หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] อินเดียไม่ไป (ไม่ได้แล้ว) ตอนที่ 1
กระทู้รีวิว
Backpack
อักรา (Agra)
ชัยปุระ (Jaipur)
เที่ยวอินเดีย
ประเทศอินเดีย
อินเดียดีต่อใจอย่างไหร่ หลายๆคนเมื่อเอ่ยถึงประเทศอินเดียมักนึกถึง กลิ่นตัวที่แรงจัด หรือเครื่องเทศเรื่องอาหารที่กินแทบไม่ได้เลย ยังไม่รวมถึงความสะอาดห้องน้ำห้องท่า อะไหร่อีกเยอะแยะหลายๆอย่าง ทำให้ทิ้งประเทศอินเดียไม่อยู่ใน ลิสต์รายการเที่ยว ประเทศอินเดียจริงๆแล้วเราสามารถเลือกเที่ยวเมืองที่ไม่กันดาร ที่อยู่ที่กินสะอาดในระดับหนึ่งได้เลยที่เดียวครับ อย่าง ชัยปุระ เป็นเมืองการท่องเที่ยว หรือ อัครา เมืองเหล่านี้สะอาดห้างร้านหรือ รร มีเยอะแยะเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ทำให้ตัดปัญหาเหล่านี้ไปได้ส่วนหนึ่งเลย สำหรับทริปนี้ผมเลือกเที่ยว 2 เมือง คือ ชัยปุระ กับ อัครา ส่วนการเดินทางในประเทศอินเดีย ผมใช้บริการเหมารถในการท่องเที่ยว ครบทั่งทริป 5 วัน พร้อมคนขับคิดในราคา 10000 รูปี ตีเป็นเงินไทย 5000 บาทรวมเที่ยว 2 เมือง คือ ชัยปุระ กับ อัครา ซึ่งคุ้มมาก ถ้าไปหลายคนยิ่งดีครับจะได้ หารค่ารถกันได้ สำหรับ รร ในชัยปุระ กับ อัครา สำหรับราคาแล้วแต่ความพอใจซึ่งราคาไม่แพงเลยค่าที่พักตกคืนละไม่เกิน 500 พร้อมอาหารเช้า แต่ค่าเข้าที่เที่ยวในอินเดียคิดว่าแอบแพง สำหรับนักท่องเที่ยวครับ เพราะแต่ละที่ 200 – 300 บาทไทยเลยทีเดียวครับ
วันแรกของการเดินทางขึ้นเครื่อง สองทุ่มกว่า ไปถึง ชัยปุระ เกือบเที่ยงคืนกว่าจะเสร็จ ตม ก็ปาเข้าไปเกือบ ตี สองแล้วครับ วันนี้นัดรถมารับที่สนามบินชัยปุระ เข้าที่พักก็จบไปแล้วครับ
ชัยปุระ เป็นเมืองหลักของ รัฐราชสถานประเทศอินเดีย และยังเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 10 ของประเทศอินเดีย ในปัจจุบันชัยปุระยังเป็นที่รู้จักกันดีในอินเดียว่า "นครสีชมพู"เป็นชื่อเรียกเมืองชัยปุระจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยเมืองแห่งนี้มีการทาสีอาคารบ้านเรือน และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ให้เป็นสีชมพู เพราะว่าในปี ค.ศ. 1876 เจ้าชายแห่งเวลส์ ซึ่งต่อมาคือ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักรได้เสด็จเยี่ยมเยือนทั่วอินเดีย มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) ผู้ปกครองนครชัยปุระในขณะนั้น จึงได้มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีบ้านเรือน และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ เป็นสีชมพู เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเจ้าชายแห่งเวลส์ Cr. kapook
วันที่ สอง วันนี้เริ่มต้นด้วยการกินอาหารเช้าของ รร ซึ่งอาหารเช้าจะเป็นกาแฟ กับ ขนมปังปิง พร้อมกับอาหารอินเดียๆ คล้ายๆกับโรตี หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จนัดคนขับรถมารับตอน 9 โมงเช้าครับ หลังจากนั้นคนขับรถที่จ้างไว้ก็พาเราไปกินกาแฟ ตามฉบับของคนอินเดียครับ
หลังจากนั้นก็ออกเที่ยวกันครับที่แรกของเมืองนี้คือ พระราชวังสายลม
พระราชวังแห่งสายลม Hawa Mahal
