หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิวท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ไปกับทัวร์โปรไฟไหม้ 5 วัน 3 คืน ฉบับผู้เริ่มต้นเดินทาง (ตอนที่ 1 วันแรก) ***รูปเยอะมาก
กระทู้รีวิว
เที่ยวต่างประเทศ
โซล
ร้านอาหาร
ภาพถ่ายทิวทัศน์
บันทึกนักเดินทาง
"ประเทศเกาหลีใต้" ทำให้เรานึกถึงเหล่าโอปป้า หรือซีรีย์ชื่อดังที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา หวังว่าจะไปกินของอร่อยๆแบบในละครบ้านเขาบ้าง แต่ว่าปัญหาผีน้อยหนีเข้าไปทำงานบ้านเขาก็เยอะซะเหลือเกิน จะไปเที่ยวเองก็กลัวไม่ผ่าน ต.ม.ไหนจะเงินค่าตั๋ว ค่าที่พักต่างๆก็เสียไปแล้ว จะยอมเสี่ยงหรือจ่ายเพียงเล็กน้อยเพื่อไปกับทัวร์โปรแกรมไฟไหม้ ได้ราคาถูกเพื่อเปิดทางในการเข้าประเทศครั้งถัดไป เราจะไม่เสี่ยง ไปกับทัวร์ก่อนแล้วกัน แล้วค่อยมากันเองอีกรอบ
วันนี้เราเลือกโปรแกรมทัวร์ไฟไหม้ โดยมีหลากหลายบริษัทให้เลือก ในรีวิวนี้จะไม่บอกว่าเราไปทัวร์ไหน เพราะจะมีการแวะจุดซื้อของต่างๆ ซึ่งราคานั้น....... ไม่พูดดีกว่าเนอะ เอาเป็นว่ารายการสินค้าอื่นๆนอกรายการทัวร์ราคาถูกกว่าเยอะ วันนี้เราจะบอกแหล่งซื้อของราคาถูก แต่ถ้าหากลองคิดรวมราคาค่าเดินทางไปเอง ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินไป - กลับ ราคารถรถเดินทาง ราคาค่าอาหาร แลกกับเวลาเที่ยวน้อยลงและจุดบังคับลงรถที่ไม่ได้บังคับว่าต้องซื้อก็ถือว่าโครตคุ้มค่าครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการเตรียมตัว แนะนำว่าให้ดูโปรแกรมทัวร์ที่อยากไปจากบริษัททัวร์ล่วงหน้า จัดกระเป๋ารอไว้ สำหรับผมลางานล่วงหน้า แต่บอกเจ้านายไว้แล้วว่าอาจจะได้ไปหรือไม่ไป อันนี้แล้วแต่บริษัทนะครับว่าจะยืดหยุ่นอย่างไรได้บ้าง จากนั้นรอประมาณอาทิตย์สุดท้ายก่อนเดินทาง บริษัททัวร์จะเริ่มประกาศราคาไฟไหม้แล้ว ทำการจองได้เลยครับ ก่อนจะจองอย่างลืมเช็ค Passport ว่ามีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนหรือไม่ หาแหล่งแลกเงินที่ราคาดีที่สุดหรือตามเรทที่เราพอใจ ทำการโทรแจ้งผู้ให้บริการบัตรเครดิตว่าจะมีการใช้งานนอกประเทศ อย่าลืมทำการจองซิมโทรศัพท์ล่วงหน้าก่อนไปใช้งานจริงที่นั่น เราแนะนำของเจ้านี้ครับ ราคาถูกสุดแล้ว แต่ต้องจองล่วงหน้าไปก่อน ที่ลิงค์นี้
https://www.kkday.com/th/product/7423
ทำการกดซื้อ และจะได้รับรหัสมาสำหรับไปรับซิมที่เคาท์เตอร์สนามบิน มีพนักงานใส่ซิมและทำการตั้งค่าให้เสร็จสรรพ สะดวกมากครับ เพราะถ้าไม่จองจากไทยไปก่อน ราคาเน็ตที่เกาหลีใต้สำหรับนักท่องเที่ยวนั้นแพงมาก 10,000-15,000 วอน ต่อวันแล้วแต่ผู้ให้บริการ คิดเป็นเงินไทยราคา 300 กว่าบาทเลยแหละ
