มาแชร์ประสบการณ์ของการขอวีซ่าคะ บอกเลยว่างานหินสำหรับเรามาก
เราอยากไปงานรับปริญญาของแฟนคะ และอยากเที่ยวต่อ ข้อกำหนดของเรานะคะ
- เดินทางคนเดียว
- ไปสองเดือน
- เงินเดือนสองหมื่น
- สปอนเซอร์ แม่
- ยังไม่ได้แต่งงาน
ตอนกรอกข้อมูล ในเว็บบอกเลยว่า เราไม่ได้ปรึกษาใครเลยคะ ไม่ได้หาข้อมูล เลยใส่ทุกอย่างตามความจริงหมดเลยคะ
หลังจากที่ส่งทุกอย่างเรียบร้อย จ่ายเงินและนัดวัน ได้วันที่ 4 ธันวาคม 2018 เวลา 7.15 น. เลือกรอบแรกที่ว่าง (รอบแรก เจ็ดโมงตรงเต็ม) ที่เลือกรอบเช้า คิดว่านางคงอารมณ์ดี ไม่ก็เบลอๆช่วงเช้าไรงี้
หลังจากที่นัดเรียบร้อย เราก็มาอ่านพันทิปคะ นั่งดูยูทูป โอ้โห บอกเลยว่า ไม่ได้แน่ๆ ไม่ผ่านชัว ยิ่งเดินทางคนเดียว ละบอกว่ารู้จักคนไทยที่นู้น งานหิน ใจนี้ไม่ผ่าน 99 เปอร์เซนต์แน่นอน พอไปถามคนรอบตัวที่เคยทำ มีแต่คนบอกว่า ทำไมใส่เวลาไปนานจัง ควรใส่ไป 1 อาทิตย์ถึง1เดือนพอ เศร้าคะ เพราะวางแผนจะไป มกราคม กลัวไปหมด กลัวไปไม่ได้ เครียดเรื่องสัมภาษณ์อีก คือเราจบมหาลัยอินเตอร์มา แต่ว่าพอไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษลืมคะ ยิ่งกลัวไปใหญ่ ปกติเวลาดูหนัง เราก็จะดูบรรยายไทย แต่ต่างจังหวัดมีแต่พากย์ไทยคะ เลยทำให้ไม่ได้ฝึกฝนและห่างหายไปประมาณ 5 ปีได้ และยิ่งอ่านจากกระทู้ในพันทิป บอกว่าถ้าพูดอังกฤษไม่ได้ เขาก็จะไม่ให้ไปคะ (อันนี้ไม่จริงนะคะ เพราะตอนที่เราตอบคำถามว่าเราทำงานอะไร บางศัพท์เราไม่รู้เราก็อธิบายภาษาไทยคะ) เรานอนไม่ค่อยหลับคะ เครียดมาก แล้วตรงที่เป็นช่องให้เราอธิบายอาชีพ เราอ่านมาทุกคนบอกว่าตรงนี้สำคัญมาก จะให้หรือไม่ให้ดูจากตรงนี้เลย ควรจะเขียนว่าเรามั่นคงที่นี้และจะไม่ทิ้งงานที่นี้ไป ซึ่งเราไม่ได้ปริ้นเอกสารตรงนี้ พอเวลาเราส่งไป ทำให้เราทบทวนไม่ได้ แต่เท่าที่จำความได้ เราเขียนแค่สามประโยคเองคะ และไม่มีความมั่นคงเท่าไรเลยคะ บวกความเครียดไปอีกจ้า หลังจากที่อ่าน นอนไม่ค่อยหลับเลยคะ ก่อนนอนจะศึกษาทุกคืนและเครียด นอนไม่หลับคะ แฟนเราเลยบอกว่า งั้นครั้งนี้ไม่ต้องไปสัมภาษณ์ ให้ทำใหม่เด่วนางจะออกเงินให้ แต่เราอยากรู้คำตอบ ไม่อยากเครียดแล้ว การรอคอยว่าสรุปจะได้ไม่ได้นี้ เครียดนะคะ เวลาเกือบเดือนคะ และข้อมูลของเราก็ต้องเหมือนเดิมนะคะ อย่างสองเดือนจะแก้เป็นแค่เดือนเดียวไม่ได้คะ เขาจับได้แน่นอน