สัญลักษณ์แห่งเมืองชัยปุระ และหนึ่งในสุดยอดวังที่สวยที่สุดในอินเดีย ตัวตึกสีชมพูโดดเด่น ถูกสร้างขึ้น โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของ มงกุฏของพระนารายณ์ โดยมีความโดดเด่นที่บริเวณด้านหน้าบันทาสีชมพูสวยงามมีความสูงห้าชั้นและมีลักษณะซ้อนกันคล้ายรังผึ้งประกอบไปด้วยหน้าต่างขนาดเล็กตกแต่งด้วยลวดลายฉลุเป็นช่องลม เป็นที่มาของชื่อว่า "พระราชวังแห่งสายลม" ให้กับบรรดาเหล่าสตรีในราชวงศ์หรือเรียกได้ว่า ฮาเร็มของพระราชา เพื่อใช้สำหรับชมกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนถนนในเมืองโดยไม่มีใครมองเห็น อาคารมีช่องลมหน้าต่างลายฉลุอยู่เกือบ 1,000 บาน เพื่อระบายอากาศ เป็นช่องแสง และให้นางในวังเหล่านั้นแอบมองชีวิตของชาวบ้านได้ Cr. wikipeadia
บริเวณรอบพระราชวังสายลมมีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อโดยมีสินค้าหลากหลาย เสื้อผ้ารองเท้า ใครชอบแบบไหนก็หาซื้อกันได้เลย หรือเลือกซื้อชุดสาหรีถ่ายรูปเก๋ๆกับพระราชวังก็ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่งเลยครับ ได้เวลาสมควรก็ไปต่อกันเลยครับ
Jal Mahan (พระราชวังน้ำ Water Palace) จาล มาฮาล
ชัล มหัล พระราชวังกลางน้ำซึ่งตั้งเด่นอยู่กลางทะเลสาบมันสกา โดยพระราชวังและทิวทัศน์ของทะเลสาบโดยรอบถูกต่อเติมและปรับปรุงโดยมหาราชา สะหวาย จัย สิงห์ที่ 2 พระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุล ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งก่อสร้างในรัฐราชสถาน โดยพระราชวังนี้นั้นมีความสวยงามเนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบแลโดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทรายสีแดง ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ชั้นซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด โดยเหลือเพียงชั้นบนสุดซึ่งจะเผยขึ้นมาเหนือน้ำฉัตรีซึ่งเป็นยอดหลังคาทรงสี่เหลี่ยมนั้นสร้างในแบบสถาปัตยกรรมเบงกอล ส่วนฉัตรีบริเวณสี่มุมของอาคารนั้นเป็นทรงแปดเหลี่ยม Cr. wikipeadia
ที่เที่ยว ในชัยปุระ อยู่ไม่ไกลกันเลย ถ้าไม่เหมารถผมคิดว่าการต่อรถ จุด ต่อ จุด น่าจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยครับ ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่ว่าใครจะต่อรองได้ดีกว่ากันครับ เราใช้เวลาอยู่ที่นี้ไม่นานครับ เพราะแค่ถ่ายรูปบริเวณรอบๆตัวทะเลสาบเองครับ หรือใครจะใช้บริการเช่าชุดถ่ายรูปก็มีบริการ ไปกันต่อเลยครับ
ป้อมอาเมร์ : Amer Fort หรือ ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort)
ตั้งอยู่ที่เมืองอาเมร์ ชานเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ห่างจากชัยปุระเป็นระยะทาง 11 กิโลเมตร ป้อมอาเมร์นั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของชัยปุระ โดยที่ตั้งนั้นโดดเด่นอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบสร้างโดยมหาราชา มาน สิงห์ที่ 1 ป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมซึ่งผสมผสานกันระหว่างศิลปะฮินดูและศิลปะราชปุตอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถมองเห็นได้จากระยะทางไกลเนื่องจากมีขนาดกำแพงปราการที่ใหญ่และแน่นหนา พร้อมประตูทางเข้าหลายแห่ง ถนนที่ปูด้วยหินหลายสาย ซึ่งเมื่ออยู่บนป้อมแล้วสามารถมองเห็นทะเลสาบเมาตาได้อย่างชัดเจนบริเวณด้านหน้า Cr. Wikipeadia
เราใช้เวลาอยู่บนนี้นานพอสมควร ตอนกลับได้แวะ Panna meena kund เป็นที่เก็บน้ำโบราณ ซึ่งอยู่ใกล้กับ ป้อมแอมเบอร์
Panna meena kund
