ใครที่สนใจเล่นหุ้น คงเคยได้ยินชื่อเสียง วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ชาวมะกัน วัย 83 ปี คุณป๋าร่ำรวยจากการลงทุนในตลาดหุ้น จนอู้ฟู่เป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจเบิร์คเชียร์ ฮาธาเวย์ สร้างกำไรมหาศาลถึง 513.055% ตั้งแต่ปี 1964-2011
แม้จะขึ้นหิ้งเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 3 ของโลก ครองสินทรัพย์ 53,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่คุณป๋าก็ยังใช้ชีวิตสมถะสุดๆ ชีวิตนี้ไม่มีมือถือ ไม่สนคอมพิวเตอร์ และไม่พกบัตรเครดิต ปัจจุบันยังอยู่บ้านหลังเดิมที่เป็นเรือนหอ ขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา ชอบทานสเต๊กร้านเล็กๆเจ้าประจำ และขับรถไปทำงานเองทุกวัน
เซียนหุ้นระดับตำนานโลก เปรียบสไตล์การลงทุนของตนเองว่า เหมือนสิงโตซุ่มในพงหญ้ารอตะครุบเหยื่อที่เข้ามาใกล้กรงเล็บ!! ทรรศนะนี้สะท้อนถึงสไตล์การลงทุนที่อดทน มุ่งเน้นการสร้างผลกำไรระดับน่าพอใจ โดยไม่เสี่ยงมากนัก ขณะเดียวกัน ก็ให้น้ำหนักกับพื้นฐาน และมูลค่าหุ้นแท้จริง ถือเป็นต้นแบบการลงทุนแนวเน้นคุณค่า หรือ VI
ในยามที่ตลาดหุ้นไทยดิ่งเหวลึก เพราะถูกฝรั่งเทขายจนเลือดไหลไม่หยุด ขอซับน้ำตาแมลงเม่าปีกหัก และนักลงทุนทุกสายพันธุ์ ด้วย 9 กฎเหล็กการลงทุนในตลาดหุ้นของ “คุณป๋าวอร์เรน” ถ้าเดินตามรอยนี้รับรองว่ารบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง!!
กฎข้อแรก อย่าปล่อยให้เงินต้นสูญเด็ดขาด ฟังดูเหมือนง่าย แต่ทำยาก เพราะถ้าซื้อขายหุ้นผิดจังหวะ ก็มีแต่ขาดทุน กระนั้น คุณป๋าเชื่อมั่นในการซื้อหุ้นแบบเน้นคุณค่า ไม่ได้ซื้อเพราะราคาหุ้น ด้วยเหตุนี้จึงเลือกซื้อหุ้นดีในราคาเหมาะสม ไม่ซื้อเพื่อเก็งกำไรเด็ดขาด
กฎข้อที่สอง อดทน...อดทน และอดทน การเล่นหุ้นต้องอาศัยความอดทนสูง และความมีวินัย คุณป๋าจะไม่มีวันซื้อไล่ราคาเพื่อให้ได้ครองหุ้นในฝัน แต่จะนั่งรอคอยด้วยความอดทนจนกว่าจะถึงเวลาเหมาะสม ค่อยลุยทีเดียว โดยไม่สนโอกาสทำกำไรระยะสั้น
กฎข้อที่สาม อย่าลงทุนในธุรกิจที่ไม่เข้าใจ ประเภททำธุรกิจอะไรยังไม่รู้ ห้ามยุ่งเด็ดขาด!! คุณไม่มีทางเชื่อมั่นในสิ่งที่ไม่เข้าใจลึกซึ้ง ความเชื่อมั่นและรู้จริงนี่เองจะช่วยให้ซื้อหุ้นถูกตัวในเวลาเหมาะสม
กฎข้อที่สี่ เป็นเรื่องดีกว่ามาก ถ้าจะซื้อหุ้นบริษัทยอดเยี่ยมในราคาปานกลาง เมื่อเทียบกับการซื้อหุ้นบริษัทปานกลางในราคาน่าพอใจ ราคาหุ้นมักเคลื่อนไหวตามอารมณ์นักลงทุน และไม่ใช่ดัชนีบ่งชี้คุณค่าแท้จริงของหุ้น ไม่ว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลงก็ช่าง ให้โฟกัสที่คุณค่าและพื้นฐานของหุ้น
กฎข้อที่ห้า เลือกซื้อเฉพาะหุ้นที่คุณพอใจจะถือยาว หากตลาดหุ้นต้องปิดเป็นเวลา 10 ปี การใช้กฎข้อนี้จะทำให้ได้หุ้นคุณภาพ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยไม่ต้องคำนึงถึงราคาหุ้น