ถ้าทำใหม่ เราต้องนัดสัมภาษณ์บอกเวลาไปอีกอาทิตย์ถึงสองอาทิตย์คะ แปลว่าเราก็ต้องเครียดอีก1-2อาทิตย์ ซึ่งเราอยากหลุดจากตรงนี้แล้วอะ อ่อแล้วก็ถ้าเราไม่ผ่าน เขาไม่บอกเหตุผลด้วยนะคะว่าทำไม บอกแค่ว่าคุณมีคุณสมบัติไม่พอ
เอกสารที่เราเตรียม
-ใบจองตั๋ว หาซื้อได้ที่ทัวร์ 500 บาท (ไม่ได้ใช้)
-จดหมายเชิญ(ใช้)
-ใบเกิดตัวจริง (ไม่ได้ใช้)
-โฉนดที่ดิน (ไม่ได้ใช้) งงเหมือนกันอ่านเจอมาว่าควรเอาไป
-ใบจดการค้าของที่บ้านฉบับจริง (ไม่ได้ใช้)
-เงินฝากประจำ (ไม่ได้ใช้)
-เงินที่จำนำไปใช้(ไม่ได้ใข้)
-ทะเบียนบ้านตัวจริง (ไม่ได้ใช้)
-แผนการเดินทางในสองเดือน (ไม่ได้ใช้)
-รูป disneyland ที่เราเคยไป เราตั้งใจจะบอกเขาว่าเรากำลังเก็บdisney ทั่วโลก ซึ่งขาดแค่ที่อเมริกาสองที่ก็จะครบทั้วโลก (ไม่ได้ใช้) และเราใส่พวงกุญแจที่เราซื้อมาจาก disney ไปเต็มเลยคะ
-พาสปอตเล่มเก่า (ใช้) มัลดีฟ อังกฤษ ใต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศล สวิต กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ นิวซีแลน เซียงไฮ้ ฮ่องกง
ใจเลยเอาวะ เป็นไงเป็นกัน สวดมนต์บอกอาม่าให้ช่วยหลานหน่อยนะ บอกเลยว่าวันที่จะไปสัมภาษณ์นอนไปแค่1ชั่วโมงคะ ตื่นตี5 เดินทางไปถึงสถานฑูต หกโมงนิดๆคะ
ก็มีคนต่อคิวแล้วคะ เขาเปิดให้เข้าก็ตอน หกโมงกว่าคะ
ด่านแรก เขาจะขอพาสปอต เช็คเวลา และให้ที่หนีบกระดาษ มีเวลานัดของเราอยู่คะ เขาบอกว่าห้ามทำหาย
ด่านที่สอง ฝากโทรศัพท์ได้แค่คนละเครื่องนะคะ เราต้องเอาบัตรประชาชนไปด้วยนะคะ ห้ามนำหูฟังทุกชนิดนะ คนหลังเราเอามาบอกว่าทิ้งเลยคะ เพราะนางคงขี้เกียจเอาออกไปฝากเพราะไกลอยู่นิดหนึ่งคะ apple watch ก็ไม่ได้นะคะ
ด่านที่สาม ก็เข้าไปนั่งรอ รอเขาเรียกเวลาคะ พอถึงเวลาเรา เราก็เดินไปตรงเค้าเตอร์ พนักงานเป็นคนไทยคะ เขาาจะให้เลข ems คะ เราก็จดไว้
ด่านที่สี่ ต่อคิวเขาก็จะเช็คข้อมูล ตรงนี้เป็นคนไทยคะ เคยเปลี่ยนชื่อไหม เราโดนว่าทำไมไม่ใส่เลขบัตรประชาชน เราก็ตกใจคะ ว่าเราตรวจแล้วนะ นางบอกว่าไม่เป็นไรเด่วใส่ให้ แต่คราวหน้าห้ามลืมนะ สแกนลายนิ้ว แล้วก็สแกนอีกรอบกับฝรั่งคะ
ด่านที่ห้า ตอนเรายืนรอคือปิดม่านคะ ยังไม่มีคนได้สัมภาษณ์ สิบนาทีได้ ม่านก็เปิดออกมา ผู้ชายสามคนคะ คนกลางดูใจดีมาก คนซ้ายดูดุๆหน่อย คนขวาก็เพิ่งปฎิเสธไปหนึ่งคนคะ เราแบบใจเสียคะ
