ภูบักได ภูบักได๋ สวรรค์แห่งเมือง...เลย
เดินง่ายๆ ไปได้ไม่ยาก ชันไม่เยอะอีกต่างหาก ทางราบเดินโคตรสบายยยยยยย!
ภูบักได ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย อยู่ในความดูแลพื้นที่ของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนปลาบ่า และเป็นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนเอง
.......................................................................
มารู้สักนิดก่อนพิชิต....ภูบักได
01 แลนมาร์คของที่นี่เลยคือ หินหลอกลวง ที่ถ่ายรูปออกมาหวาดเสียวมากๆ แต่จริงๆ ห่างจากพื้นไม่ถึงเมตรจ้า
02 หินที่เรียงราย ความเปิดโล่งของวิวภูเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่สวยงามมากกกก
03 จากหมู่บ้านนั่งรถอีแต๊ก 1.30-1.45 ชม. เพราะฉะนั้นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวก รองเท้าแว่นกันแดด ร่ม ต้องพร้อมนะ
04 เริ่มเดินทางชัน 300 เมตร ใช้เวลา 15 นาที (หรือแล้วแต่ความแข็งแรงของแต่ละคน)
05 หลังจากนั้นทางราบ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาโดยประมาณ 1-2 ชั่วโมง
06 ด้วยความที่ต้องแบกของส่วนตัวเอง สัมภาระเอาเฉพาะที่จำเป็นไปน้าาา
07 ถุงกันทาก ถ้าฝนตกจำเป็น แต่ถ้าฝนไม่ตก ก็ไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ แต่ใส่ไว้ก็อุ่นใจดี
08 ภูบักได ไม่มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ เข้าป่าเลยจ้า พาวเวอร์แบงค์ ยา ขนม ลูกอบ เกลือแร่ เตรียมไปน้า เพราะด้านบนไม่มี 7-11
09 ต้องจองล่วงหน้า ติดต่อกำนันเชิด ได้ที่เบอร์ 087-866-2648, 095-701-3139
10 ค่าบริการรถอีแต๊ก คันละ 3000 บาท ตกคนละ 500 บาท ไป-กลับ นั่งได้ 5-6 คน คนขับรถเป็นไกด์และลูกหาบให้ด้วย
11 ต้องนอนค้างแรมข้างบน 1 คืน ฉะนั้นควรมีเต้นท์ ถุงนอน หรือถ้าไม่มีก็เช่าได้น้า
12 อาหารต้องเตรียมขึ้นไปเองนะ โดยรวมๆ ก็เป็น 3 มื้อคือ วันแรกก็ มื้อกลางวันและมื้อเย็น วันที่สองก็มื้อเช้าเน้อ
13 เตรียมใจให้พร้อม เพราะที่นี่สวยมากกกกกกกกกกกกกกก
.......................................................................
สำหรับทริปนี้ค่าใช้จ่ายของข้า รวมทุกสิ่งอยู่ที่...2400 บาท
พวกข้าไปกันทั้งหมด 18 คน รถตู้ 2 คันน้า ต่างคนต่างชวนเพื่อนไป ได้เพื่อนใหม่เพียบเลย!
เออๆ ข้าไปมา เมื่อเดือนพฤศจิกายน ช่วงที่ฝนสุดท้ายอะ เพิ่งผ่านมานี่เองเน้อ!
และทริปนี้ข้าพกกล้อง Fuji XT-2 พร้อมกับเลนส์ Kit 18-55 mm. ตัวเดียวน้า เพราะไม่อยากถือเยอะ 555+
.......................................................................
หน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ ใครที่ยังคิดไม่ออกว่า...จะไปเที่ยวที่ไหนดี
ข้าจะบอกเลย...ภูบักไดคือตัวเลือกที่ดีมากกก พร้อมไปกันแล้วใช่มั้ย
เริ่ม!!!!
