#สันไดโนเสาร์ #TaXua เวียดนาม
เพื่อนร่วมชะตากรรมกัน 10 ชีวิต นำโดย พี่พี,พี่หมู,พี่เอก,พี่โอ๋,เฟียส์,พี่เต้,ก่อย,บิลลี่,ทอม(ชาวเขมร) และ ตัวผมเอง
โดยเรานัดหมายเพื่อนๆ ให้มาเจอกัน ตอน9โมงเช้าที่สนามบินฮานอย โดยมี พี่หมู,บิลลี่,ทอม มาเที่ยวรอที่เวียดนามก่อนล่วงหน้าแล้วหลายวัน พอมากันครบก็เตรียมตัวเดินทางกันเลย ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ พี่พีได้ติดต่อเอเยนต์ไว้ในเรื่องรถรับส่ง ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
โดยใช้รถตู้แวนใหญ่ คิดค่ารถ 835$ เหมาในเวียดนาม3วัน แล้วเริ่มเดินทางออกจาก #สนามบินฮานอย ตอน10โมง ระหว่างทางก็ผ่านสวนส้ม เลยลงแวะชิมส้มกัน แถมเจอไร่ชา ก็แวะลงไปจิบชา นอนเปลเล่นกันสักพัก แล้วจึงเดินทางกันต่อ
เราใช้เวลานั่งรถนานกันพอสมควร กว่าจะถึงที่พัก Khach San Hong Long Hotel ที่เมือง Phu Yen จังหวัด Son La ซึ่งพี่พีได้จองbooking ไว้ล่วงหน้า ก็เกือบบ่าย3โมง ที่พักอยู่บนความสูงราว160ม.
บรรยากาศที่พัก
แล้วเอาสัมภาระเก็บเข้าห้องก่อน แล้วออกจากที่พักไปตามหา #สันไดโนเสาร์ #TaXua ตอน 15:40 ทันที เพื่อจะไปดูแสงเย็น ซึ่งอยู่ที่เมือง #BacYen ต้องนั่งรถต่อไปอีก โดยไม่รู้เลยว่าอีกไกลแค่ไหน ใช้เวลาเท่าไร
เราใช้เวลาเดินทางกันอีกราว1ชั่วโมง กว่าจะถึงเมือง Bac Yen แล้วเลี้ยวขวาตรงทางสามแยกเล็กๆ จะเป็นทางตัดขึ้นเขา ไปทาง Ta Xua
**แนะนำหากใครมาที่นี้ สามารถมาหาที่พักแถวเมือง Bac Yen นี้ก็ได้ มีเยอะพอสมควร
จากสามแยกขับขึ้นมาเรื่อยๆ เนื่องจากถนนบางช่วงชำรุด พอถึงช่วงขึ้นเขาก็ใช้เวลานานอีกเช่นกัน เนื่องจากถนนแคบ และ ทางบางช่วงก็ชำรุด แต่ที่แย่กว่านั้น คือ เรามาถึงได้แค่ความสูงราว 1,370ม. ประมาณกิโลเมตรที่12 น่าจะได้ แต่ก็ไปต่อไม่ได้ สาเหตุเพราะ มีรถบรรทุกจอดเสียขวางทางถนน
รถบรรทุกจอดเสียขวางทางไป
ทำให้รถไม่สามารถไปต่อได้ เราจึงได้แต่เก็บบรรยากาศแสงเย็นแถวนั้นแทน แต่ดูแล้วน่าจะอีกราว1km. จะถึงบ้าน Ta Xua
บรรยากาศแสงเย็น
หลังจากนั้นจึงมุ่งหน้ากลับที่พัก ตอนเกือบ6โมงเย็น ที่นี้พระอาทิตย์ตก ตอน 17:30 ทำให้ที่นี้มืดเร็ว กว่าเราจะถึงที่พัก ก็ราวหนึ่งทุ่ม แล้วหาอะไรกินแถวที่พัก ก่อนแยกย้ายกันพักผ่อน
หมูกรอบจานนี้อร่อยมาก