เวลานี้ที่รอคอย เราได้คนซ้ายคะ ดุหน่อย เราฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง บอกตามตรงคะ จับใจความแค่คีย์ของประโยค สัมภาษณ์อังกฤษคะ
ตรงบนสัมภาษณ์ของท่านทูตเราจะพิมคำที่เราจับใจความได้นะคะ ส่วนประโยคของเรา เราก็ตอบแบบที่เรานึกได้ ไม่ได้สนใจเรื่องแกรมม่าคะ แค่ท่านฟังออก ถือว่าเราประสบความสำเร็จในการสื่อสารนะคะ
ท่านทูต - why america
เรา - my friend graduate and travel
ท่านทูต - why too long
เรา - because we plan road trip to san fra LA florida maimi
ท่านทูต - friend name
เรา - ตอบชื่อไป
ท่านทูต - university name
เรา -ตอบชื่อไป
ท่านทูต - how many year in us
เรา - ตอบเวลาที่เพื่อนเราอยู่ไปคะ
ท่านทูต - day graduate
เรา - ตอบวันคะ
ท่านทูต - relationship
เรา - บอกเลยจุดนี้ไม่มีรูปคะ ทำไงดีวะเนี้ย แต่ก็ส่งใบเชิญให้ะคะ นางก็พิมพ์ๆ เหมือนคงคีย์ข้อมูลว่าคนนี้เรียนที่นี้ จริงไหม รับปริญญาวันนี้จริงไหม
ท่านทูต - sponser
เรา - my mom
ท่านทูต - work
เรา - ตรงนี้เรารีบให้ข้อมูลเลยคะ ว่าเราเป็นธุรกิจครอบครัว ทำอะไรบ้าง เราตอบเป็นภาษาไทยคะ เพราะบางศัพท์คิดไม่ออก
ท่านทูต - friend after graduate
เรา- we plan travel
ท่านทูต - appove (ดีใจมากคะ นางก็พูดอีก เท่าที่จับใจความได้ว่าให้อยู่ได้แค่สองเดือนนะ ละต้องกลับมา ไม่งั้นต่อไปไม่ให้ไป อะไรทำนองนี้คะ)
ตอนสัมภาษณ์ มองหน้าตลอดไม่หลบสายตาคะ มั่นใจทุกคำตอบ พยายามส่งบอกว่า นี้ความจริงหมดไม่โกหกเลยสักอย่าง ในความสัมพันธ์ที่ตอบว่าเพื่อน เพราะว่า ไม่ได้หมั้นคะ ไม่ได้แต่งงาน สถานะเราคือโสดคะ ถือว่าเราไม่ได้โกหกคะ
ส่วนตัวเราคิดว่าการที่เราอ่านเยอะมากๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนะคะ ตอบความจริงคะ จริงใจ และที่ดวงด้วยคะ วันนั้นไม่มีผู้หญิงที่ดุๆ ที่เราอ่านจากพันทิป และแฟนเราสัมภาษณ์กับคนนี้ นางบอกว่าคนนี้ดุ ถามเยอะเหมือนกัน
บอกเลยว่าโล่งมากคะ ตอนนี้ก็นั่งรอคะว่าจะได้กี่ปี หรือได้เป็นเดือน ก็ไม่เป็นไรคะ ถือว่าเราพอใจละ ได้ไป
สำหรับใครที่อยากปรึกษา คอมเม้นไว้เลยนะ เราจะมาตอบ
ขออภัยถ้าเกิดเราพิมพ์ผิดนะคะ
