ลมหนาวมาแล้ว…ผู้สูงวัยมีไข้ เหนื่อย หอบง่าย ระวัง!ปอดบวม
หลายพื้นที่ของประเทศไทยเริ่มมีลมหนาวมาเยือนให้รู้สึกเย็นกันบ้างแล้ว แต่อีกสิ่งที่มักมาพร้อมกับอากาศหนาวนั่นก็คือ โรคภัยไข้เจ็บอากาศที่หนาวเย็นนี้อาจทำให้หลายคนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจมากขึ้น โดยโรคที่พบได้บ่อยในช่วงนี้คือ “โรคปอดบวม”
โรคนี้มักเกิดแทรกซ้อนตามหลังโรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กอายุเล็กและผู้ที่มีโรคประจำตัวโดยหลังจากเป็นไข้หวัดประมาณ 3 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอมีเสมหะ น้ำมูกเปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีเขียวข้น เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบง่าย เด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาจจะมีอาการเหล่านี้ไม่ชัดเจน จึงควรให้ความใส่ใจมากกว่าปกติครับ
โดยในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้และอาการซึมลง ส่วนในเด็กเล็กจะมีไข้สูง ซึม ไม่กินนมหรือน้ำหายใจหอบเร็วหายใจมีเสียงดังหวีดหรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที ซึ่งหากติดเชื้อรุนแรงหรือไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้ครับ
การป้องกันโรคปวดบวดที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ ทำได้โดยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง สวมใส่เสื้อผ้าหนาเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือบ่อยๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ เพราะเป็นเหตุนำให้ป่วยเป็นโรคปอดบวมและไม่คลุกคลีหรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนแออัดมาก
หากรู้สึกไม่ค่อยสบาย ควรนอนพักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำบ่อยๆ รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เวลาไอ จาม ใช้ผ้าปิดจมูก
ปิดปาก รับประทานยาลดไข้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็คตัว แต่ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีไข้สูงเกิน 2 วัน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม... ดูแลรักษาสุขภาพกันให้ดีๆ นะครับ หมอเป็นห่วง
ระวัง.. โรคที่มากับหน้าหนาว
หลายพื้นที่ของประเทศไทยเริ่มมีลมหนาวมาเยือนให้รู้สึกเย็นกันบ้างแล้ว แต่อีกสิ่งที่มักมาพร้อมกับอากาศหนาวนั่นก็คือ โรคภัยไข้เจ็บอากาศที่หนาวเย็นนี้อาจทำให้หลายคนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจมากขึ้น โดยโรคที่พบได้บ่อยในช่วงนี้คือ “โรคปอดบวม”
โรคนี้มักเกิดแทรกซ้อนตามหลังโรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กอายุเล็กและผู้ที่มีโรคประจำตัวโดยหลังจากเป็นไข้หวัดประมาณ 3 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอมีเสมหะ น้ำมูกเปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีเขียวข้น เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบง่าย เด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาจจะมีอาการเหล่านี้ไม่ชัดเจน จึงควรให้ความใส่ใจมากกว่าปกติครับ
โดยในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้และอาการซึมลง ส่วนในเด็กเล็กจะมีไข้สูง ซึม ไม่กินนมหรือน้ำหายใจหอบเร็วหายใจมีเสียงดังหวีดหรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที ซึ่งหากติดเชื้อรุนแรงหรือไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้ครับ
การป้องกันโรคปวดบวดที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ ทำได้โดยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง สวมใส่เสื้อผ้าหนาเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือบ่อยๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ เพราะเป็นเหตุนำให้ป่วยเป็นโรคปอดบวมและไม่คลุกคลีหรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนแออัดมาก
หากรู้สึกไม่ค่อยสบาย ควรนอนพักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำบ่อยๆ รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เวลาไอ จาม ใช้ผ้าปิดจมูก
ปิดปาก รับประทานยาลดไข้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็คตัว แต่ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีไข้สูงเกิน 2 วัน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม... ดูแลรักษาสุขภาพกันให้ดีๆ นะครับ หมอเป็นห่วง