พาเดินเล่นตลาด Tsukiji Outer Market แวะกินของอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้างในโตเกียว

มีโอกาสได้แวะมาโตเกียวหลายครั้งแต่เราไม่เคยได้ไปตลาด Tsukiji ซักที
ตอนวางแผนจะมาโตเกียวรอบนี้เลยตั้งใจจะไปตลาด Tsukiji
ปรากฏว่าเพิ่งมารู้ข่าวทีหลังว่าเขาจะย้ายตลาดตอนเดือนตุลาที่ผ่านมา

เราเดินทางช่วงปลายพฤศจิกา เลยพยายามเชคข่าวและดูรีวิวว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
สรุปได้คร่าวๆ คือร้านค้าภายนอกยังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งส่วนตรงนี้เขาเรียกว่า Tsukiji Outer Market
มีแต่ส่วนของการประมูลปลาและร้านซูชิดังๆ เช่น Sushi Dai ที่ย้ายไปที่ตั้งใหม่คือตลาด Toyosu

จากที่ดูรีวิวก่อนมา ตลาด Toyosu จะเป็นตึกและมีร้านอาหารเป็นร้านๆตั้งอยู่ในตึก
ซึ่งเราชอบแนว street food มากกว่า จึงเลือกไปที่ตลาด Tsukiji
การเดินทางก็ไม่ยากนั่งรถไฟไปลงสถานี Tsukiji เดินออกมาจากสถานีเลี้ยวซ้าย
เดินตรงไปข้ามถนนก็จะเจอร้านค้าตลอดทาง

วันที่ไปคือวันพุธ บางร้านก็ไม่เปิด  ไปสายด้วย มีคนแนะนำให้มาเช้าๆจะคึกคักกว่า
แต่ยังไงก็ยังมีของขายอยู่เยอะ เลือกกินไม่หมด

เจอ Ichiko-Daifuku มีหลายไส้ให้เลือก


ลองกิน Black sesame อร่อยดี กัดคู่กับ Strawberry เข้ากัน แต่ออกหวานนิดนึง



อยากกินสตอเบอร์รี่สีขาว แต่คิดว่าที่ไปซื้อ Supermarket ทีหลังก็ได้ เลยไม่ได้กิน ปรากฎพลาดมากเพราะที่อื่นไม่มีขาย
จริงๆช่วงนี้ไม่ใช่หน้าสตอเบอร์รี่ซะทีเดียว ต้องเป็นช่วง spring


คนขายชี้แนะนำร้านข้างๆขายเนื้อย่าง A5 แต่เราไม่กินเนื้อ


Uni มีหลายขนาด หลายราคา เป็นคนที่จิตใจยังลังเลว่าจะชอบ Uni ดีหรือไม่ดี


ครั้งแรกที่เคยลองเหมือนกินน้ำทะเล แต่พอลองอีกของบางที่ก็นุ่มละมุนเหมือนประมาณ savory custard
น่าจะอยู่ที่ความสดของแต่ละที่มากกว่า

เดินยังไม่ถึงไหน หิวข้าว ก็เลยหาร้านกินก่อน คิดว่าที่ไหนก็คงเหมือนกันแหละ มาอยู่ที่ตลาดยังไงคงต้องสด
รูปเมนูดูน่ากินมาก


พอของจริงมาไม่ค่อยเหมือนในรูปเท่าไหร่ ชามเล็ก แต่หน้าตาก็ดูน่ากินอยู่เนอะ


ปรากฎ Uni คาวมาก เหมือนสาดน้ำทะเลเข้าปาก5555 ยังคุยกับพี่ว่าหรือเรากินไม่เป็น เท่าที่กิน Uni มาเหมือนเสี่ยงดวง
เจออร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง แต่ไม่คิดว่ามากินที่ญี่ปุ่นจะเจอรสนี้ เอ๊ะ หรือนี่รส original ต้องมีกลิ่นทะเล
เอาเป็นว่า ณ จุดนี้ถือว่าเราอาจจะกินไม่เป็น ยังไม่ฟันธง ก่อนจะได้ลองที่อื่น

ของพี่เรา 4,000 กว่าเยนไม่เหมือนในรูปเลย


ความรู้สึกโดยรวมร้านนี้ไม่ให้ผ่านละกัน จุดนี้พอเข้าใจได้ว่าทำไมคนถึงชอบไปกินตามรีวิว
เพราะเราสามารถมั่นใจได้ว่ามีคนพิสูจน์มาแล้วว่ามันอร่อย!