ซึ่งพรุ่งนี้ เราจะไปซ้ำที่เดิม โดยนัดกันว่า เราเช็คเอาท์ออกจากที่พัก ราว6โมงเช้า แล้วลุยยาวเลย เพราะ เราไม่รู้ว่าเป้าหมาย Ta Xua Dinosaur Backbone จะอยู่อีกไกลแค่ไหน และ จะเสียเวลานานเท่าไรไม่รู้ เพราะ เป็นทริปสำรวจ เลยไม่มีข้อมูลอะไรมาก
######
บรรยากาศเช้า ตรงหน้าห้องพัก
#เช้าวันที่สอง เราเช็คเอาท์ออกจากที่พัก 6:30 เพื่อไปยัง Ta Xua อีกครั้ง ใช้เวลาเดินทางราว1ชั่วโมง ก็ถึงจุดทางแยกขึ้นเขาตรง เมือง Bac Yen ตอน 7:30 เราจึงแวะกินเฟอมื้อเช้า กันก่อน ตรงทางแยกก่อนที่จะขึ้นเขาไป Ta Xua
ช่อนตักน้ำซุป ร้านนี้ใหญ่มาก
จากจุดที่เริ่มขึ้นเขาตรงทางสามแยก วิ่งตามถนน ระยะทางราว13km. ก็จะถึงหมู่บ้าน Ta Xua ซึ่งที่แรก เราเข้าใจว่าตรงนี้คงเป็นจุดเดินไปชมวิว สันไดโนเสาร์ แต่กลับไม่ไช่จุดชมวิว #สันไดไนเสาร์ ที่เราตามหา แต่ก็ทำให้พวกเรารู้ว่า ที่หมู่บ้าน Ta Xua ด้านบนมีที่พัก Homestay เยอะพอสมควร
**แนะนำ หากใครมาที่นี้ สามารถมาหาที่พักที่นี้ได้ เพื่อจะได้สะดวกในการเดินทางไปชมวิว ที่ #สันไดโนเสาร์ เพราะ แค่ที่หมู่บ้าน Ta Xua ก็น่าจะสามารถชมวิวทะเลหมอกยามเช้าได้ แล้ว
โดยให้คนขับรถชาวเวียดนาม ช่วยถามว่า วิวในภาพที่เห็นอยู่ที่ไหน ซึ่งชาวบ้านที่ Ta Xua ก็ชี้ว่าไปข้างหน้าตรงนู้น แต่เราต้องขับรถขึ้นไปอีกไกลพอสมควร อีกราว13km. โดยขับรถเลยจากจุดนี้ไปสักพักใหญ่ ก็จะเจอทางสามแยกอีก แล้วเลี้ยวขวา ไปทาง Hang Dong วิ่งไปอีกไกลพอสมควร ระหว่างทางก็จะมีน้ำตกข้างทางที่ไหลจากหน้าผาให้ดู ราว2-3จุด กับวิวนาขั้นบันไดระหว่างทาง
เจอป้ายทางแยก
ด้านหลังร้านค้า จะเห็นทางเดินไปสันไดโนเสาร์
ตรงจุดที่จะเริ่มเดินไปชมวิว #สันไดโนเสาร์ จะมีร้านค้าตั้งโต๊ะ อยู่หลายร้านพอสมควร ให้จอดถามก่อนก็ได้ถ้ามา ไม่งั่นอาจขับเลยได้ เพราะ พวกเราที่มาสำรวจก่อน ขับเลยไปนิดหนึ่ง แล้วคิดว่าที่ผ่านมาจุดนั้น น่าจะไช่ จึงขับย้อนกลับมา
แต่กว่าเราจะถึงจุดชมวิว ก็ราว 9:40 ซึ่งระยะทางจากปากทางสามแยกที่ขึ้นเขามา จนถึงจุดชมวิว ระยะทางราว 26km. ใช้เวลาราว 1:30 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร
ตรงนี้จะมีทางแยก เดินเลาะลงด้านข้าง
