เนื่องจากรถตกหลุมแล้วทางศูนย์เรียกให้เอารถเข้าซ่อมจะได้ได้รถทันใช้ก่อนปีใหม่
เลยเอารถไปเข้าศูนย์ที่เลี่ยงเมืองชลบุรี ทางศูนย์มีบริการส่งเราด้วย แต่พิกัดต้องไม่ไกลเกินไป
ถามแล้วให้มาส่งที่บ้านเลยได้มั้ย เค้าบอกไม่ได้ 

เป็นเหตุให้ต้องนั่งรถเมลล์ในรอบ 20 ปีของเรา
ตอนแรกกะเรียกแกร๊บคาร์ ลองกดดูระยะทาง+ค่าเดินทางแล้ว 214-240 บาท

เจอค่ารถไปแพงงงง จัง เลยคิดว่านั่งรถเมลล์กลับบ้านก็ได้ 20 กว่าโลไม่ได้ไกล แต่ไม่ใกล้ 
เดินไปขึ้นรถ กะเวลาแล้วว่าน่าจะทันเที่ยว 9.30 -10.00 น พอดี 
ทางศูนย์มาส่งที่ท่ารถ แต่เราคิดว่าเดินไปขึ้นที่ท่ารถต้นทางดีกว่า
ระหว่างนั้นปวดฉี่ก็แวะตรง4แยกมีห้องน้ำ 5 บาทให้เข้า เราจบไป
เดินขึ้นสะพานลอยข้ามไปฝั่งโน้นขึ้นต้นทาง

มาถึงก็ถามคนขับว่าออกกี่โมง เค้าบอก 9.30 น.

โอเค พอดีๆเหลือนั่งเล่นชิลด์ๆ สัก 10 นาที (ทันคุณผู้ชายไปเข้าห้องน้ำในวัดได้พอดี)

ด้วยความที่อากาศไม่ร้อน และลมเย็นกำลังดี ไม่อึดอัด มีเพื่อนโดยสารในรถสัก 10 คน
นั่งคำนวนกันว่า เที่ยวนึงกี่บาท
เพราะค่าโดยสารตลอดสาย 20 บาท
นับๆแล้ว เที่ยวกลับพนัสนิคม 10กว่าคนก็ราวๆ 240-280 บาท(มีขึ้นระหว่างทางคนสองคนค่ะ) 
อืมมมม คุ้มค่าน้ำมันมั้ยนะ 
รถใหญ่ขนาดนี้ ก็น่าจะสัก 7-8 กิโล/ลิตร 

ออกจากชลบุรี 9.30 ถึงบ้าน 10.45 น. ในราคา 20 บาท 
ด้วยช่วงเวลาที่เดินทางเป็นครึ่งวันเช้า คนเดินทางน้อย รถไม่ติดเท่าไร
แต่ถ้าช่วงครึ่งวันบ่ายหรือเลิกงานคนน่าจะเต็มรถเพราะมีเด็กนักเรียนนักศึกษาด้วย 


สรุปว่า การขึ้นรถเมลล์ร้อนของเราก็ไม่ได้แตกต่างจาก20ปีที่แล้วนัก 
เพียงแค่ค่าโดยสารอาจจะแพงขึ้น 
คนนั่งรถน้อยลงและได้รับลมพร้อมฝุ่นในเวลาเดียวกัน 
(ผมกระเซิงเล็กน้อย ต้องมัดรวบ) 

ถือว่าเป็นการเดินทางที่ประหยัดเงิน แต่ไม่ประหยัดเวลาเท่าไร เป็นทางเลือกที่ดีพอสมควร
ด้วยว่าคนใช้รถยนต์ส่วนตัว มอไซค์ มากขึ้นทำให้เที่ยวรถลดน้อยลงต่อวันจะเหลือแค่ 2-3 รอบ
ยังไงถ้าไม่เร่งไม่รีบ ใช้ขนส่งสาธารณะก็เป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ค่ะ 

สำหรับคนที่จะมาเที่ยวพื้นที่ชลบุรี สอบถามรถสาธารณะได้ที่ วินมอไซค์ นะคะ เค้ารู้ดีและได้ข้อมูลที่แน่นอนสุดค่ะ