ไปกันต่อ บอกแล้วว่าที่เที่ยวใกล้ๆกันครับสำหรับ ชัยปุระ
ป้อมนราห์การห์ Naharagrh fort
เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาอะระวัลลี โดยตั้งอยู่สูงตระหง่านเหนือนครชัยปุระ
เพื่อร่วมกันกับป้อมอาเมร์และป้อมชยครห์แล้ว ทั้งสามปราการนี้เคยเป็นเสาหลักในการป้องกันการรุกรานจากข้าศึกต่าง ๆ ต่อชัยปุระ โดยแรกป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อว่า "สุทรรศนครห์" (Sudarshangarh) แต่ในภายหลังได้กลายมาเป็น "นาหรครห์" ซึ่งหมายความว่า "ถ้ำเสือ" โดยเชื่อกันว่าที่มาของคำว่า "นาหระ" นั้นมาจาก "Nahar Singh Bhomia" ซึ่งวิญญาณนั้นได้หลอกหลอนในระหว่างก่อสร้างและเป็นอุปสรรคสำคัญในการก่อสร้างป้อมแห่งนี้ จึงได้มีการสร้างศาลภายในบริเวณวัดเพื่อเป็นที่สถิตวิญญาณภายในป้อมแห่งนี้
หลังจากนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน ได้เวลาต้องลงกันแล้วครับ สำหรับอาหารค่ำมื่อนี้ นาย ซิงค์ คนที่ให้บริการขับรถให้เราจะทำกับข้าวให้กินครับ ขอแนะนำเลยครับสำหรับเพื่อนๆที่จะมาเที่ยวอินเดีย เผื่อเป็นตัวเลือกในการหารถนำเที่ยวครับ
ติดต่อที่เบอร์นี้เลยครับ ranthamboretourcab@gmail.com
วันที่ สาม วันนี้จะเป็นวันที่เดินทางข้ามเมืองกัน โดยเดินทางจาก ชัยปุระ ไป อัคราใช้เวลาประมาณ 5 ชม เพื่อที่จะไปดู ทัชมาฮาล หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ที่แรกในวันนี้คือ
Albert Hall อัลเบิร์ตฮอลล์
ที่นี้ส่วนมากจะมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ซึ่งเห็นหลายคู่ครับ
ชื่อสินค้า:
เที่ยวอินเดีย
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Backpack
อักรา (Agra)
ชัยปุระ (Jaipur)
เที่ยวอินเดีย
ประเทศอินเดีย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 113
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] อินเดียไม่ไป (ไม่ได้แล้ว) ตอนที่ 1
อินเดียดีต่อใจอย่างไหร่ หลายๆคนเมื่อเอ่ยถึงประเทศอินเดียมักนึกถึง กลิ่นตัวที่แรงจัด หรือเครื่องเทศเรื่องอาหารที่กินแทบไม่ได้เลย ยังไม่รวมถึงความสะอาดห้องน้ำห้องท่า อะไหร่อีกเยอะแยะหลายๆอย่าง ทำให้ทิ้งประเทศอินเดียไม่อยู่ใน ลิสต์รายการเที่ยว ประเทศอินเดียจริงๆแล้วเราสามารถเลือกเที่ยวเมืองที่ไม่กันดาร ที่อยู่ที่กินสะอาดในระดับหนึ่งได้เลยที่เดียวครับ อย่าง ชัยปุระ เป็นเมืองการท่องเที่ยว หรือ อัครา เมืองเหล่านี้สะอาดห้างร้านหรือ รร มีเยอะแยะเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ทำให้ตัดปัญหาเหล่านี้ไปได้ส่วนหนึ่งเลย สำหรับทริปนี้ผมเลือกเที่ยว 2 เมือง คือ ชัยปุระ กับ อัครา ส่วนการเดินทางในประเทศอินเดีย ผมใช้บริการเหมารถในการท่องเที่ยว ครบทั่งทริป 5 วัน พร้อมคนขับคิดในราคา 10000 รูปี ตีเป็นเงินไทย 5000 บาทรวมเที่ยว 2 เมือง คือ ชัยปุระ กับ อัครา ซึ่งคุ้มมาก ถ้าไปหลายคนยิ่งดีครับจะได้ หารค่ารถกันได้ สำหรับ รร ในชัยปุระ กับ อัครา สำหรับราคาแล้วแต่ความพอใจซึ่งราคาไม่แพงเลยค่าที่พักตกคืนละไม่เกิน 500 พร้อมอาหารเช้า แต่ค่าเข้าที่เที่ยวในอินเดียคิดว่าแอบแพง สำหรับนักท่องเที่ยวครับ เพราะแต่ละที่ 200 – 300 บาทไทยเลยทีเดียวครับ
วันแรกของการเดินทางขึ้นเครื่อง สองทุ่มกว่า ไปถึง ชัยปุระ เกือบเที่ยงคืนกว่าจะเสร็จ ตม ก็ปาเข้าไปเกือบ ตี สองแล้วครับ วันนี้นัดรถมารับที่สนามบินชัยปุระ เข้าที่พักก็จบไปแล้วครับ
