ไม่ไปไม่ได้แล้ว Mahanakhon Skywalk เขาเปิดแล้วนะจ๊ะ จุดชมวิวที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่ใครๆก็พูดถึง
ต้องขอบอกว่าคนที่จะมาเยือนที่นี่มี 5 ที่สุดของมหานครสกายวอร์ค ต้องห้ามพลาด ไปดูกันเลยว่าวิวที่นี่จะสวยแค่ไหน!!!!
มหานคร สกายวอล์ค ตั้งอยู่บนชั้น 74, 75 และ 78 ของอาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร โดยมีไฮไลท์อยู่ที่จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา ตื่นตาตื่นใจไปกับหนึ่งในพื้นกระจกลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ลิฟท์ความเร็วสูงที่สามารถพาขึ้นไปชั้น 74 โดยใช้เวลาแค่ 50 วินาทีเท่านั้น
ใครอยากมาเช็คอินถ่ายรูปสวยๆวิววิว 360 องศาของกรุงเทพฯ ที่นี่ เปิดให้บริการ เวลา 10.00 – 24.00 น. (เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้าย 23.00 น.)
เดินทางง่ายสะดวกด้วย BTS ลงสถานีช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3
ช่วงนี้มี Grand Opening Promotion ด้วยนะจ๊ะ ซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิวทั้งภายในและภายนอกอาคาร ในราคา 765 บาท จากราคาเต็ม 1,050 บาท ฟรี Soft Drink 1 แก้ว (โปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 61-31 ม.ค. 62)
ได้ตั๋วมาแล้วก็ไปต่อคิวเพื่อขึ้นลิฟท์ไปชั้น 74 กันค่ะ
จากนั้นมาเริ่มด้วยจุดที่ 1 กันเลย เป็นจุดรอขึ้นลิฟท์ที่เป็นห้องกระจก ตกแต่งเรื่องราวเกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะพาไปขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 74 ด้วยความเร็วเพียง 50 วินาทีเท่านั้น ทำเอาหูอื้อกันเลยทีเดียว
ถึงชั้น 74 ด้วยความรวดเร็ว เราจะพาไปชมวิว Out Door กันก่อนที่พระอาทิตย์จะตก ซึ่งอยู่ชั้น 78 ต้องขึ้นลิฟท์แก้วขึ้นไปอีก หรือใครอยากเดินค่อยๆชมวิวไปด้วยก็ได้
ถึงแล้วแล้วจุดที่ 2 ชมวิวชั้น 78 วิวสวยมากกกกกกกกก
เนื่องจากเรามาวันเสาร์นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติก็จะค่อนข้างเยอะ ชั้นบนที่เห็นคนตั้งกล้องเยอะๆนั้นเป็น The Peak ความสูง 314 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของกรุงเทพฯ
เดินชมวิวรอบๆตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกยามเย็น อากาศก็เย็นสบาย วิวก็สวย เราสามารถมองเห็นวิวกรงเทพฯได้แบบ 360 องศาเลย
มาถึงจุดที่ 3 คือ Glass Tray เป็นหนึ่งในพื้นกระจกลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 310 เมตร อยู่ชั้น 78 นั่นเอง
เนื่องจากเป็นพื้นกระจก จึงต้องสวมถุงเท้าเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนก่อนเข้าไป และต้องเก็บข้าวของส่วนตัวในกระเป๋าที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ด้วยนะคะ
