Ⓒ
Ⓒ
Oregon's Exploding Whale - 1970 KATU (original report)
Ⓒ
Ⓒ
ซากปลาวาฬที่เกยตื้นบนชายหาด
ⒸIsabelle OHara / Shutterstock.com
Ⓒ
Ⓒ
ในบางครั้ง ซากปลาวาฬที่เกยตื้นบนชายหาด
จะเกิดการระเบิดขึ้นมาเอง
เพราะเกิดการสะสมของ
ก๊าซมีเทน ส่วนใหญ่
ที่เกิดจากการเน่าเสียภายในซากปลาวาฬ
แต่ในบางครั้ง ซากปลาวาฬก็มีการใช้วัตถุระเบิด
หลังจากที่ได้ลากซากปลาวาฬไปในท้องทะเล
เพื่อกำจัดซากปลาวาฬให้กลายเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ด้วยการระเบิดทิ้ง
เพื่อให้เป็นอาหารของสัตว์น้ำในท้องทะเล
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารต่อไป
ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.1970
เหตุการณ์ที่เป็นข่าวฉาวโฉ่และโด่งดังมากที่สุด
เรื่องราวการระเบิดซากปลา
วาฬสเปิร์ม ที่
Florence รัฐ Oregon
เมื่อซากปลาวาฬสเปิร์มที่ตายแล้วมาเกยตื้นบนชายฝั่ง
ถูกใช้วัตถุระเบิด
ได้นาไมต์ ทำลายซากปลาวาฬตัวนี้
แต่ทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1970
ซากปลาวาฬสเปิร์มขนาด 8 ตัน ยาวประมาณ 45 ฟุต
น้ำทะลพัดมาเกยตื้นที่ Florence บนชายฝั่ง Oregon ทางตอนใต้
เจ้าหน้าที่/ชาวบ้านต่างวิตกกันว่า ซากปลาวาฬที่เน่าเปื่อย
จะส่งกลิ่นเหม็นมากในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงอีกไม่นานนัก
ดังนั้น
Oregon State Highway Division หรือ ODOT
หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลชายหาด Oregon
จึงถูกเรียกให้มาจัดการซากปลาวาฬตัวนี้
หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับกองทัพเรือสหรัฐ
U.S. Navy
George Thornton ผู้ช่วยวิศวกรประจำเขตนี้
จึงตัดสินใจจะใช้ระเบิดไดนาไมต์ เพื่อฉีกซากปลาวาฬเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
โดยคาดว่าจะทำให้สามารถขนย้ายซากปลาวาฬในเวลาต่อมาได้ง่าย ๆ
ส่วนเศษซากปลาวาฬชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่หลงเหลืออยู่
จะกลายเป็นอาหารนกนางนวลและพวกปูตามชายหาด
แต่โชคร้าย คือ George Thornton ไม่รู้ว่าจะต้องใช้ระเบิดขนาดเท่าใด
จึงใช้ระเบิดไดนาไมต์จำนวนถึง 500 กิโลกรัมในการระเบิดซากปลาวาฬครั้งนี้
ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ.1970
หลังจากที่ปล่อยให้ซากปลาวาฬเน่าเหม็นถึง 3 วันแล้ว
บรรดาฝรั่งมุงที่ประกอบด้วยผู้ชม นักท่องเที่ยว ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น
ต่างมารวมตัวกันที่ชายหาด
เพื่อเฝ้าดูการจุดระเบิดซากปลาวาฬ
โดยต่างอยู่ห่างในระยะที่คาดว่าน่าจะปลอดภัยราว 1/4 ไมล์ (402 เมตร)
เมื่อถึงเวลา 15:45 น. ได้มีการจุดระเบิดไดนาไมต์ขึ้นในซากปลาวาฬ
ผลการระเบิดทำให้กองทรายบนชายหาดฟุ้งกระจายขึ้นสูงราว 100 ฟุต
แล้วในวินาทีต่อมา ซากปลาวาฬที่เน่าเหม็นหลายพันหลายหมื่นชิ้นก็ปลิวกระจาย/ปลิวว่อน
ส่งกลิ่นเน่าเหม็นอบอวลหล่นลงบนศีรษะเสื้อผ้าของผู้ชม
