บทเรียนแด่คนมักง่าย

จาก "คดีป้าทุบรถ" จนศาลได้ตัดสินแล้วว่า การจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น มีความผิดทางอาญาตาม มาตรา 397 ฐานก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญใจ จนได้สั่งให้มีการจำคุกและปรับตามกฎหมายแล้วนั้น ในคดีนี้ สอนอะไรให้สังคมบ้าง ?

1. การจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น เป็นการกระทำที่ไปละเมิดสิทธิคนอื่น และมีความผิดทาง "อาญา" โดยแทบไม่มีข้อยกเว้นใดๆ เพราะเป็นคดีที่ศาลได้ตัดสินชัดเจนแล้ว อ้างตัวบทกฎหมายถูกต้องชัดเจนตามหลักการกฎหมาย ผู้ถูกละเมิดสามารถแจ้งความได้ทันที โดยถ่ายรูปป้ายทะเบียนรถเป็นหลักฐาน
2. การจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น ไม่ได้เป็นแค่ "มารยาททางสังคมหรือเรื่องธรรมดา" อย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นเรื่องทาง "กฎหมาย" ซึ่งต้องดำเนินคดีและจบที่ศาล พร้อมกับบทลงโทษทางอาญา
3. ความมักง่ายและความประพฤติชุ่ยๆ ของคนไทยบางคน ด้วยคำพูดที่ว่า "จอดไว้แป๊บเดียวเอง คงไม่เป็นไร เดี๋ยวก็กลับมา" มันก็คงจบด้วยคำว่า "จำคุกแค่นี้เอง...เดี๋ยวก็คงได้ออกมา"
4. ในบ้านเรา มีบ้านประเภทตึกแถวและทาวเฮ้าส์จำนวนมากที่มีหน้าบ้านขนาดกว้างแค่ 4-5 เมตร ดังนั้น การจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นที่เป็นตึกแถวและทาวเฮ้าส์ ยิ่งต้อง "พึงระวังให้จงหนัก" เพราะจะจอดรถที่หน้าบ้านอย่างไร ก็มีโอกาสที่เข้าข่ายความผิดทางอาญา มาตรา 397 ได้ทั้งสิ้น เพราะหน้าบ้านมีขนาดเล็กและแคบมากอยู่แล้ว ยังไงก็ขวางทางเข้าออกแน่นอน ต่างจากบ้านที่เป็นบ้านเดี่ยวหรือบ้านที่มีบริเวณ ถึงจะสามารถจอดที่ริมรั้วได้ เฉพาะบริเวณที่ไม่ขวางทางเข้าออกได้เท่านั้น แต่กรณีตึกแถวกับทาวเฮ้าส์นั้น หมดโอกาสในการจอดหน้าบ้านเลยทั้งสิ้น

การอยู่ร่วมกันในสังคม จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย หาได้ไม่ และกรณี "ป้าทุบรถ" จึงเป็นคดีตัวอย่างที่ได้สร้างบรรทัดฐานในสังคมไทย ให้รู้จักใช้สิทธิตัวเองได้ตราบใดที่ไม่ไปละเมิดสิทธิคนอื่นได้ แต่เมื่อไปละเมิดสิทธิคนอื่นแล้วไซร้ ก็คงต้องจบลงที่กฎหมาย...เช่นนี้แล
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่