โพสต์ท่ากันเลยเต็มที่ ปล.เขาไม่อนุญาตให้เอากล้องเข้าไปถ่ายในบริเวรพื้นกระจกนะคะ ใครจะไปต้องพา Buddy ไปด้วย สลับกันถ่ายเขาจะกันพื้นที่ไว้ให้สำหรับยืนถ่ายรูปด้านนอกค่ะ
หลังจากที่ถ่ายรูปที่ Glass Tray อย่างอิ่มหนำแล้ว ก็มาถึงจุดที่ 4 คือ The Peak เป็ฯจุดสูงสุดนั่นเอง ความสูงจากพื้น 314 เมตร เป็นจุดชมวิว พระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯก็ว่าได้ ซึ่งทุกคนนั่งรอหรือจะยืนตั้งกล้องรอเก็บภาพมุมสูงกับพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ
มีความสวีทกันกับลุงเกาหลีนิดๆหน่อยๆ อิอิ
มุมโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาตอนพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
พระอาทิตย์ตกดินแล้วขอกลับไปเก็บภาพสวยๆที่ Glass Tray ตอนกลางคืนอีกสักรอบ
มาดูไฟรอบๆกรุงเทพฯตอนกลางคืนกันบ้าง
เดินลงมาที่ชั้น 74 อีกครั้งกับจุดที่ 5 เป็นจุดชมวิวภายในอาคาร (Indoor Observation Deck) ใครอยากลงลิฟท์ก็ได้นะจ๊ะ
สำหรับชั้น 74 เป็นจุดชมวิวภายในอาคาร (Indoor Observation Deck) จะมีแบบจำลองกรุงเทพฯ ในปัจจุบันให้เพลิดเพลินไปกับความงามของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพมหานครผ่านระบบเทคโนโลยี AR เอามือจิ้มชี้ไปก็จะบอกชื่อสถานที่ขึ้นมา
ก่อนกลับบ้านเราก็ไปแวะชั้น 1-4 วินโดว์ช็อปปิ้ง Duty Free กันสักหน่อย ถ้าใครมี Flight บินก็พกพาสปอร์ตไปด้วยเพื่อซื้อสินค้าและไปรับที่สนามบินวันเดินทางได้เลย ที่นี่อาจจะมีของไม่เยอะเท่าซอยรางน้ำและสุวรรณภูมินะคะ
นับว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ อีกจุดที่พลาดไม่ได้กันเลยนะคะ
https://ulaladiary.blogspot.com/
Facebook :
https://www.facebook.com/Noomgirl/?modal=admin_todo_tour
[CR] ไปมาแล้ว มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon Skywalk
ต้องขอบอกว่าคนที่จะมาเยือนที่นี่มี 5 ที่สุดของมหานครสกายวอร์ค ต้องห้ามพลาด ไปดูกันเลยว่าวิวที่นี่จะสวยแค่ไหน!!!!
มหานคร สกายวอล์ค ตั้งอยู่บนชั้น 74, 75 และ 78 ของอาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร โดยมีไฮไลท์อยู่ที่จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา ตื่นตาตื่นใจไปกับหนึ่งในพื้นกระจกลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ลิฟท์ความเร็วสูงที่สามารถพาขึ้นไปชั้น 74 โดยใช้เวลาแค่ 50 วินาทีเท่านั้น
ใครอยากมาเช็คอินถ่ายรูปสวยๆวิววิว 360 องศาของกรุงเทพฯ ที่นี่ เปิดให้บริการ เวลา 10.00 – 24.00 น. (เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้าย 23.00 น.)