กฎข้อที่หก รักเดียวใจเดียว คุณป๋าซื้อหุ้นตัวไหนก็จะเก็บเข้าพอร์ตยาวและช้อนซื้อเมื่อมีจังหวะ
กฎข้อที่เจ็ด เป็นเรื่องฉลาดที่จะคลุกคลีกับคนเก่งกว่าเรา สะท้อนให้เห็นถึงความถ่อมเนื้อถ่อมตนของคุณป๋า การจะเล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จ ต้องทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมรับสิ่งใหม่ๆเสมอ
กฎข้อที่แปด เราควรกลัวในยามที่คนอื่นโลภ และควรโลภในยามที่คนอื่นกลัว!! ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความหวัง, ความโลภ และความกลัว ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางราคาหุ้น ในยามที่นักลงทุนหวาดกลัว คุณป๋าจะเข้าซื้อบริษัทชั้นยอดในราคาถูก ซึ่งผ่านการศึกษาข้อมูลมาชัวร์ จนไม่หวั่นไหวกับราคาที่แกว่งตัว
กฎข้อที่เก้า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ต้องใช้สมองผสมวินัยทางอารมณ์ การใช้สมองมาจากการทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆของหุ้น ขณะที่วินัยทางอารมณ์หมายถึงความสามารถในการรอจังหวะซื้อในราคาเหมาะสม คุณไม่ควรซื้อไล่ราคาในภาวะตลาดกระทิง และไม่ควรหวาดกลัวในภาวะตลาดหมี ลองฝึกควบคุมอารมณ์ เพื่อพัฒนาฝีมือการลงทุนไปอีกขั้น ถ้าใจไม่นิ่งทำอะไรก็พลาด!!
สิ่งที่ปู่บัฟเฟตต์ กล่าวมาทั้งหมด ต้องบูชาขึ้นหิ้งเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์กันเลยทีเดียว เพราะคือคำภีร์แห่งความร่ำรวยในตลาดอย่างแท้จริง
ปู่สอนหลาน
ใครที่สนใจเล่นหุ้น คงเคยได้ยินชื่อเสียง วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ชาวมะกัน วัย 83 ปี คุณป๋าร่ำรวยจากการลงทุนในตลาดหุ้น จนอู้ฟู่เป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจเบิร์คเชียร์ ฮาธาเวย์ สร้างกำไรมหาศาลถึง 513.055% ตั้งแต่ปี 1964-2011
แม้จะขึ้นหิ้งเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 3 ของโลก ครองสินทรัพย์ 53,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่คุณป๋าก็ยังใช้ชีวิตสมถะสุดๆ ชีวิตนี้ไม่มีมือถือ ไม่สนคอมพิวเตอร์ และไม่พกบัตรเครดิต ปัจจุบันยังอยู่บ้านหลังเดิมที่เป็นเรือนหอ ขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา ชอบทานสเต๊กร้านเล็กๆเจ้าประจำ และขับรถไปทำงานเองทุกวัน
เซียนหุ้นระดับตำนานโลก เปรียบสไตล์การลงทุนของตนเองว่า เหมือนสิงโตซุ่มในพงหญ้ารอตะครุบเหยื่อที่เข้ามาใกล้กรงเล็บ!! ทรรศนะนี้สะท้อนถึงสไตล์การลงทุนที่อดทน มุ่งเน้นการสร้างผลกำไรระดับน่าพอใจ โดยไม่เสี่ยงมากนัก ขณะเดียวกัน ก็ให้น้ำหนักกับพื้นฐาน และมูลค่าหุ้นแท้จริง ถือเป็นต้นแบบการลงทุนแนวเน้นคุณค่า หรือ VI
ในยามที่ตลาดหุ้นไทยดิ่งเหวลึก เพราะถูกฝรั่งเทขายจนเลือดไหลไม่หยุด ขอซับน้ำตาแมลงเม่าปีกหัก และนักลงทุนทุกสายพันธุ์ ด้วย 9 กฎเหล็กการลงทุนในตลาดหุ้นของ “คุณป๋าวอร์เรน” ถ้าเดินตามรอยนี้รับรองว่ารบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง!!
