เรื่องมีอยู่ว่าประมาณวันที่ 5 ธันวาคม  2561 ผมได้หลงเชื่อแฟนเพจแฟนเพจหนึ่งที่จำหน่ายรถยนต์มือสองโดยรถเป็นรถหลุดจำนำ ซึ่งรถหลุดจำนำหลักๆจะแบ่งอยู่สองที่มา 1 คือเจ้าของเดิมผ่อนไม่ไหวซึ่งอาจจะผ่อนมาเป็นปีหรือนานพอสมควร 2 คือเจ้าของรถเป็นคนเหลื่ยมจัด ถอยรถออกมาโดยไม่ใข้เงินดาวน์และผ่อนรถ 1-2 เดือนเพื่อให้ทางไฟแนนซ์เขารู้สึกว่าเจ้าของไม่ได้คิดจะเบี้ยว เพราะหากไม่ได้ผ่อนเลยผมเชื่อว่าทางไฟแนนซ์เขาต้องทำเรื่องฟ้องและตามรถคืนทัน

ครับ มาเข้าเรื่องกันเลยหลังจากผมได้ทำการซื้อขายรถคันหนึ่งด้วยราคาที่ถูกกว่าตลาด 2-3 เท่าณวันที่ผมซื้อ ทางคนขายเขาได้นัดเจอและจ่ายเงินที่ห้างหนึ่งแถวศรีนครินท์ประมาณตอนเที่ยงคืนหลังห้างปิด ผมก็ได้ถามหลายคำถามเกี่ยวกับรถว่ามีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน อ่ะยกตัวอย่างคำถามกับความเป็นจริง

รถคันนี้ถูกกฏหมายมั้ยครับ ?
คำตอบจากปากคนขาย : ถูกต้องทุกอย่าง ใช้ได้ปกติต่อภาษีได้ปกติเลยครับ
คำตอบของความจริง : ผิดกฏหมายครับ ไม่ใช่เพียงแต่การซื้อขายที่ผิดกฏหมายและห้ามทำแล้ว การนำไปใข้ก็ยังคงผิดกฏหมายครับ กรณีที่ผมโดนก็คือโดนข้อหาซื้อของโจร ละก็บล่าๆ เดียวสรุปที่โดนมาให้ครับ

รถคันนี้หลุดจำนำแบบไหนหรอครับ ?
คำตอบจากปากคนขาย : เจ้าของรถเขามาจำนำกับผมโดยตรงเลยครับ
คำตอบของความจริง : รถไม่ใช่จำนงจำนำกันทั้งนั้น รถมาจากการขายที่ผิดกฏหมายแต่แรกเพราะเจ้ารถไม่ได้ผ่อนไฟแนนซ์ตามที่ควรและมาปล่อยขายให้พวกนายทุนถูกๆ พวกนายทุนก็เอารถมาขายให้พวกเราเนี่ยแหละครับและอ้างว่าเป็นรถหลุดจำนำที่หลายคนเข้าใจกันว่า รถเอาไปค้ำหรือเอาเข้าโรงจำนำโดยที่เจ้าของเขาผ่อนดาวน์หมดแล้วเพียงแค่ว่ามันเลยสัญญาการไถ่รถคืนเลยหลุดจำนำ เพราะมีเอกสารชัดเจนที่บ่งบองว่าเจ้าของรถมาจำนำ เอกสารที่เราเห็นเป็นเอกสารที่ใครๆเขาก็ทำได้ครับ แถมตอนที่ผมซื้อยังให้ผมกรอกเอกสารแทนเลย โดยที่ใช้ชื่อเจ้าของรถ เห้อออออ