จากจุดนี้..หากเราจะเดินลงไปก็ได้ หรือ จะนั่งมอไซด์ก็ได้ ที่นี้จะมีชาวบ้านคอยบริการ ขาไป 30,000 ดอง ขากลับก็อีก 30,000 ดอง ผมเลือกที่จะเดินลงไปก่อน เพื่อจะได้เก็บภาพระหว่างทาง เดินมาสักพัก ก็จะเจอทางเดินแยก อีกทางเดินขึ้น ส่วนอีกทางเดินเลาะลงด้านข้าง ไปทางนาข้าว แต่ทั้ง2ทาง ก็ไปถึงจุดชมวิวตรงสันไดโนเสาร์ เช่นกัน แต่แค่ไปโผล่อีกด้าน
ระยะทางเดินที่จับgps ได้ราว1.5km. ใช้เวลาเดิน ราว15นาที ก็จะถึงตรง #สันหลังไดโนเสาร์ ทึ่นี้ความสูงราว 1,400ม. มีลักษณะเป็นสันเขาแคบๆทอดยาวไป แต่ไม่ได้ยาวมากเท่าไร บางช่วงของสันจะมีความกว้าง ราว1เมตร อารมณ์เหมือน #สันคมมีด แต่โดยร่วมไม่ได้หวาดเสียวอย่างที่คิด
พอดีช่วงที่มา หมอกฟุ้งพอสมควร ทำให้ไม่ค่อยเห็นวิวสักเท่าไร ผมเห็นมีทางเดินไปต่อ แต่มันเป็นช่วงเดินไต่ลง ผมเลยลองเดินลงไปดู เผื่อจะเจอวิวอะไรดีๆ ลงมาได้ราว300เมตร แต่ก็ไม่มีวิวอะไรน่าสนใจ ตรงนี้เป็นเส้นเชื่อมที่ไปยังจุดแยกตรงทางเดิน ที่เราเดินผ่านมาช่วงแรก เป็นทางเชื่อมต่อมาทางนาข้าวนั้นเอง เลยต้องเดินขึ้นชันๆกลับขึ้นไปอีก
พวกเราอยู่ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ ราวครึ่งชั่วโมง ก็เดินทางกลับ ขากลับผมจึงเลือกที่จะนั่งมอไซด์กลับ เพื่อที่จะได้เก็บ 2อารมณ์ ทั้งเดิน และ นั่งมอไซด์ อีกอย่างขากลับเป็นช่วงต้องเดินขึ้น เลยเลือกที่จะนั่งมอไซด์ดีกว่า แต่เส้นทางที่ซ้อนมอไซด์มา ต้องบอกว่าอันตรายเหมือนกัน ควรใช้ความชำนาญ เพราะ เห็นมีมอไซด์ถไลล้มอยู่ข้างทางด้วย
ขากลับที่แรกตั้งใจ จะหาอะไรกินที่หมู่บ้าน Ta Xua พอดีเป็นเวลาเที่ยง แต่ก็อดกิน เนื่องจากที่นี้ไม่ได้เตรียมของไว้เยอะมาก เนื่องจากไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี้กันเยอะมาก เราเลยเปลี่ยนแผนลงไปกินที่ เมือง Bac Yen ด้านล่างเลยแหละกัน แต่ช่วงขาลง ใช้เวลาไม่นานมาก เนื่องจากพอรู้ทางแล้ว
มื้อเที่ยงที่ Bac Yen
หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ เราก็มุ่งหน้าสู่ เมือง Moc Chau ใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะถึง เมือง Moc Chau ก็5โมงเย็น แต่เรายังไม่เข้าที่พัก เนื่องจากพอมีเวลา โดยเลยไปดู ไร่ชา Doi Che Trai Tim ซึ่งห่างจากที่พักไปอีก ราว30km. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง แต่กว่าจะถึงไร่ชา ก็ 17:40 พระอาทิตย์ตกไปแล้ว เลยเก็บภาพเท่าที่เก็บได้ ใช้เวลาที่นี้ แค่ราว10นาที ก็กลับที่พักกัน
