เริ่มเหนื่อยหน่ายกับการให้บริการของKerry ดังต่อไปนี้
**เป็นความคิดเห็นส่วนตัวกับประสบการณ์ที่เจอมาผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ**
บอกก่อนว่าเป็นคนขายของออนไลน์มีทั้งส่งของไปรณีย์ไทยและเคอรี่ (เคอรี่จะใช้ในการเก็บเงินปลายทาง)และDrop off กับ เคอรี่
1.แพ็คเกจบรรรจุ ของพัสดุที่จะส่ง
เคอรี่ค่อนข้างเยอะเรื่องขนาดซองกับน้ำหนัก ซึ่งต่างจากไปรณีย์ไทย จากที่ส่งมาเคอรี่จำกัดว่าซองเท่านี้เช่นขนาดA4(น้ำหนักต้องไม่เกิน 1 กิโล)
ราคาเท่านี้ ถ้าของชิ้นใหญ่ก็ต้องไปใส่ซองอีกขนาดนึงซึ่งราคาค่าส่งก็แพงกว่าอีกขั้น ซึ่งต่างจากไปรณีย์ ค่อนข้างไม่ซีเรียสว่าแพ็คเกจที่ใส่พัสดุจะเป็นยังไงก็ได้ ไปรณีย์สนแค่น้ำหนักของพัสดุ (ไปรณีย์flexibleเรื่องแพ็คเกจบรรจุกว่ามาก) จากจุดๆนี้ในมุมมองของคนขายของออนไลน์ ความจุกจิกตรงนี้คือทำให้ต้องมาเสียเวลาว่าของชิ้นไหนใส่แพ็คเกจบรรจุชิ้นไหนได้ พอหลังเริ่มทำใจปรับตัวตามเคอรรี่ เพราะจะใช้บริการแค่เก็บเงินปลายทาง พอมาวันนี้ ในส่วนของ Drop off ก็มีความยุ่งยากเพิ่มขึ้นมาอีก ว่าห้ามใช้ซองของเคอรรี่ ที่ให้บริการลูกค้า (ทั้งๆที่เมื่อวานยังใช้ได้) พนักงานแจ้งว่าให้เอากลับ ไม่ออกบิลให้
(เสียเวลาต้องมาแพ็คใหม่และไม่ได้ทันส่งในวันนั้น) สรุปคือในส่วนของ Drop off ให้ใช้ซองของตัวเอง ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าเรื่องกฏนี้
(เคอรรี่ออกกฏมาเรื่อยๆๆ)

2.เรื่องการหยุดของKerry
เคอรี่เองตอนแรกเน้นจุดแข็งว่าส่งของภายในวันเดียวเร็วกว่าไปรณีย์ แต่พอมาได้สัมผัสจริงๆแล้วเปรี่ยบเทียบกับไปรณีย์(หลังปรับปรุงการส่งของที่ไม่มีวันหยุดตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 61 นะ) เคอรี่หยุดทุกเทศกาล ไม่เว้นแม้แต่สาขาที่ให้บริการแม้จะอยู่ในห้างก็หยุด ทำให้คนค้าขายเสียเวลามาก ไม่เหมือนไปรณีย์ ณ ตอนนี้เค้าไม่หยุดแล้ว(วันพ่อแห่งชาติยังไม่หยุดเลย) แถมมีสาขาเพิ่มขึ้น ปิดบริการก็ช้าลง ทำให้ดีต่อลูกค้ามาก แล้วก็จากการที่เคอรรี่หยุดเยอะทุกเทศกาล ก็จะทำให้ของมันค้างยังไม่ได้ส่งเยอะ ทำให้ ของจากที่เคยโฆษณาว่าวันเดียวถึง ก็จะเลื่อนไปอีก จุดนี้กระทบกระเทือนต่อคนขายของออนไลน์(โดยเฉพาะที่เก็บเงินปลายทาง)
และจากการที่ปัจจุบันมีApp ซื้อของทั้ง Lazada shopee ออกโปรมาให้ลุกค้าสั่ง ทำให้ของที่ต้องส่งเยอะ ก็เลื่อนออกไปอีก

3.เรื่องการตัดรอบส่ง (รถขนส่งมารับของที่สาขา)
พอมาส่งกับเคอรรี่บ่อยๆทำให้รู้ว่า ถ้าส่งก่อนบ่าย 4โมง จะถึงในวันถัดไป (ยกเว้น เคอรรี่หยุด,มีเทศกาลโปร Lazada shopee) ก็จะช้าไปอีก
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนขายของออนไลน์จะรู้กันดีว่ากว่าจะตัดยอด จะแพ็คมันก็ไม่ทันบ่าย4 (อันนี้บางคนอาจจะบอกว่าทัน) ทำให้ของส่งช้าอันนี้ก็เข้าใจเพราะเรามาไม่ทันเอง แต่จากการที่มีส่งไปรณีย์ด้วย จะเห็นเลยว่าไปรณีย์ไทยจะมีรถมารับของเพื่อไปส่งต่อวันละ 1-2 รอบ ฉะนั้นบางครั้งของบางอย่างส่งปริฆลฑลส่งกับ เคอรรี่ (หลังบ่าย 4) ของก็จะถึงวันมะรืน ตามกฎเคอรรี่(เพราะมีรถมารับที่จุดสาขา 1 ครั้งต่อวัน) แต่ของที่ส่งวันเดียวกันที่ส่งกับไปรณีย์เช่นส่งตอน 1ทุ่ม ส่งปริฆลฑลวันพรุ่งนี้ลูกค้าก็แจ้งว่าถึงแล้ว (ทำให้ลุกค้าประทับใจ)
ในจุดๆนี้ถ้ารู้ว่าของจะมีปริมาณเยอะหรือมีปัญหาตรงนี้ทำไมไม่เพิ่มรอบรถมารับของที่สาขาไม่ใช่ตัดรอบแค่ 4โมงเย็นเท่านั้น ก็เพิ่มรอบรถมารับเช่นก่อนสาขาจะปิดในวันนั้นก็มีรถมารับอีกรอบเหมือนไปรณีย์ไทย
สรุปเลย ว่าตั้งแต่ไปรณีย์ปรับปรุงระบบตอนนี้เริ่มกลับมาดีกว่าเคอรี่แล้ว ขาดแค่
1.บริการโทรศัพท์จากพนักงานว่าจะมาส่งของให้กับลูกค้าเพราะลูกค้าบางคนก็กลัวว่าจะไม่อยู่บ้านตอนมาส่ง อยากรู้ตัวก่อนว่าจะส่งวันนี้
2.การบริการเก็บปลายทาง ถ้าไปรณีย์ไทยมีเพิ่มตรงนี้คิดว่าคงหนีไปรณีย์ไทยดีกว่า เหนื่อยหน่ายกับความจุกจิกของKerryจริงๆ
ถ้าทางเคอรี่มาเห็นก็ได้โปรดรับไปพิจรณาปรับปรุงด้วยเถอะ เพราะมีความเยอะขึ้นจริงๆต่างกับไปรณีย์ไทยที่กฎความจุกจิกน้อยกว่ามาก