลงจากแช่น้ำเป็นเวลานาน ทางผู้ใหญ่บ้านไม่ทราบจะหาเงินที่ไหนมาก่อสร้าง จึงขอจากชาวบ้าน คาดว่ามีผู้ไม่พอใจจึงได้ถ่ายคลิปนำไปโพสต์เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ล่าสุด สั่งคืนเงินแล้ว จากนี้ไปจะหาวิธีใหม่ในการหาเงินมาก่อสร้างกำแพง
ยอดลงทุนอุตฯหุ่นยนต์ 'วูบ'
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/822082
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สรุปคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนช่วง 9 เดือนแรก ของปีนี้ มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,125 โครงการ เงินลงทุนรวม 377,054 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 มี 1,021 โครงการ ส่วนเงินลงทุนอยู่ที่ 373,908 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,146 ล้านบาท ในขณะที่เป้าหมายคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในปีนี้อยู่ที่ 720,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คำขอรับส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) รวม 230,554 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 117% ส่วนพื้นที่นอกอีอีซี มีคำขอรับส่งเสริมการลงทุน 146,500 ล้านบาท
ในขณะที่การขอรับส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายกลุ่มที่ขยายตัวคือ
1.ดิจิทัล 2.การแพทย์ 3.ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 4.อากาศยาน 5.การท่องเที่ยว
ส่วนกลุ่มที่ลดลง คือ 1.เครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ 2.การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ 3.การแปรรูปอาหาร 4.ยานยนต์และชิ้นส่วน 5.เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์โทรคมนาคม
โดยกลุ่มอากาศยานขยายตัวสูงสุด 645% รองลงมาปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ขยายตัวสูงสุดถึง 470% และดิจิทัล 405%
JJNY : กฤษฎาเต้นผาง!สอบค่าต๋ง500บ.โครงการชาวสวนยาง/ยอดลงทุนอุตฯหุ่นยนต์ 'วูบ'/ผู้ผลิตรายการทีวีขาดทุนยับ
http://www.thansettakij.com/content/365291
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปแชร์ผ่านโซเซียล ว่า มีการตั้งโต๊ะเรียกเก็บเงินช่วยเหลือชาวสวนยางทอนคืน 500 บาทนั้น (ค่าต๋ง) ต่อคนต่อราย ในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง 1,800 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 15 ไร่ต่อราย (แบ่งเป็นเจ้าของสวนยาง ผู้เช่า 1,100 บาทต่อไร่ และผู้กรีดยาง 700 บาทต่อไร่) ได้สั่งการให้ปลัดเกษตรและสหกรณ์และผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทยขอให้ตรวจสอบด้วย หากมีมูลจริงให้ดำเนินการออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างดำเนินการทางวินัยและอาญา แล้วขอให้ทราบผลโดยด่วนด้วย
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ บ้านห้วยทรายขาว หมู่ 6 ต.สาคู อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ด้านอุตสาหกรรมและการผลิตยาง เปิดเผยยืนยันว่า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของ กยท. เพราะทางเจ้าหน้าที่น้ันได้มีการนัดหมายกับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการในวันที่ 25 ธ.ค. 2561 แต่ทางผู้ใหญ่บ้านได้นัดใหม่เป็นวันที่ 23 ธ.ค. 2561 เพื่อให้ลูกบ้านไปกรอกเอกสารและเก็บเงินรายละ 500 บาท จำนวน 264 ราย นั้น ทางเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง กยท. จะเร่งลงไปเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อรายงานให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้อีก
"ยืนยันว่า การเกษตรกรผู้เข้าร่วมสิทธิ์ในโครงการนี้แค่เตรียมเอกสาร หลักฐาน และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก ธ.ก.ส. ทั้งในส่วนของเกษตรกรเจ้าของสวนยาง ผู้เช่า หรือ ผู้ทำสวนยาง และผู้กรีดยาง เพื่อใช้ในการโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชี จะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น เป็นโครงการเร่งด่วนของรัฐบาลตามโครงการของรัฐบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางและคนกรีดยาง ซึ่งการกระทำอย่างนี้มองว่า ทำให้นโยบายรัฐบาลล้มเหลว เป็นจุดด่าง ที่ไม่ควรให้มีเหตุการณ์แบบนีเกิดขึ้นด้วยซ้ำไป" นายณกรณ์ กล่าวย้ำในตอนท้าย
จากกรณีดังกล่าวนี้ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ได้รับรายงานจาก นายธวัช หงส์บิน นายอำเภอพระแสง ว่า มีการเรี่ยไรเงินจากเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่หมู่ 6 ต.สาคู อ.พระแสง จริง! แต่เป็นการเรี่ยไรเงินตามความสมัครใจของชาวบ้าน เพื่อนำมาซ่อมแซมและสร้างกำแพงศาลาหมู่บ้านที่พังเสียหาย จึงได้สั่งให้ยุติการเรี่ยไรเงินดังกล่าวและให้คืนเงินกับชาวบ้านที่ถูกเรี่ยไรมา สิ่งสำคัญไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาเรี่ยไรเงินกันในวันนี้
ด้าน นายธวัช หงส์บิน นายอำเภอพระแสง ชี้แจงว่า กำแพงศาลาหมู่บ้านที่มีความยาวประมาณ 40 เมตร ได้พังทลายลงจากแช่น้ำเป็นเวลานาน ทางผู้ใหญ่บ้านไม่ทราบจะหาเงินที่ไหนมาก่อสร้าง จึงขอจากชาวบ้าน คาดว่ามีผู้ไม่พอใจจึงได้ถ่ายคลิปนำไปโพสต์เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ล่าสุด สั่งคืนเงินแล้ว จากนี้ไปจะหาวิธีใหม่ในการหาเงินมาก่อสร้างกำแพง
ยอดลงทุนอุตฯหุ่นยนต์ 'วูบ'
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/822082
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สรุปคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนช่วง 9 เดือนแรก ของปีนี้ มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,125 โครงการ เงินลงทุนรวม 377,054 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 มี 1,021 โครงการ ส่วนเงินลงทุนอยู่ที่ 373,908 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,146 ล้านบาท ในขณะที่เป้าหมายคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในปีนี้อยู่ที่ 720,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คำขอรับส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) รวม 230,554 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 117% ส่วนพื้นที่นอกอีอีซี มีคำขอรับส่งเสริมการลงทุน 146,500 ล้านบาท
ในขณะที่การขอรับส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายกลุ่มที่ขยายตัวคือ
1.ดิจิทัล 2.การแพทย์ 3.ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 4.อากาศยาน 5.การท่องเที่ยว
ส่วนกลุ่มที่ลดลง คือ 1.เครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ 2.การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ 3.การแปรรูปอาหาร 4.ยานยนต์และชิ้นส่วน 5.เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์โทรคมนาคม
โดยกลุ่มอากาศยานขยายตัวสูงสุด 645% รองลงมาปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ขยายตัวสูงสุดถึง 470% และดิจิทัล 405%