[CR] วีซ่าอเมริกา 4 ธันวาคม 2018
เราอยากไปงานรับปริญญาของแฟนคะ และอยากเที่ยวต่อ ข้อกำหนดของเรานะคะ
- เดินทางคนเดียว
- ไปสองเดือน
- เงินเดือนสองหมื่น
- สปอนเซอร์ แม่
- ยังไม่ได้แต่งงาน
ตอนกรอกข้อมูล ในเว็บบอกเลยว่า เราไม่ได้ปรึกษาใครเลยคะ ไม่ได้หาข้อมูล เลยใส่ทุกอย่างตามความจริงหมดเลยคะ
หลังจากที่ส่งทุกอย่างเรียบร้อย จ่ายเงินและนัดวัน ได้วันที่ 4 ธันวาคม 2018 เวลา 7.15 น. เลือกรอบแรกที่ว่าง (รอบแรก เจ็ดโมงตรงเต็ม) ที่เลือกรอบเช้า คิดว่านางคงอารมณ์ดี ไม่ก็เบลอๆช่วงเช้าไรงี้
หลังจากที่นัดเรียบร้อย เราก็มาอ่านพันทิปคะ นั่งดูยูทูป โอ้โห บอกเลยว่า ไม่ได้แน่ๆ ไม่ผ่านชัว ยิ่งเดินทางคนเดียว ละบอกว่ารู้จักคนไทยที่นู้น งานหิน ใจนี้ไม่ผ่าน 99 เปอร์เซนต์แน่นอน พอไปถามคนรอบตัวที่เคยทำ มีแต่คนบอกว่า ทำไมใส่เวลาไปนานจัง ควรใส่ไป 1 อาทิตย์ถึง1เดือนพอ เศร้าคะ เพราะวางแผนจะไป มกราคม กลัวไปหมด กลัวไปไม่ได้ เครียดเรื่องสัมภาษณ์อีก คือเราจบมหาลัยอินเตอร์มา แต่ว่าพอไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษลืมคะ ยิ่งกลัวไปใหญ่ ปกติเวลาดูหนัง เราก็จะดูบรรยายไทย แต่ต่างจังหวัดมีแต่พากย์ไทยคะ เลยทำให้ไม่ได้ฝึกฝนและห่างหายไปประมาณ 5 ปีได้ และยิ่งอ่านจากกระทู้ในพันทิป บอกว่าถ้าพูดอังกฤษไม่ได้ เขาก็จะไม่ให้ไปคะ (อันนี้ไม่จริงนะคะ เพราะตอนที่เราตอบคำถามว่าเราทำงานอะไร บางศัพท์เราไม่รู้เราก็อธิบายภาษาไทยคะ) เรานอนไม่ค่อยหลับคะ เครียดมาก แล้วตรงที่เป็นช่องให้เราอธิบายอาชีพ เราอ่านมาทุกคนบอกว่าตรงนี้สำคัญมาก จะให้หรือไม่ให้ดูจากตรงนี้เลย ควรจะเขียนว่าเรามั่นคงที่นี้และจะไม่ทิ้งงานที่นี้ไป ซึ่งเราไม่ได้ปริ้นเอกสารตรงนี้ พอเวลาเราส่งไป ทำให้เราทบทวนไม่ได้ แต่เท่าที่จำความได้ เราเขียนแค่สามประโยคเองคะ และไม่มีความมั่นคงเท่าไรเลยคะ บวกความเครียดไปอีกจ้า หลังจากที่อ่าน นอนไม่ค่อยหลับเลยคะ ก่อนนอนจะศึกษาทุกคืนและเครียด นอนไม่หลับคะ แฟนเราเลยบอกว่า งั้นครั้งนี้ไม่ต้องไปสัมภาษณ์ ให้ทำใหม่เด่วนางจะออกเงินให้ แต่เราอยากรู้คำตอบ ไม่อยากเครียดแล้ว การรอคอยว่าสรุปจะได้ไม่ได้นี้ เครียดนะคะ เวลาเกือบเดือนคะ และข้อมูลของเราก็ต้องเหมือนเดิมนะคะ อย่างสองเดือนจะแก้เป็นแค่เดือนเดียวไม่ได้คะ เขาจับได้แน่นอน