มื้อเย็นวันนี้ เรากินร้านที่อยู่ใกล้ที่พัก ซึ่งคนขับพาเรามากินที่ร้านนี้ มื้อนี้จัดหนักกันพอสมควร ตกไปที่ราว 2,000,000 ดอง (ราว2,800บ.) คืนนี้พักที่ Kim Dung Hotel ซึ่งพี่พีได้จองbooking ไว้ล่วงหน้า ห้องพักที่นี้ คืนละ30$ พร้อมอาหารเช้า
#######
#เช้าวันที่สาม เราออกจากที่พัก ราว7โมงเช้า เพื่อมุ่งหน้าไปด่าน ก่อนออกจากเมือง Moc Chau เราขอแวะน้ำตก ซึ่งดูจากแผนที่แล้วอยู่ไม่ไกลจากที่พักมาก ใช้เวลาเดินทาง ราว15นาที
ที่น้ำตก Dai Yem Waterfall ที่นี้จะเสียค่าเข้า 30,000 ดอง/คน แล้วเดินต่อเข้าไปอีก ราว5นาที ก็ถึงตัวน้ำตก เราอยู่ที่นี้กันเกือบชั่วโมง
แล้วเดินทางต่อ ตอน8:30 เพื่อไปยังด่าน Na Meo (เวียดนาม) - Nam Xoi (ลาว) กว่าจะมาถึงก็ ตอน 14:30 ใช้เวลาเดินทาง ราว6ชั่วโมง กับระยะทางเกือบ 200km. แล้วทำเรื่องผ่านด่าน เพื่อไปต่อยัง #ภูผาที
############
สามารถดู รีวิว ภูผาที ได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้
https://ppantip.com/topic/38341199
สันไดโนเสาร์ Ta Xua Dinosaur Backbone @เวียตนาม
#สันไดโนเสาร์ #TaXua เวียดนาม
เพื่อนร่วมชะตากรรมกัน 10 ชีวิต นำโดย พี่พี,พี่หมู,พี่เอก,พี่โอ๋,เฟียส์,พี่เต้,ก่อย,บิลลี่,ทอม(ชาวเขมร) และ ตัวผมเอง
โดยเรานัดหมายเพื่อนๆ ให้มาเจอกัน ตอน9โมงเช้าที่สนามบินฮานอย โดยมี พี่หมู,บิลลี่,ทอม มาเที่ยวรอที่เวียดนามก่อนล่วงหน้าแล้วหลายวัน พอมากันครบก็เตรียมตัวเดินทางกันเลย ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ พี่พีได้ติดต่อเอเยนต์ไว้ในเรื่องรถรับส่ง ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
โดยใช้รถตู้แวนใหญ่ คิดค่ารถ 835$ เหมาในเวียดนาม3วัน แล้วเริ่มเดินทางออกจาก #สนามบินฮานอย ตอน10โมง ระหว่างทางก็ผ่านสวนส้ม เลยลงแวะชิมส้มกัน แถมเจอไร่ชา ก็แวะลงไปจิบชา นอนเปลเล่นกันสักพัก แล้วจึงเดินทางกันต่อ
เราใช้เวลานั่งรถนานกันพอสมควร กว่าจะถึงที่พัก Khach San Hong Long Hotel ที่เมือง Phu Yen จังหวัด Son La ซึ่งพี่พีได้จองbooking ไว้ล่วงหน้า ก็เกือบบ่าย3โมง ที่พักอยู่บนความสูงราว160ม.