ชัยปุระ เป็นเมืองหลักของ รัฐราชสถานประเทศอินเดีย และยังเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 10 ของประเทศอินเดีย ในปัจจุบันชัยปุระยังเป็นที่รู้จักกันดีในอินเดียว่า "นครสีชมพู"เป็นชื่อเรียกเมืองชัยปุระจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยเมืองแห่งนี้มีการทาสีอาคารบ้านเรือน และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ให้เป็นสีชมพู เพราะว่าในปี ค.ศ. 1876 เจ้าชายแห่งเวลส์ ซึ่งต่อมาคือ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักรได้เสด็จเยี่ยมเยือนทั่วอินเดีย มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) ผู้ปกครองนครชัยปุระในขณะนั้น จึงได้มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีบ้านเรือน และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ เป็นสีชมพู เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเจ้าชายแห่งเวลส์ Cr. kapook
วันที่ สอง วันนี้เริ่มต้นด้วยการกินอาหารเช้าของ รร ซึ่งอาหารเช้าจะเป็นกาแฟ กับ ขนมปังปิง พร้อมกับอาหารอินเดียๆ คล้ายๆกับโรตี หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จนัดคนขับรถมารับตอน 9 โมงเช้าครับ หลังจากนั้นคนขับรถที่จ้างไว้ก็พาเราไปกินกาแฟ ตามฉบับของคนอินเดียครับ
หลังจากนั้นก็ออกเที่ยวกันครับที่แรกของเมืองนี้คือ พระราชวังสายลม
พระราชวังแห่งสายลม Hawa Mahal
สัญลักษณ์แห่งเมืองชัยปุระ และหนึ่งในสุดยอดวังที่สวยที่สุดในอินเดีย ตัวตึกสีชมพูโดดเด่น ถูกสร้างขึ้น โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของ มงกุฏของพระนารายณ์ โดยมีความโดดเด่นที่บริเวณด้านหน้าบันทาสีชมพูสวยงามมีความสูงห้าชั้นและมีลักษณะซ้อนกันคล้ายรังผึ้งประกอบไปด้วยหน้าต่างขนาดเล็กตกแต่งด้วยลวดลายฉลุเป็นช่องลม เป็นที่มาของชื่อว่า "พระราชวังแห่งสายลม" ให้กับบรรดาเหล่าสตรีในราชวงศ์หรือเรียกได้ว่า ฮาเร็มของพระราชา เพื่อใช้สำหรับชมกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนถนนในเมืองโดยไม่มีใครมองเห็น อาคารมีช่องลมหน้าต่างลายฉลุอยู่เกือบ 1,000 บาน เพื่อระบายอากาศ เป็นช่องแสง และให้นางในวังเหล่านั้นแอบมองชีวิตของชาวบ้านได้ Cr. wikipeadia
บริเวณรอบพระราชวังสายลมมีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อโดยมีสินค้าหลากหลาย เสื้อผ้ารองเท้า ใครชอบแบบไหนก็หาซื้อกันได้เลย หรือเลือกซื้อชุดสาหรีถ่ายรูปเก๋ๆกับพระราชวังก็ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่งเลยครับ ได้เวลาสมควรก็ไปต่อกันเลยครับ
Jal Mahan (พระราชวังน้ำ Water Palace) จาล มาฮาล
ชัล มหัล พระราชวังกลางน้ำซึ่งตั้งเด่นอยู่กลางทะเลสาบมันสกา โดยพระราชวังและทิวทัศน์ของทะเลสาบโดยรอบถูกต่อเติมและปรับปรุงโดยมหาราชา สะหวาย จัย สิงห์ที่ 2 พระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุล ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งก่อสร้างในรัฐราชสถาน โดยพระราชวังนี้นั้นมีความสวยงามเนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบแลโดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทรายสีแดง ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ชั้นซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด โดยเหลือเพียงชั้นบนสุดซึ่งจะเผยขึ้นมาเหนือน้ำฉัตรีซึ่งเป็นยอดหลังคาทรงสี่เหลี่ยมนั้นสร้างในแบบสถาปัตยกรรมเบงกอล ส่วนฉัตรีบริเวณสี่มุมของอาคารนั้นเป็นทรงแปดเหลี่ยม Cr. wikipeadia
