บริษัทที่มีประวัติ หรือมีอายุกว่า 100 ปี ส่วนใหญ่มีแต่ทางเยอรมันเหรอครับ?

อ่านเจอในกระทู้ชื่อ ช่วงww2 ทำไมนาซีเยอรมันดูเป็นเจ้านวัตกรรมครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ของ สมาชิกหมายเลข 4074667  
ความคิดเห็นที่ 3

เยอรมันในช่วงเวลานั้น  มีบริษัทชั้นนำระดับโลก  อยู่หลายบริษัท  แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษในช่วงสงคราม  คือ   บริษัท Krupp  บริษัทผลิตอาวุธเก่าแก่  เพื่อป้อนรัฐเยอรมัน   มาตั้งแต่สงครามสามสิบปี (thirty years' war) หรือเมื่อเกือบ 400 ปีที่แล้ว  จนกระทั่งถึงสงครามโลกครั้งที่ 2   ผลิตอาวุธได้แทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เรือ  รถถัง  ปืนใหญ่  แน่นอนว่า เต็มไปด้วยวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์  ชั้นแนวหน้ามากมาย

และอีกหนึ่งบริษัท คือ   อีเก ฟาเบน (IG FARBEN) เป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก  ผลิตเคมีภัณฑ์  และสิ่งสังเคราะห์ต่างๆ ให้แก่กองทัพ มากมายหลายอย่าง  และโดยคำสั่งท่านผู้นำ.  บริษัทยังสามารถผลิตยางสังเคราะห์  และน้ำมันสังเคราะห์จากถ่านหิน  ขึ้นเป็นครั้งแรกด้วย   แต่ทั้งนี้  บริษัทนี้มีจุดด่างพร้อย  เพราะการใช้แรงงานทาส  จากเชลยจำนวนมาก  และเป็นไปอย่างอย่างกดขี่  ทารุณ  
แก้ไขข้อความเมื่อ 16 กันยายน 2560 เวลา 00:11 น.  

สมาชิกหมายเลข 1302302  
15 กันยายน 2560 เวลา 23:58 น.  


นอกจากเยอรมันแล้วมีบริษัทในยุโรป หรือจีนที่อายุกว่า 100 ปี และสาเหตุ หรือปัจจัยอะไรทำให้บริษัทเหล่านี้ถึงสามารถอยู่รอดมาถึงปัจจุบันครับ สงสัย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
การที่กิจการจะสามารถมีอายุยืนยาวเกิน 100 ปีได้นั้นเป็นไปได้ยากมาก   ในจำนวนบริษัทที่สามารถยืนยาวได้นานนับร้อยปีนั้นส่วนใหญ่ที่จะทำกันได้ก็คือบริษัทที่มีผลผลิตด้วยกระบวนการที่ไม่เปลียนแปลงทางด้านนวัตกรรมมากนักได้แก่ธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับสิ่งของบริโภคประจำวัน  เช่น  บริษัทผลิตเส้นหมี่  ไวน์  หรือ  ร้านอาหาร   แม้แต่ธุรกิจออนเซนของญี่ปุ่น   ฉะนั้นจึงเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะมีบริษัทที่มีอายุเกิน 100 ปี อยู่เป็นจำนวนมาก   ฉะนั้นให้สังเกตุผลิตภัณฑ์ของบริษัทญี่ปุ่นนั้นๆ ด้วย   และที่สำคัญไม่ได้บอกถึงจำนวนของพนักงานด้วยว่ามีกันกี่คน   

ซึ่งจะต่างกับเยอรมนีอย่างชัดเจน   ในเยอรมนีนั้นบริษัทที่มีกิจการเป็นร้อยปีมักจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหนักที่เกี่ยวกับโลหะ   ในจำนวน 50 บริษัทแรกที่ติดอันดับเก่าแก่นั้นมีอยู่ 12 บริษัทแล้วที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องกลที่เกี่ยวกับเหล็ก  เช่น   Achenbach Buschhütten  ซึ่งก่อตั้งตั้งแต่ปี 1452 อันเริ่มต้นจากการผลิตเหล็ก  ปัจจุบัน Achenbach    เป็นบริษัทชั้นนำของโลกทางด้าน Alu-Folienwalzwerke  หรือผลิตแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์

ดังนั้นในเยอรมนีจึงมีวลีที่เรียกประเพณีที่ธุรกิจสามารถมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปีว่า  "Innovation aus Tradition"

สำหรับบริษัทเยอรมันที่ผลิตเกี่ยวกับข้าวของเครึ่องใช้ประจำวันนั้น  มีน้อยมากที่สามารถจะมีอายุยืนยาวไปได้เป็นร้อยปีมีข้อยกเว้นอยู่ไม่กี่บริษัทเท่านั้น  ได้แก่    Niederegger บริษัทผลิต Marzipan ,   บริษัทผลิตมีดยี่ห้อตุ๊กตาคู่ Zwilling ,  บริษัทที่ผลิต porcelain ชื่อ Meissen และ BHS ผลิต  tabletop

