ผมทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า บ้านปากคลอง(หมู่ 1) ชอบทิ้งขยะลงในลำคลอง ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2561 - 5 ธันวาคม 2561 สังเกตว่าขยะมีมากกว่าปกติประกอบกับมีลมพัดมาทางหน้าบ้าน ขยะในลำคลองมาติดที่ศาลาหน้าบ้าน มีทั้งถุงผัดหมี่ ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมเด็ก(diapers) เศษอาหาร ในถุงดำ ลอยมาติดอยู่กับปั๊มน้ำที่ศาลาท่าน้ำ เฉพาะวันที่ 5 ธันวาคมในวันเดียวมีถุงดำลอยมาติดที่หน้าบ้าน 4 ถุง และขยะแตกกระจายเกลื่อนกลาดเป็นที่อุจจาดตา
ความไม่สะอาดและถูกสุขลักษณะเป็นเหตุผลที่ผมได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เนื่องจากบ้านผมและชาวบ้านหมู่ที่ 7 ประสบปัญหาน้ำประปาไม่ไหล มากสุดที่เคยพบคือ 2 สัปดาห์ บางครั้งอาจต้องใช้น้ำในลำคลองในการซักล้างเสื้อผ้า จาน ชาม อุปกรณ์ประกอบอาหาร การใช้น้ำจากลำคลองที่ไม่สะอาดเต็มไปด้วยขยะนั้น เป็นอันตรายต่อสุขภาพของชาวบ้านและสัตว์เลี้ยง
การทำมาหากินก็ได้รับผลกระทบจากขยะในลำคลองเช่นกัน เนื่องจากชาวบ้าน เช่น หมู่ 3 และ 7 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ดีเซลร่วมกับท่อสูบน้ำ การมีขยะเข้าไปติดในท่อจะทำให้เครื่องสูบน้ำเสียหายได้ เกิดไฟตกเป็นผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้นเสียหาย หากเครื่องสูบน้ำเสียก็จะเสียโอกาสในการสูบน้ำสะอาดเข้าพื้นที่การเกษตรก่อนหน้าน้ำเค็มในช่วงต้นปี
นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้รับผลกระทบจากขยะในการคมนาคมทางน้ำอีกด้วย บ้านประชาชนหลายหลังตั้งอยู่ในที่ตาบอด ไม่มีทางออกสู่ถนนได้ จึงต้องใช้เรือหางยาวในการสัญจรจากบ้านมาถึงถนนใหญ่ บ้านในคลองอีกหลังประกอบอาชีพโดยหาปลา กุ้ง ในลำคลอง ต้องใช้เรือเดินทางไปกู้อุปกรณ์ดัดจับสัตว์น้ำในคลองอีกสายหนึ่งที่เชื่อมต่อกัน และประสบปัญหาจากขยะติดหางเครื่องเรือ บ้านผมโชคดีที่มีผู้บริจาคที่ดินในการสร้างถนนสาธารณะจึงมีทางออกสู่ถนนใหญ่ แต่กระนั้นถนนใหญ่จากบ้านไปตลาดมีการขยายถนน หลุมบ่อจำนวนมาก เครื่องจักร ปั้นจั่น เสาเข็มวางเรียงรายตลอดทาง การเดินทางทางน้ำดูจะปลอดภัยมากกว่า จากการทดลองสัญจรโดยใช้เรือมาดด้วยเครื่อง YAMAHA MT110 ในลำคลองเพื่อไปซื้อของที่ตลาดพบว่า ทุก ๆ ประมาณ 20 เมตรจะมีถุงพลาสติกติดที่หางเครื่อง ต้องนำหางเครื่องขึ้นเรือและตัดถุงนั้นออก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลา20 นาที - ครึ่งชั่วโมง การไม่มีขยะในลำคลองจะทำให้เดินทางได้รวดเร็วและสะดวกขึ้น
จากการศึกษาเทศบัญญัติ ไม่ปรากฏเทศบัญญัติที่เกี่ยวกับการรักษาความสะอาดในเขตพื้นที่สาธารณะ แต่พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 33 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดเท หรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ําโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ํา และมาตรา ๕๗ ระบุว่าผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๙ มาตรา ๒๓มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๓ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๓๔ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ไม่ทราบว่าจะจัดการอย่างไรดี แจ้งใครดี
