ถ้าคิดว่าชีวิตตัวเองเหงาแล้ว ลองอ่านเรื่องราวของวาฬตัวนี้ดู...

เวลาเราเหงาเนี่ย แค่ยกหูโทรศัพท์โทรหาเพื่อน ได้คุยกันเท่านี้ก็หายเหงาแล้วนะครับ แต่สำหรับเจ้าวาฬตัวนี้บอกเลยว่า ต่อให้มันจะอยากคุยกับใครมันก็ทำไม่ได้ ไม่มีใครรับรู้ถึงการมีตัวตนของมัน ต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ท้องทะเลลึกมานานกว่า 20 ปี ไม่เคยคุยกับใคร ไม่เคยมีใครเห็น โคตรโดดเดี่ยวอ้างว้างสุดๆ T^T


สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านสามารถดูคลิปแทนได้เลยน้าาา : )
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ในปี 1989 นักวิทยาศาสตร์ที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับมหาสมุทร เค้าก็ค้นพบคลื่นเสียงสุดประหลาดดังมาจากใต้ผืนน้ำ แต่ไม่สามารถหาที่มาที่ไปของมันได้ สิ่งเดียวที่พวกเค้ารับรู้คือ คลื่นนี้มีความถี่สูงถึง 52Hz ซึ่งคลื่นเสียงนี้ดังได้ไม่นานก็หายไป แต่ใช่ว่าความสงสัยของนักวิทยาศาสตร์จะหายตาม..
.
หลังจากคลื่นเสียงที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุนี้ดับไป พวกเค้าก็เฝ้าติดตามจับตามองคลื่นเสียงนี้อยู่ตลอดเวลา กะว่าถ้าได้ยินอีกที จะต้องหาต้นตอให้เจอให้ได้ ซึ่งกว่าจะพานมาพบกันครั้งที่ 2 ก็เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปถึง 2 ปี ซึ่งในปี 1991 พวกเค้าก็ยังไม่สามารถตามหาเจ้าของเสียงดังกล่าวได้อยู่ดี
.
พอมาถึงปี 1992 เรือดำน้ำของสหรัฐก็ตรวจเจอคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงนี้เช่นกัน แต่หนนี้เค้าไม่ได้ทำพลาดเหมือนกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ก่อนหน้า เพราะเค้าแกะรอยและตามไปจนถึงต้นตอของเสียง จนปรากฏเป็นวาฬบาลีตัวหนึ่ง  
.
หลังจากรู้ข่าว นักวิทยาศาสตร์กลุ่มเดิมและหน่วยเรือดำน้ำของสหรัฐก็ร่วมมือกันศึกษาเรื่องนี้แบบจัดเต็ม และพบว่า เจ้าปลาวาฬตัวเนี้ยมันอาศัยอยู่ตัวเดียวแบบไม่มีเพื่อนฝูง ไม่มีคู่รัก ไม่มีใครอยู่กับมันเลย มันว่ายไปตัวเดียวโดดๆ ใช้ชีวิตอยู่ลำพังในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ ซึ่งขัดกับนิสัยปกติของวาฬชนิดนี้มาก
.
ที่เจ้าวาฬตัวนี้ต้องอยู่ตัวเดียวแบบเหงาๆ มาตลอดก็เพราะ วาฬจะสื่อสารกันด้วยเสียงและระดับคลื่นความถี่ปกติจะอยู่ที่ 12-25Hz แต่ไอเจ้าวาฬตัวนี้กลับเป็นลูกผสมของวาฬ 2 สายพันธ์ ทำให้มันมีเสียงที่สูงถึง 52Hz ซึ่งวาฬตัวอื่นๆ จะไม่ได้ยินว่ามันพูดอะไร จะติดต่อสื่อสารกับใครก็ไม่ได้ ทำให้ไม่มีวาฬตัวไหนรับรู้ถึงการมีอยู่ของมันเลยสักตัว... T^T
.
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าวาฬ 52Hz นี้ถึงแม้จะต้องว่ายน้ำอยู่ตัวเดียวโดดเดี่ยวมาตลอดนับตั้งแต่เกิด แต่มันก็มีชีวิตรอดมาได้ถึง 20 ปีแล้วนะ เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่ามันจะเหงาตาย เพราะอย่างน้อยมันก็ยังมีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้คอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด


YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/UCIUB_iTEdmmaFIqOyTZpBRQ?sub_confirmation=1
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่