และหล่นใส่บนอาคาร/ด้านหน้าอาคารที่อยู่ใกล้เคียง
ทั้งยังหล่นใส่ลานจอดรถยนต์ที่อยู่ใกล้ ๆ กับชายหาด
หล่นใส่บนหลังคารถยนต์/ลานจอดรถยนต์
ทำให้ทุกที่ต่างเต็มไปด้วยเศษซากปลาวาฬเน่าเหม็น
คงเหลือแต่เฉพาะเศษซากที่มีขนาดใหญ่ของปลาวาฬ
ที่ยังคงตกค้างอยู่บนชายหาดแห่งนั้น
และต้องใช้คนงานกวาดพวกมันลงท้องทะเลในที่สุด
เหตุการณ์ครั้งนั้นกลายเป็นข่าวเศร้าปนฮา
Paul Linnman ผู้สื่อข่าวจาก KATU-TV ได้บอกเล่าเรื่องราว
ความทรงจำในเรื่องการระเบิดซากปลาวาฬครั้งนั้น
ที่กลายเป็นเรื่องตลกขบข้นและเป็นที่ล้อเลียนกันว่า
" ระเบิดที่น่ารังเกียจ ส่งกลิ่นเหม็นอย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างแรงเลย "
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
Eugene Register-Guard ลงข่าวในวันที่ 13 พฤศจิกายนปี 1970
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทางหลวงได้ระเบิดซากปลาวาฬ
Ⓒ
Ⓒ
แต่ George Thornton ยืนยันว่าการระเบิดครั้งนั้น
" ได้ทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการแล้ว
แต่เกิดการระเบิดหลุมทรายขนาดใหญ่
พุ่งขึ้นมาจากใต้ซากปลาวาฬ "
ทั้งยังรู้สึกว่า การระเบิดครั้งนี้ประสบความสำเร็จโดยภาพรวม
แต่พวกสื่อมวลชนทำตนเป็นปรปักษ์กับเรื่องนี้
แล้วเต้าข่าวให้เหตุการณ์ครั้งนี้ กลายเป็นเหตุภัยพิบัติ
จากการที่มีผลเสียหายเกิดขึ้นกับสาธารณชน
ในขณะที่ชาวบ้านต่างหัวเราะความโง่เขลาของ George Thornton
แต่ George Thornton คือ คนที่หัวเราะทีหลังดังกว่า
เพราะ George Thornton ได้รับการเลื่อนตำแหน่งในอีก 6 เดือนต่อมา
พร้อมกับย้ายไปรับตำแหน่งที่สำนักงาน Medford
(George Thornton มตะแล้วในวัย 84 ปี)
เรื่องราวของการระเบิดซากปลาวาฬ
จึงกลายเป็นเรื่องเตือนใจให้ต้องระมัดระวัง
ในปี ค.ศ.1979
เมื่อปรากฎว่ามีซากปลาวาฬสเปิร์มจำนวน 41 ตัว
ถูกน้ำทะเลพัดมาเกยตื้นบนชายหาดทางตอนใต้ของ Florence
เจ้าหน้าที่จึงต้องทำการฝังซากปลาวาฬสเปิร์มไว้ใต้ดินแทนการระเบิด
George Thornton ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า
จริง ๆ งานนี้ไม่ใช่หน้าที่ของตนโดยตรงเลย
แต่เพราะเพื่อนร่วมงานต่างมีกำหนดการล่วงหน้าไปยิงกวางป่ากัน
ทำให้ภาระความรับผิดชอบครั้งนี้ตกอยู่ที่ตนเพียงผู้เดียว
" ถ้าพูดด้วยความสัจจริงแล้ว
พวกเพื่อน ๆ ผมมีกำหนดการที่จะไปยิงกวางกันล่วงหน้าแล้ว
แต่เรื่องนี้ก็ทำให้พวกเพื่อน ๆ ผมค่อนข้างกังวลเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน "
ตามคำบอกเล่าของ George Thornton
มีการคิดหาวิธีการกำจัดซากปลาวาฬหลายอย่างมาก
เช่น การจุดไฟเผาซากปลาวาฬบนชายหาด
แต่ซากปลาวาฬตัวนี้มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเผาไหม้ได้ง่าย ๆ
และคลื่นจากท้องทะเลอาจจะพัดพาชะล้างซากปลาวาฬ
ให้เห็นโครงกระดูกปลาวาฬขนาดใหญ่ได้เด่นชัด
รวมทั้งอาจจะมีผลกระทบจากกลุ่มควันไฟที่เหม็นไหม้
ดังนั้น George Thornton จึงเสนอให้วางระเบิดไดนาไมต์ 20 ชุด