ถ้าทำใหม่ เราต้องนัดสัมภาษณ์บอกเวลาไปอีกอาทิตย์ถึงสองอาทิตย์คะ แปลว่าเราก็ต้องเครียดอีก1-2อาทิตย์ ซึ่งเราอยากหลุดจากตรงนี้แล้วอะ อ่อแล้วก็ถ้าเราไม่ผ่าน เขาไม่บอกเหตุผลด้วยนะคะว่าทำไม บอกแค่ว่าคุณมีคุณสมบัติไม่พอ
เอกสารที่เราเตรียม
-ใบจองตั๋ว หาซื้อได้ที่ทัวร์ 500 บาท (ไม่ได้ใช้)
-จดหมายเชิญ(ใช้)
-ใบเกิดตัวจริง (ไม่ได้ใช้)
-โฉนดที่ดิน (ไม่ได้ใช้) งงเหมือนกันอ่านเจอมาว่าควรเอาไป
-ใบจดการค้าของที่บ้านฉบับจริง (ไม่ได้ใช้)
-เงินฝากประจำ (ไม่ได้ใช้)
-เงินที่จำนำไปใช้(ไม่ได้ใข้)
-ทะเบียนบ้านตัวจริง (ไม่ได้ใช้)
-แผนการเดินทางในสองเดือน (ไม่ได้ใช้)
-รูป disneyland ที่เราเคยไป เราตั้งใจจะบอกเขาว่าเรากำลังเก็บdisney ทั่วโลก ซึ่งขาดแค่ที่อเมริกาสองที่ก็จะครบทั้วโลก (ไม่ได้ใช้) และเราใส่พวงกุญแจที่เราซื้อมาจาก disney ไปเต็มเลยคะ
-พาสปอตเล่มเก่า (ใช้) มัลดีฟ อังกฤษ ใต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศล สวิต กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ นิวซีแลน เซียงไฮ้ ฮ่องกง
ใจเลยเอาวะ เป็นไงเป็นกัน สวดมนต์บอกอาม่าให้ช่วยหลานหน่อยนะ บอกเลยว่าวันที่จะไปสัมภาษณ์นอนไปแค่1ชั่วโมงคะ ตื่นตี5 เดินทางไปถึงสถานฑูต หกโมงนิดๆคะ
ก็มีคนต่อคิวแล้วคะ เขาเปิดให้เข้าก็ตอน หกโมงกว่าคะ
ด่านแรก เขาจะขอพาสปอต เช็คเวลา และให้ที่หนีบกระดาษ มีเวลานัดของเราอยู่คะ เขาบอกว่าห้ามทำหาย
ด่านที่สอง ฝากโทรศัพท์ได้แค่คนละเครื่องนะคะ เราต้องเอาบัตรประชาชนไปด้วยนะคะ ห้ามนำหูฟังทุกชนิดนะ คนหลังเราเอามาบอกว่าทิ้งเลยคะ เพราะนางคงขี้เกียจเอาออกไปฝากเพราะไกลอยู่นิดหนึ่งคะ apple watch ก็ไม่ได้นะคะ
ด่านที่สาม ก็เข้าไปนั่งรอ รอเขาเรียกเวลาคะ พอถึงเวลาเรา เราก็เดินไปตรงเค้าเตอร์ พนักงานเป็นคนไทยคะ เขาาจะให้เลข ems คะ เราก็จดไว้
ด่านที่สี่ ต่อคิวเขาก็จะเช็คข้อมูล ตรงนี้เป็นคนไทยคะ เคยเปลี่ยนชื่อไหม เราโดนว่าทำไมไม่ใส่เลขบัตรประชาชน เราก็ตกใจคะ ว่าเราตรวจแล้วนะ นางบอกว่าไม่เป็นไรเด่วใส่ให้ แต่คราวหน้าห้ามลืมนะ สแกนลายนิ้ว แล้วก็สแกนอีกรอบกับฝรั่งคะ
ด่านที่ห้า ตอนเรายืนรอคือปิดม่านคะ ยังไม่มีคนได้สัมภาษณ์ สิบนาทีได้ ม่านก็เปิดออกมา ผู้ชายสามคนคะ คนกลางดูใจดีมาก คนซ้ายดูดุๆหน่อย คนขวาก็เพิ่งปฎิเสธไปหนึ่งคนคะ เราแบบใจเสียคะ