วันเดินทางจริงโปรแกรมทัวร์จะบอกว่า 5 วัน 3 คืน คือไป Check in ตั้งแต่ 3-4 ทุ่ม ออกเดินทางจริง ตี 1 ตี 2 นั่นแหละครับ ถึงเกาหลีเช้าพอดี โดยจะมีเจ้าหน้าที่ทัวร์คอยตอนรับอยู่ที่จุดนัดพบพร้อมเก็บค่าทิปไกด์ 40,000 วอน คิดเป็นเงินไทย 1,200 บาท สอบถามมาว่าทำไมเก็บตรงนี้ก่อน ไม่เหมือนทัวร์อื่น ได้คำตอบว่าหากจ่ายที่เกาหลีต่อหน้าไกด์ชาวเกาหลี เขาจะไม่ค่อยพอใจทำให้ต้องจ่ายที่นี่ให้เสร็จก่อน ก็เหมือนบวกค่าทัวร์ไปในตัวนั่นแหละ มีทุกทัวร์ครับ ส่วนสายการบินนั้นก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม โดยครั้งนี้ผมได้เดินทางโดย Eastar Jet ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเครื่องบินจะเป็นที่นั่งแบบ 3-3 สำหรับผู้ชายตัวสูง 177 หนัก 140 อย่างผม ถือว่านั่งสบายครับ มีพื้นที่หน้าเหลือนิดหน่อย สอดขาลงไปเบาะด้านหน้าไป เดินทาง 5 ชม. ก็ถึงเกาหลีใต้แล้วครับ แอร์สวยแต่งตัวแฟชั่นนิดๆสไตล์เกาหลี ไม่มีอาหารให้แต่ก็มีจำหน่าย โดยรับเป็นเงินวอน เงินเยน และดอลล่า พิเศษหน่อยคือมีน้ำเปล่าเสิร์ฟให้ฟรีบ่อยๆ แอร์ไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษกันสักเท่าไหร่แต่พอฟังเราและตอบโต้ได้ โดยรวมแล้วก็ดีครับ บริการใช้ได้ นั่งสบาย ครั้งต่อไปถ้าจะไปเกาหลีใต้อีกแล้วสายการบินนี้ลดราคาก็จะเลือกใช้บริการครับ
เวลาที่เกาหลีใต้นั้นเดินเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม. ทำการปรับเวลาให้เรียบร้อยนะครับ เมื่อไปถึงสามารถใช้ Wifi ของสนามบินได้ฟรี โดยไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ สะดวกมาก ต.ม. ของที่นี่เรานึกว่าจะตรวจโหด ซึ่งผมเคยเดินทางไปบาหลี กับสิงคโปร์มาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เลยผ่านได้สบายมากครับ ไม่ถามไม่พูดอะไรเลย เปิดหน้า Passport นิดหน่อย ปั้มแล้วผ่านไปเลย ไปรับกระเป๋าเสร็จ ก็ไปรวมตัวกันไปรับซิมที่จองที่เคาท์เตอร์เปิดอินเตอร์เน็ตพร้อมเดินทางแล้วครับ
อากาศที่เกาหลีช่วงที่ผมไปเดือนกันยายน เป็นหน้าฝนต้นหนาวแล้วครับ ฝนที่นี่แปลกมาก ตกเม็ดเล็กเป็นฝอยๆ พอเย็นชุ่มฉ่ำแต่ไม่เปียกมาก อากาศประมาณ 20-25 องศา เหมาะแก่การเที่ยวมากครับ ออกมารอรถบัสหน้าทางออกผู้โดยสารขาออก รถบัสของเราคันใหญ่มากครับ เพราะใบรายชื่อในทัวร์นั้นมีทั้งหมด 24 คน แต่ผ่านมาจริงๆแค่ 15 คนเท่านั้นเอง ส่วนสาเหตุคงไม่ต้องพูดนะครับว่าเพราะอะไร.... เมื่ออยู่บนรถแล้วไกด์จะทำการแนะนำตัวให้ทุกคนทราบ และสอบถามชื่อทุกคน ถ้าหากทริปนี้คุณอยากไปเที่ยวแบบไม่บานปลายมาก แนะนำว่าให้เอากล้องถ่ายรูปไปเองสักตัว เพราะไกด์ชาวเกาหลีที่ไปด้วย จะบอกว่าเป็นช่างภาพ ไม่มีรายได้ แค่มาช่วยเฉยๆ แต่สุดท้าย ก็ขายรูปแบบพร้อมใส่กรอบ อันใหญ่เลย รูปละ 20,000 วอน คิดเป็นเงินไทย รูปละ 600 บาท ใครพอใจจะซื้อก็ซื้อครับ ส่วนตัวมีกล้องอยู่แล้ว ถ่ายเองดีกว่า
