วันนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศที่ท่องเที่ยวในจังหวัดไซตามะ (Saitama) อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโตเกียว มีครบทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม กิจกรรมสนุกๆ อาหารอร่อย เดินทางสบาย ไปเช้าเย็นกลับได้ ชื่อก็คือ Chichibu นั้นเอง ที่นี้อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยเท่าไหร่ แต่หลังจากที่อ่านโพสต์นี้อาจจะอยากไปกันมากขึ้นก็ได้ ลองไปดูภาพบรรยากาศที่เก็บเอามาฝากทุกคนกันครับ
เราจะใช้บริการรถไฟสาย Seibu ซึ่งเป็นรถไฟที่วิ่งไปทางฝั่งตะวันตกตอนเหนือของโตเกียวครับ โดยเราจะต้องมาที่สถานี Seibu-Ikebukuro ก่อน เพื่อนๆสามารถเดินทางมาที่สถานี Ikebukoro ของสาย JR และ Metro Subway
ออกจากสถานีแล้วเดินมาที่สาย Seibu เพื่อเปลี่ยนสายนะครับ (ทั้งสามสายอยู่ติดกัน)
จากนั้นเดินหา Seibu Tourist Information Center บริเวณ ชั้น 1F หน้า East Exit ของสาย Seibu
ที่นี้เราสามารถขอข้อมูลแผนที่ (ภาษาอังกฤษหรือไทย) จาก Staff แนะนำท่องเที่ยว และซื้อตั๋ว Seibu 1 Day Pass+Nagatoro
Seibu 1 Day Pass+Nagatoro
• ครอบคลุมสายรถไฟสายปกติจาก Seibu-Ikebukuro ถึง SeibuChichibu(เดินทาง 100 นาที)
รวมรวมสายChichibu Railway จากสถานี Nogami/Nagatoro ถึง Mitsumineguchi
• ไม่มีการจองที่นั่ง ต้องมีการเปลี่ยนรถแล้วแต่ตารางเวลาเดินทาง
• ครอบคลุมสายรถไฟ Chichibu Railway (สายรถไฟในท้องถิ่น)
• ซื้อได้ที่ Seibu Tourist Information Center (โชว์พาสปอร์ต)
• ราคา 1500 เยน
แนะนำเพิ่มเป็นทางเลือกสำหรับใครที่อยากได้ความสะดวกสบายเพิ่มเติมนะครับ
New Red Arrow (NRA)
• รถไฟ Express ช่วยประหยัดเวลาเร็วขึ้น 20 นาที วิ่งตรงไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ
• จองที่นั่งได้ มีห้องน้ำ Wifi สามารถรับประทานอาหารบนรถได้
• ซื้อได้ที่ ตู้ขายตั๋วสถานี Seibu-Ikebukuro
• จ่ายเพิ่ม 700 เยน
เดินทางมาถึงสถานี Seibu-Chichibu อย่าลืมหยิบแผนที่ เตรียมตัวออกเดินทาง ที่สถานีมีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก
แล้วก็โรงอาบน้ำร้อนออนเซนด้วยนะ แพลนเที่ยววันนี้เราเน้นการทัวร์ศาลเจ้าสำคัญและชมธรรมชาติตามนี้ครับ
Chichibu Shrine
เดินจากสถานี Seibu-Chichibu 10 นาที
หรือ นั่งรถไฟมาลงสถานี Chichibu (Chichibu Railway) แล้วเดินจากสถานี 1 นาที
บรรยากาศก่อนเข้าศาลเจ้า เริ่มมีใบไม้แดงให้เห็นแล้ว ถ้ามาปลายกลางเดือนพฤจิกายนน่าจะแดงสดสวย
มาถึงเมือง Chichibu ทั้งทีต้องมาสักการะศาลเจ้าท้องถิ่นก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล
รู้มั้ย? ที่ศาลเจ้านี้มีรูปแกะสลักลิงสามตัว คล้ายๆกับศาลเจ้าที่ Nikko แต่ความหมายจะไม่เหมือนกัน
ตรงที่ลิงสามตัวที่นี้เตือนให้ทุกคนตั้งใจดู ฟัง และพูดเพื่อให้อยู่ในสังคมที่ข้อมูลใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลาได้อย่างมีความสุข
แต่มาที่นี้ไม่ต้องเสียเงินค่าเข้าศาลเจ้าแบบ Nikko นะ
ไฮไลท์ของศาลเจ้า Chichibu เลย คือใบเสี่ยงทายอักษรน้ำ ดูจากรูปก็เหมือนจะเป็นกระดาษธรรมดา
แต่พอแกะออกมาดูจะไม่เห็นคำทำนายเขียนอยู่ จนกว่าเราจะเอาใบทำนายไปลอยน้ำที่บ่อน้ำในศาลเจ้า
แล้วตัวอักษรจะปรากฏออกมาให้เราเห็น เป็นกิมมิกที่น่าสนใจมาก ถ้าได้ผลทำนายออกมาดีก็เป่าให้แห้งแล้วเก็บไว้
ถ้าไม่ดีก็เอาไปผูกทิ้งไว้ในศาลเจ้า
Hijiri Shrine
นั่งรถไฟจากสถานี Chichibu มาลงสถานี Wado-Kuroya (Chichibu Railway) แล้วเดินจากสถานี 7 นาที
เมื่อมาถึงสถานีเราจะเห็นรูปปั้นจำลองเหรียญเงินญี่ปุ่นอยู่ที่ชานชะลา บ่งบอกว่าเราเดินทางมาถึงที่หมายแล้ว
จากนั้นเดินตามถนนหน้าสถานีสักพักจะเจอกับป้ายบอกทางเข้าศาลเจ้าครับ
มาสักการะศาลเจ้าสักหน่อยก่อนเดินไปดูจุดไฮไลท์ของที่นี้
สัญลักษณ์ของที่นี้คือเหรียญเงินญี่ปุ่น เพราะเชื่อกันว่าที่นี้เป็นจุดกำเนิดของการสร้างเหรียญเงินใช้ครั้งแรก
ของประเทศญี่ปุ่นและมีการขุดพบแร่ทองแดงเยอะมากในอดีตที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเหรียญ
ห่างออกไปข้างๆศาลเจ้า จะมีทางเดินพาเราไปตีนเขาและจะพบกับรูปปั้นเหรียญเงินแบบเดียวกับที่สถานีรถไฟ
จุดเด่นคือเหรียญมีขนาดใหญ่มากเกือบ 4 เมตร เป็นจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจมากทีเดียว
Lunch Time
นั่งรถไฟจากสถานี Wado-Kuroya มาลงสถานี Nagatoro (Chichibu Railway) แล้วเดินจากสถานี 5 นาที
จนถึงตอนนี้ น่าจะหิวกันแล้วเรามีร้านอาหารแนะนำชื่อว่า “Teras” อยู่ไม่ไกลจากสถานี Nagatoro เมนูขึ้นชื่อของเมือง Chichibu
คือ ข้าวหน้าหมูย่างซอสมิโซะ (Butayaki Miso Don) หมูชิ้นโตหมักซอสมิโซะ เนื้อนุ่ม ย่างไฟบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ
และ ข้าวหน้าหมูทอดวาราจิ (Waraji Katsudon) โดยหมูทอดจะเป็นแผ่นใหญ่ แบน ปิดถ้วยจนมองไม่เห็นข้าว
ด้วยรูปร่างหมูทอดแบบนี้ คล้ายกับรองเท้าไม้สานญี่ปุ่นที่เรียกว่า วาราจิ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเมนูนั้นเอง
ทั้งสองเป็นเมนูห้ามพลาดเป็นอันขาด ส่วนตัวบอกไม่ได้ว่าอันไหนอร่อยกว่า เพราะว่าชอบทั้งคู่เลย ฮ่าๆ
Hodosan Shrine
เดินจากสถานี Nagatoro 10 นาที