กฎข้อแรก อย่าปล่อยให้เงินต้นสูญเด็ดขาด ฟังดูเหมือนง่าย แต่ทำยาก เพราะถ้าซื้อขายหุ้นผิดจังหวะ ก็มีแต่ขาดทุน กระนั้น คุณป๋าเชื่อมั่นในการซื้อหุ้นแบบเน้นคุณค่า ไม่ได้ซื้อเพราะราคาหุ้น ด้วยเหตุนี้จึงเลือกซื้อหุ้นดีในราคาเหมาะสม ไม่ซื้อเพื่อเก็งกำไรเด็ดขาด
กฎข้อที่สอง อดทน...อดทน และอดทน การเล่นหุ้นต้องอาศัยความอดทนสูง และความมีวินัย คุณป๋าจะไม่มีวันซื้อไล่ราคาเพื่อให้ได้ครองหุ้นในฝัน แต่จะนั่งรอคอยด้วยความอดทนจนกว่าจะถึงเวลาเหมาะสม ค่อยลุยทีเดียว โดยไม่สนโอกาสทำกำไรระยะสั้น
กฎข้อที่สาม อย่าลงทุนในธุรกิจที่ไม่เข้าใจ ประเภททำธุรกิจอะไรยังไม่รู้ ห้ามยุ่งเด็ดขาด!! คุณไม่มีทางเชื่อมั่นในสิ่งที่ไม่เข้าใจลึกซึ้ง ความเชื่อมั่นและรู้จริงนี่เองจะช่วยให้ซื้อหุ้นถูกตัวในเวลาเหมาะสม
กฎข้อที่สี่ เป็นเรื่องดีกว่ามาก ถ้าจะซื้อหุ้นบริษัทยอดเยี่ยมในราคาปานกลาง เมื่อเทียบกับการซื้อหุ้นบริษัทปานกลางในราคาน่าพอใจ ราคาหุ้นมักเคลื่อนไหวตามอารมณ์นักลงทุน และไม่ใช่ดัชนีบ่งชี้คุณค่าแท้จริงของหุ้น ไม่ว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลงก็ช่าง ให้โฟกัสที่คุณค่าและพื้นฐานของหุ้น
กฎข้อที่ห้า เลือกซื้อเฉพาะหุ้นที่คุณพอใจจะถือยาว หากตลาดหุ้นต้องปิดเป็นเวลา 10 ปี การใช้กฎข้อนี้จะทำให้ได้หุ้นคุณภาพ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยไม่ต้องคำนึงถึงราคาหุ้น
กฎข้อที่หก รักเดียวใจเดียว คุณป๋าซื้อหุ้นตัวไหนก็จะเก็บเข้าพอร์ตยาวและช้อนซื้อเมื่อมีจังหวะ
กฎข้อที่เจ็ด เป็นเรื่องฉลาดที่จะคลุกคลีกับคนเก่งกว่าเรา สะท้อนให้เห็นถึงความถ่อมเนื้อถ่อมตนของคุณป๋า การจะเล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จ ต้องทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมรับสิ่งใหม่ๆเสมอ
กฎข้อที่แปด เราควรกลัวในยามที่คนอื่นโลภ และควรโลภในยามที่คนอื่นกลัว!! ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความหวัง, ความโลภ และความกลัว ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางราคาหุ้น ในยามที่นักลงทุนหวาดกลัว คุณป๋าจะเข้าซื้อบริษัทชั้นยอดในราคาถูก ซึ่งผ่านการศึกษาข้อมูลมาชัวร์ จนไม่หวั่นไหวกับราคาที่แกว่งตัว
กฎข้อที่เก้า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ต้องใช้สมองผสมวินัยทางอารมณ์ การใช้สมองมาจากการทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆของหุ้น ขณะที่วินัยทางอารมณ์หมายถึงความสามารถในการรอจังหวะซื้อในราคาเหมาะสม คุณไม่ควรซื้อไล่ราคาในภาวะตลาดกระทิง และไม่ควรหวาดกลัวในภาวะตลาดหมี ลองฝึกควบคุมอารมณ์ เพื่อพัฒนาฝีมือการลงทุนไปอีกขั้น ถ้าใจไม่นิ่งทำอะไรก็พลาด!!
สิ่งที่ปู่บัฟเฟตต์ กล่าวมาทั้งหมด ต้องบูชาขึ้นหิ้งเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์กันเลยทีเดียว เพราะคือคำภีร์แห่งความร่ำรวยในตลาดอย่างแท้จริง