สถานที่แรกที่ไกด์จะพาไปคือทานข้าวก่อนครับ กว่าจะถึงจริงๆก็เที่ยงแล้วมื้อแรกเป็นชาบูชาบูสไตล์เกาหลี เป็นร้านที่รับเฉพาะทัวร์เท่านั้น ไม่มีชื่อหน้าร้าน อาหารในหม้อประกอบด้วย หมูสันนอก วุ้นเส้นเกาหลี เห็ดหลากชนิด ผักกาดขาว และเต้าหู้ทอด ราดด้วยซุปกระดูกหมู รสชาติคือสุกี้บ้านเราครับ รสจืด หอมกลิ่นซุป เต้าหู้ทอด หวานเห็ดและผัก ไม่มีน้ำจิ้ม ทานเคียงกับกิมจิ ไชเท้าดอง ถั่วปรุงรส และกระเทียมดอง แต่ยังดีไกด์เราเตรียมน้ำจิ้มสุกี้พันท้ายมาให้แล้ว รอดตายไป 1 มื้อครับ เห็นเพื่อนร่วมทัวร์แต่ละคนสีหน้าไม่สู้ดีนักเท่าไหร่ แต่สำหรับผมทานได้นะ ไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้ชอบอะไร
ขึ้นรถมาถึงก็แจกน้ำคนละ 1 ขวด ยี่ห้อ Lotte โดยขวดนี้ทานทั้งวันนะ แต่ว่าตามจุดต่างๆที่แวะนั้นส่วนใหญ่จะมีตู้กดน้ำสะอาดให้เติมตลอด สาเหตุที่ให้แค่ขวดเดียวเพราะน้ำเปล่าที่นี่ขวดละ 700 วอน หรือ 21 บาทไทย ค่อนข้างแพงเลย
สถานที่ท่องเที่ยวถัดไปคือหมู่บ้านยุโรป Provence โดยช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีสวนดอกไม้สวยๆให้เราถ่ายรูปด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรมากนัก เป็นร้านค้า ร้านกาแฟ ตกแต่งสไตล์ยุโรป โดยเก็บภาพบรรยากาศมุมต่างๆมาฝากกัน ขอบอกนิดนึงว่าตรงจุดที่รถทัวร์จอดนั้นเป็นลานจอดรถ ต้องเดินลงมาด้านล่างจะมีร้านค้าน่ารักๆถ่ายรูป หรือเข้าไปซื้อของได้มากมาย คล้ายอเวนิวบ้านเรานั่นและแต่อยู่กลางภูเขา ดูมีสเน่ห์ไปอีกแบบ
นั่งเครื่องมานาน บวกกับเวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าบ้านเรา มีอาการเหนื่อยเพลียต้องหาของหวานเพิ่มพลังสักหน่อยกับร้าน Cafe Lucycato เห็นที่ร้านนี้มีเมนูแปลกอย่างบิงซูมาการองอลังการมาก บรรยากาศร้านก็น่านั่ง ตกแต่งด้วยอิฐเปลือยสลับกับไม้สไตล์ยุโรป เหมาะสมแก่การนั่งเล่นกินบิงซู แต่เวลาเราไม่น่าพอ เลยสั่งขนมไป 3 อย่าง อย่างมาการองไส้แครนเบอรี่ แป้งหนึบกรอบ ไส้หวานหอมกลิ่นครีมตัดด้วยรสเปรี้ยวของแยม เอแคลร์ไส้เยอะวนิลากลิ่นหอมแป้งสัมผัสกรอบแปลกดี และไอศครีมโยเกิร์ตบลูเบอรี่ ใส่มาการองกรอบๆลงไปด้วยเพิ่มสัมผัสใหม่แปลกดี ทั้ง 3 นั้นรสค่อนข้างหวาน คนชอบทานหวานน้อยอาจจะไม่ค่อยชอบ แต่โดยรวมแล้วเราชอบนะ
เกิน 10,000 ตัวอักษรขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ
ชื่อสินค้า:
ทัวร์เกาหลี โปรไฟไหม้
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ความคุ้มค่า (หรือเปล่า?) ของห้องรับรอง The Coral Executive Lounge สนามบินเชียงใหม่