ออกมาเดินเล่นต่อ เจอร้าน Tamago ตรงหัวมุม ที่เห็นเขาลงใน IG กันเยอะๆ
ยืนดูเขาทำก็เพลินดี


ไปซื้อมาลองหนึ่งอันมีให้เลือกแบบธรรมดากับแบบหวาน
ลองเลือกแบบหวาน เพราะกลัวแบบธรรมดาไม่มีรสชาติ เขากินแบบไม่มีซอส
อันละ 100 เยน


รสชาติก็ออกหวานจริงๆ ไข่ไม่นุ่มเท่าไหร่ มีหลายคนรีวิวมาแล้วว่าไม่อร่อย
เพราะฉะนั้นแนะนำให้เก็บท้องหากินอย่างอื่นดีกว่า

จริงๆถ้าเดินเลยมาหน่อยจะเห็นร้าน tamago อีกสองสามร้าน จะมีร้านนึงที่คนญี่ปุ่น
ต่อแถวกันซื้อเยอะมาก ร้านนั้นน่าจะอร่อย ร้านที่เราซื้อมันมีตู้โชว์การทำข้างหน้า นักท่องเที่ยวเลยจะซื้อเยอะ

ฝั่งตรงข้ามร้าน Tamago จะมีร้านขาย Soft Serve มีหลายรสให้เลือก


ลอง Sweet Potatoes รสชาติเข้มข้น ได้รสมันหวาน อันนี้ผ่าน


Seafood แต่ละร้านจัดเรียงรายน่ากินมาก มาแล้วก็ควรลอง Oyster
ร้านที่ลองเห็นมีราคาตั้งแต่ 800-1000 เยน
เพื่อนมาบอกทีหลังว่าแพง ซึ่งพอไปกินข้างนอกก็รู้ว่ามันแพงเกินราคาปกติ


เลือกตัวที่ใหญ่ที่สุดชิ้นเท่าฝ่ามือ ราคา 1000 เยน ซอสที่ราดเหมือน Ponzu


กัดไปคำแรกหวานอร่อย แต่พอคำที่สองมันครีมมากๆ กินสี่คำถึงหมด
กินตัวเดียวพอ มันครีมมี่เข้มข้นเกินไป ถ้าเลือกตัวเล็กกว่านี้หน่อยนึงอาจจะดีกว่า

เดินมาเจอร้านนี้มีปู มีซาชิมิ


ลอง King crab มีแบบกล่องราคา 2800 เยน คนขายจะถามว่าอุ่นมั้ย
ฝรั่งชอบกินปูแบบเสิร์ฟเย็น คนเอเชียชอบกินแบบเสิร์ฟร้อน


ที่ตลาดส่วนใหญ่ร้านค้าจะให้ซื้อแล้วยืนกินหน้าร้านเลย
เคยกินที่ Fish Market ที่ไต้หวัน รู้สึกว่าที่นั่นออกหวานอร่อยกว่า
อาจจะเพราะตรงนั้นปูสดมาก ยังอยู่ในแทงค์
ส่วนอันนี้แบ่งขายและต้มไว้แล้ว แต่ก็สดอร่อยตามมาตรฐาน

เดินผ่านร้านนี้มี Ahi Tuna Steak
เขาเอามาย่างแล้วเผาไฟด้านบน ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทย


ง่ายๆ แต่อร่อย ปลาสุกกำลังพอดี เนื้อข้างในยังชุ่มฉ่ำ
ไม้ละ 500 เยน ร้านนี้มีที่ให้กินเป็นสัดส่วน มีดราฟเบียร์ จัด sapporo ตามได้เลย


ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใช้เหรียญเยอะมาก กว่าเราจะนับเงินจ่าย
เหรียญหล่นไปหลายรอบ คนขายก็น่ารัก มาเสนอแลกเหรียญให้ด้วย