ที่เที่ยว ในชัยปุระ อยู่ไม่ไกลกันเลย ถ้าไม่เหมารถผมคิดว่าการต่อรถ จุด ต่อ จุด น่าจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยครับ ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่ว่าใครจะต่อรองได้ดีกว่ากันครับ เราใช้เวลาอยู่ที่นี้ไม่นานครับ เพราะแค่ถ่ายรูปบริเวณรอบๆตัวทะเลสาบเองครับ หรือใครจะใช้บริการเช่าชุดถ่ายรูปก็มีบริการ ไปกันต่อเลยครับ
ป้อมอาเมร์ : Amer Fort หรือ ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort)
ตั้งอยู่ที่เมืองอาเมร์ ชานเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ห่างจากชัยปุระเป็นระยะทาง 11 กิโลเมตร ป้อมอาเมร์นั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของชัยปุระ โดยที่ตั้งนั้นโดดเด่นอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบสร้างโดยมหาราชา มาน สิงห์ที่ 1 ป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมซึ่งผสมผสานกันระหว่างศิลปะฮินดูและศิลปะราชปุตอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถมองเห็นได้จากระยะทางไกลเนื่องจากมีขนาดกำแพงปราการที่ใหญ่และแน่นหนา พร้อมประตูทางเข้าหลายแห่ง ถนนที่ปูด้วยหินหลายสาย ซึ่งเมื่ออยู่บนป้อมแล้วสามารถมองเห็นทะเลสาบเมาตาได้อย่างชัดเจนบริเวณด้านหน้า Cr. Wikipeadia
เราใช้เวลาอยู่บนนี้นานพอสมควร ตอนกลับได้แวะ Panna meena kund เป็นที่เก็บน้ำโบราณ ซึ่งอยู่ใกล้กับ ป้อมแอมเบอร์
Panna meena kund
ไปกันต่อ บอกแล้วว่าที่เที่ยวใกล้ๆกันครับสำหรับ ชัยปุระ
ป้อมนราห์การห์ Naharagrh fort
เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาอะระวัลลี โดยตั้งอยู่สูงตระหง่านเหนือนครชัยปุระ
เพื่อร่วมกันกับป้อมอาเมร์และป้อมชยครห์แล้ว ทั้งสามปราการนี้เคยเป็นเสาหลักในการป้องกันการรุกรานจากข้าศึกต่าง ๆ ต่อชัยปุระ โดยแรกป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อว่า "สุทรรศนครห์" (Sudarshangarh) แต่ในภายหลังได้กลายมาเป็น "นาหรครห์" ซึ่งหมายความว่า "ถ้ำเสือ" โดยเชื่อกันว่าที่มาของคำว่า "นาหระ" นั้นมาจาก "Nahar Singh Bhomia" ซึ่งวิญญาณนั้นได้หลอกหลอนในระหว่างก่อสร้างและเป็นอุปสรรคสำคัญในการก่อสร้างป้อมแห่งนี้ จึงได้มีการสร้างศาลภายในบริเวณวัดเพื่อเป็นที่สถิตวิญญาณภายในป้อมแห่งนี้
หลังจากนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน ได้เวลาต้องลงกันแล้วครับ สำหรับอาหารค่ำมื่อนี้ นาย ซิงค์ คนที่ให้บริการขับรถให้เราจะทำกับข้าวให้กินครับ ขอแนะนำเลยครับสำหรับเพื่อนๆที่จะมาเที่ยวอินเดีย เผื่อเป็นตัวเลือกในการหารถนำเที่ยวครับ
ติดต่อที่เบอร์นี้เลยครับ ranthamboretourcab@gmail.com
วันที่ สาม วันนี้จะเป็นวันที่เดินทางข้ามเมืองกัน โดยเดินทางจาก ชัยปุระ ไป อัคราใช้เวลาประมาณ 5 ชม เพื่อที่จะไปดู ทัชมาฮาล หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ที่แรกในวันนี้คือ
Albert Hall อัลเบิร์ตฮอลล์
ที่นี้ส่วนมากจะมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ซึ่งเห็นหลายคู่ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้