รอบ ๆ ข้างซากปลาวาฬสเปิร์มก่อนจะจุดระเบิดทำลาย
โดยคิดว่าเศษซากปลาวาฬส่วนใหญ่จะกระจายลงไปในท้องทะเล
ส่วนเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยของซากปลาวาฬ
จะกลายเป็นอาหารของพวกนกนางนวลและพวกปูแถวชายหาด
Paul Linnman ได้ยืนยันในหน้า Facebook ว่า
" แน่นอน ผมเป็นพวกชื่นชอบปลาวาฬ
ภาพการระเบิดซากปลาวาฬกลายเป็นคลิปยอดนิยม
ตามรายงานข่าวของ BBC ระบุว่า
ติดลำดับที่ 6 ของข่าวที่น่าชมมากที่สุด "
Paul Linnman ยอมรับเองว่าในตอนที่ออกรายการ TV
ช่วงเวลานั้นค่อนข้างเครียดเหมือนกัน
จึงพยายามทำให้ข่าวนี้กลายเป็นเรื่องตลก
แต่แล้วกลับกลายเป็นเรื่องตลกร้าย ในเวลาต่อมา
เรื่องนี้ทำให้ George Thornton คิดเสมอมาว่า
Paul Linnman กับสื่อมวลชนเต้าข่าวที่ไม่เป็นธรรมกับตน
หลังจากที่ George Thornton ได้ทำงานที่ ODOT เกือบ 40 ปี
ตั้งแต่ปี 1947 จนถึงปี 1984 ตามการให้สัมภาษณ์ของ
Don Hamilton ประชาสัมพันธ์ ODOT
ในปี 1995 แม้ว่า Paul Linnman ได้พยายามที่จะติดต่อ George Thornton
เพราะครบรอบวาระ 25 ปีของเหตุการณ์ระเบิดซากปลาวาฬสเปิร์ม
ผ่านทางประชาสัมพันธ์ของ ODOT เพื่อสัมภาษณ์เรื่องนี้อีกครั้ง
แต่ George Thornton ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ผ่างทางประชาสัมพันธ์ว่า
" ทุกครั้งที่ผมต้องพูดเรื่องนี้กับพวกสื่อมวลชน
มันทำให้ผมรู้สึกหวิบอย่างแรง "
(หวิบ = โกรธ ไม่พอใจ ไม่สบอารมณ์)
Paul Linnman เองก็ยอมรับว่า ข่าวการระเบิดซากปลาวาฬ
แม้ว่าตนเองก็ยอมรับว่า ค่อนข้างเบื่อหน่ายกับวิดีโอเรื่องนี้
และการที่มันกลายเป็นข่าวชวนหัวและเรื่องราวยอดนิยมในเวลาต่อมา
หลังจากที่
Dave Barry (นักเขียนเชิงหฤหรรษา)
ได้เขียนเรื่องนี้ในคอลัมน์เดือนพฤษภาคม 1990
เรื่อง
Moby Yuck หน้า 21-28
Paul Linnman ต้องไปบรรยายให้นักศึกษาชาวอเมริกัน
ที่กำลังศึกษาเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ Italy ทุกปี
บรรดานักศึกษาส่วนใหญ่ต่างเคยชมวิดีโอเรื่องนี้ของ Paul Linnman แล้วบน YouTube
แล้วต่างพากันซักถามเรื่องนี้ จนทำให้ Paul Linnman ต้องเขียนหนังสือเรื่องราวนี้ในปี 2003 เรื่อง
The Exploding Whale and Other Remarkable Stories from the Evening News
และยังมีเวปไซด์บอกเล่าเรื่องราว การระเบิดปลาวาฬ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
แม้กระทั่ง
John Kitzhaber ผู้ว่าการรัฐ Oregon
ที่ยังติดต่อ Paul Linnman ตลอดมา
" ทุกครั้งที่มีซากปลาวาฬเกยตื้น
ผมจะได้รับโทรศัพท์จากผู้ว่าการรัฐ
บอกให้ผมไปที่นั่นเพื่อรายงานข่าวด้วย
เขาต้องการดูวิดีโอที่ทำให้เขารู้สึกขบขัน "
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/2SWCfc9
https://bit.ly/2rG5XpZ
https://bit.ly/2oa7Ish
https://bit.ly/2Eq3JTg
การระเบิดซากปลาวาฬสเปิร์ม
Ⓒ
Oregon's Exploding Whale - 1970 KATU (original report)
Ⓒ
Ⓒ
ซากปลาวาฬที่เกยตื้นบนชายหาด
