สวัสดีครับเพื่อนชาวพันทิปที่มีเป้าหมายตรงกันทุกคน หลังจากที่ผมตั้งกระทู้ไปเมื่อปีที่แล้ว มาวันนี้ก็ราวๆ 1 ปีเต็มๆ มีบางอย่างยังเหมือนเดิม และหลายอย่างที่เปลี่ยนไปมาก วันนี้ผมมาอัพเดทความเป็นไปให้ดูครับว่าช่วงขวบปีที่ผ่านมา มันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

หลังจากกระทู้ที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/37196662%20/comment25
หลายคนคงทราบถึงความเป็นไปในชีวิตของผมพอสมควร แต่ปีนี้มันมีอะไรหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไปบ้าง
ตารางการทำงานของผมยังเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปมากคือมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นครับ จากที่เคยว่างเสาร์-อาทิตย์ ก็ติดอบรมบ่อยขึ้น ทำงานอื่นๆมากขึ้น ทำให้เวลามันน้อยลงอย่างชัดเจน ผมจึงต้องเปลี่ยนแนวคิดเพื่อให้ฝันด้านการเกษตรเดินไปได้ และกระทบงานประจำน้อยที่สุด ผมจึงเปลี่ยนแนวมาเป็นการทำที่ใช้การดูแลน้อย แต่สามารถเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ภาษาลงทุนเขาคงเรียกกันว่า passive income ละมั้งครับ ฮ่า ฮ่า

ผมเริ่มมองหาพืชที่ไม่จำเป็นต้องดูแลมาก และหาสัตว์ที่สามารถดูแลตัวเองได้
จนได้พืชมาตัวนึงครับ คือดีปลี เหตุผลที่เลือกดีปลีก็เพราะว่า ดีปลีมีสรรพคุณทางยาสูง และดูแลไม่ยากมาก
ข้างบ้านผมนี่แหละครับ แม่ปลูกไว้เล่นๆต้นนึง ด้วยความอยากประหยัด ไม่อยากซื้อต้นพันธุ์ ผมจึงจัดการชำเองซะเลย (จริงๆการเริ่มแบบนี้ไม่ใช่ขี้งกนะครับ แต่เราจะได้เรียนรู้นิสัยของพืชได้ด้วย ดีกว่าการที่เราซื้อต้นพันธุ์มาลงแล้วดูแลเขาไม่เป็น เพราะระหว่างการขยายพันธุ์เราจะเห็นการเจริญเติบโตของเขาครับ)
นี่เป็นภาพที่ผมทำการชำกล้าในช่วงแรกครับ



จนตอนนี้ได้มา 20 กว่าต้นแล้วครับ

ระหว่างนั้นผมก็ตั้งเสาเพื่อเป็นหลักให้ดีปลีค้าง (แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เอาดีปลีลงหลุมนะครับ รอปรุงดินให้ดีกว่านี้ก่อน)

ส่วนสัตว์ที่ผมว่าก็คือเจ้าชันโรงครับ ปีนี้ยกให้เขาเป็นพระเอก เนื่องจากเขาสามารถหาอาหารเองได้ และเราเองก็ได้ใช้ประโยชน์จากเขาในหลายๆด้าน เช่น น้ำหวาน ชัน และที่สำคัญอีกอย่างคือเขาสามารถช่วยผสมเกสรได้ดีกว่าผึ้งและแมลงอื่นๆด้วยครับ ทั้งนี้เพราะว่าเขาตัวเล็กกว่าผึ้งทั่วไปถึง 3 เท่า เวลาผสมเกสร ดอกจะไม่เสียหายมากครับ และชันโรงมีนัยสำคัญอีกเรื่องคือ เขาไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ที่มีสารเคมีปนเปื้อนได้ครับ นั่นจึงเป็นการแสดงความมั่นใจให้ผู้บริโภคในทางอ้อมได้อีกทางหนึ่ง และน้ำหวานของชันโรงนั้นมีสรรพคุณทางยาอย่างมาก (มีมากกว่าผึ้งหลายเท่า) โดยมีงานวิจัยรองรับนะครับ