คนทิ้งขยะลงในลำคลอง ซาตานตนใดดลใจให้ทำแบบนี้
ความไม่สะอาดและถูกสุขลักษณะเป็นเหตุผลที่ผมได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เนื่องจากบ้านผมและชาวบ้านหมู่ที่ 7 ประสบปัญหาน้ำประปาไม่ไหล มากสุดที่เคยพบคือ 2 สัปดาห์ บางครั้งอาจต้องใช้น้ำในลำคลองในการซักล้างเสื้อผ้า จาน ชาม อุปกรณ์ประกอบอาหาร การใช้น้ำจากลำคลองที่ไม่สะอาดเต็มไปด้วยขยะนั้น เป็นอันตรายต่อสุขภาพของชาวบ้านและสัตว์เลี้ยง
การทำมาหากินก็ได้รับผลกระทบจากขยะในลำคลองเช่นกัน เนื่องจากชาวบ้าน เช่น หมู่ 3 และ 7 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ดีเซลร่วมกับท่อสูบน้ำ การมีขยะเข้าไปติดในท่อจะทำให้เครื่องสูบน้ำเสียหายได้ เกิดไฟตกเป็นผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้นเสียหาย หากเครื่องสูบน้ำเสียก็จะเสียโอกาสในการสูบน้ำสะอาดเข้าพื้นที่การเกษตรก่อนหน้าน้ำเค็มในช่วงต้นปี
นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้รับผลกระทบจากขยะในการคมนาคมทางน้ำอีกด้วย บ้านประชาชนหลายหลังตั้งอยู่ในที่ตาบอด ไม่มีทางออกสู่ถนนได้ จึงต้องใช้เรือหางยาวในการสัญจรจากบ้านมาถึงถนนใหญ่ บ้านในคลองอีกหลังประกอบอาชีพโดยหาปลา กุ้ง ในลำคลอง ต้องใช้เรือเดินทางไปกู้อุปกรณ์ดัดจับสัตว์น้ำในคลองอีกสายหนึ่งที่เชื่อมต่อกัน และประสบปัญหาจากขยะติดหางเครื่องเรือ บ้านผมโชคดีที่มีผู้บริจาคที่ดินในการสร้างถนนสาธารณะจึงมีทางออกสู่ถนนใหญ่ แต่กระนั้นถนนใหญ่จากบ้านไปตลาดมีการขยายถนน หลุมบ่อจำนวนมาก เครื่องจักร ปั้นจั่น เสาเข็มวางเรียงรายตลอดทาง การเดินทางทางน้ำดูจะปลอดภัยมากกว่า จากการทดลองสัญจรโดยใช้เรือมาดด้วยเครื่อง YAMAHA MT110 ในลำคลองเพื่อไปซื้อของที่ตลาดพบว่า ทุก ๆ ประมาณ 20 เมตรจะมีถุงพลาสติกติดที่หางเครื่อง ต้องนำหางเครื่องขึ้นเรือและตัดถุงนั้นออก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลา20 นาที - ครึ่งชั่วโมง การไม่มีขยะในลำคลองจะทำให้เดินทางได้รวดเร็วและสะดวกขึ้น
จากการศึกษาเทศบัญญัติ ไม่ปรากฏเทศบัญญัติที่เกี่ยวกับการรักษาความสะอาดในเขตพื้นที่สาธารณะ แต่พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 33 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดเท หรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ําโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ํา และมาตรา ๕๗ ระบุว่าผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๙ มาตรา ๒๓มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๓ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๓๔ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ไม่ทราบว่าจะจัดการอย่างไรดี แจ้งใครดี