สวัสดีค่ะะะ หลังจากอยู่เที่ยวเชียงใหม่มาหลายวันถึงวันที่ต้องกลับลาดกระบังบ้านเราแล้ว พอดีซื้อตั๋วเครื่องบินกับสายการบินนึงไว้แล้วในชั้นโดยสารที่ซื้อมีบริการพิเศษ ได้รับสิทธิ์เข้าใช้บริการห้องรับ
cherishcheck
Tibet land ดินแดนแห่งศรัทธา
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวทิเบตที่เราได้ไปมาให้ฟังนะคะ ;D ก่อนอื่นเลยขอเปิดกระทู้ด้วยภาพนี้ค่ะ เขตปกครองตนเองทิเบต เป็นเขตปกครองตนเองของประเทศจีน มีเชื้อสายมาจากชาวอินเดีย ชาวทิเบต มีพระเป็นผู้นำ
สมาชิกหมายเลข 2831470
"บริการดี" อาจไม่ใช่เพียงพนักงานยิ้มแย้มอีกต่อไป
การใช้บริการบริษัทรถทัวร์เดินทางข้ามจังหวัด มีข้อดี คือ ไม่เสียเวลาเดินทางไปกลับสนามบินซึ่งอยู่ไกล และกระบวนการสำหรับผู้โดยสารก็ไม่ซับซ้อนเหมือนที่สนามบิน เมื่อใช้บริการรถทัวร์เดินทางข้าม
สมาชิกหมายเลข 7873663
สวนกระแสลมหนาว หอบเอาความเหงาไปทะเล(พม่า)
***ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเป็นรีวิวแรกของผมถ้าผิดพลาดประการใดผมก็ต้องขออภัยเพื่อนๆด้วยนะครับ*** เกาะหัวใจมรกต ชื่อนี้ได้ยินครั้งแรกเมื่อ2ปีที่แล้วจากการแชร์ผ่านเฟสบุ๊คของเพื่อนๆ ในใจคิดเลยก่อนตายต้องไ
สมาชิกหมายเลข 2450443
เที่ยวเกาะนาวโอพี สวรรค์แห่งท้องทะเลพม่า
สวัสดีเพื่อนๆ พบกันอีกแล้ว ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสกับเกาะนาวโอพี ทะเลพม่าและท่องเที่ยวเมืองระนอง 4วัน 3คืน เดินทาง ไปกับแอร์เอเชียบินคุ้มคุณภาพครบ ทริปนี้รูปจะเยอะเป็นพิเศษ ขาดตกบกพร่องขออภัยมาณ.ท
Mooaor
รีวิว Japan Trip@วันพักผ่อน 14,xxx บาท
รีวิว Japan Trip@วันพักผ่อน ไปช่วง 28 พค. ตั๋วเครื่องบินจองมา2-3เดือนแบบรีบกดจอง ตั๋วราคาขึ้นค่ะ ราคาประมาณ6,928บาท โรงแรม3คืน 2คืนแรก มีอาหารเช้า โรงแรมคืนสุดท้าย ซื้ออาหารเช้าเพิ่มค่ะ Keisei Skyline
สมาชิกหมายเลข 1938518
หนึ่งวัน อิน ย่างกุ้ง
...หนึ่งวัน อิน ย่างกุ้ง... เป็นทริป ที่ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ เพราะไปกับทัวร์ ไปแบบเช้า เย็นกลับ เริ่
สมาชิกหมายเลข 1866507
เล้งหลุดโลก
สวัสดีค่ะ (= ร้านเล้งหลุดโลก ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา มีเล้งแซ่บ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และอาหารตามสั่ง เล้งแซ่บ กลิ่นหอมมะนาว และ แซ่บสมเป็นอาหารแนะนำของร้านเลยค่ะ เปื่อยดี เอาช้อนกดก็หลุดได้ไม่ยาก ร้านแต่
KU1978
Farmhouse : บัตเตอร์คุกกี้วานิลลา
Farmhouse : บัตเตอร์คุกกี้วานิลลา ปริมาณ : 50 กรัม ราคา : 18.00 บาท คุกกี้หอมเนยมาก เนื้อกรอบร่วน หน้าตา ตรงปกอยู่นะ... ในซอง มี 6 ชิ้น ตกชิ้นละ 3 บาท ก็อร่อยดีนะ...