การเดินทางของข้า เริ่มต้นด้วยการนั่งรถแต๊กๆ หรือรถอีแต๊กจากหมู่บ้าน ระหว่างทางก็จะงามประมาณนี้
รถที่นั่งก็จะแบบนี้ คันนึงนั่งได้ 5 คนนะ แต่ถ้าคันใหญ่ก็มี 5-10 คนเน้อ
ระหว่างทางอย่างที่บอกว่า ร่มไม่ีเลย ถึงมีก็น้อยมาก เพราะฉะนั้นจะได้รับแดดเต็มๆ แต่ยอมให้ความวิวสวยแบบนี้
พอช่วงที่เริ่มขึ้นเขา ก็มีร่มไม้หน่อยๆ ข้าก็นั่งหน้าเลยจ้า เพื่อมองวิวได้เต็มตาเล้ย
สักพักคันหน้ารถติด เอ้า! ลงๆ ต้องช่วยกันดึงๆ ดันๆ 5555+ สนุกไปอีกแบบ
ยิ่งขึ้นมาสูง มองกลับไปคือวิวสวยมากกกกกกกกกกกกกก
และผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ เกือบๆ สองชั่วโมง ก็ถึงจุดจอดรถ จากนี้ไปต้องเดินแล้วน้า
การเดินเท้า...เริ่มต้นขึ้น ช่วงแรกประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที อันนี้แล้วแต่คนนะ มองย้อนกลับก็แบบนี้
ดูความสวยงามของดอกไม้สิ
เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงแลนด์มาร์คต้นไม้ฟ้าผ่า คือนางยังคงอยู่ยั่งยืนยง 5555+
ทางราบเดินสบายมากๆ เดินไปดูดอกไม้ไป
มาช่วงปลายฝน ช่วงเริ่มหนาว น้องทากุจะน้อย แต่วันที่ข้ามีฝน เลยต้องก้มๆ ดูเป็นระยะ ถุงน่องก็จะแบบนี้
พอถึงตรงนี้ให้รู้ไว้เลยว่า ใกล้ถึงแล้วจ้า
เชคอินมุมนี้ แปปปปปปป
มองกลับไป ก็เหมือนจะเป็นเนินๆ หน่อยๆ น้า
ระหว่างทางดอกไม้ก็สวยมากกกกกก
และแล้วในที่สุด ข้าก็ได้เห็นวิวอลังการนี้
แอบถ่ายรูปนิดนึงน้า
ส่วนลานกางเต็นท์ ก็อยู่ประมาณนี้เลย
พอกางเต็นท์เสร็จก็ไปตามล่าแสงสีทองกัน บนนี้ไม่มีโรงแรม ไม่มี 7-11 มีแต่แหล่งน้ำธรรมชาติที่เอาไว้ล้างหน้า แปรงฟันได้เน้อ
ส่วนมุมนี้ก็คือ หินหลอกลวงจ้า จะบอกว่า หินหลอกลวงช่วงเย็นๆ ก็จะได้แสงประมาณนี้นะ
มาดูแสงยามเย็นกัน มุมไหนๆ ก็สวยไปหมด ลั่นไปหมดเลย
ส่วนนี่ก็ ต้นไม้เดียวดาย ที่มีหินมาวางไว้เพื่อเป็นเก้าอี้ สำหรับคนไม่เหงาก็มานั่งได้นะ 5555+
ที่ภูบักได จะมีลูกหาบที่เป็นคนขับรถอีแต๊ก คอยก่อไฟ ต้มน้ำให้ ข้าเลยถ่ายกองไฟมาฝาก
และยามเย็นกับผาหลอกลวงก็แบบนี้น้าาาาาาา
วิวสวยมากเลยอะ ข้านั่งมองจนฟ้ามืดเลยทีเดียว
แล้วก็เดินกลับเต็นท์ แต่ละหลังเปิดไฟสวยจัง
และสำหรับค่ำคืนนี้ ก็ลาไปด้วยภาพนี้ หมูกระทะแสนอร่อย กับเพื่อนๆ ทั้ง 18 คน (ต้องเตรียมขึ้นไปเองน้า)
.......................................................................................
ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ เสียงนาฬิกาปลุกดัง ในเวลา 4.00 น.
ทำให้ข้ารีบตื่นมาล้างหน้า แปรงฟัน (ทาแป้ง แต่งหน้าเบาๆ เพื่อมารับดวงดาวและแสงเช้ากัน) ที่ผาหลอกลวง
และแล้วพระอาทิตย์ก็มาเยือน ที่นี่มองเห็นทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกเลยนะ
บนนี้มีพระพุทธรูป ให้กราบไหว้ขอพรด้วยแหละ
วิวอลังการมากกกกกก
เนื่องจากเป็นยอดเขาที่เดินง่าย เลยเตรียมพร๊อปมาเล่นหน่อยๆ
และช่วงเวลานี้คือ ช่วงของ ผาหลอกลวง จะบอกว่าช่วงเวลา 7.00-9.00 น. เป็นช่วงเวลาที่แสงสวยมากกกก
เหมาะสำหรับการแอคชั่น ถ่ายภาพคู่กับเจ้าผาหลอกลวงยิ่งนัก ใครที่คิดท่าไม่ออก ข้ามีมาบอกเน้อออ 5555+
เอามุมเกร๋ๆ มาฝากอีกมุม
และสำหรับมื้อเช้าก่อนลงจากภูบักได ก็จะประมาณนี้น้า
ข้าไปมาแล้วเดินง่ายจริง ไม่เชื่อเหรอ? ต้องไป!
.
.
.
ข้าเอง...ผมม้า
ภูบักไดแห่งเมือง...เลย | เดินง่ายๆ แถมวิวโคตรปัง!