บริษัทเยอรมันที่ประสบความสำเร็จในการมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปีนั้นส่วนใหญ่เป็นธุรกิจครอบครัวและเป็นบริษัทขนาดกลางที่เรียกกันว่า  Mittelstand  ในเยอรมนีมีนิยามสำหรับ SME ว่าจะต้องมีพนักงานลูกจ้างระหว่าง 100-500 คน  และจะต้องมีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า 50 ล้านยูโร   และบริษัทเก่าแก่เหล่านี้นับเป็น 85% ของธุรกิจเก่าแก่ที่ยังดำเนินการอยู่ถึงปัจจุบันทั้งหมด   จะเห็นว่าการจำกัดคำนิยามของบริษัทเก่าแก่ของเยอรมนีนั้นมีกำหนดอยู่อย่างชัดเจนแน่นอนซึ่งแตกต่างจากญี่ปุ่นที่มีแต่จำนวนว่ากว่า 2 หมื่น   แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น

ทางด้านสถิติแล้วมีจำนวนบริษัทเยอรมันที่สามารถยืนยาวได้นับร้อยปีอยู่เพียง 1.5% เท่านั้นจากธุรกิจที่เคยจดทะเบียนก่อตั้งมาแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดประเพณีที่ทำให้บริษัทมีธุรกิจยืนยาวได้เกินร้อยปีนั้น  มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจได้ทำการวิเคราะห์และสรุปไว้  นั่นคือ  Royal Dutch/Shell-Manager ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือ   ("The Living Company") เขาคือ   Arie de Geus    ได้สรุปปัจจัยถึงความสำเร็จของการมีธุรกิจยืนยาวไว้ดังนี้คือ:-

1)  บริษัทเก่าแก่จะมีการติดตามเพื่อตอบสนองอย่างอ่อนไหวและรวดเร็วต่อความเปลี่ยนแปลงพัฒนาก้าวหน้าใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตนเอง  และจะปรับเปลี่ยนสภาพการจัดการการบริหารธุรกิจตั้งแต่จุดศูนย์กลางอย่างทันที    ครั้งแล้วครั้งเล่า

2)  บริษัทเหล่านี้จะสร้างวัฒนธรรมประเพณีให้พนักงานเกิดความจงรักภักดีและผูกพันกับบริษัท  ไม่เพียงแต่เฉพาะในระดับผู้บริหารบริษัทเท่านั้นแต่ยังตั้งเป้าหมายนี้รวมไปถึงพนักงานของบริษัทอีกด้วย   เช่น  Krupp   จะจัดสวัสดิการให้แก่พนักงานอย่างกว้างขวางครบวงจรตั้งแต่จัดที่อยู่อาศัยรวมไปจนถึงการจัดตั้งสหกรณ์ร้านค้าสำหรับสิ่งอุปโภคบริโภคประจำวันราคาถูกสำหรับพนักงาน   แม้แต่การออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำใหแก่พนักงาน   และ  สิ่งจำเป็นทั้งหลายอื่นๆ  ทำให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับบริษัทอย่างแน่นแฟ้นเสมือนหนึ่งทุกคนอยู่ในครอบครัวเดียวกัน

3)  บริษัทเหล่านี้จะให้อิสระภาพแก่พนักงานในการวิจัยทดลองทดสอบ  "แม้แต่นอกเหนือ" ไปจากธุรกิจอันเป็นแกนสำคัญของบริษัท   ตราบใดที่ผู้บริหารเห็นว่าการริเริ่มวิจัยทดลองในด้านต่างๆ นั้นไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสี่ยงของธุรกิจของบริษัท

4)   บริษัทเหล่านี้จะบริหารธุรกิจโดยมีความเสี่ยงในด้านการเงินน้อยที่สุด   นั่นคือจะกู้เงินจากสถาบันการเงินน้อยที่สุดแต่จะอดอมเงินทุนทุกบาททุกสตางค์เอาไว้เพื่อที่ว่าเมื่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศหรือของโลกอยู่ในภาวะวิกฤต   ก็จะใช้เงินทุนของตนเองนี้ซื้อกิจการที่ซวนเซล้มละลายได้ในราคาต่ำ    และเป็นการขยายธุรกิจของตนเองออกไปให้ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ

รายชื่อบริษัทเก่าแก่ที่สุดของโลก 5 บริษัทมีดังนี้ :-

1)  Nisiyama Onsen - มีอายุธุรกิจ 1310   ของญี่ปุ่นตกทอดมาแล้วชั่วลูกหลาน 52 รุ่นจนถึงปัจจุบัน
2)  Stiftskeller St. Peter - อายุธุรกิจ 1212 ปี  ธุรกิจภัตตาคารอยู่ใน Salzburg  ปัจจุบันอยูในออสเตรีย
3)  Weihenstephaner Brauerei - อายุธุรกิจ 975 ปี  โรงงานผลิตเบียร์อยู่ในรัฐบาเยิร์น  เยอรมนี
4)  Beretta - อายุธุรกิจ 489 ปี  เป็นโรงงานผลิตอาวุธของอิตาลี
5)  Bushmill’s - อายุธุรกิจ 407 ปี  โรงงานผลิตเหล้าวิสกี้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกของไอร์แลนด์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่