แชร์โปรแกรมเที่ยวฮอกไกโด เดือนพฤศจิกายน 12วัน11คืน+งบไม่ถึง 35,000 บาท(Itinerary & Budget Hokkaido 2018)

สวัสดีจ้า อมยิ้ม02เพื่อนๆทุกคน วันนี้มาแชร์โปรแกรมท่องเที่ยวที่เพิ่งไปมาสด ๆ ร้อนๆ พร้อมงบค่าใช้การในการท่องเที่ยว 12 วัน 11 คืน เผื่อจะช่วยในการตัดสินใจของเพื่อนๆที่ กำลังสนใจเดินทาง หรือกำลังจะเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโดกันนะคะ

ในช่วงเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวแบบนี้ ก่อนจะเดินทางก็เข้าไปค้นหาความคิดเห็นต่างๆ ในเน็ต บางคนก็บอกไม่น่าไปไม่มีอะไรหิมะไม่ตก ต้นไม้ก็ไม่สวย แต่ทำไงได้ก็เราจองตั๋วโปรมาแล้วนี่นาอีกอย่างคำว่า "ไม่มีอะไร" ของคนอื่นอาจจะต่างกับเราก็ได้ ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะอะไรอะเหรอ????

หิมะไม่ได้ตกทุกวัน (ซึ่งก็ดีเหมือนกัน) หากใครอยากจะเริ่มต้นรู้จักกับหิมะแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างเราละก็ลองมาดู555 ยิ่งถ้าใครขับรถได้ หรือมีวางโปรแกรมขึ้นเหนือก็ยิ่งมีโอกาสเห็นหิมะสูง ส่วนใบไม้เปลี่ยนสีนั้นมันก็ยังมีใบแปะก๊วยหล่นตามพื้นให้เห็นสีสันอยู่หน่อยๆ แต่จะให้สวยสุดๆแบบฤดูใบไม้ร่วงเลยอันนี้ควรทิ้งตั๋วแล้วจองใหม่ เอ้ยไม่ใช่ มาก่อนๆ ครั้งหน้าค่อยจองใหม่ก็ได้

หิมะที่ทุกคนดี้ด๊าอยากเห็น มันช่างสวยงามปานจะกลืนกิน(ก็มีแบ่งกันกินบ้างพอให้รู้จัก)เพี้ยนหลงรัก แต่ก็แลกมากับความหนาวเหน็บ มือแข็ง และที่สำคัญคือมันเดินยากขึ้น ยิ่งมีกระเป๋าลากล้อเล็กๆ ลากมาด้วยนะ มันจะเหมือนเจ้าหิมะมาเกาะหน่วงเหนี่ยวล้อไม่ให้เลื่อนต่อไป กล้ามก็จะขึ้นคราวนี้แหละ

หิมะจะมี 2 แบบ แบบแรกคือหิมะตอนตกใหม่ๆ มันจะฟูๆ อันนี้เหยียบลงไปมันจะยุบ จะมีเสียงกุบๆๆๆ ไม่ลื่น แต่มองไม่เห็นว่าตรงไหนคือทาง เพราะมันขาวไปหมด แบบที่สอง คือหิมะที่โดนเหยียบย่ำจนมันแข็งเป็นน้ำแข็งอันนี้หล่ะลื่นดีนักแล มันลื่นจริงๆนะ ขนาดคนญี่ปุ่นเองยังมาลื่นล้มอยู่ตรงหน้าเราเลย ทุกคนต้องระวังให้มากๆ น้า

และๆๆๆ ก่อนจะอ่านโปรแกรมฮอกไกโดในครั้งนี้ อยากจะ ***** ไว้หลายๆดวงก่อนเลยว่า

1. โรงแรม เป็นระดับ 3 ดาว นอนห้องละ 2 คน คนละไม่เกิน 1,000 บาท/คืน ที่ฮอกไกโดถือว่าค่าห้องราคาถูกกว่าที่อื่น แต่วันที่นอนโรงแรมในสนามบินก็คนละ 2,000 บาท/คืน
2. ไม่รวมค่าช๊อปปิ้ง
3. อาหารเช้าแทบจะไม่มีในโปรแกรม เพราะทริปนี้มีแต่คนชอบกินขนมเลยตุนขนมกันหนักมากจนเหลือมาทานเป็นมื้อเช้า ซึ่งขนมเราถือว่าอยู่ในส่วนช๊อปปิ้ง
ร้านที่ไปกินส่วนใหญ่จะเป็นร้านดังๆ ขึ้นชื่อว่าอร่อย หรือเป็นพวกบุฟเฟต์ ซึ่งก็ถือว่ามีราคาสูงพอสมควร ใครอยากทานให้ถูกลงกว่านี้ก็ยังทำได้
ซัปโปโร โอตารุ ฮาโกดาเตะ ไปสถานที่ท่องเที่ยวแทบจะครบทุกที่เพราะใช้เวลาอยู่แต่ละเมืองอย่างต่ำ 3 วัน ถ้าใครไปไม่กี่วันคงต้องตัดบางสถานที่ออก
4. ทริปนี้ก็เน้นเดินเหมือนเดิม อันไหนใกล้ๆ ประมาณ 1 กิโล ก็จะเดินเอาเพราะถือว่ากินเยอะก็เผาผลาญออกเยอะด้วยเพื่อสุขภาพและความแข็งแรง กลับมาทุกคนแข็งแรงขึ้น แถมกินเยอะขนาดนั้นน้ำหนักไม่ขึ้นด้วย บางคนน้ำหนักลงด้วย555
5. ทริปนี้ลองนอนไนท์บัสดู เผื่อจะประหยัดค่าโรงแรมไปได้ 2 วัน เพราะค่าไนท์บัสก็แพงกว่าโรงแรมแล้ว แต่ก็ถูกกว่าเดินทางด้วยรถไฟ นั่งไนท์บัสนั้นไม่เหมาะกับคนที่นอนยาก เป็นที่นั่งเดี่ยว นั่งสบาย แถมมีผ้าห่มให้ก็จริงแต่พนักพิงเอนได้น้อยมากและหน้าต่างห้ามเปิดม่านออกเพื่อไม่ให้แสงข้างนอกไปรบกวนคนอื่นเลยมองไม่เห็นอะไรเลย บางคนอาจจะไม่ชอบ

เอาหล่ะทีนี้ใครพร้อมเดินทางไปกับเราดูโปรแกรมได้เลยจ้า












สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าเครื่องบิน Air Asia X       = 11,186 บาท
ค่าโรงแรม 9 คืน                    =  7,921 บาท
ค่ารถ       13,779 x 0.3         =  4,134 บาท
ค่าอาหาร 22,711 x 0.3        =  6,813 บาท
ค่าไนท์บัส 9,200 x 0.3         =   2,760 บาท
ค่าเข้าชม  2,980 x 0.3         =      894 บาท

รวมค่าใช้จ่าย  12วัน / 11คืน = 33,708 บาท ต่อคน

วันนี้ก็ขอมาแชร์ประสบการณเท่านี้นะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการท่องเที่ยวนะคะ 🙂

★หากเพื่อนๆ สนใจสอบถามเพิ่มเติม พูดคุย ติชม แนะนำ เข้ามาที่★
FACEBOOK : https://www.facebook.com/8mediary
รีวิวญี่ปุ่นอื่น ๆ -> https://me-diary.com/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่