deauny
ครัวท่องนาท่าม สาขา 2 @ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
พามาทานข้าวราดแกงแบบใต้ๆ กันบ้าง ชื่อร้านครัวท่องนาท่าม สาขา 2 ร้านตั้งอยู่ที่ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 7.30-13.30&n
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
โซล
ร้านอาหาร
ภาพถ่ายทิวทัศน์
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 318
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิวท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ไปกับทัวร์โปรไฟไหม้ 5 วัน 3 คืน ฉบับผู้เริ่มต้นเดินทาง (ตอนที่ 1 วันแรก) ***รูปเยอะมาก
วันนี้เราเลือกโปรแกรมทัวร์ไฟไหม้ โดยมีหลากหลายบริษัทให้เลือก ในรีวิวนี้จะไม่บอกว่าเราไปทัวร์ไหน เพราะจะมีการแวะจุดซื้อของต่างๆ ซึ่งราคานั้น....... ไม่พูดดีกว่าเนอะ เอาเป็นว่ารายการสินค้าอื่นๆนอกรายการทัวร์ราคาถูกกว่าเยอะ วันนี้เราจะบอกแหล่งซื้อของราคาถูก แต่ถ้าหากลองคิดรวมราคาค่าเดินทางไปเอง ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินไป - กลับ ราคารถรถเดินทาง ราคาค่าอาหาร แลกกับเวลาเที่ยวน้อยลงและจุดบังคับลงรถที่ไม่ได้บังคับว่าต้องซื้อก็ถือว่าโครตคุ้มค่าครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการเตรียมตัว แนะนำว่าให้ดูโปรแกรมทัวร์ที่อยากไปจากบริษัททัวร์ล่วงหน้า จัดกระเป๋ารอไว้ สำหรับผมลางานล่วงหน้า แต่บอกเจ้านายไว้แล้วว่าอาจจะได้ไปหรือไม่ไป อันนี้แล้วแต่บริษัทนะครับว่าจะยืดหยุ่นอย่างไรได้บ้าง จากนั้นรอประมาณอาทิตย์สุดท้ายก่อนเดินทาง บริษัททัวร์จะเริ่มประกาศราคาไฟไหม้แล้ว ทำการจองได้เลยครับ ก่อนจะจองอย่างลืมเช็ค Passport ว่ามีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนหรือไม่ หาแหล่งแลกเงินที่ราคาดีที่สุดหรือตามเรทที่เราพอใจ ทำการโทรแจ้งผู้ให้บริการบัตรเครดิตว่าจะมีการใช้งานนอกประเทศ อย่าลืมทำการจองซิมโทรศัพท์ล่วงหน้าก่อนไปใช้งานจริงที่นั่น เราแนะนำของเจ้านี้ครับ ราคาถูกสุดแล้ว แต่ต้องจองล่วงหน้าไปก่อน ที่ลิงค์นี้ https://www.kkday.com/th/product/7423 ทำการกดซื้อ และจะได้รับรหัสมาสำหรับไปรับซิมที่เคาท์เตอร์สนามบิน มีพนักงานใส่ซิมและทำการตั้งค่าให้เสร็จสรรพ สะดวกมากครับ เพราะถ้าไม่จองจากไทยไปก่อน ราคาเน็ตที่เกาหลีใต้สำหรับนักท่องเที่ยวนั้นแพงมาก 10,000-15,000 วอน ต่อวันแล้วแต่ผู้ให้บริการ คิดเป็นเงินไทยราคา 300 กว่าบาทเลยแหละ
