เคยดูสารคดีว่า ถ้าบนดวงอาทิตย์เกิดหลุมโคโรนาเมื่อไร แสดงว่าข้างใต้นั้นมีอนุภาคพลังงานสูงกำลังจะประทุปลดปล่อยพลาสมาออกมา
และเดินทางมายังโลก ผลกระทบเบาๆก็จะเห็นออโรรา ส่งผลกระทบต่อสนามแม่เหล็กของโลก
ส่งผลต่อโทรทัศน์ สัญญาณโทรศัพท์ และระบบนำทางของเครื่องบินหรือเรือเดินสมุทร นอกจากนี้ยังทำให้ท่อส่งน้ำมันผุกร่อนได้เร็วกว่าปกติมาก และขณะที่สนามแม่เหล็กโลกถูกแรงของพลาสมาทั้งดึงและดันอยู่
จะทำให้ประจุไฟฟ้าปริมาณมากเกิดขึ้นในอวกาศ อาจทำให้ดาวเทียมเกิดประจุไฟฟ้าบริเวณรอบนอก กระแสฟ้าที่เกิดขึ้นนี้อาจถูกปล่อยเข้าไปภายในดาวเทียมและอาจทำให้เกิดความผิดปกติหรือเสียหายได้
แต่ถ้าพลาสมาเดินทางมายังโลกเป็นปริมาณเยอะ (การปลดปล่อยก้อนมวลสารจากโคโรนา) จะทำให้ส่งผลต่อระบบการส่งกระแสไฟฟ้าบนโลก ดังเช่น เหตุการณ์ไฟดับทางตะวันออกของประเทศแคนาดา ในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2532
และนี่ก็เห็นว่าได้รอบของมันพอดีตามข่าวนี้...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่รู้ว่ารอบนี้จะรุนแรงส่งผลกระทบต่อโลกขนาดไหน...มีคนเฝ้าระวังคอยแจ้งข่าวเรื่องนี้อยู่ใช่ไหมฮะ
ช่วงนี้ดวงอาทิตย์ กำลังจะเกิดพายุสุริยะอยู่ใช่ไหมฮะ...
และเดินทางมายังโลก ผลกระทบเบาๆก็จะเห็นออโรรา ส่งผลกระทบต่อสนามแม่เหล็กของโลก
ส่งผลต่อโทรทัศน์ สัญญาณโทรศัพท์ และระบบนำทางของเครื่องบินหรือเรือเดินสมุทร นอกจากนี้ยังทำให้ท่อส่งน้ำมันผุกร่อนได้เร็วกว่าปกติมาก และขณะที่สนามแม่เหล็กโลกถูกแรงของพลาสมาทั้งดึงและดันอยู่
จะทำให้ประจุไฟฟ้าปริมาณมากเกิดขึ้นในอวกาศ อาจทำให้ดาวเทียมเกิดประจุไฟฟ้าบริเวณรอบนอก กระแสฟ้าที่เกิดขึ้นนี้อาจถูกปล่อยเข้าไปภายในดาวเทียมและอาจทำให้เกิดความผิดปกติหรือเสียหายได้
แต่ถ้าพลาสมาเดินทางมายังโลกเป็นปริมาณเยอะ (การปลดปล่อยก้อนมวลสารจากโคโรนา) จะทำให้ส่งผลต่อระบบการส่งกระแสไฟฟ้าบนโลก ดังเช่น เหตุการณ์ไฟดับทางตะวันออกของประเทศแคนาดา ในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2532
และนี่ก็เห็นว่าได้รอบของมันพอดีตามข่าวนี้...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่รู้ว่ารอบนี้จะรุนแรงส่งผลกระทบต่อโลกขนาดไหน...มีคนเฝ้าระวังคอยแจ้งข่าวเรื่องนี้อยู่ใช่ไหมฮะ