เนื่องจากระบบประชาธิปไตยที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันไม่ได้แสดงถึงความคิดเห็นจริงของประชาชน แต่กิจการต่างๆของรัฐกลับถูกตัดสินตามความเห็นของผู้แทนโดยประชาชนไม่มีส่วนร่วม ผู้เขียนจึงเสนอให้ใช้การลงคะแนนเสียงทางอินเตอร์เน็ตในการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจนโยบายของประเทศมากขึ้น
ระบบสำรวจความคิดเห็นในอินเตอร์เน็ตคือระบบที่เก็บข้อมูลความคิดเห็นของผู้ใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ต ระบบนี้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายเว็บไซท์ ตัวอย่างเช่นระบบเลือกตั้งออนไลน์ การโหวตความคิดเห็นในเว็บบอร์ดต่างๆ การประเมินความพอใจของผู้ใช้บริการหรือการเก็บข้อมูลในการวิจัยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถดูผลสำรวจได้โดยต่างกับเวลาจริงไม่มาก
ประชาธิปไตยทางตรงคือประชาธิปไตยที่ประชาชนออกเสียงเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆของรัฐโดยตรง ไม่จำเป็นต้องเลือกผู้แทน ซึ่งมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกันอยู่ในนครรัฐในอารยธรรมกรีกโบราณและประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประชาธิปไตยทางตรงนั้นเหมาะกับสังคมขนาดเล็กเพราะไม่มีวิธีที่สามารถให้ประชาชนจำนวนหลายล้านคนออกเสียงบ่อยๆได้ อีกทั้งยังสิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย
ประชาธิปไตยทางตรงต่างกันกับประชาธิปไตยแบบที่ประเทศไทยและประเทศส่วนใหญ่ใช้ในปัจจุบันดังนี้ อย่างแรกคือประชาธิปไตยที่เราใช้กันอยู่ ประชาชนต้องเลือกผู้แทนเข้าไปตัดสินใจด้านต่างๆแทนประชาชน เช่นเลือกพรรคการเมืองรัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เลือกผู้แทนในองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น เป็นต้น แต่ในประชาธิปไตยทางตรง ประชาชนจะลงคะแนนเสียงเพื่อตัดสินใจเรื่องต่างด้วยตัวเอง ไม่มีผู้แทน ไม่เหมือนประชาธิปไตยปัจจุบันที่ประชาชนฝากอำนาจให้ผู้แทนตัดสินใจแทนตัวเองจนกว่าจะเลือกผู้แทนใหม่และจะใช้อำนาจการตัดสินใจด้วยตัวเองแค่ในช่วงเวลาสำคัญมากๆเท่านั้น อย่างการลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการแยกประเทศหรือการยอมรับรัฐธรรมนูญ
ด้วยเหตุนี้ ประชาธิปไตยทางตรงจึงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการให้คนจำนวนมหาศาลมาลงคะแนนเสียงในทุกเรื่องจะสร้างความยากลำบากและค่าใช้จ่ายจำนวนมาก อย่างการเลือกตั้งแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายหลายพันล้าน ใช้เวลานาน ต้องมีการเดินทาง หากจะให้มีการลงคะแนนเสียงในทุกๆวันทุกๆเรื่องด้วยวิธีการที่เป็นอยู่จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ประชาชนจึงต้องฝากอำนาจให้ผู้แทน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาว่า การตัดสินใจแต่ละครั้งของผู้แทนไม่ได้สะท้อนการตัดสินใจแท้จริงของประชาชน หลายๆครั้ง ผู้แทนก็เลือกตัดสินใจตามความคิดเห็นของตัวเอง ซ้ำยังเป็นไปไม่ได้ที่ผู้แทนสามารถทราบถึงความต้องการของประชาชนที่เลือกตนมา ทำให้ประชาชนต้องรับผลจากนโยบายหรือทางเลือกที่ตนไม่มีสิทธิตัดสินใจ
หากเราจะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารประเทศมากขึ้น เราต้องหาวิธีการใหม่และวางโครงสร้างสังคม ทำให้การลงคะแนนเสียงเป็นสิ่งที่สะดวกมากขึ้นและสิ้นเปลืองน้อยลง ซึ่งในความคิดเห็นของผู้เขียน ระบบสำรวจความคิดเห็นทางอินเตอร์เน็ตมีศักยภาพที่จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้สังคมของเราเข้าใกล้ประชาธิปไตยทางตรงมากขึ้น
ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจนโยบายต่างๆและทิศทางการบริหารประเทศมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อที่ประเทศจะสร้างผลประโยชน์ให้ประชาชนอย่างตรงจุดมากกว่าเดิม
การเปลี่ยนจากการลงคะแนนในคูหาเป็นการลงคะแนนเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้การลงคะแนนเสียงเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ถี่ขึ้น สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่ประชาชนจะลงคะแนนเสียงในกิจการต่างๆของรัฐเช่นโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน การกู้ยืมเงินระหว่างประเทศ การเข้าร่วมในข้อตกลงความร่วมมือต่างๆ หรือการยอมรับกฏหมายฉบับใหม่ ทำให้การจตัดสินอนาคตของประเทศเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในประเทศมากขึ้น
เพื่อให้การลงคะแนนเสียงทางอินเตอร์เน็ตเป็นไปได้ จะต้องมีการวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่นอินเตอร์เน็ตคุณภาพสูงที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ การจัดเตรียมให้ทุกคนเข้าถึงอุปกรณ์ในการลงคะแนนเสียงได้อย่างทั่วถึง การวางระบบลงคะแนนเสียงทางอินเตอร์เน็ตที่โปร่งใสและมีความปลอดภัยสูง เช่นใครจะเป็นผู้มีสิทธิเสนอตัวเลือก ตัวเลือกควรมีจำนวนเท่าใด ควรแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน วิธีการยืนยันตัวตน ระบบตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูล และจะลงคะแนนในเรื่องแบบใดบ้าง นอกจากนั้นยังต้องสร้างความรู้เท่าทันสื่อและค่านิยมที่กระตุ้นให้ผู้คนออกมาลงคะแนนเสียงด้วย และเพื่อป้องกันการใช้ระบบนี้เพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของทุกคนหรือคนบางกลุ่ม จึงควรให้ตัวเลือกอยู่ในกรอบของหลักสิทธิเสรีภาพ หลักสิทธิมนุษยชน หลักประชาธิปไตย และมีความเป็นกลาง
ผู้เขียนคิดว่าแม้จะยังต้องเตรียมการอีกมาก แต่การลงคะแนนเสียงทางอินเตอร์เน็ตจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสังคมที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากกว่าที่เป็นอยู่
การลงคะแนนเสียงทางอินเตอร์เน็ต
ระบบสำรวจความคิดเห็นในอินเตอร์เน็ตคือระบบที่เก็บข้อมูลความคิดเห็นของผู้ใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ต ระบบนี้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายเว็บไซท์ ตัวอย่างเช่นระบบเลือกตั้งออนไลน์ การโหวตความคิดเห็นในเว็บบอร์ดต่างๆ การประเมินความพอใจของผู้ใช้บริการหรือการเก็บข้อมูลในการวิจัยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถดูผลสำรวจได้โดยต่างกับเวลาจริงไม่มาก
ประชาธิปไตยทางตรงคือประชาธิปไตยที่ประชาชนออกเสียงเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆของรัฐโดยตรง ไม่จำเป็นต้องเลือกผู้แทน ซึ่งมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกันอยู่ในนครรัฐในอารยธรรมกรีกโบราณและประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประชาธิปไตยทางตรงนั้นเหมาะกับสังคมขนาดเล็กเพราะไม่มีวิธีที่สามารถให้ประชาชนจำนวนหลายล้านคนออกเสียงบ่อยๆได้ อีกทั้งยังสิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย
ประชาธิปไตยทางตรงต่างกันกับประชาธิปไตยแบบที่ประเทศไทยและประเทศส่วนใหญ่ใช้ในปัจจุบันดังนี้ อย่างแรกคือประชาธิปไตยที่เราใช้กันอยู่ ประชาชนต้องเลือกผู้แทนเข้าไปตัดสินใจด้านต่างๆแทนประชาชน เช่นเลือกพรรคการเมืองรัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เลือกผู้แทนในองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น เป็นต้น แต่ในประชาธิปไตยทางตรง ประชาชนจะลงคะแนนเสียงเพื่อตัดสินใจเรื่องต่างด้วยตัวเอง ไม่มีผู้แทน ไม่เหมือนประชาธิปไตยปัจจุบันที่ประชาชนฝากอำนาจให้ผู้แทนตัดสินใจแทนตัวเองจนกว่าจะเลือกผู้แทนใหม่และจะใช้อำนาจการตัดสินใจด้วยตัวเองแค่ในช่วงเวลาสำคัญมากๆเท่านั้น อย่างการลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการแยกประเทศหรือการยอมรับรัฐธรรมนูญ
ด้วยเหตุนี้ ประชาธิปไตยทางตรงจึงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการให้คนจำนวนมหาศาลมาลงคะแนนเสียงในทุกเรื่องจะสร้างความยากลำบากและค่าใช้จ่ายจำนวนมาก อย่างการเลือกตั้งแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายหลายพันล้าน ใช้เวลานาน ต้องมีการเดินทาง หากจะให้มีการลงคะแนนเสียงในทุกๆวันทุกๆเรื่องด้วยวิธีการที่เป็นอยู่จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ประชาชนจึงต้องฝากอำนาจให้ผู้แทน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาว่า การตัดสินใจแต่ละครั้งของผู้แทนไม่ได้สะท้อนการตัดสินใจแท้จริงของประชาชน หลายๆครั้ง ผู้แทนก็เลือกตัดสินใจตามความคิดเห็นของตัวเอง ซ้ำยังเป็นไปไม่ได้ที่ผู้แทนสามารถทราบถึงความต้องการของประชาชนที่เลือกตนมา ทำให้ประชาชนต้องรับผลจากนโยบายหรือทางเลือกที่ตนไม่มีสิทธิตัดสินใจ
หากเราจะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารประเทศมากขึ้น เราต้องหาวิธีการใหม่และวางโครงสร้างสังคม ทำให้การลงคะแนนเสียงเป็นสิ่งที่สะดวกมากขึ้นและสิ้นเปลืองน้อยลง ซึ่งในความคิดเห็นของผู้เขียน ระบบสำรวจความคิดเห็นทางอินเตอร์เน็ตมีศักยภาพที่จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้สังคมของเราเข้าใกล้ประชาธิปไตยทางตรงมากขึ้น
ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจนโยบายต่างๆและทิศทางการบริหารประเทศมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อที่ประเทศจะสร้างผลประโยชน์ให้ประชาชนอย่างตรงจุดมากกว่าเดิม
การเปลี่ยนจากการลงคะแนนในคูหาเป็นการลงคะแนนเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้การลงคะแนนเสียงเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ถี่ขึ้น สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่ประชาชนจะลงคะแนนเสียงในกิจการต่างๆของรัฐเช่นโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน การกู้ยืมเงินระหว่างประเทศ การเข้าร่วมในข้อตกลงความร่วมมือต่างๆ หรือการยอมรับกฏหมายฉบับใหม่ ทำให้การจตัดสินอนาคตของประเทศเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในประเทศมากขึ้น
เพื่อให้การลงคะแนนเสียงทางอินเตอร์เน็ตเป็นไปได้ จะต้องมีการวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่นอินเตอร์เน็ตคุณภาพสูงที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ การจัดเตรียมให้ทุกคนเข้าถึงอุปกรณ์ในการลงคะแนนเสียงได้อย่างทั่วถึง การวางระบบลงคะแนนเสียงทางอินเตอร์เน็ตที่โปร่งใสและมีความปลอดภัยสูง เช่นใครจะเป็นผู้มีสิทธิเสนอตัวเลือก ตัวเลือกควรมีจำนวนเท่าใด ควรแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน วิธีการยืนยันตัวตน ระบบตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูล และจะลงคะแนนในเรื่องแบบใดบ้าง นอกจากนั้นยังต้องสร้างความรู้เท่าทันสื่อและค่านิยมที่กระตุ้นให้ผู้คนออกมาลงคะแนนเสียงด้วย และเพื่อป้องกันการใช้ระบบนี้เพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของทุกคนหรือคนบางกลุ่ม จึงควรให้ตัวเลือกอยู่ในกรอบของหลักสิทธิเสรีภาพ หลักสิทธิมนุษยชน หลักประชาธิปไตย และมีความเป็นกลาง
ผู้เขียนคิดว่าแม้จะยังต้องเตรียมการอีกมาก แต่การลงคะแนนเสียงทางอินเตอร์เน็ตจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสังคมที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากกว่าที่เป็นอยู่