ⒸIsabelle OHara / Shutterstock.com
Ⓒ
Ⓒ
ในบางครั้ง ซากปลาวาฬที่เกยตื้นบนชายหาด
จะเกิดการระเบิดขึ้นมาเอง
เพราะเกิดการสะสมของ ก๊าซมีเทน ส่วนใหญ่
ที่เกิดจากการเน่าเสียภายในซากปลาวาฬ
แต่ในบางครั้ง ซากปลาวาฬก็มีการใช้วัตถุระเบิด
หลังจากที่ได้ลากซากปลาวาฬไปในท้องทะเล
เพื่อกำจัดซากปลาวาฬให้กลายเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ด้วยการระเบิดทิ้ง
เพื่อให้เป็นอาหารของสัตว์น้ำในท้องทะเล
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารต่อไป
ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.1970
เหตุการณ์ที่เป็นข่าวฉาวโฉ่และโด่งดังมากที่สุด
เรื่องราวการระเบิดซากปลา วาฬสเปิร์ม ที่ Florence รัฐ Oregon
เมื่อซากปลาวาฬสเปิร์มที่ตายแล้วมาเกยตื้นบนชายฝั่ง
ถูกใช้วัตถุระเบิดได้นาไมต์ ทำลายซากปลาวาฬตัวนี้
แต่ทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1970
ซากปลาวาฬสเปิร์มขนาด 8 ตัน ยาวประมาณ 45 ฟุต
น้ำทะลพัดมาเกยตื้นที่ Florence บนชายฝั่ง Oregon ทางตอนใต้
เจ้าหน้าที่/ชาวบ้านต่างวิตกกันว่า ซากปลาวาฬที่เน่าเปื่อย
จะส่งกลิ่นเหม็นมากในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงอีกไม่นานนัก
ดังนั้น Oregon State Highway Division หรือ ODOT
หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลชายหาด Oregon
จึงถูกเรียกให้มาจัดการซากปลาวาฬตัวนี้
หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับกองทัพเรือสหรัฐ U.S. Navy
George Thornton ผู้ช่วยวิศวกรประจำเขตนี้
จึงตัดสินใจจะใช้ระเบิดไดนาไมต์ เพื่อฉีกซากปลาวาฬเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
โดยคาดว่าจะทำให้สามารถขนย้ายซากปลาวาฬในเวลาต่อมาได้ง่าย ๆ
ส่วนเศษซากปลาวาฬชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่หลงเหลืออยู่
จะกลายเป็นอาหารนกนางนวลและพวกปูตามชายหาด
แต่โชคร้าย คือ George Thornton ไม่รู้ว่าจะต้องใช้ระเบิดขนาดเท่าใด
จึงใช้ระเบิดไดนาไมต์จำนวนถึง 500 กิโลกรัมในการระเบิดซากปลาวาฬครั้งนี้
ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ.1970
หลังจากที่ปล่อยให้ซากปลาวาฬเน่าเหม็นถึง 3 วันแล้ว
บรรดาฝรั่งมุงที่ประกอบด้วยผู้ชม นักท่องเที่ยว ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น
ต่างมารวมตัวกันที่ชายหาด
เพื่อเฝ้าดูการจุดระเบิดซากปลาวาฬ
โดยต่างอยู่ห่างในระยะที่คาดว่าน่าจะปลอดภัยราว 1/4 ไมล์ (402 เมตร)
เมื่อถึงเวลา 15:45 น. ได้มีการจุดระเบิดไดนาไมต์ขึ้นในซากปลาวาฬ
ผลการระเบิดทำให้กองทรายบนชายหาดฟุ้งกระจายขึ้นสูงราว 100 ฟุต
แล้วในวินาทีต่อมา ซากปลาวาฬที่เน่าเหม็นหลายพันหลายหมื่นชิ้นก็ปลิวกระจาย/ปลิวว่อน
ส่งกลิ่นเน่าเหม็นอบอวลหล่นลงบนศีรษะเสื้อผ้าของผู้ชม
และหล่นใส่บนอาคาร/ด้านหน้าอาคารที่อยู่ใกล้เคียง
ทั้งยังหล่นใส่ลานจอดรถยนต์ที่อยู่ใกล้ ๆ กับชายหาด