เดินทางง่ายสะดวกด้วย BTS ลงสถานีช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3
ช่วงนี้มี Grand Opening Promotion ด้วยนะจ๊ะ ซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิวทั้งภายในและภายนอกอาคาร ในราคา 765 บาท จากราคาเต็ม 1,050 บาท ฟรี Soft Drink 1 แก้ว (โปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 61-31 ม.ค. 62)
ได้ตั๋วมาแล้วก็ไปต่อคิวเพื่อขึ้นลิฟท์ไปชั้น 74 กันค่ะ
จากนั้นมาเริ่มด้วยจุดที่ 1 กันเลย เป็นจุดรอขึ้นลิฟท์ที่เป็นห้องกระจก ตกแต่งเรื่องราวเกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะพาไปขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 74 ด้วยความเร็วเพียง 50 วินาทีเท่านั้น ทำเอาหูอื้อกันเลยทีเดียว
ถึงชั้น 74 ด้วยความรวดเร็ว เราจะพาไปชมวิว Out Door กันก่อนที่พระอาทิตย์จะตก ซึ่งอยู่ชั้น 78 ต้องขึ้นลิฟท์แก้วขึ้นไปอีก หรือใครอยากเดินค่อยๆชมวิวไปด้วยก็ได้
ถึงแล้วแล้วจุดที่ 2 ชมวิวชั้น 78 วิวสวยมากกกกกกกกก
เนื่องจากเรามาวันเสาร์นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติก็จะค่อนข้างเยอะ ชั้นบนที่เห็นคนตั้งกล้องเยอะๆนั้นเป็น The Peak ความสูง 314 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของกรุงเทพฯ
เดินชมวิวรอบๆตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกยามเย็น อากาศก็เย็นสบาย วิวก็สวย เราสามารถมองเห็นวิวกรงเทพฯได้แบบ 360 องศาเลย
มาถึงจุดที่ 3 คือ Glass Tray เป็นหนึ่งในพื้นกระจกลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 310 เมตร อยู่ชั้น 78 นั่นเอง
เนื่องจากเป็นพื้นกระจก จึงต้องสวมถุงเท้าเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนก่อนเข้าไป และต้องเก็บข้าวของส่วนตัวในกระเป๋าที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ด้วยนะคะ
โพสต์ท่ากันเลยเต็มที่ ปล.เขาไม่อนุญาตให้เอากล้องเข้าไปถ่ายในบริเวรพื้นกระจกนะคะ ใครจะไปต้องพา Buddy ไปด้วย สลับกันถ่ายเขาจะกันพื้นที่ไว้ให้สำหรับยืนถ่ายรูปด้านนอกค่ะ
หลังจากที่ถ่ายรูปที่ Glass Tray อย่างอิ่มหนำแล้ว ก็มาถึงจุดที่ 4 คือ The Peak เป็ฯจุดสูงสุดนั่นเอง ความสูงจากพื้น 314 เมตร เป็นจุดชมวิว พระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯก็ว่าได้ ซึ่งทุกคนนั่งรอหรือจะยืนตั้งกล้องรอเก็บภาพมุมสูงกับพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ
มีความสวีทกันกับลุงเกาหลีนิดๆหน่อยๆ อิอิ
มุมโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาตอนพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
พระอาทิตย์ตกดินแล้วขอกลับไปเก็บภาพสวยๆที่ Glass Tray ตอนกลางคืนอีกสักรอบ
มาดูไฟรอบๆกรุงเทพฯตอนกลางคืนกันบ้าง
เดินลงมาที่ชั้น 74 อีกครั้งกับจุดที่ 5 เป็นจุดชมวิวภายในอาคาร (Indoor Observation Deck) ใครอยากลงลิฟท์ก็ได้นะจ๊ะ
สำหรับชั้น 74 เป็นจุดชมวิวภายในอาคาร (Indoor Observation Deck) จะมีแบบจำลองกรุงเทพฯ ในปัจจุบันให้เพลิดเพลินไปกับความงามของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพมหานครผ่านระบบเทคโนโลยี AR เอามือจิ้มชี้ไปก็จะบอกชื่อสถานที่ขึ้นมา
ก่อนกลับบ้านเราก็ไปแวะชั้น 1-4 วินโดว์ช็อปปิ้ง Duty Free กันสักหน่อย ถ้าใครมี Flight บินก็พกพาสปอร์ตไปด้วยเพื่อซื้อสินค้าและไปรับที่สนามบินวันเดินทางได้เลย ที่นี่อาจจะมีของไม่เยอะเท่าซอยรางน้ำและสุวรรณภูมินะคะ
นับว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ อีกจุดที่พลาดไม่ได้กันเลยนะคะ
https://ulaladiary.blogspot.com/
Facebook : https://www.facebook.com/Noomgirl/?modal=admin_todo_tour
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้