มาถึงช่วงวันที่ไฟแนนซ์ตามมาถึงบ้านครับ เมื่อประมาณวันที่ 20 ธันวาที่ผ่านมาผมโดนไฟแนนซ์ตามบุกมาถึงบ้าน ทำให้พ่อแม่พี่น้องแฟนตกใจกันทั้งครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกผิดกับคนในครอบครัว ถามใจจริงเงินจำนวนนั้นเราเอาไปดาวน์รถดีๆสักคันคงจะดีกว่าการมาซื้อรถที่เราไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองมัน อ่ะเข้าเรื่องงง คือวันที่ไฟแนนซ์เข้ามาที่บ้านก็แจ้งข้อกล่าวหาบลาๆ ขโมยของโจรมั้ง เจ้าของรถแจ้งความรถหายด้วยนะ ละก็โดนฟ้องยึดรถและยังโดนหลายๆเรื่องจนกระทั้งผมได้ข้อคิดข้อๆหนึ่งจากพี่ที่มาจากพวกยึดรถ กรณีที่รถคันนี้ผ่านการชนคนตายหรือก่อเหตุร้ายต่างๆ คนที่จะโดนคือคนที่ขับรถปัจจุบัน ผ่านเกือบชม.พี่คนนึงใน 5คนที่จะมายึดรถเขาเรียกผมไปคุย เกรินๆเนื้อเรื่องก็ประมาณว่าพี่เขาบอกถ้าพี่ยึดรถคันนี้ไปไฟแนนซ์จะให้ค่าตอบแทนพี่ 10% ของยอดที่เหลือของรถ ซึ่งรถที่ผมซื้อมาดันเป็นรถที่ผ่อนมาแค่สองเดือนเลยรวมดอกเบี้ยกับเงินต้นรวมๆประมาณ 7แสน พี่เขาบอกว่าถ้าพี่เอากลับพี่ได้ 7หมื่นแต่พี่สงสารน้องที่ซื้อรถมาแพงๆแล้วต้องเสียฟรีพี่ขอสัก 30,000 และน้องก็ใช้รถต่อได้เลยแต่พี่มีข้อแม้พี่ต้องยึดป้ายทะเบียนเพราะหากทางไฟแนนซ์ทราบเรื่องพี่เขาจะโดนเล่น และทางพี่เขาเสนอให้ส่วมทะเบียนซึ่งจะไม่มีทางโดนยึดรถ เพียงแต่ว่าจะเข้าข่ายผิดกฏหมายเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร คดีอาจจะแรงกว่าแต่ถ้าเคลียหน้างานก็ไม่ถึงหมื่นครับ กรณีแบบนี้ทางญาติๆผมเคยแนะนำแต่ผมไม่กล้าทำเพราะมันผิดกฏหมายร้ายแรง  

สรุปของเรื่องนี้คือเงินจำนวนไม่มากหรืออาจจะมากถึงมากที่สุดที่เราต้องเสียกับอะไรที่ไม่แน่นอนอย่าไปเสี่ยง ผมเลยตัดสินใจปล่อยรถให้พี่เขายึดรถไปครับ
และเรื่องของเรื่องมันน่าเกลียดกว่านั้นคือคนที่แจ้งเบาะแสของรถคือคนขายรถหลุดจำนำที่เราไปซื้อมานั้นแหละครับ เพราะทางคนที่ยึดรถก็มาเสนอขายให้พวกนี้ก่อนที่จะส่งให้บริษัทจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าได้ 10% จริงมั้ยหรือมันอาจจะได้น้อยกว่าหรือต้องใช้เวลากว่าจะได้เงินจากบริษัทไฟแนนซ์ เลยต้องใช้วนลูปโคจรแบบอุบาทๆ

คนขายรถหลุด - ผม - คนตามยึดรถ - คนขายรถหลุด - ลูกค้า(เหยื่อต่อไป) - คนตามยึดรถ

เรื่องนี้ได้ให้บทเรียนใว้หลายอย่างเช่น ไม่ควรเห็นแก่ของถูก หากวันนี้รถที่ผมขับอยู่เป็นรถที่เคยก่อเหตุตอนนี้คงอาจจะไม่มีกระทู้นี้ หากวันนั้นผมจ่ายพี่เขาสามหมื่นผมอาจจะได้รถคันนั้นมาขับ หากวันนั้นผมส่วมทะเบียนผมก็อาจจะโดนจับข้อความปลอมแปลงเอกสารและจบอนานคตตัวเองก็เป็นไปได้

บทความถูกพิมพ์ลงพันทิปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวผมจริงๆ
ด้วยความหวังดีจากคนโง่ๆคนหนึ่ง