แวะมาอีกหนึ่งศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงด้านหน้าภูเขา Hodosan
ศาลเจ้าที่นี้ มีจุดเด่นคือประตูทางเข้าเป็นสีขาว อยู่ใกล้กับภูเขามีบรรยากาศธรรมชาติสวยงามมาก
Hodosan Ropeway
Option เสริมหากใครอยากชมวิวพระอาทิตย์ตกดินหรือทะเลหมอกช่วงหน้าหนาว บริเวณหน้าศาลเจ้า Hodosan Shrine
จะมี สถานี Ropeway นั่งกระเช้าไปกลับราคา 820 เยน ถ้าหากพอมีเวลาเหลือ หรือ อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากศาลเจ้าบ้างก็แนะนำครับ
Dessert Time
ู
อยู่ระหว่างสถานี Nagatoro และศาลเจ้า Hodosan Shrine
ร้านน้ำแข็งไส
Asami Reizou
เดินเที่ยวกันมาเหนื่อยๆ แวะกินน้ำแข็งไสหวานๆให้ชื่นใจ เป็นอีกหนึ่งของขึ้นชื่อของเมือง Chichibu
น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ ราดนมข้นหวาน หรือเลือกกินกับ ชาเขียว หรือ ถั่วแดงก็อร่อย!
Nagatoro River Boating
หลังสถานี Nagatoro เดิน 5นาที
จากนั้นเราจะเดินกลับมายังสถานี Nagatoro เพื่อที่จะซื้อตั๋วล่องแม่น้ำกับกิจกรรม Nagatoro Line Kudari ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของทริป
เพื่อนๆสามารถเลือกคอร์สการล่องเรือได้ ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 20-30 นาที แล้วแต่ความยาว วันนี้เราจะพาไปดู คอร์ส B ราคา 1600 เยน
เราจะนั่งบนเรือไม้โดยมีคนพายสองคนหน้าหลังคอยพาเราฝ่าสายน้ำเชี่ยวและชมความงามของธรรมชาติตลอดทาง
ตลอดทางคนพายเรือด้านหลังก็จะค่อยเล่าเรื่องสนุกๆให้เราฟัง (ภาษาญี่ปุ่นนะ ฮ่าๆ) บางจุดของแม่น้ำอาจจะเชี่ยวอยู่บ้าง
แต่ไม่ถึงกับอันตราย เพราะเราชุดชูชีพและพลาสติกกันเปียกอยู่ตามขอบเรือ (แต่ก็อาจจะมีเปียกบ้างเล็กน้อย)
ตลอดทางเราจะได้เห็นวิวธรรมชาติริมแม่น้ำ หากมาช่วงใบไม้แดงก็จะเห็นสีแดง ส้ม เหลือง สวยตลอดทาง
ถ้ามาช่วงหน้าร้อน น้ำในแม่น้ำก็จะเชี่ยวหน่อย ก็จะได้ความเร้าใจไปอีกแบบ ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ค่อยมีในที่เที่ยวอื่นๆของญี่ปุ่นเลย
สุดท้ายเราก็เดินทางกลับมายัง Seibu-Chichibu เพื่อนั่งรถไฟกลับ Seibu Ikebukuroแล้วก็เป็นอันจบทริป
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ ทริป Chichibu 1 วัน ส่วนตัวเท่าที่เคยไปที่เที่ยวดังๆส่วนใหญ่รอบๆโตเกียวมาหมดแล้ว ถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจและเป็นการเปิดประสบการ์ณใหม่ๆ ใครเคยมาโตเกียวแล้ว อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศแนะนำให้ลองมา Chichibu รับรองว่าจะประทับใจแน่นนอน
[SR] เที่ยวชิชิบุ 1 วันด้วยตัวเอง (Chichibu, Saitama)
วันนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศที่ท่องเที่ยวในจังหวัดไซตามะ (Saitama) อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโตเกียว มีครบทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม กิจกรรมสนุกๆ อาหารอร่อย เดินทางสบาย ไปเช้าเย็นกลับได้ ชื่อก็คือ Chichibu นั้นเอง ที่นี้อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยเท่าไหร่ แต่หลังจากที่อ่านโพสต์นี้อาจจะอยากไปกันมากขึ้นก็ได้ ลองไปดูภาพบรรยากาศที่เก็บเอามาฝากทุกคนกันครับ
เราจะใช้บริการรถไฟสาย Seibu ซึ่งเป็นรถไฟที่วิ่งไปทางฝั่งตะวันตกตอนเหนือของโตเกียวครับ โดยเราจะต้องมาที่สถานี Seibu-Ikebukuro ก่อน เพื่อนๆสามารถเดินทางมาที่สถานี Ikebukoro ของสาย JR และ Metro Subway
ออกจากสถานีแล้วเดินมาที่สาย Seibu เพื่อเปลี่ยนสายนะครับ (ทั้งสามสายอยู่ติดกัน)
จากนั้นเดินหา Seibu Tourist Information Center บริเวณ ชั้น 1F หน้า East Exit ของสาย Seibu
ที่นี้เราสามารถขอข้อมูลแผนที่ (ภาษาอังกฤษหรือไทย) จาก Staff แนะนำท่องเที่ยว และซื้อตั๋ว Seibu 1 Day Pass+Nagatoro
Seibu 1 Day Pass+Nagatoro
• ครอบคลุมสายรถไฟสายปกติจาก Seibu-Ikebukuro ถึง SeibuChichibu(เดินทาง 100 นาที)
รวมรวมสายChichibu Railway จากสถานี Nogami/Nagatoro ถึง Mitsumineguchi
• ไม่มีการจองที่นั่ง ต้องมีการเปลี่ยนรถแล้วแต่ตารางเวลาเดินทาง
• ครอบคลุมสายรถไฟ Chichibu Railway (สายรถไฟในท้องถิ่น)
• ซื้อได้ที่ Seibu Tourist Information Center (โชว์พาสปอร์ต)
• ราคา 1500 เยน
แนะนำเพิ่มเป็นทางเลือกสำหรับใครที่อยากได้ความสะดวกสบายเพิ่มเติมนะครับ
New Red Arrow (NRA)
• รถไฟ Express ช่วยประหยัดเวลาเร็วขึ้น 20 นาที วิ่งตรงไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ
• จองที่นั่งได้ มีห้องน้ำ Wifi สามารถรับประทานอาหารบนรถได้
• ซื้อได้ที่ ตู้ขายตั๋วสถานี Seibu-Ikebukuro
• จ่ายเพิ่ม 700 เยน
เดินทางมาถึงสถานี Seibu-Chichibu อย่าลืมหยิบแผนที่ เตรียมตัวออกเดินทาง ที่สถานีมีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก
แล้วก็โรงอาบน้ำร้อนออนเซนด้วยนะ แพลนเที่ยววันนี้เราเน้นการทัวร์ศาลเจ้าสำคัญและชมธรรมชาติตามนี้ครับ
Chichibu Shrine
เดินจากสถานี Seibu-Chichibu 10 นาที
หรือ นั่งรถไฟมาลงสถานี Chichibu (Chichibu Railway) แล้วเดินจากสถานี 1 นาที
บรรยากาศก่อนเข้าศาลเจ้า เริ่มมีใบไม้แดงให้เห็นแล้ว ถ้ามาปลายกลางเดือนพฤจิกายนน่าจะแดงสดสวย
มาถึงเมือง Chichibu ทั้งทีต้องมาสักการะศาลเจ้าท้องถิ่นก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล
รู้มั้ย? ที่ศาลเจ้านี้มีรูปแกะสลักลิงสามตัว คล้ายๆกับศาลเจ้าที่ Nikko แต่ความหมายจะไม่เหมือนกัน
ตรงที่ลิงสามตัวที่นี้เตือนให้ทุกคนตั้งใจดู ฟัง และพูดเพื่อให้อยู่ในสังคมที่ข้อมูลใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลาได้อย่างมีความสุข
แต่มาที่นี้ไม่ต้องเสียเงินค่าเข้าศาลเจ้าแบบ Nikko นะ
ไฮไลท์ของศาลเจ้า Chichibu เลย คือใบเสี่ยงทายอักษรน้ำ ดูจากรูปก็เหมือนจะเป็นกระดาษธรรมดา
แต่พอแกะออกมาดูจะไม่เห็นคำทำนายเขียนอยู่ จนกว่าเราจะเอาใบทำนายไปลอยน้ำที่บ่อน้ำในศาลเจ้า
แล้วตัวอักษรจะปรากฏออกมาให้เราเห็น เป็นกิมมิกที่น่าสนใจมาก ถ้าได้ผลทำนายออกมาดีก็เป่าให้แห้งแล้วเก็บไว้
ถ้าไม่ดีก็เอาไปผูกทิ้งไว้ในศาลเจ้า
Hijiri Shrine
นั่งรถไฟจากสถานี Chichibu มาลงสถานี Wado-Kuroya (Chichibu Railway) แล้วเดินจากสถานี 7 นาที
เมื่อมาถึงสถานีเราจะเห็นรูปปั้นจำลองเหรียญเงินญี่ปุ่นอยู่ที่ชานชะลา บ่งบอกว่าเราเดินทางมาถึงที่หมายแล้ว
จากนั้นเดินตามถนนหน้าสถานีสักพักจะเจอกับป้ายบอกทางเข้าศาลเจ้าครับ
มาสักการะศาลเจ้าสักหน่อยก่อนเดินไปดูจุดไฮไลท์ของที่นี้
สัญลักษณ์ของที่นี้คือเหรียญเงินญี่ปุ่น เพราะเชื่อกันว่าที่นี้เป็นจุดกำเนิดของการสร้างเหรียญเงินใช้ครั้งแรก
ของประเทศญี่ปุ่นและมีการขุดพบแร่ทองแดงเยอะมากในอดีตที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเหรียญ
ห่างออกไปข้างๆศาลเจ้า จะมีทางเดินพาเราไปตีนเขาและจะพบกับรูปปั้นเหรียญเงินแบบเดียวกับที่สถานีรถไฟ
จุดเด่นคือเหรียญมีขนาดใหญ่มากเกือบ 4 เมตร เป็นจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจมากทีเดียว
Lunch Time
นั่งรถไฟจากสถานี Wado-Kuroya มาลงสถานี Nagatoro (Chichibu Railway) แล้วเดินจากสถานี 5 นาที
จนถึงตอนนี้ น่าจะหิวกันแล้วเรามีร้านอาหารแนะนำชื่อว่า “Teras” อยู่ไม่ไกลจากสถานี Nagatoro เมนูขึ้นชื่อของเมือง Chichibu
คือ ข้าวหน้าหมูย่างซอสมิโซะ (Butayaki Miso Don) หมูชิ้นโตหมักซอสมิโซะ เนื้อนุ่ม ย่างไฟบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ
และ ข้าวหน้าหมูทอดวาราจิ (Waraji Katsudon) โดยหมูทอดจะเป็นแผ่นใหญ่ แบน ปิดถ้วยจนมองไม่เห็นข้าว
ด้วยรูปร่างหมูทอดแบบนี้ คล้ายกับรองเท้าไม้สานญี่ปุ่นที่เรียกว่า วาราจิ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเมนูนั้นเอง
ทั้งสองเป็นเมนูห้ามพลาดเป็นอันขาด ส่วนตัวบอกไม่ได้ว่าอันไหนอร่อยกว่า เพราะว่าชอบทั้งคู่เลย ฮ่าๆ
Hodosan Shrine
เดินจากสถานี Nagatoro 10 นาที