หล่นใส่บนหลังคารถยนต์/ลานจอดรถยนต์
ทำให้ทุกที่ต่างเต็มไปด้วยเศษซากปลาวาฬเน่าเหม็น
คงเหลือแต่เฉพาะเศษซากที่มีขนาดใหญ่ของปลาวาฬ
ที่ยังคงตกค้างอยู่บนชายหาดแห่งนั้น
และต้องใช้คนงานกวาดพวกมันลงท้องทะเลในที่สุด
เหตุการณ์ครั้งนั้นกลายเป็นข่าวเศร้าปนฮา
Paul Linnman ผู้สื่อข่าวจาก KATU-TV ได้บอกเล่าเรื่องราว
ความทรงจำในเรื่องการระเบิดซากปลาวาฬครั้งนั้น
ที่กลายเป็นเรื่องตลกขบข้นและเป็นที่ล้อเลียนกันว่า
" ระเบิดที่น่ารังเกียจ ส่งกลิ่นเหม็นอย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างแรงเลย "
Ⓒ
Ⓒ
Eugene Register-Guard ลงข่าวในวันที่ 13 พฤศจิกายนปี 1970
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทางหลวงได้ระเบิดซากปลาวาฬ
Ⓒ
Ⓒ
แต่ George Thornton ยืนยันว่าการระเบิดครั้งนั้น
" ได้ทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการแล้ว
แต่เกิดการระเบิดหลุมทรายขนาดใหญ่
พุ่งขึ้นมาจากใต้ซากปลาวาฬ "
ทั้งยังรู้สึกว่า การระเบิดครั้งนี้ประสบความสำเร็จโดยภาพรวม
แต่พวกสื่อมวลชนทำตนเป็นปรปักษ์กับเรื่องนี้
แล้วเต้าข่าวให้เหตุการณ์ครั้งนี้ กลายเป็นเหตุภัยพิบัติ
จากการที่มีผลเสียหายเกิดขึ้นกับสาธารณชน
ในขณะที่ชาวบ้านต่างหัวเราะความโง่เขลาของ George Thornton
แต่ George Thornton คือ คนที่หัวเราะทีหลังดังกว่า
เพราะ George Thornton ได้รับการเลื่อนตำแหน่งในอีก 6 เดือนต่อมา
พร้อมกับย้ายไปรับตำแหน่งที่สำนักงาน Medford
(George Thornton มตะแล้วในวัย 84 ปี)
เรื่องราวของการระเบิดซากปลาวาฬ
จึงกลายเป็นเรื่องเตือนใจให้ต้องระมัดระวัง
ในปี ค.ศ.1979
เมื่อปรากฎว่ามีซากปลาวาฬสเปิร์มจำนวน 41 ตัว
ถูกน้ำทะเลพัดมาเกยตื้นบนชายหาดทางตอนใต้ของ Florence
เจ้าหน้าที่จึงต้องทำการฝังซากปลาวาฬสเปิร์มไว้ใต้ดินแทนการระเบิด
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
George Thornton ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า
จริง ๆ งานนี้ไม่ใช่หน้าที่ของตนโดยตรงเลย
แต่เพราะเพื่อนร่วมงานต่างมีกำหนดการล่วงหน้าไปยิงกวางป่ากัน
ทำให้ภาระความรับผิดชอบครั้งนี้ตกอยู่ที่ตนเพียงผู้เดียว
" ถ้าพูดด้วยความสัจจริงแล้ว
พวกเพื่อน ๆ ผมมีกำหนดการที่จะไปยิงกวางกันล่วงหน้าแล้ว
แต่เรื่องนี้ก็ทำให้พวกเพื่อน ๆ ผมค่อนข้างกังวลเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน "
ตามคำบอกเล่าของ George Thornton
มีการคิดหาวิธีการกำจัดซากปลาวาฬหลายอย่างมาก
เช่น การจุดไฟเผาซากปลาวาฬบนชายหาด
แต่ซากปลาวาฬตัวนี้มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเผาไหม้ได้ง่าย ๆ
และคลื่นจากท้องทะเลอาจจะพัดพาชะล้างซากปลาวาฬ
ให้เห็นโครงกระดูกปลาวาฬขนาดใหญ่ได้เด่นชัด
รวมทั้งอาจจะมีผลกระทบจากกลุ่มควันไฟที่เหม็นไหม้
ดังนั้น George Thornton จึงเสนอให้วางระเบิดไดนาไมต์ 20 ชุด
รอบ ๆ ข้างซากปลาวาฬสเปิร์มก่อนจะจุดระเบิดทำลาย