บรรยากาศที่พัก
แล้วเอาสัมภาระเก็บเข้าห้องก่อน แล้วออกจากที่พักไปตามหา #สันไดโนเสาร์ #TaXua ตอน 15:40 ทันที เพื่อจะไปดูแสงเย็น ซึ่งอยู่ที่เมือง #BacYen ต้องนั่งรถต่อไปอีก โดยไม่รู้เลยว่าอีกไกลแค่ไหน ใช้เวลาเท่าไร
เราใช้เวลาเดินทางกันอีกราว1ชั่วโมง กว่าจะถึงเมือง Bac Yen แล้วเลี้ยวขวาตรงทางสามแยกเล็กๆ จะเป็นทางตัดขึ้นเขา ไปทาง Ta Xua
**แนะนำหากใครมาที่นี้ สามารถมาหาที่พักแถวเมือง Bac Yen นี้ก็ได้ มีเยอะพอสมควร
จากสามแยกขับขึ้นมาเรื่อยๆ เนื่องจากถนนบางช่วงชำรุด พอถึงช่วงขึ้นเขาก็ใช้เวลานานอีกเช่นกัน เนื่องจากถนนแคบ และ ทางบางช่วงก็ชำรุด แต่ที่แย่กว่านั้น คือ เรามาถึงได้แค่ความสูงราว 1,370ม. ประมาณกิโลเมตรที่12 น่าจะได้ แต่ก็ไปต่อไม่ได้ สาเหตุเพราะ มีรถบรรทุกจอดเสียขวางทางถนน
รถบรรทุกจอดเสียขวางทางไป
ทำให้รถไม่สามารถไปต่อได้ เราจึงได้แต่เก็บบรรยากาศแสงเย็นแถวนั้นแทน แต่ดูแล้วน่าจะอีกราว1km. จะถึงบ้าน Ta Xua
บรรยากาศแสงเย็น
หลังจากนั้นจึงมุ่งหน้ากลับที่พัก ตอนเกือบ6โมงเย็น ที่นี้พระอาทิตย์ตก ตอน 17:30 ทำให้ที่นี้มืดเร็ว กว่าเราจะถึงที่พัก ก็ราวหนึ่งทุ่ม แล้วหาอะไรกินแถวที่พัก ก่อนแยกย้ายกันพักผ่อน
หมูกรอบจานนี้อร่อยมาก
ซึ่งพรุ่งนี้ เราจะไปซ้ำที่เดิม โดยนัดกันว่า เราเช็คเอาท์ออกจากที่พัก ราว6โมงเช้า แล้วลุยยาวเลย เพราะ เราไม่รู้ว่าเป้าหมาย Ta Xua Dinosaur Backbone จะอยู่อีกไกลแค่ไหน และ จะเสียเวลานานเท่าไรไม่รู้ เพราะ เป็นทริปสำรวจ เลยไม่มีข้อมูลอะไรมาก
######
บรรยากาศเช้า ตรงหน้าห้องพัก
#เช้าวันที่สอง เราเช็คเอาท์ออกจากที่พัก 6:30 เพื่อไปยัง Ta Xua อีกครั้ง ใช้เวลาเดินทางราว1ชั่วโมง ก็ถึงจุดทางแยกขึ้นเขาตรง เมือง Bac Yen ตอน 7:30 เราจึงแวะกินเฟอมื้อเช้า กันก่อน ตรงทางแยกก่อนที่จะขึ้นเขาไป Ta Xua
ช่อนตักน้ำซุป ร้านนี้ใหญ่มาก
จากจุดที่เริ่มขึ้นเขาตรงทางสามแยก วิ่งตามถนน ระยะทางราว13km. ก็จะถึงหมู่บ้าน Ta Xua ซึ่งที่แรก เราเข้าใจว่าตรงนี้คงเป็นจุดเดินไปชมวิว สันไดโนเสาร์ แต่กลับไม่ไช่จุดชมวิว #สันไดไนเสาร์ ที่เราตามหา แต่ก็ทำให้พวกเรารู้ว่า ที่หมู่บ้าน Ta Xua ด้านบนมีที่พัก Homestay เยอะพอสมควร