ภูบักได ภูบักได๋ สวรรค์แห่งเมือง...เลย
เดินง่ายๆ ไปได้ไม่ยาก ชันไม่เยอะอีกต่างหาก ทางราบเดินโคตรสบายยยยยยย!
ภูบักได ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย อยู่ในความดูแลพื้นที่ของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนปลาบ่า และเป็นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนเอง
.......................................................................
มารู้สักนิดก่อนพิชิต....ภูบักได
01 แลนมาร์คของที่นี่เลยคือ หินหลอกลวง ที่ถ่ายรูปออกมาหวาดเสียวมากๆ แต่จริงๆ ห่างจากพื้นไม่ถึงเมตรจ้า
02 หินที่เรียงราย ความเปิดโล่งของวิวภูเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่สวยงามมากกกก
03 จากหมู่บ้านนั่งรถอีแต๊ก 1.30-1.45 ชม. เพราะฉะนั้นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวก รองเท้าแว่นกันแดด ร่ม ต้องพร้อมนะ
04 เริ่มเดินทางชัน 300 เมตร ใช้เวลา 15 นาที (หรือแล้วแต่ความแข็งแรงของแต่ละคน)
05 หลังจากนั้นทางราบ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาโดยประมาณ 1-2 ชั่วโมง
06 ด้วยความที่ต้องแบกของส่วนตัวเอง สัมภาระเอาเฉพาะที่จำเป็นไปน้าาา
07 ถุงกันทาก ถ้าฝนตกจำเป็น แต่ถ้าฝนไม่ตก ก็ไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ แต่ใส่ไว้ก็อุ่นใจดี
08 ภูบักได ไม่มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ เข้าป่าเลยจ้า พาวเวอร์แบงค์ ยา ขนม ลูกอบ เกลือแร่ เตรียมไปน้า เพราะด้านบนไม่มี 7-11
09 ต้องจองล่วงหน้า ติดต่อกำนันเชิด ได้ที่เบอร์ 087-866-2648, 095-701-3139
10 ค่าบริการรถอีแต๊ก คันละ 3000 บาท ตกคนละ 500 บาท ไป-กลับ นั่งได้ 5-6 คน คนขับรถเป็นไกด์และลูกหาบให้ด้วย
11 ต้องนอนค้างแรมข้างบน 1 คืน ฉะนั้นควรมีเต้นท์ ถุงนอน หรือถ้าไม่มีก็เช่าได้น้า
12 อาหารต้องเตรียมขึ้นไปเองนะ โดยรวมๆ ก็เป็น 3 มื้อคือ วันแรกก็ มื้อกลางวันและมื้อเย็น วันที่สองก็มื้อเช้าเน้อ
13 เตรียมใจให้พร้อม เพราะที่นี่สวยมากกกกกกกกกกกกกกก
.......................................................................
สำหรับทริปนี้ค่าใช้จ่ายของข้า รวมทุกสิ่งอยู่ที่...2400 บาท
พวกข้าไปกันทั้งหมด 18 คน รถตู้ 2 คันน้า ต่างคนต่างชวนเพื่อนไป ได้เพื่อนใหม่เพียบเลย!
เออๆ ข้าไปมา เมื่อเดือนพฤศจิกายน ช่วงที่ฝนสุดท้ายอะ เพิ่งผ่านมานี่เองเน้อ!
และทริปนี้ข้าพกกล้อง Fuji XT-2 พร้อมกับเลนส์ Kit 18-55 mm. ตัวเดียวน้า เพราะไม่อยากถือเยอะ 555+
.......................................................................
หน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ ใครที่ยังคิดไม่ออกว่า...จะไปเที่ยวที่ไหนดี
ข้าจะบอกเลย...ภูบักไดคือตัวเลือกที่ดีมากกก พร้อมไปกันแล้วใช่มั้ย
เริ่ม!!!!