ตั้งใจจะไปร้าน Uni Bun แต่ปรากฏว่าปิด
จริงๆร้านปิดวันอังคาร แต่เป็นไปได้ว่าของอาจจะหมด เพราะมีคนบอกว่าขายดีมาก
ต้องมาแต่เช้า เรากว่าจะถึงตลาดก็สิบโมง ตอนหาร้านก็บ่ายโมงแล้ว พลาดไป
ยืมรูปเพื่อนมาลงให้ดูว่าหน้าตาเป็นไง


อยากลองเพราะมีแต่คนบอกอร่อยมาก (ยังไม่เข็ดกับ Uni)
แต่คือเพื่อนมากินบอกคาวมาก ทั้งๆที่เพื่อนคือชอบกิน Uni มาก
ใครกินมาแล้วบอกหน่อยว่าตกลงอร่อยหรือไม่อร่อย

นอกจากของทะเลขายแบบสดๆ ก็มีแบบปิ้ง ย่างปรุงสดที่ขายกันตลอดซอย


อาหารอื่นๆและของให้ซื้อกลับบ้านก็มีให้เลือกเยอะแยะ





ร้านขายของทะเลแห้งมีหลากหลาย แนะนำให้ซื้อที่ตลาดนี้
เท่าที่ดูราคาถูกกว่าข้างนอก เราได้ปูหวานตัวเล็กๆมา กินแล้วกรุบๆกรอบๆ เหมาะเป็นกับแกล้ม


เดินมาซอยหลังๆเจอร้านกาแฟ ซอยเดียวกับ Uni Bun และร้าน Tuna Steak ก็เลยลองดู


สั่งลาเต้เย็น กาแฟญี่ปุ่นไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ สั่งแบบเย็นก็จะรสกาแฟจะเบาๆนุ่มๆ ออกรสชาตินมๆมากกว่า คอกาแฟคงต้องดื่มทั้งวัน

แนะนำอย่างนึงไปตลาดนี้ให้ถือถุงขยะติดมือไปด้วย
เผื่อไว้ใส่ขยะของเราเอง เพราะถังขยะแถวนั้นหายากมาก
อาจเป็นเพราะร้านส่วนใหญ่ให้ซื้อกินหน้าร้านและทิ้งตรงนั้นเลย
เผื่อมีขวดน้ำ กระดาษเช็ดมือที่เราต้องทิ้งจะได้ใส่ถุงส่วนตัวและหาถังขยะทิ้งทีหลัง

ใครซื้อของหลายอย่างอยากหาที่นั่งกิน จะมีตึกอยู่ตรง ซอยหลังๆ
ด้านล่างเป็นตลาดในห้องแอร์ ชั้นบนสุดเป็นดาดฟ้ามีที่นั่งสำหรับ Public
ให้นั่งทานอาหารได้ ซึ่งมีถังขยะและห้องน้ำตรงนั้นด้วย

หมดจากตลาด ขอตัดไปตอนเย็น เดี๋ยวแยกหมวดขนมไปอีกกระทู้ เพราะมันเยอะมาก
จะพาไปกินร้านหมูทอดทงคัตสิชื่อดังในโตเกียว Narikura Tonkatsu

ร้านนี้เคยมาเมื่อสองปีที่แล้ว เปิดเจอในกระทู้พันทิพย์
ตอนนั้นเรามากินกลางวันร้านเปิด 11 โมง มาประมาณ 10.45น. ยังต้องยืนรอคิวประมาณ 45 นาที
มารอบนี้ก็ทำใจว่าต้องยืนรอคิว ปรากฏเขาเปลี่ยนระบบใหม่
ตอนแรกเราเห็นคิวที่ประตูก็เดินไปยืนต่อ ก็มีคนมาคุย ชี้ไปที่ป้ายข้างกำแพง เขียนภาษาญี่ปุ่น
อ่านไม่เข้าใจ คุยไปมาจับใจความได้ว่าคิวตอนนี้คือ 19.40 น. (เวลาตอนนั้นคือ ห้าโมงสี่สิบห้า)
โดยถ้าเราตกลงก็จ่ายเงินมัดจำคนละ 1,000 เยน (เงินสด) หลังจากเราจ่ายเงินเขาก็เขียนชื่อเราลงบอร์ดนั้น
และให้เราถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานยืนยันว่าเราได้ทำการจองและให้กลับมาต่อแถวเวลานี้