**แนะนำ หากใครมาที่นี้ สามารถมาหาที่พักที่นี้ได้ เพื่อจะได้สะดวกในการเดินทางไปชมวิว ที่ #สันไดโนเสาร์ เพราะ แค่ที่หมู่บ้าน Ta Xua ก็น่าจะสามารถชมวิวทะเลหมอกยามเช้าได้ แล้ว
โดยให้คนขับรถชาวเวียดนาม ช่วยถามว่า วิวในภาพที่เห็นอยู่ที่ไหน ซึ่งชาวบ้านที่ Ta Xua ก็ชี้ว่าไปข้างหน้าตรงนู้น แต่เราต้องขับรถขึ้นไปอีกไกลพอสมควร อีกราว13km. โดยขับรถเลยจากจุดนี้ไปสักพักใหญ่ ก็จะเจอทางสามแยกอีก แล้วเลี้ยวขวา ไปทาง Hang Dong วิ่งไปอีกไกลพอสมควร ระหว่างทางก็จะมีน้ำตกข้างทางที่ไหลจากหน้าผาให้ดู ราว2-3จุด กับวิวนาขั้นบันไดระหว่างทาง
เจอป้ายทางแยก
ด้านหลังร้านค้า จะเห็นทางเดินไปสันไดโนเสาร์
ตรงจุดที่จะเริ่มเดินไปชมวิว #สันไดโนเสาร์ จะมีร้านค้าตั้งโต๊ะ อยู่หลายร้านพอสมควร ให้จอดถามก่อนก็ได้ถ้ามา ไม่งั่นอาจขับเลยได้ เพราะ พวกเราที่มาสำรวจก่อน ขับเลยไปนิดหนึ่ง แล้วคิดว่าที่ผ่านมาจุดนั้น น่าจะไช่ จึงขับย้อนกลับมา
แต่กว่าเราจะถึงจุดชมวิว ก็ราว 9:40 ซึ่งระยะทางจากปากทางสามแยกที่ขึ้นเขามา จนถึงจุดชมวิว ระยะทางราว 26km. ใช้เวลาราว 1:30 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร
ตรงนี้จะมีทางแยก เดินเลาะลงด้านข้าง
จากจุดนี้..หากเราจะเดินลงไปก็ได้ หรือ จะนั่งมอไซด์ก็ได้ ที่นี้จะมีชาวบ้านคอยบริการ ขาไป 30,000 ดอง ขากลับก็อีก 30,000 ดอง ผมเลือกที่จะเดินลงไปก่อน เพื่อจะได้เก็บภาพระหว่างทาง เดินมาสักพัก ก็จะเจอทางเดินแยก อีกทางเดินขึ้น ส่วนอีกทางเดินเลาะลงด้านข้าง ไปทางนาข้าว แต่ทั้ง2ทาง ก็ไปถึงจุดชมวิวตรงสันไดโนเสาร์ เช่นกัน แต่แค่ไปโผล่อีกด้าน
ระยะทางเดินที่จับgps ได้ราว1.5km. ใช้เวลาเดิน ราว15นาที ก็จะถึงตรง #สันหลังไดโนเสาร์ ทึ่นี้ความสูงราว 1,400ม. มีลักษณะเป็นสันเขาแคบๆทอดยาวไป แต่ไม่ได้ยาวมากเท่าไร บางช่วงของสันจะมีความกว้าง ราว1เมตร อารมณ์เหมือน #สันคมมีด แต่โดยร่วมไม่ได้หวาดเสียวอย่างที่คิด
พอดีช่วงที่มา หมอกฟุ้งพอสมควร ทำให้ไม่ค่อยเห็นวิวสักเท่าไร ผมเห็นมีทางเดินไปต่อ แต่มันเป็นช่วงเดินไต่ลง ผมเลยลองเดินลงไปดู เผื่อจะเจอวิวอะไรดีๆ ลงมาได้ราว300เมตร แต่ก็ไม่มีวิวอะไรน่าสนใจ ตรงนี้เป็นเส้นเชื่อมที่ไปยังจุดแยกตรงทางเดิน ที่เราเดินผ่านมาช่วงแรก เป็นทางเชื่อมต่อมาทางนาข้าวนั้นเอง เลยต้องเดินขึ้นชันๆกลับขึ้นไปอีก