วันเดินทางจริงโปรแกรมทัวร์จะบอกว่า 5 วัน 3 คืน คือไป Check in ตั้งแต่ 3-4 ทุ่ม ออกเดินทางจริง ตี 1 ตี 2 นั่นแหละครับ ถึงเกาหลีเช้าพอดี โดยจะมีเจ้าหน้าที่ทัวร์คอยตอนรับอยู่ที่จุดนัดพบพร้อมเก็บค่าทิปไกด์ 40,000 วอน คิดเป็นเงินไทย 1,200 บาท สอบถามมาว่าทำไมเก็บตรงนี้ก่อน ไม่เหมือนทัวร์อื่น ได้คำตอบว่าหากจ่ายที่เกาหลีต่อหน้าไกด์ชาวเกาหลี เขาจะไม่ค่อยพอใจทำให้ต้องจ่ายที่นี่ให้เสร็จก่อน ก็เหมือนบวกค่าทัวร์ไปในตัวนั่นแหละ มีทุกทัวร์ครับ ส่วนสายการบินนั้นก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม โดยครั้งนี้ผมได้เดินทางโดย Eastar Jet ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเครื่องบินจะเป็นที่นั่งแบบ 3-3 สำหรับผู้ชายตัวสูง 177 หนัก 140 อย่างผม ถือว่านั่งสบายครับ มีพื้นที่หน้าเหลือนิดหน่อย สอดขาลงไปเบาะด้านหน้าไป เดินทาง 5 ชม. ก็ถึงเกาหลีใต้แล้วครับ แอร์สวยแต่งตัวแฟชั่นนิดๆสไตล์เกาหลี ไม่มีอาหารให้แต่ก็มีจำหน่าย โดยรับเป็นเงินวอน เงินเยน และดอลล่า พิเศษหน่อยคือมีน้ำเปล่าเสิร์ฟให้ฟรีบ่อยๆ แอร์ไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษกันสักเท่าไหร่แต่พอฟังเราและตอบโต้ได้ โดยรวมแล้วก็ดีครับ บริการใช้ได้ นั่งสบาย ครั้งต่อไปถ้าจะไปเกาหลีใต้อีกแล้วสายการบินนี้ลดราคาก็จะเลือกใช้บริการครับ
เวลาที่เกาหลีใต้นั้นเดินเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม. ทำการปรับเวลาให้เรียบร้อยนะครับ เมื่อไปถึงสามารถใช้ Wifi ของสนามบินได้ฟรี โดยไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ สะดวกมาก ต.ม. ของที่นี่เรานึกว่าจะตรวจโหด ซึ่งผมเคยเดินทางไปบาหลี กับสิงคโปร์มาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เลยผ่านได้สบายมากครับ ไม่ถามไม่พูดอะไรเลย เปิดหน้า Passport นิดหน่อย ปั้มแล้วผ่านไปเลย ไปรับกระเป๋าเสร็จ ก็ไปรวมตัวกันไปรับซิมที่จองที่เคาท์เตอร์เปิดอินเตอร์เน็ตพร้อมเดินทางแล้วครับ
อากาศที่เกาหลีช่วงที่ผมไปเดือนกันยายน เป็นหน้าฝนต้นหนาวแล้วครับ ฝนที่นี่แปลกมาก ตกเม็ดเล็กเป็นฝอยๆ พอเย็นชุ่มฉ่ำแต่ไม่เปียกมาก อากาศประมาณ 20-25 องศา เหมาะแก่การเที่ยวมากครับ ออกมารอรถบัสหน้าทางออกผู้โดยสารขาออก รถบัสของเราคันใหญ่มากครับ เพราะใบรายชื่อในทัวร์นั้นมีทั้งหมด 24 คน แต่ผ่านมาจริงๆแค่ 15 คนเท่านั้นเอง ส่วนสาเหตุคงไม่ต้องพูดนะครับว่าเพราะอะไร.... เมื่ออยู่บนรถแล้วไกด์จะทำการแนะนำตัวให้ทุกคนทราบ และสอบถามชื่อทุกคน ถ้าหากทริปนี้คุณอยากไปเที่ยวแบบไม่บานปลายมาก แนะนำว่าให้เอากล้องถ่ายรูปไปเองสักตัว เพราะไกด์ชาวเกาหลีที่ไปด้วย จะบอกว่าเป็นช่างภาพ ไม่มีรายได้ แค่มาช่วยเฉยๆ แต่สุดท้าย ก็ขายรูปแบบพร้อมใส่กรอบ อันใหญ่เลย รูปละ 20,000 วอน คิดเป็นเงินไทย รูปละ 600 บาท ใครพอใจจะซื้อก็ซื้อครับ ส่วนตัวมีกล้องอยู่แล้ว ถ่ายเองดีกว่า