นี่เป็นภาพเจ้าชันโรงที่ผมเลี้ยงไว้ครับ



จะเห็นว่าปีนี้ผมเน้นผลผลิตที่มีสรรพคุณทางยา เนื่องจากผมมีแนวคิดว่า กินอย่างไรให้ได้มากกว่า 1 ซึ่งหมายถึงเรากินอาหารเข้าร่างกาย 1 อย่าง เราจะได้ทั้งสารอาหาร และสร้างภูมิคุ้มกันไปในตัวได้พร้อมๆกัน

หลังจากนี้เราไปดูการเติบโตของสวนกันครับ ในปีนี้มีการเติบโตของต้นไม้ภายในสวนเพิ่มขึ้น
ทั้งต้นมะพร้าว
โตจากปีที่แล้วมากครับ อีกไม่นานคงได้กินมะพร้าวน้ำหอมสดๆกัน

หม่อนที่ปลูกไว้ไม่กี่ต้นก็ไม่น้อยหน้านะครับ ถ้าตัดแต่งดูแลดีๆ ก็ดกเหมือนกัน



ขนุนเองก็เริ่มจะออกลูกบ้าง


สัก พะยูง มะค่า ที่ปลูกไว้เป็นไม้เกษียณ ก็เริ่มสูงขึ้น



และผลผลิตหลักของไร่อย่างกล้วย ก็ยังให้ผลต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับพืชหลักอีกตัว คือมะขามป้อม ปีนี้เริ่มมีผลต้นละลูกสองลูก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาสมบูรณ์พร้อมแล้วที่จะให้ผลผลิต ปีหน้ามีชันโรงช่วยผสมเกสร รอดูว่าจะได้ผลดีแค่ไหน



ในบ่อเองก็เปลี่ยนไปมาก จากน้ำขุ่นก็เริ่มใสขึ้น และผมเองเอาพันธุ์ปลามาปล่อยเรื่อยๆ จนตอนนี้สามารถกินได้แล้ว สุดสัปดาห์ที่ว่างตรงกัน เพื่อนก็จะมาตกปลา ทำกับข้าวกินตลอด (ความสุขมันอยู่ตรงนี้)


นี่เป็นสภาพในบ่อปัจจุบันครับ
https://www.facebook.com/dohgyakhao/videos/415761645619152/?t=12

มีการเติบโตในด้านอื่นๆอีกนิดหน่อย
เราซื้อเครื่องสีข้าวขนาดเล็กมา เพื่อใช้สีข้าวในครัวเรือน และเพื่อนบ้าน


มีการถมหินที่พื้นถนนเพื่อทำทางให้ดี ไม่ลื่นแฉะในหน้าฝน


มีการเผาถ่านเพื่อเก็บน้ำส้มควันไม้ เอาไปใช้ในสวน


เราเก็บผลผลิตหลายอย่างมาอบในตู้อบลมร้อน เพื่อเอาไว้กินในครัวเรือน




และปีนี้เรายังทำมาตรฐานการเกษตรเพิ่มจากมาตรฐานอินทรีย์วิถีไทย (earthsafe) อีก 1 ตัวคือ SDGsPGS เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภคของเราครับ

มาถึงตรงนี้ผมบอกกันตรงๆครับ ไม่มีงานไหนไม่เหนื่อย โดยเฉพาะงานทางการเกษตรที่เหนื่อยกว่างานอื่นๆ แต่หากผลที่ตามมาเป็นแบบนี้ผมก็คิดว่าคุ้มครับ การสร้างกระทู้นี้ขึ้นมาเพียงเพราะ 3 เหตุผลครับ คือ
1.ผมอยากนำเสนอเรื่องราวของเกษตรอินทรีย์ ให้คนอื่นได้รับรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องไกลตัว มันทำได้จริง เพียงแค่ต้องอดทน ขยัน มากกว่าคนอื่น
2.ผมอยากให้ตัวเองเป็นหนังสือวิจัยที่ช่วยให้คนอื่นประหยัดเวลาในการหาข้อมูลด้านการเกษตร
3.ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่มีฝันทุกท่านในทางเกษตร

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทู้นี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครได้บ้างไม่มากก็น้อย หากมีสิ่งใดที่บกพร่อง ต้องขออภัยด้วยนะครับ
เรื่องราวของผมสามารถติดตามได้จากเพจสวนของผมครับ
https://www.facebook.com/dohgyakhao/