รีวิว เที่ยวเกาะคิวชู (North Kyushu) ด้วยตัวเอง 10 วัน

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆ น้องๆทุกท่าน วันนี้เราจะมาทำรีวิวที่เราไปเที่ยวญี่ปุ่นตัวเองครั้งแรกให้ทุกท่านได้สนุกสนานไปด้วยกันนะคะ ทริปนี้คือแพลนล่วงหน้านานพอสมควรเลยค่ะ เริ่มแพลนตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมกันเลยทีเดียว โดยส่วนตัวก็คิดไว้ว่าไปเที่ยวครั้งแรกก็อยากเที่ยวเมืองที่คนไม่เยอะ เที่ยวแบบธรรมชาติหน่อย เที่ยวง่ายๆหน่อย จะมีที่ไหนบ้าง ก็หาข้อมูลจากในพันทิพย์เนี่ยแหละ ที่เล็งๆไว้ก็เห็นว่ามีภูมิภาคคิวชูที่น่าสนใจ เลยซื้อหนังสือท่องเที่ยวมาอ่านประกอบการตัดสินใจและเป็นข้อมูลในการท่องเที่ยวครั้งนี้ สำหรับครั้งนี้เราจะไปเที่ยวกันทั้งหมด 10 วันที่ Fukuoka, KitaKyushu, Oita ซึ่งมีเมืองที่น่าสนใจอย่าง Beppu และ Yufuin และเมืองน่ารักของหมีคุมะมง อย่างเมือง Kumamoto เดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

เริ่มแรกจากการสอดส่องหาตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชั่นกระชากใจก่อน คิดไว้ว่าอยากบินแบบ full service เลยมาลงตัวที่เวียดนามแอร์ไลน์ ได้ราคาตั๋วไป-กลับ อยู่ที่ 10,500.- บาท รวมน้ำหนักกระเป๋า 30+7 กิโลเลยนะค้า (เช็คราคาและโปรโมชั่นจากเวบไซด์ Arpae.com แต่ว่าเราซื้อตั๋วผ่านเพื่อนที่ทำบริษัททัวร์+ขายตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเค้าออกเป็น e ticket ให้


เวลาของสายการบินนี้ก็ถือว่าโอเคอยู่ ตามตารางจะเดินทางถึงฟุกุโอกะประมาณ 07:20 น. ของวันที่ 3 ธันวา โดยเริ่มจากเราบินออกจากสุวรรณภูมิตอนเย็นวันที่ 2 ธันวา ประมาณ 18:30 น. ถึงปลายทางที่สนามบินฮานอยเวลาประมาณ 20:30 โดยไปรอต่อเครื่องที่ฮานอยก่อนค่ะ พอถึงสนามบินฮานอยเราก็เดินตามทางไปตามป้าย Transferไปเรื่อยๆ ขึ้นบันไดเลื่อนไปก็จะเจอเค้าเตอร์เจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าที่จะนำขึ้นเครื่องอีกครั้ง (เราไม่ต้องรับกระเป๋าที่โหลดไปแล้วนะคะ ทางสายการบินจะจัดการให้เราเอง ไปรับกระเป๋าที่ปลายทางที่ฟุกุโอกะได้เลย )

จากนั้นพอตรวจกระเป๋าเสร็จ เราก็มาดูหน้าจอเวลาบินต่อก็จะทราบ gate และเตรียมตัวเดินทางต่อในเวลา 01:55 น.(เกือบตีสอง😅) แต่เราก็ยอมเพื่อตั๋วโปรโมชั่นจะได้มีเงินเหลือเยอะๆไปชอปปิ้งไงคะ ระหว่างรอเครื่องเราก็นอนไป จองเก้าอี้นอนยาวเลย 555 ตอนแรกไม่มีคนนั่งรอเลย พอใกล้ๆเวลาจะบินปรากฎว่าคนรอเยอะมาก ตื่นขึ้นมาอายเลย 555


ได้เวลาบินต่อกันแล้วค่า ขึ้นเครื่องปุ๊บหลับยาววว Z..zzZ..Zzz..Z ก่อนเครื่องแลนดิ้งประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง เวลาไทยประมาณตี 4 น้องแอร์ก็ปลุกขึ้นมาทานช้าวเช้าค่า กินไปแบบงงๆ ทั้งหิวๆ ทั้งง่วงๆ เป็นอาหารเช้ามี 2 เมนูให้เลือกนะคะ (บะหมี่กับเนื้อ และ ปลากับมันฝรั่ง ) ชิมทั้งสองเมนู อาหารอร่อยง่ะสายการบินนี้ ปลื้มมม^^



เย้..เย้.. ในที่สุดเราก็มาถึงสนามบินฟุกุโอะ ประเทศญี่ปุ่นกันแล้วว เวลาท้องถิ่นที่นี่ประมาณ 07:20 น. หลังจากที่เรารอรับกระเป๋าเดินทางเสร็จ เราก็เดินมาถามที่ information counter ถามเรื่องตั๋วรถบัสที่เราจะใช้เดินทางเข้าเมืองกันค่ะ (เลือกรถบัสเพราะกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาก กลัวว่าจะไม่สะดวกในการขึ้นและลงรถใต้ดินในช่วงเวลาเช้าๆแบบนี้ (ดูจากในคลิปต่างๆมาว่า ช่วงเช้ารถไฟญี่ปุ่นคือแน่นมาก เกรงใจเค้า) สำหรับตั๋วรถบัสเดินทางเข้าเมือง เราสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะว่าลงสถานีไหน เค้าจะมีเรทราคาค่าโดยสารอยู่ อย่างของเราจะลงที่สถานี Watanabe Dori ราคาคนละ 270 เยน ต่อเที่ยว (มีโปรโมชั่นตั๋วคู่ ราคาคู่ละ 500 เยน) หลังจากซื้อตั๋วแล้ว เจ้าหน้าที่จะบอกเราว่าให้ไปรอรถที่สถานีไหนซึ่งต้องดูให้ดีนะคะ เพราะรถบัสมีหลายสายและไปหลายเส้นทาง พอเรามายืนด้านนอกเพื่อรอรถบัส จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่อีกท่านหนึ่ง เราสามารถถามให้แน่ใจว่ารถคันไหนที่จะไปสถานีที่เราอยากไปลง เค้าจะบอกเราอีกที (ใช้ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานได้)