สถานที่แรกที่ไกด์จะพาไปคือทานข้าวก่อนครับ กว่าจะถึงจริงๆก็เที่ยงแล้วมื้อแรกเป็นชาบูชาบูสไตล์เกาหลี เป็นร้านที่รับเฉพาะทัวร์เท่านั้น ไม่มีชื่อหน้าร้าน อาหารในหม้อประกอบด้วย หมูสันนอก วุ้นเส้นเกาหลี เห็ดหลากชนิด ผักกาดขาว และเต้าหู้ทอด ราดด้วยซุปกระดูกหมู รสชาติคือสุกี้บ้านเราครับ รสจืด หอมกลิ่นซุป เต้าหู้ทอด หวานเห็ดและผัก ไม่มีน้ำจิ้ม ทานเคียงกับกิมจิ ไชเท้าดอง ถั่วปรุงรส และกระเทียมดอง แต่ยังดีไกด์เราเตรียมน้ำจิ้มสุกี้พันท้ายมาให้แล้ว รอดตายไป 1 มื้อครับ เห็นเพื่อนร่วมทัวร์แต่ละคนสีหน้าไม่สู้ดีนักเท่าไหร่ แต่สำหรับผมทานได้นะ ไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้ชอบอะไร
ขึ้นรถมาถึงก็แจกน้ำคนละ 1 ขวด ยี่ห้อ Lotte โดยขวดนี้ทานทั้งวันนะ แต่ว่าตามจุดต่างๆที่แวะนั้นส่วนใหญ่จะมีตู้กดน้ำสะอาดให้เติมตลอด สาเหตุที่ให้แค่ขวดเดียวเพราะน้ำเปล่าที่นี่ขวดละ 700 วอน หรือ 21 บาทไทย ค่อนข้างแพงเลย
สถานที่ท่องเที่ยวถัดไปคือหมู่บ้านยุโรป Provence โดยช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีสวนดอกไม้สวยๆให้เราถ่ายรูปด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรมากนัก เป็นร้านค้า ร้านกาแฟ ตกแต่งสไตล์ยุโรป โดยเก็บภาพบรรยากาศมุมต่างๆมาฝากกัน ขอบอกนิดนึงว่าตรงจุดที่รถทัวร์จอดนั้นเป็นลานจอดรถ ต้องเดินลงมาด้านล่างจะมีร้านค้าน่ารักๆถ่ายรูป หรือเข้าไปซื้อของได้มากมาย คล้ายอเวนิวบ้านเรานั่นและแต่อยู่กลางภูเขา ดูมีสเน่ห์ไปอีกแบบ
นั่งเครื่องมานาน บวกกับเวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าบ้านเรา มีอาการเหนื่อยเพลียต้องหาของหวานเพิ่มพลังสักหน่อยกับร้าน Cafe Lucycato เห็นที่ร้านนี้มีเมนูแปลกอย่างบิงซูมาการองอลังการมาก บรรยากาศร้านก็น่านั่ง ตกแต่งด้วยอิฐเปลือยสลับกับไม้สไตล์ยุโรป เหมาะสมแก่การนั่งเล่นกินบิงซู แต่เวลาเราไม่น่าพอ เลยสั่งขนมไป 3 อย่าง อย่างมาการองไส้แครนเบอรี่ แป้งหนึบกรอบ ไส้หวานหอมกลิ่นครีมตัดด้วยรสเปรี้ยวของแยม เอแคลร์ไส้เยอะวนิลากลิ่นหอมแป้งสัมผัสกรอบแปลกดี และไอศครีมโยเกิร์ตบลูเบอรี่ ใส่มาการองกรอบๆลงไปด้วยเพิ่มสัมผัสใหม่แปลกดี ทั้ง 3 นั้นรสค่อนข้างหวาน คนชอบทานหวานน้อยอาจจะไม่ค่อยชอบ แต่โดยรวมแล้วเราชอบนะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้