แวะมาอีกหนึ่งศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงด้านหน้าภูเขา Hodosan
ศาลเจ้าที่นี้ มีจุดเด่นคือประตูทางเข้าเป็นสีขาว อยู่ใกล้กับภูเขามีบรรยากาศธรรมชาติสวยงามมาก
Hodosan Ropeway
Option เสริมหากใครอยากชมวิวพระอาทิตย์ตกดินหรือทะเลหมอกช่วงหน้าหนาว บริเวณหน้าศาลเจ้า Hodosan Shrine
จะมี สถานี Ropeway นั่งกระเช้าไปกลับราคา 820 เยน ถ้าหากพอมีเวลาเหลือ หรือ อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากศาลเจ้าบ้างก็แนะนำครับ
Dessert Time
ู
อยู่ระหว่างสถานี Nagatoro และศาลเจ้า Hodosan Shrine
ร้านน้ำแข็งไส Asami Reizou
เดินเที่ยวกันมาเหนื่อยๆ แวะกินน้ำแข็งไสหวานๆให้ชื่นใจ เป็นอีกหนึ่งของขึ้นชื่อของเมือง Chichibu
น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ ราดนมข้นหวาน หรือเลือกกินกับ ชาเขียว หรือ ถั่วแดงก็อร่อย!
Nagatoro River Boating
หลังสถานี Nagatoro เดิน 5นาที
จากนั้นเราจะเดินกลับมายังสถานี Nagatoro เพื่อที่จะซื้อตั๋วล่องแม่น้ำกับกิจกรรม Nagatoro Line Kudari ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของทริป
เพื่อนๆสามารถเลือกคอร์สการล่องเรือได้ ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 20-30 นาที แล้วแต่ความยาว วันนี้เราจะพาไปดู คอร์ส B ราคา 1600 เยน
เราจะนั่งบนเรือไม้โดยมีคนพายสองคนหน้าหลังคอยพาเราฝ่าสายน้ำเชี่ยวและชมความงามของธรรมชาติตลอดทาง
ตลอดทางคนพายเรือด้านหลังก็จะค่อยเล่าเรื่องสนุกๆให้เราฟัง (ภาษาญี่ปุ่นนะ ฮ่าๆ) บางจุดของแม่น้ำอาจจะเชี่ยวอยู่บ้าง
แต่ไม่ถึงกับอันตราย เพราะเราชุดชูชีพและพลาสติกกันเปียกอยู่ตามขอบเรือ (แต่ก็อาจจะมีเปียกบ้างเล็กน้อย)
ตลอดทางเราจะได้เห็นวิวธรรมชาติริมแม่น้ำ หากมาช่วงใบไม้แดงก็จะเห็นสีแดง ส้ม เหลือง สวยตลอดทาง
ถ้ามาช่วงหน้าร้อน น้ำในแม่น้ำก็จะเชี่ยวหน่อย ก็จะได้ความเร้าใจไปอีกแบบ ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ค่อยมีในที่เที่ยวอื่นๆของญี่ปุ่นเลย
สุดท้ายเราก็เดินทางกลับมายัง Seibu-Chichibu เพื่อนั่งรถไฟกลับ Seibu Ikebukuroแล้วก็เป็นอันจบทริป
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ ทริป Chichibu 1 วัน ส่วนตัวเท่าที่เคยไปที่เที่ยวดังๆส่วนใหญ่รอบๆโตเกียวมาหมดแล้ว ถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจและเป็นการเปิดประสบการ์ณใหม่ๆ ใครเคยมาโตเกียวแล้ว อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศแนะนำให้ลองมา Chichibu รับรองว่าจะประทับใจแน่นนอน
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม