สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ขอยกตัวอย่างที่ทำงานเรา มีคนอายุ 30+ เยอะมากค่ะ และในแผนกเรา ไม่มีใครอยากขึ้นมาเป็นหัวหน้าเลยสักคน ทั้งๆที่หัวหน้าคนปัจจุบันกำลังจะหมดวาระในอีกไม่นาน(แต่ถ้าไม่มีใครมาเป็นหัวหน้าต่อจากเขา เขาก็สามารถเป็นหัวหน้าต่อไปได้อีก) ขนาดจะส่งพนักงานที่เก่งๆไปอบรมหลักสูตรการเป็นผู้บริหาร พนักงานยังไม่ค่อยจะยอมไปกัน ที่แต่ละคนไม่อยากเป็นหัวหน้า เพราะไม่อยากเจอกับภาระหน้าที่ความรับผิดชอบที่มากขึ้น และไม่อยากเจอปัญหาเรื่องคนที่อาจยิ่งมากขึ้นด้วย ถึงแม้จะเป็นหัวหน้างานแล้ว ยังไงก็ยังต้องอยู่ภายใต้คนที่ใหญ่กว่า เช่น หัวหน้าฝ่าย รองคณบดีหรือผู้จัดการ ประธานกรรมการ เป็นต้น ขอเป็นพนักงานที่ทำงานสบายๆ ดีกว่า ยังไงก็ได้ปรับขึ้นเงินเดือนทุกปีอยู่แล้ว ประมาณนี้
เราเป็นรุ่นน้องๆ เด็กๆ ที่อายุยังไม่ถึง 30 ก็ไม่มีความรู้สึกทะยานอยากเป็นหัวหน้าเหมือนกัน ถ้าไม่เป็นพนักงาน ก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวเล็กๆที่ไม่ต้องมีลูกน้องหลายคน หรือเป็นธุรกิจขายของออนไลน์ที่สามารถทำคนเดียวได้ หรือเป็นนักลงทุนไปเลยมากกว่า
เราเป็นรุ่นน้องๆ เด็กๆ ที่อายุยังไม่ถึง 30 ก็ไม่มีความรู้สึกทะยานอยากเป็นหัวหน้าเหมือนกัน ถ้าไม่เป็นพนักงาน ก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวเล็กๆที่ไม่ต้องมีลูกน้องหลายคน หรือเป็นธุรกิจขายของออนไลน์ที่สามารถทำคนเดียวได้ หรือเป็นนักลงทุนไปเลยมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
ถามคนทำงานที่อายุ 30+ นิดๆ ที่ยังทำงานเป็นระดับพนักงาน มีความคิดอยากเป็นหัวหน้างานไหมครับ
ที่มีอายุ 30+ อยู่เหมือนกัน และแน่นอนว่า การที่เขาจะมีโอกาสเติบโตขึ้นเป็นหัวหน้างานได้ มีแค่ 2 ทาง
คือ 1.ผมลาออก, โดนไล่ออก, โดนย้ายแผนก หรืออะไรก็ช่างที่ทำตำแหน่งนี้ว่างลง
2.ผมได้รับการโปรโมทขึ้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้น นั่นหมายความว่าผมสามารถดันลูกน้องขึ้นมาแทนผมได้
(ซึ่งก็เป็นเรื่องยาก เพราะตัวผมเองก็เพิ่งขึ้นมาเป็นหัวหน้าได้ไม่นาน)
ผมเองก็ไม่อยากเสียลูกน้องที่มีความสามารถและประสบการณ์ไป
คำถามคือ เขามีโอกาสจะไปที่อื่นไหม เช่น ไปเป็นหัวหน้าแผนก ไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ให้กับบริษัทอื่น
ถ้าสถานการณ์ดียวกันเกิดกับท่าน ถ้ามีโอกาสที่ดีกว่า ท่านจะไปไหมครับ
ปล. 1.บริษัทที่ผมทำานอยู่ให้เงินเดือนและโบนัสที่น่าพอใจครับ ระดับ Officer ถ้าอายุและประสบการณ์
ประมาณลูกน้องผมคนนี้ ก็ได้ประมาณ 35,000-40,000 บาทเลยครับ ส่วนโบนัสก็ปีละ 6 เดือน
2.ผมคิดว่าผมแฟร์กับลูกน้องทุกคน ประเมินผลงานตามความสามารถ (และลูกน้องคนนี้ก็ได้ผลประเมิน
ที่ดีกว่าคนอื่นในทีม)
3.บริษัทค่อนข้างมีชื่อเสียงและมีผลิตภัณฑ์ที่คนรู้จักแพร่หลาย (ไม่ขอระบุชื่อบริษัทนะครับ)