ตอนเดินออกมายังบอกพี่ว่านี่ถ้าไม่ใช่ญี่ปุ่น เป็นใครไม่รู้เขาเดินมาเก็บเงินเรา เราก็ให้เขาไปเนอะ
เขียนอะไรบนกระดานก็อ่านไม่ออก อมยิ้ม20


ร้านนี้อยู่ตรงสถานี Takadanobaba  นั่ง Yamonnote line ไปสองป้ายลงสถานี Shinjuku เดินเล่นฆ่าเวลาได้
ร้านปิดสองทุ่ม ใครอยากทานแนะนำ ให้ไปจองคิวไม่เกินหกโมงเย็น เพราะเราได้เกือบรอบสุดท้ายแล้ว
พอถึงเวลานัดไปยืนรอต่อคิวอีกประมาณสิบนาที พนักงานจะมาขอดูรูปจอง และเอาเมนูมาให้
เมนูภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ลองเอา google translate ช่วยแล้วก็ยังแปลไม่ออก
เดาคร่าวๆว่าแต่ละหน้า จะเป็นชนิดของหมูว่ามาจากแหล่งที่ไหน มีขนาดและชิ้นจากส่วนต่างๆ ราคาจะต่างกันไป

จิ้มเลือกมั่วเหมือนคราวที่แล้ว อันนี้ประมาณ 3,800 เยน


เนื้อส่วนนี้ไม่ค่อยโดนใจเหมือนครั้งแรกที่เคยกิน แต่หน้าตาเหมือนกัน
อันนี้ออกมันไปนิด เนื้อออกเหนียวไปหน่อย  แต่ด้านนอกกรอบกำลังดี กินคู่กับกะหล่ำปลีฝอย ตัดเลี่ยนความมันได้ดี
ทงคัตสึร้านนี้จะทอดสีไม่เข้ม สไตล์เขา


อันนี้ของพี่สาว ประมาณ 4,200 เยน มาเป็นหมูสามชิ้น อร่อยเว่อร์ อร่อยจริง ด้านนอกกรอบกริ้บ ข้างในหมูชุ่มฉ่ำ มีมันแทรกกำลังพอดี
คืออยากแย่งกิน ใครอยากลองให้ลองถามพนักงานขอแบบหมูสามชิ้นนน เด็ด

วันที่สองตั้งใจไปกินร้าน Pancake เห็นอยู่ใน IG รัวๆ ชื่อร้าน Benitsuru
ตอนแรกอยากกิน Gram แต่เห็นมีสาขามากมาย กินที่ไหนก็ได้ เลยตัดสินใจมาลองร้าน local แทน
นั่ง Ginza line มาลง สถานี Tawaramachi ออก exit 3 เดินตรงขึ้นมาประมาณสามบลอค
ต้องดูร้านดีๆ เราเดินเลย หาอยู่พักนึง เพราะหน้าร้านไม่โดดเด่น

มีบอร์ดเล็กๆเขียนหน้าร้านเป็นภาษาญี่ปุ่น เห็นแล้วเวลา 15.25น.  ที่เหลืออ่านไม่ออก ตอนเราไปคือประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง
เราเข้าไปในร้านยืนรอ จะมีพนักงานเข้ามา ก็แจ้งไปว่าขอจองคิว มีค่ามัดจำคนละ 1,000 เยน
หนึ่งแพนเค้กต่อหนึ่งคน จ่ายมัดจำด้วยเงินสด พนักงานจะให้ใบจองมากับและบอกเวลาที่ต้องกลับมา

ร้านเปิด 10.30น. เริ่มรับจองตอน 8.30น. การจองรับเป็นวันต่อวัน
ถ้าอยากลองไม่ควรไปรับคิวเกินเที่ยง ตอนเรากลับมาบ่ายสามกว่า ก็มีเขียนแจ้งหน้าร้านว่างดแล้วคิวสำหรับวันนี้แล้ว

จากร้านสามารถเดินไป Senso-ji ได้ ซึ่งแถวAsakusa มีที่ให้เดินเล่นเยอะมาก
ใครมาจองคิว ให้แพลนครึ่งวันที่เหลืออยู่แถบนี้

เขียนยังไม่ถึงไหนเลย หมดโควตา ตั้งใจจะเขียนรวดเดียวจบ
ต้องไปต่อในคอมเมนต์ใช่มั้ยยยย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่