การเดินทางของข้า เริ่มต้นด้วยการนั่งรถแต๊กๆ หรือรถอีแต๊กจากหมู่บ้าน ระหว่างทางก็จะงามประมาณนี้
รถที่นั่งก็จะแบบนี้ คันนึงนั่งได้ 5 คนนะ แต่ถ้าคันใหญ่ก็มี 5-10 คนเน้อ
ระหว่างทางอย่างที่บอกว่า ร่มไม่ีเลย ถึงมีก็น้อยมาก เพราะฉะนั้นจะได้รับแดดเต็มๆ แต่ยอมให้ความวิวสวยแบบนี้
พอช่วงที่เริ่มขึ้นเขา ก็มีร่มไม้หน่อยๆ ข้าก็นั่งหน้าเลยจ้า เพื่อมองวิวได้เต็มตาเล้ย
สักพักคันหน้ารถติด เอ้า! ลงๆ ต้องช่วยกันดึงๆ ดันๆ 5555+ สนุกไปอีกแบบ
ยิ่งขึ้นมาสูง มองกลับไปคือวิวสวยมากกกกกกกกกกกกกก
และผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ เกือบๆ สองชั่วโมง ก็ถึงจุดจอดรถ จากนี้ไปต้องเดินแล้วน้า
การเดินเท้า...เริ่มต้นขึ้น ช่วงแรกประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที อันนี้แล้วแต่คนนะ มองย้อนกลับก็แบบนี้
ดูความสวยงามของดอกไม้สิ
เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงแลนด์มาร์คต้นไม้ฟ้าผ่า คือนางยังคงอยู่ยั่งยืนยง 5555+
ทางราบเดินสบายมากๆ เดินไปดูดอกไม้ไป
มาช่วงปลายฝน ช่วงเริ่มหนาว น้องทากุจะน้อย แต่วันที่ข้ามีฝน เลยต้องก้มๆ ดูเป็นระยะ ถุงน่องก็จะแบบนี้
พอถึงตรงนี้ให้รู้ไว้เลยว่า ใกล้ถึงแล้วจ้า
เชคอินมุมนี้ แปปปปปปป
มองกลับไป ก็เหมือนจะเป็นเนินๆ หน่อยๆ น้า
ระหว่างทางดอกไม้ก็สวยมากกกกกก
และแล้วในที่สุด ข้าก็ได้เห็นวิวอลังการนี้
แอบถ่ายรูปนิดนึงน้า
ส่วนลานกางเต็นท์ ก็อยู่ประมาณนี้เลย
พอกางเต็นท์เสร็จก็ไปตามล่าแสงสีทองกัน บนนี้ไม่มีโรงแรม ไม่มี 7-11 มีแต่แหล่งน้ำธรรมชาติที่เอาไว้ล้างหน้า แปรงฟันได้เน้อ
ส่วนมุมนี้ก็คือ หินหลอกลวงจ้า จะบอกว่า หินหลอกลวงช่วงเย็นๆ ก็จะได้แสงประมาณนี้นะ
มาดูแสงยามเย็นกัน มุมไหนๆ ก็สวยไปหมด ลั่นไปหมดเลย
ส่วนนี่ก็ ต้นไม้เดียวดาย ที่มีหินมาวางไว้เพื่อเป็นเก้าอี้ สำหรับคนไม่เหงาก็มานั่งได้นะ 5555+
ที่ภูบักได จะมีลูกหาบที่เป็นคนขับรถอีแต๊ก คอยก่อไฟ ต้มน้ำให้ ข้าเลยถ่ายกองไฟมาฝาก
และยามเย็นกับผาหลอกลวงก็แบบนี้น้าาาาาาา
วิวสวยมากเลยอะ ข้านั่งมองจนฟ้ามืดเลยทีเดียว
แล้วก็เดินกลับเต็นท์ แต่ละหลังเปิดไฟสวยจัง
และสำหรับค่ำคืนนี้ ก็ลาไปด้วยภาพนี้ หมูกระทะแสนอร่อย กับเพื่อนๆ ทั้ง 18 คน (ต้องเตรียมขึ้นไปเองน้า)
.......................................................................................
ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ ติงตะละลิ้ง ติ๊งๆ เสียงนาฬิกาปลุกดัง ในเวลา 4.00 น.
ทำให้ข้ารีบตื่นมาล้างหน้า แปรงฟัน (ทาแป้ง แต่งหน้าเบาๆ เพื่อมารับดวงดาวและแสงเช้ากัน) ที่ผาหลอกลวง
และแล้วพระอาทิตย์ก็มาเยือน ที่นี่มองเห็นทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกเลยนะ
บนนี้มีพระพุทธรูป ให้กราบไหว้ขอพรด้วยแหละ
วิวอลังการมากกกกกก
เนื่องจากเป็นยอดเขาที่เดินง่าย เลยเตรียมพร๊อปมาเล่นหน่อยๆ
และช่วงเวลานี้คือ ช่วงของ ผาหลอกลวง จะบอกว่าช่วงเวลา 7.00-9.00 น. เป็นช่วงเวลาที่แสงสวยมากกกก
เหมาะสำหรับการแอคชั่น ถ่ายภาพคู่กับเจ้าผาหลอกลวงยิ่งนัก ใครที่คิดท่าไม่ออก ข้ามีมาบอกเน้อออ 5555+
เอามุมเกร๋ๆ มาฝากอีกมุม
และสำหรับมื้อเช้าก่อนลงจากภูบักได ก็จะประมาณนี้น้า
ข้าไปมาแล้วเดินง่ายจริง ไม่เชื่อเหรอ? ต้องไป!
.
.
.
ข้าเอง...ผมม้า