พวกเราอยู่ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ ราวครึ่งชั่วโมง ก็เดินทางกลับ ขากลับผมจึงเลือกที่จะนั่งมอไซด์กลับ เพื่อที่จะได้เก็บ 2อารมณ์ ทั้งเดิน และ นั่งมอไซด์ อีกอย่างขากลับเป็นช่วงต้องเดินขึ้น เลยเลือกที่จะนั่งมอไซด์ดีกว่า แต่เส้นทางที่ซ้อนมอไซด์มา ต้องบอกว่าอันตรายเหมือนกัน ควรใช้ความชำนาญ เพราะ เห็นมีมอไซด์ถไลล้มอยู่ข้างทางด้วย
ขากลับที่แรกตั้งใจ จะหาอะไรกินที่หมู่บ้าน Ta Xua พอดีเป็นเวลาเที่ยง แต่ก็อดกิน เนื่องจากที่นี้ไม่ได้เตรียมของไว้เยอะมาก เนื่องจากไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี้กันเยอะมาก เราเลยเปลี่ยนแผนลงไปกินที่ เมือง Bac Yen ด้านล่างเลยแหละกัน แต่ช่วงขาลง ใช้เวลาไม่นานมาก เนื่องจากพอรู้ทางแล้ว
มื้อเที่ยงที่ Bac Yen
หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ เราก็มุ่งหน้าสู่ เมือง Moc Chau ใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะถึง เมือง Moc Chau ก็5โมงเย็น แต่เรายังไม่เข้าที่พัก เนื่องจากพอมีเวลา โดยเลยไปดู ไร่ชา Doi Che Trai Tim ซึ่งห่างจากที่พักไปอีก ราว30km. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง แต่กว่าจะถึงไร่ชา ก็ 17:40 พระอาทิตย์ตกไปแล้ว เลยเก็บภาพเท่าที่เก็บได้ ใช้เวลาที่นี้ แค่ราว10นาที ก็กลับที่พักกัน
มื้อเย็นวันนี้ เรากินร้านที่อยู่ใกล้ที่พัก ซึ่งคนขับพาเรามากินที่ร้านนี้ มื้อนี้จัดหนักกันพอสมควร ตกไปที่ราว 2,000,000 ดอง (ราว2,800บ.) คืนนี้พักที่ Kim Dung Hotel ซึ่งพี่พีได้จองbooking ไว้ล่วงหน้า ห้องพักที่นี้ คืนละ30$ พร้อมอาหารเช้า
#######
#เช้าวันที่สาม เราออกจากที่พัก ราว7โมงเช้า เพื่อมุ่งหน้าไปด่าน ก่อนออกจากเมือง Moc Chau เราขอแวะน้ำตก ซึ่งดูจากแผนที่แล้วอยู่ไม่ไกลจากที่พักมาก ใช้เวลาเดินทาง ราว15นาที
ที่น้ำตก Dai Yem Waterfall ที่นี้จะเสียค่าเข้า 30,000 ดอง/คน แล้วเดินต่อเข้าไปอีก ราว5นาที ก็ถึงตัวน้ำตก เราอยู่ที่นี้กันเกือบชั่วโมง
แล้วเดินทางต่อ ตอน8:30 เพื่อไปยังด่าน Na Meo (เวียดนาม) - Nam Xoi (ลาว) กว่าจะมาถึงก็ ตอน 14:30 ใช้เวลาเดินทาง ราว6ชั่วโมง กับระยะทางเกือบ 200km. แล้วทำเรื่องผ่านด่าน เพื่อไปต่อยัง #ภูผาที
############
สามารถดู รีวิว ภูผาที ได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้
https://ppantip.com/topic/38341199