***ตรงนี้สังเกตที่พื้นนะคะจะมีชื่อสถานที่ปลายทางบอกอยู่ เราไปสายไหนก็ยืนตรงป้ายนั้นต่อแถวเลย***

จะว่าไปการขึ้นรถบัสเข้าเมืองของเค้าก็แอบลำบากอยู่นะ คือต้องยกกระเป๋าทั้งหมดขึ้นรถไปเลยก็แล้วแต่ว่าจะได้นั่งหรือเปล่าเพราะว่าที่นั่งมีน้อยด้วยนะซึ่งของเราก็ได้ยืนจับกระเป๋าไปตลอดทาง (ตอนแรกคิดว่ารถบัสจะเป็นเหมือนที่เกาหลี คือคนขับจะยกกระเป๋าใส่ใต้ท้องรถให้ พอถึงปลายทางก็จะยกลงมาให้) และแล้วเราก็มาลงที่สถานี Watanabe Dori ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม Hotel Monte Hermana Fukuoka ที่เราจะพักเป็นเวลา 2 คืนที่นี่


ห้องพักที่เราจองเป็นแบบ Triple Room ซึ่งเตียงในห้องคือดีมากมันหนานุ่ม และขนาดห้องพักค่อนข้างกว้างถ้าเทียบกับโรงแรมอื่นๆ
เครื่องใช้ในห้องน้ำระดับเกรดเอ เท่าที่ทราบใช้แชมพูและครีมอาบน้ำของชิเชโด้ซะด้วย (เวลาเข้าพักมาตรฐานของเค้าคือ 15:00 น.นะคะ)



สาเหตุที่เราเลือกโรงแรมที่ค่อนข้างใหญ่เพราะว่าเราต้องการฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรม เพื่อออกเที่ยวจังหวัดอื่นๆโดยใช้กระเป๋าใบเล็กเพื่อจะได้สะดวกในการเดินทาง และเราจะกลับมาพักที่นี่อีกครั้งในช่วงท้ายของทริป เพื่อทำการช็อปปิ้งของต่างๆ เนื่องจากมันอยู่ใกล้ห้าง Tenjin มากๆ โดยเดินเล่นๆประมาณ 10 นาที

วันแรกนี้เราจะไปเที่ยวกันที่ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu) ที่เป็นสถานที่ยอดฮิตของคนที่มาเที่ยวฟุกุโอกะ ซึ่งถ้าไม่ได้มาก็เหมือนว่ามาไม่ถึงเมืองนี้ เราตั้งใจมาที่นี่เป็นอันดับแรกเนื่องจากว่ามาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางแก่หมู่คณะของเรา วันนี้เป็นวันจันทร์แต่นักท่องเที่ยวเยอะอยู่ค่ะ ทั้งคนญี่ปุ่นเอง คนเกาหลีและคนจีนก็เยอะ แต่ไม่ค่อยเจอคนไทยเลย



ไฮไลท์อีกจุดที่ต้องแวะชมคือร้านกาแฟสตาบัคส์ ที่มีการตกแต่งด้วยไม้จากการออกแบบให้แปลกตาด้วยการใช้ไม้ถึง 2,000 ท่อน ตกแต่งเป็นลักษณะสานไขว้ไปมาและมีการยอมรับว่าเป็นสาขาที่สวยที่สุดในโลกอีกสาขาหนึ่ง


อีกจุดที่จะไม่แวะไม่ได้เลยคือบริเวณหลังศาลเจ้า จะมีร้านโมจิโบราณไส้ถั่วแดง ร้านหลังศาลเจ้านี่คือเทพมาก แป้งหอมอร่อยกรอบหวานแบบนุ่มๆนวลๆ ไส้ถั่วแดงไม่หวานจัด นั่งทานที่ร้านก็มีน้ำชาให้เราจิบเพลินๆไปด้วย ชิ้นละแค่ 120 เยนเท่านั้น เล่าแล้วก็คิดถึงอยากกินอีก ^^


เย็นแล้วเราก็มาหาอะไรร้อนๆ ทานกันเถอะ สิ่งที่ขาดไม่ได้ถ้ามาฟุกุโอกะอีกอย่างนึงคือ ร้านอาหารริมทางที่เรียกว่า Yatai มีอาหารพวกราเมง และไก่ หมู และเครื่องในเสียบไม้ปิ้งๆ ขาย ผู้คนที่นี่นั่งกินอาหารตามร้าน Yatai กันเยอะเหมือนกันนะ แต่ส่วนตัวเราว่าอาหารพวกปิ้งๆ จะออกรสเค็มมากกว่า อารมณ์ประมาณไก่ย่างเกลืออ่ะ -_-' (เค็มอย่างเดียว)ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ด้วยบรรยากาศก็โอเคอ่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่