มันเป็นผลวิจัยจาก
มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
ไม่ใช่ละนั่น มหาลัยพระ 😆😆😆
ของ จุฬา&นิด้า เผยแพร่โดย จกตัดแปะ(KPI)
โดยทุนสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์
ตะหาก เนื้อสาระโดยรวมก็ตามชื่อกระทู้
ไม่รู้ได้ทุนไปเท่าไหร่แต่เนื้อหามีแค่นี้จริงๆ!!!!

ผลการวิจัยเอาเป็นสรุปว่า
ความเสียหาเกิดขึ้นมากที่สุด
ในสมัยอดีตนายกปู
ว่าง่ายๆด้วยภาษาห้องราชดำเนินคือ
นกหวีดคลั่ง+เมือก&เดอะแก๊ง=สลิ่ม
อำนวยการสร้าง อีกแล้วครับท่าน
😆😆😆😆

ซึ่งครั้งที่มีผลกระทบต่อ GDP มากที่สุด เกิดขึ้นในสมัยนายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ต่อเนื่องมาถึงสมัยนายกรัฐมนตรี “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หรือ “บิ๊กตู่” โดยความขัดแย้งดังกล่าวถือว่าเป็นผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย หรือ GDP ในระยะสั้น

ห๊ะ เขาเอาตัวเลขมาจากไหนกันเนี่ย
ตัวเลขการเติบโต GDP ของประเทศไทย
จากสถิติของ ธปท.ตลอด 10 ปีที่งานวิจัยกล่าวถึง
มีอยู่ปีหนึ่งที่ GDP ติดลบครั้งแรกนับตั้งแต่ต้มยำกุ้ง
คือ ปี 2552  -0.7% ??? นี่มันไม่เรียกว่าเสียหายรึ


http://www2.bot.or.th/statistics/ReportPage.aspx?reportID=409

ในปีนั้นมีเพ่มาร์คเป็นนายก
เมือกเป็นรองนายก
คงเป็นสลิ่มอีกแล้วกระมังที่ป่วนเมือง โด่
บ่ใช่ดอกครับในปีนั้นมีฝ่ายประชาธิปไตย
ขับไล่เพ่มาร์คที่มาจากการเลือกตั้ง อืม...
เหมือนจะแปลกแต่เขาว่าไม่ใช่ประชาธิปไตย
มันก็ไม่ใช่ตามคำเขาว่านั่นละครับ
ก็ตามธรรมเนียมห้องราชดำเนิน

ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน
แต่ ห้ามหือ ห้ามเถียง
ฝ่ายประชาธิปไตย
ให้รับทราบเเละเข้าใจตามนี้
โปรดอ่านอีกครั้ง!!!!😆😆😆😆

ไม่เข้าใจว่าเขาเรียกการบิดเบือนมั้ย
เพราะถึงถามไอ้ตัวตัดแปะที่เอามาเผยแพร่
ก็รังจะหาเรื่องให้มันเอาอะไรก็ไม่รู้มาแปะมั่วๆ
รกกระทู้ไปซะอีก

แล้วจากที่ เครดิต สวิส
จัดอันดับให้ไทยเหลื่อมล้ำมากที่สุดในปี 61
(โดยใช้ข้อมูลปี 49) เลยทำให้ดูน่าเชื่อถือ

ไปกันใหญ่
.
.
.
พิลึกเผลอ เพ้อพิลั่น บรรดาลเหตุ
เกิดอาเพศ ประเทศชาติ อุบาทสรรค์
ความเท็จก่อ ต่อบิดเบือน เหมือนทุกวัน
ความเท่ากัน แค่ขายฝัน ไร้วันจริง