เวลานี้ที่รอคอย เราได้คนซ้ายคะ ดุหน่อย เราฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง บอกตามตรงคะ จับใจความแค่คีย์ของประโยค สัมภาษณ์อังกฤษคะ
ตรงบนสัมภาษณ์ของท่านทูตเราจะพิมคำที่เราจับใจความได้นะคะ ส่วนประโยคของเรา เราก็ตอบแบบที่เรานึกได้ ไม่ได้สนใจเรื่องแกรมม่าคะ แค่ท่านฟังออก ถือว่าเราประสบความสำเร็จในการสื่อสารนะคะ
ท่านทูต - why america
เรา - my friend graduate and travel
ท่านทูต - why too long
เรา - because we plan road trip to san fra LA florida maimi
ท่านทูต - friend name
เรา - ตอบชื่อไป
ท่านทูต - university name
เรา -ตอบชื่อไป
ท่านทูต - how many year in us
เรา - ตอบเวลาที่เพื่อนเราอยู่ไปคะ
ท่านทูต - day graduate
เรา - ตอบวันคะ
ท่านทูต - relationship
เรา - บอกเลยจุดนี้ไม่มีรูปคะ ทำไงดีวะเนี้ย แต่ก็ส่งใบเชิญให้ะคะ นางก็พิมพ์ๆ เหมือนคงคีย์ข้อมูลว่าคนนี้เรียนที่นี้ จริงไหม รับปริญญาวันนี้จริงไหม
ท่านทูต - sponser
เรา - my mom
ท่านทูต - work
เรา - ตรงนี้เรารีบให้ข้อมูลเลยคะ ว่าเราเป็นธุรกิจครอบครัว ทำอะไรบ้าง เราตอบเป็นภาษาไทยคะ เพราะบางศัพท์คิดไม่ออก
ท่านทูต - friend after graduate
เรา- we plan travel
ท่านทูต - appove (ดีใจมากคะ นางก็พูดอีก เท่าที่จับใจความได้ว่าให้อยู่ได้แค่สองเดือนนะ ละต้องกลับมา ไม่งั้นต่อไปไม่ให้ไป อะไรทำนองนี้คะ)
ตอนสัมภาษณ์ มองหน้าตลอดไม่หลบสายตาคะ มั่นใจทุกคำตอบ พยายามส่งบอกว่า นี้ความจริงหมดไม่โกหกเลยสักอย่าง ในความสัมพันธ์ที่ตอบว่าเพื่อน เพราะว่า ไม่ได้หมั้นคะ ไม่ได้แต่งงาน สถานะเราคือโสดคะ ถือว่าเราไม่ได้โกหกคะ
ส่วนตัวเราคิดว่าการที่เราอ่านเยอะมากๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนะคะ ตอบความจริงคะ จริงใจ และที่ดวงด้วยคะ วันนั้นไม่มีผู้หญิงที่ดุๆ ที่เราอ่านจากพันทิป และแฟนเราสัมภาษณ์กับคนนี้ นางบอกว่าคนนี้ดุ ถามเยอะเหมือนกัน
บอกเลยว่าโล่งมากคะ ตอนนี้ก็นั่งรอคะว่าจะได้กี่ปี หรือได้เป็นเดือน ก็ไม่เป็นไรคะ ถือว่าเราพอใจละ ได้ไป
สำหรับใครที่อยากปรึกษา คอมเม้นไว้เลยนะ เราจะมาตอบ
ขออภัยถ้าเกิดเราพิมพ์ผิดนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้