โดยคิดว่าเศษซากปลาวาฬส่วนใหญ่จะกระจายลงไปในท้องทะเล
ส่วนเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยของซากปลาวาฬ
จะกลายเป็นอาหารของพวกนกนางนวลและพวกปูแถวชายหาด
Paul Linnman ได้ยืนยันในหน้า Facebook ว่า
" แน่นอน ผมเป็นพวกชื่นชอบปลาวาฬ
ภาพการระเบิดซากปลาวาฬกลายเป็นคลิปยอดนิยม
ตามรายงานข่าวของ BBC ระบุว่า
ติดลำดับที่ 6 ของข่าวที่น่าชมมากที่สุด "
Paul Linnman ยอมรับเองว่าในตอนที่ออกรายการ TV
ช่วงเวลานั้นค่อนข้างเครียดเหมือนกัน
จึงพยายามทำให้ข่าวนี้กลายเป็นเรื่องตลก
แต่แล้วกลับกลายเป็นเรื่องตลกร้าย ในเวลาต่อมา
เรื่องนี้ทำให้ George Thornton คิดเสมอมาว่า
Paul Linnman กับสื่อมวลชนเต้าข่าวที่ไม่เป็นธรรมกับตน
หลังจากที่ George Thornton ได้ทำงานที่ ODOT เกือบ 40 ปี
ตั้งแต่ปี 1947 จนถึงปี 1984 ตามการให้สัมภาษณ์ของ
Don Hamilton ประชาสัมพันธ์ ODOT
ในปี 1995 แม้ว่า Paul Linnman ได้พยายามที่จะติดต่อ George Thornton
เพราะครบรอบวาระ 25 ปีของเหตุการณ์ระเบิดซากปลาวาฬสเปิร์ม
ผ่านทางประชาสัมพันธ์ของ ODOT เพื่อสัมภาษณ์เรื่องนี้อีกครั้ง
แต่ George Thornton ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ผ่างทางประชาสัมพันธ์ว่า
" ทุกครั้งที่ผมต้องพูดเรื่องนี้กับพวกสื่อมวลชน
มันทำให้ผมรู้สึกหวิบอย่างแรง "
(หวิบ = โกรธ ไม่พอใจ ไม่สบอารมณ์)
Paul Linnman เองก็ยอมรับว่า ข่าวการระเบิดซากปลาวาฬ
แม้ว่าตนเองก็ยอมรับว่า ค่อนข้างเบื่อหน่ายกับวิดีโอเรื่องนี้
และการที่มันกลายเป็นข่าวชวนหัวและเรื่องราวยอดนิยมในเวลาต่อมา
หลังจากที่ Dave Barry (นักเขียนเชิงหฤหรรษา)
ได้เขียนเรื่องนี้ในคอลัมน์เดือนพฤษภาคม 1990
เรื่อง Moby Yuck หน้า 21-28
Paul Linnman ต้องไปบรรยายให้นักศึกษาชาวอเมริกัน
ที่กำลังศึกษาเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ Italy ทุกปี
บรรดานักศึกษาส่วนใหญ่ต่างเคยชมวิดีโอเรื่องนี้ของ Paul Linnman แล้วบน YouTube
แล้วต่างพากันซักถามเรื่องนี้ จนทำให้ Paul Linnman ต้องเขียนหนังสือเรื่องราวนี้ในปี 2003 เรื่อง
The Exploding Whale and Other Remarkable Stories from the Evening News
และยังมีเวปไซด์บอกเล่าเรื่องราว การระเบิดปลาวาฬ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
แม้กระทั่ง John Kitzhaber ผู้ว่าการรัฐ Oregon
ที่ยังติดต่อ Paul Linnman ตลอดมา
" ทุกครั้งที่มีซากปลาวาฬเกยตื้น
ผมจะได้รับโทรศัพท์จากผู้ว่าการรัฐ
บอกให้ผมไปที่นั่นเพื่อรายงานข่าวด้วย
เขาต้องการดูวิดีโอที่ทำให้เขารู้สึกขบขัน "
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/2SWCfc9
https://bit.ly/2rG5XpZ
https://bit.ly/2oa7Ish
https://bit.ly/2Eq3JTg
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
ภาพถ่ายปลาวาฬกับปลาโลมาหลังผ่านงานมา 25 ปี
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ
14 ภาพถ่ายที่น่าตะลึงของปลาวาฬ
Ⓒ
Ⓒ
Ⓒ